คนขับรถ ใน พระนคร, กรุงเทพมหานคร

คนขับรถ ใน พระนคร, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เมื่อไม่กี่วันมานี้ได้ลองใช้บริการคนขับรถ เพราะจะพาเพื่อนชาวต่างชาติไปเที่ยวรอบกรุง ลุงคนขับใจดีมากค่ะ ขับรถนุ่มมาก อยากไปตรงไหนลุงพาไปได้หมด ประทับใจมาก ๆ ค่ะ รับรองว่าจะกลับมาใช้บริการอีกในภายหลังแน่นอนค่ะ
Saijai
ณชยา ฤกษ์ดี
3 ปีที่แล้ว
คนขับสุภาพเรียบร้อย ขับรถดีมาก ชำนาญ ใจเย็น รู้ทางหมดไม่ว่าจะไปที่ไหน
Saijai
ชนากานต์ สถิตสานติ์
3 ปีที่แล้ว
สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น แต่เรายังไม่สามารถไปรับลูกค้าที่โรงแรมมาประชุมที่ออฟฟิศได้ เลยเลือกใช้บริการคนขับรถในเว็บใส่ใจไปรับแทน เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาได้รับคำชม คนขับรถไปรอที่โรงแรมก่อนเวลาลูกค้าลงมาจากห้องก็เข้าไปแนะนำตัวถามชื่อแล้ว ตรงมาออฟฟิศ บริการสุภาพเรียบร้อยมาก ผมเลยไว้วางใจให้คนขับรถดูแล ที่สำคัญ คนขับรถใส่ใจเรื่องสุขอนามัย ใส่หน้ากากตลอดการบริการ
Saijai
สัมพันธ์ ลาภอุดมกิจ
3 ปีที่แล้ว
ต้องขอบคุณทางเว็บไซต์ของใส่ใจที่มีข้อมูลและรายละเอียดต่างๆครบมาก รับส่งได้ตรงเวลาเป๊ะๆ ขอบคุณใส่ใจที่มีบริการและมีพนักงานดีๆน่ารักแบบนี้มากนะคะ
Saijai
สุทธิดา อุดมพานิชย์
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันต้องออกทำงานต่างจังหวัดอยู่บ่อยครั้ง จึงตัดสินใจจ้างคนขับรถในหน้าเว็บไซต์ใส่ใจ ราคาคุ้มมาก ๆ เพราะปกติจ้างคนขับรถเป็นครั้งเป็นคราว ค่าจ้างแต่ละครั้งก็ไม่ใช่น้อย เลยตัดสินใจจองคนขับรถรายเดือนผ่านทางใส่ใจ ดิฉันลดค่าใช้จ่ายต่อครั้งได้เยอะเลย ตอนนี้จ้างอยู่ตลอดค่ะ สะดวกมาก ๆ
Saijai
นาตาชา กลิ่นมาลัย
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา คนขับรถ

หากคุณเป็นคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ ควรมีคนขับรถดีกว่าไหม
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนบ่อย ๆ การมีคนขับรถส่วนตัวเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคุณมาก ใส่ใจจะมาบอกถึงข้อดีในการมีคนขับรถส่วนตัวเพื่อให้คุณใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจกันค่ะ

1. การมีคนขับรถส่วนตัวช่วยให้คุณประหยัดเวลาไปได้มาก เพราะคุณสามารถทำงานหรือกิจกรรมอื่นในระหว่างการเดินทางซึ่งเป็นไปได้น้อยมากและเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายหากคุณขับรถเอง การจ้างคนขับรถจึงเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณมีเวลามากขึ้นและสามารถทำภารกิจต่าง ๆ ของคุณเองให้เสร็จในระหว่างการเดินทางได้
2. การจ้างคนขับรถช่วยให้คุณควบคุมรายจ่ายได้อย่างชัดเจน เนื่องจากการว่าจ้างนั้นมีการจ่ายค่าบริการเป็นจำนวนที่แน่นอนตามที่ได้ตกลงกันไว้ระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ถูกจ้าง
3. ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่มีผลมาจากความเหนื่อยและความเครียดสะสมได้ คงไม่ดีแน่หากคุณต้องขับรถเองหลังจากเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าจากการทำงาน และอาจส่งผลให้เกิดอันตรายทั้งต่อตัวคุณเองและผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมทาง
4. คนขับรถส่วนตัวที่มีความเป็นมืออาชีพและมีความชำนาญในเส้นทาง การวางแผนเส้นทางที่ดีจะทำให้คุณเดินทางไปถึงที่หมายอย่างตรงเวลา
5. ลดปัญหาการหาที่จอดรถ หากคุณต้องขับรถหาที่จอดรถเองในวันที่มีรถเยอะและหาที่จอดลำบาก คุณอาจต้องจอดรถไกลจากจุดหมายของคุณ นั่นยิ่งทำให้คุณเสียเวลามากยิ่งขึ้น การจ้างพนักงานขับรถช่วยให้คุณสามารถนัดหมายเวลาและสถานที่รับ-ส่งได้ตามที่คุณกำหนด
6. คนขับรถส่วนตัวจะช่วยดูแลและตรวจเช็คสภาพยานพาหนะของคุณตลอดเวลา ช่วยให้คุณคลายความกังวลเรื่องยานพาหนะมีปัญหากลางทางได้

เห็นได้ชัดว่าการมีคนขับรถส่วนตัวนั้นเป็นอะไรที่สะดวกสำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ มาก เมื่อคุณตัดสินใจที่จะจ้างคนขับรถแล้ว สามารถเลือกใช้บริการคนขับรถบนเว็บไซต์ใส่ใจได้เลยค่ะ
คนขับรถควรมีทักษะอะไรบ้าง
1. ขับขี่ปลอดภัย เป็นทักษะแรกที่ต้องมี ผ่านการฝึกอบรมให้เป็นพนักงานขับรถที่ดี ไม่ใช่แค่ต้องไปรับไปส่งเจ้านาย หรือรับส่งพนักงานในองค์กรในแต่ละวันเท่านั้น แต่มีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารบนรถให้ไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
2. มารยาทดี พนักงานขับรถเกือบจะเป็นคนแรกๆ ที่เจ้านายหรือพนักงานคนอื่นๆ ในองค์กรได้เจอในแต่ละวัน พนักงานขับรถที่ดีควรมีจิตใจรักในงานบริการ บางครั้งต้องไปรับบุคคลสำคัญ ลูกค้าคนสำคัญ สิ่งที่คนขับรถแสดงออกจะส่งผลไปถึงองค์กรได้ด้วย
3. เตรียมยานพาหนะให้พร้อมใช้งาน รู้เทคนิคการตรวจสอบและเช็คความปลอดภัย รวมถึงความสะอาด และตัวพนักงานขับรถที่ดีสามารถเตรียมความพร้อมก่อนขับขี่รถ ตัวพนักงานเองก็ต้องมีสุขภาพแข็งแรง มีสติสัมปชัญญะและสมาธิครบถ้วนพร้อมให้บริการ
4. ทัศนคติดี ทัศนคติที่ดีของพนักงานขับรถในขณะปฏิบัติหน้าที่คือ ขับรถตามกฎจราจร มีมารยาทที่ดีต่อผู้ร่วมทาง หากพบผู้ร่วมทางที่มีพฤติกรรมที่ทำให้ไม่พอใจ ก็สามารถควบคุมได้ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของทุกฝ่าย และยังมีทัศนคติในการขับขี่ที่ได้มาตรฐานสากล
5. Defensive Driving หรือ ปลอดภัยไว้ก่อน การฝึกใช้กลยุทธ์การขับขี่ที่ลดความเสี่ยงและช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ เช่นเดียวกับการคาดการณ์อันตรายบนท้องถนน (มักใช้ในเชิงเหตุผล) ด้วยการขับขี่เชิงป้องกัน เพราะการขับขี่เชิงป้องกันหรือ ไม่เพียงแต่ให้พนักงานขับขี่ปลอดภัย แต่เป็นทักษะที่ให้ความปลอดภัยขั้นกว่ากับผู้ใช้บริการ พนักงานขับรถที่ดีจะไม่เพียงแค่รู้กฎจราจรขั้นพื้นฐาน แต่ยังมีการฝึกสมาธิระหว่างขับ มีความเข้าใจในการขับขี่ สาเหตุและปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุ สามารถประเมินสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างละเอียด เรียกได้ว่าเป็นความปลอดภัยขั้นสูงที่พนักงานขับรถที่ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้นเพื่องานคุณภาพ
หากเดินทางบ่อยจ้างคนขับรถส่วนตัวประหยัดกว่าจริงหรือไม่
การเลือกใช้บริการคนขับรถส่วนตัวเป็นทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัว แต่มีธุรกิจรัดตัวและต้องเดินทางบ่อยๆ อีกทั้งยังไม่อยากใช้บริการรถรับจ้างสาธารณะ ดังนั้นบริการคนขับรถส่วนตัวจึงเป็นทางเลือกที่ดีมากสำหรับสังคมยุคปัจจุบัน ทั้งยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้เพราะมีการตกลงกันล่วงหน้าจึงสามารถรู้ค่าใช้จ่ายที่แน่นอน

แตกต่างจากการใช้บริการรถสาธารณะ เช่น แท๊กซี่ ซึ่งค่าบริการเราไม่สามารถกำหนดได้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามเส้นทางและระยะทาง หรือหากเราต้องการเดินทางไปต่างจังหวัด ก็สามารถนำรถส่วนตัวของเราไปใช้โดยมีคนขับรถที่เราไว้ใจได้ไปด้วย ซึ่งมีความปลอดภัยและน่าไว้ใจกว่าไปจ้างคนในพื้นที่ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ยิ่งถ้าเป็นนายจ้างผู้หญิงแล้วย่อมมีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก หรือนายจ้างที่มีธุรกิจที่ต้องไปพบปะสังสรรค์กับกลุ่มลูกค้าต่าง ๆ ที่ต้องมีการดื่มแอลกอฮอล์และหากยังฝืนขับรถด้วยตัวเอง บอกเลยว่าเสี่ยงทั้งอุบัติเหตุและยังผิดกฎหมายอีก หากเกิดอุบัติเหตุหรือโดนตำรวจจับ คงไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่สูงแถมและยังเสียประวัติอีกด้วย

ปัจจุบันในการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวหรือเพื่อกิจกรรมทางธุรกิจ มีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อม รวมทั้งต้องการความสะดวกสบายและปลอดภัย บริการคนขับรถส่วนตัวเป็นทางเลือกที่ดีเนื่องจากมีความสะดวกสบายและมีความปลอดภัยในการเดินทาง และสามารถใช้เวลาระหว่างที่เดินทางในการทำภารกิจอื่น ๆ เช่น บริหาร สั่งงาน ตรวจสอบเอกสารสำคัญ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเรื่องการขับรถยนต์หรือเส้นทาง เพราะคนขับรถส่วนตัวเป็นผู้ทำหน้าที่ขับรถและเตรียมความพร้อมเรื่องเส้นทางไว้ให้ทั้งหมดแล้ว และมีค่าใช้จ่ายประหยัดกว่าการเดินทางโดยวิธีอื่น เนื่องจากใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นพาหนะ
ก่อนจ้างคนขับรถส่วนตัวควรตกลงอะไรบ้าง?
ข้อตกลงที่ผู้ว่าจ้างควรตกลงกับคนขับรถมีอะไรบ้าง

1. ตกลงคุยเวลาทำงาน เริ่มงานกี่โมงเสร็จกี่โมง ทำงานกี่วันต่อสัปดาห์ กรณีทำงานล่วงเวลา overtime จะคิดค่าแรงอย่างไร หากต้องเดินทางไปต่างจังหวัดมีเบี้ยเลี้ยงเท่าไร ตกลงเรื่องวันหยุดวันลาต้องแจ้งล่วงหน้ากี่วันเพราะเราจะได้จัดหาคนมาทำงานแทน หากกรณีไม่ขาดงานไม่แจ้งล่วงหน้า ต้องยินยอมให้ปรับ หรือ ชดเชยค่าเสียหายได้
2. ประสบการณ์การทำงาน ความชำนาญในเส้นทางหลัก ที่ใช้ประจำหรือเส้นทางที่ผู้จ้างไปทำธุระ นอกจากนั้นคนขับรถอาจต้องดูแลแขกหรือลูกค้าของผู้ว่าจ้างด้วย ประสบการณ์การทำงาน บุคลิกภาพและมารยาท ก็เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงได้
3. สวัสดิการที่จะได้รับ ประกันสังคม ประกันสุขภาพ โบนัสเงินรางวัล ตามโอกาสเทศกาลต่าง ๆ ตามสมควร
4. ยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม หรือมีเงินประกัน เพื่อความปลอดภัยและสบายใจได้ในระดับหนึ่ง
5. บางครั้งอาจต้องมองถึงที่พักของคนขับรถที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน เพราะคนขับรถต้องเตรียมพร้อมก่อนเวลางาน และ กลับหลังเสร็จงานที่ไม่ไกลจากที่ทำงาน เพราะร่างกายต้องการพักผ่อนเช่นกัน แม้บางวันงานไม่หนัก ระยะทางไม่ไกล แต่ถ้าไม่มีเวลาพักผ่อนการเตรียมความพร้อมรอผู้จ้าง จะส่งผลถึงความปลอดภัยเวลาขับขี่ได้
6. ให้แน่ใจว่าเข้าใจระบบรถที่จะขับหรือไม่ ในกรณีที่เกิดปัญหาสามารถแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นได้ อีกทั้งต้องช่วยดูแลทรัพย์สิน (รถ)ของผู้ว่าจ้าง ให้สะอาดเรียบร้อยพร้อมใช้งานตามความเป็นจริง แจ้งซ่อม หรือบำรุงรักษาตามจริง คำนึงเสมอว่าคนขับรถไม่ใช่แค่ผู้ที่นำพาเราไปยังจุดหมายตามคำสั่งหรือข้อตกลง ความปลอดภัยของผู้จ้างเอง หรือลูกค้าหากมีโอกาสต้องดูแล ก็สำคัญด้วยเช่นกัน

หากผู้จ้างไม่สามารถเลือกคนขับรถเองได้แล้ว ลองมองหาตัวแทนที่ไว้ใจได้ทำหน้าที่จัดส่งคนขับรถมาให้ ที่สามารถทำตามข้อตกลงทั้ง 6 ข้อหรือมากกว่าตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง

การเดินทางเขตพระนคร

เขตพระนคร เป็นเขตที่เป็นศูนย์รวมสถาปัตยกรรมโบราณต่างๆ ตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงสมัยปัจจุบัน ซึ่งการสัญจรในย่านแห่งนี้มีความสะดวกสบายมาก เนื่องจากมีถนนหลายสายเชื่อมต่อเข้ามาในย่านนี้ และยังมีสถานที่สำคัญมากมายตั้งอยู่ ณ เขตแห่งนี้ โดยการเดินทางเข้ามายังย่านแห่งนี้ มีทางเลือกการเดินที่หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การเดินด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถเมล์ เรือ หรือแม้กระทั่ง รถไฟฟ้า MRT โดยถนนในย่านนี้จะเป็นถนนแบบทางเดินเดียวเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเรื่องการจราจรติดขัดก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับย่านพระนครแห่งนี้ การเดินทางสำหรับรถโดยสารสาธารณะก็มีครอบคลุม สามารถเดินทางได้ทั่วถึงทุกสถานที่ด้วยการขนส่งสาธารณะในย่านแห่งนี้ โดยการคมนาคมที่เป็นที่นิยมที่สุดในย่านแห่งนี้ก็คือ รถไฟฟ้า MRT เพราะว่ามีสถานีที่เชื่อมต่อเข้ากับสถานที่สำคัญๆ ในย่านนี้ ไม่ว่าจะเป็น มิวเซียมสยาม ที่เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเมืองไทย โดยพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งนี้จะมีสถานที่ตั้งติดอยู่กับ สถานีรถไฟฟ้า MTR สนามไชย หรือไม่ว่าจะเป็น สถานีรถไฟฟ้า MRTสามยอด ที่เป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT 1 ใน 4 สถานีที่มีจุดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมแนวย้อนยุค สามารถเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆ ได้โดยรอบ เมื่อออกมาจะพบป้ายบอกเส้นทางไปสถานที่สำคัญ เช่น เสาชิงช้า สวนรมณีนาถ วัดสุทัศเทพวราราม ถัดมาจะเป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่เชื่อมกับย่านเยาวราชสำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปเที่ยว ณ สถานที่แห่งนี้จะต้องนั่งรถไฟมาลง ณ สถานีแห่งนี้ คือ สถานีวัดมังกร



ขับรถชม วัดเก่าแก่ในย่านพระนคร

หากพูดเรื่องวัดชื่อดังของกรุงเทพมหานคร คงหนีไม่พ้นวัดในย่านพระนครแห่งนี้ซึ่งเป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น แต่ละวัดล้วนแล้วแต่มีอายุมากกว่า100ปี โดยในย่านนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบในเรื่องราวของประวัติศาสตร์

และสายเข้าวัดทำบุญ โดยสถานที่แรกที่เป็นที่นิยมในการไปเที่ยวและทำบุญ คือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือที่เรียกว่า วัดโพธิ์ พระอารามหลวงชั้นเอกและเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์จักรี เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย และยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ก่ออิฐถือปูนปิดทองทั้งองค์ยาว 46 เมตร สูง 15 เมตร ที่ฝ่าพระบาทแต่ละข้างมีลวดลายประดับมุกเป็นภาพมงคล 108 ประการ สถานที่ตั้งของวัดแห่งนี้อยู่ที่ ถนนสนามไชย หลังพระบรมมหาราชวัง ถ.ถนนสนามไชย พระบรมมหาราชวัง พระนคร กรุงเทพฯ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.

สถานที่ต่อไปเป็นอีกสถานที่ที่นิยมและมีชื่อเสียงไม่แพ้กัน คือ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร วัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 2350 โดยให้สร้างพระวิหารขึ้นก่อนเพื่อประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย พระอุโบสถของวัดสุทัศน์ จัดว่าเป็นพระอุโบสถที่ยาวที่สุดในประเทศไทย พระประธานภายในพระอุโบสถ คือ พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ทั้งพระอุโบสถ หากใครได้มีโอกาสไปกราบไหว้พระศรีศากยมุนีใน "พระวิหารหลวง" ต้องไปดูรูปจิตรกรรม "เปรตวัดสุทัศนฯ " สถานที่ตั้งของวัดแห่งนี้อยู่ที่ 146 ริมถนนตีทอง 1 ถ. บำรุงเมือง เสาชิงช้า พระนคร กรุงเทพฯ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. โดยสถานที่ที่กล่าวมาทั้งสอง นี้เป็นสถานที่ที่สวยงามเหมาะแก่การขับรถเที่ยวชมวัดวาอาราม หากใครไม่สะดวกในการเดินทางด้วยรถส่วนตัวสามารถเดินทางด้วยรถรับจ้างทั่วไปได้ ไม่ว่าจะเป็น Taxi หรือ การขนส่งเอกชนต่างๆ



ท้องสนามหลวง อดีตถึงปัจจุบันเปลียนไปอย่างไรบ้าง

หากพูดถึงสถานที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องนึกถึง ท้องสนามหลวง" ด้วยอย่างแน่นอน เป็นที่รู้กันดีว่าท้องสนามหลวงเป็นสถานที่ที่ใช้ประกอบกิจกรรมสำคัญ ๆ ของทางราชการ และงานพระราชพิธีของสำนักพระราชวัง ไม่เพียงเท่านั้น ท้องสนามหลวง ยังถูกใช้เป็นพื้นที่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง แหล่งชุมนุมหาเสียง ชุมนุมการเคลื่อนไหวทางการเมืองมาตั้งแต่อดีต ซึ่งนับย้อนไปได้กว่า 50 ปีเลยทีเดียว

ประวัติท้องสนามหลวง

โดยท้องสนามหลวง อยู่คู่กับเกาะรัตนโกสินทร์มาตั้งแต่ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงย้ายราชธานีจากฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา (ฝั่งธนบุรี) มายังฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา (ฝั่งพระนคร) ซึ่งก็คือกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน สนามหลวงมีเนื้อที่ทั้งสิ้น 74 ไร่ 63 ตารางวา ตั้งอยู่ระหว่างพระบรมมหาราชวัง (วังหลวง) กับพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ โรงละครแห่งชาติ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 หลังการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี สนามหลวงใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ เช่น การสร้างพระเมรุมาศถวายพระเพลิงพระบรมศพพระมหากษัตริย์ในรัชกาลก่อน และพระบรมวงศานุวงศ์ คนทั่วไปจึงเรียกพื้นที่โล่งกว้างบริเวณนี้ว่า "ทุ่งพระเมรุ" ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 พื้นที่สนามหลวงใช้สำหรับทำนาหลวง แต่ในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดให้ราษฎรเรียกทุ่งพระเมรุว่า "ท้องสนามหลวง" ด้วยเหตุที่ชื่อที่เรียกกันนั้นไม่เป็นมงคล

ในสมัยรัชกาลที่ 5 สนามหลวงใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีพืชมงคล พระราชพิธีพิรุณศาสตร์ และประกอบพิธีต่าง ๆ เช่น การฉลองพระนครครบ 100 ปี สมัยรัชกาลที่ 6 ยังใช้สนามหลวงเป็นสถานที่แข่งม้า และสนามกอล์ฟ

ส่วนในสมัยรัชกาลที่ 9 ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากสนามหลวงเวลาที่มีงานมหรสพ เล่นว่าว และที่พักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ยังมีการใช้พื้นที่สนามหลวงเป็นตลาดนัดด้วย แต่สมัยที่พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เป็นนายกรัฐมนตรี สนามหลวงใช้เป็นสถานที่จัดงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงได้มอบที่ดินย่านพหลโยธินบริเวณสวนจตุจักรด้านใต้แก่กรุงเทพมหานครเพื่อใช้ในกิจการสาธารณประโยชน์ กรุงเทพมหานครจึงปรับพื้นที่เพื่อให้ผู้ค้าจากสนามหลวงมาอยู่ที่ "ตลาดนัดสวนจตุจักร" ในปี 2525