ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน คันนายาว, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน คันนายาว, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่แพง มีการบอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆให้ด้วย ซึ่งตอนนี้ใช้บริการมา 4ครั้งแล้วครับ บริการดีทุกครั้งเลยครับ
Saijai
ศิลา ใจอารีย์
3 ปีที่แล้ว
มองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่มีความรู้ด้านนี้มาช่วยดูแลเค้าที่บ้าน เจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดูรายละเอียดและสามารถสอบถามราคาได้อย่างชัดเจน ก่อนที่เราจะตัดสินใจจ้าง แถมราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด เยี่ยมไปเลยค่ะ
Saijai
ปัทมา เลิศชนะ
3 ปีที่แล้ว
หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
3 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้ครั้งแรกชอบเลย ได้พี่เลี้ยงมาดูแลน้องแมวให้ถึงบ้าน สบายใจทาสแมวอย่างเราไปเลยค่ะ
Saijai
ณัฐฐา แก้วดี
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ความสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยง
การมีสัตว์เลี้ยงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในงานอดิเรกของหลาย ๆ คนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งสัตว์เลี้ยงที่คนนิยมเลี้ยงกันก็มีมากมายหลายชนิด แน่นอนว่านั่นหมายถึงการที่เราต้องใช้เวลาไปกับการดูแลเอาใจใส่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทั้งการดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย สุขภาพ รวมไปถึงสภาพจิตใจของสัตว์เหล่านี้ด้วย

การดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงในทุก ๆ ด้านที่กล่าวมาข้างต้นนั้นนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะมันส่งผลดีให้กับทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง ในมุมมองของเจ้าของ การได้ให้อาหาร หรือการเล่นกับสัตว์เลี้ยงนั้นเปรียบเสมือนความสุขอย่างหนึ่ง ในวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน หากได้กลับมาเจอสัตว์เลี้ยงนั่งรออยู่ที่หน้าประตู เพียงเท่านี้ก็ช่วยคลายความเหนื่อยไปได้เยอะเลยทีเดียว กลับกันในมุมของสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างครบถ้วนนั้นจะส่งผลดีให้กับพวกเขาเช่นกัน สัตว์เลี้ยงสัมผัสได้ถึงความรักที่ได้รับจากเจ้าของ ในขณะเดียวกันพวกเขาจะมอบความรักกลับคืนให้เจ้าของเช่นเดียวกัน

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยงในบ้านคือ สามารถเยียวยาสภาพจิตใจของผู้เลี้ยงได้ ซึ่งการได้ใช้เวลาทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกันระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงช่วยลดอาการตึงเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ ทั้งยังช่วยให้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย เช่นการพาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่นทำให้ผู้เลี้ยงเองได้ออกกำลังกายไปด้วย

เห็นได้ชัดว่าการมีสัตว์เลี้ยงนั้นมีประโยชน์ต่อคนมากมาย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะฉะนั้น ก่อนเลี้ยงต้องมั่นใจว่าคุณจะมีความรับผิดชอบมากพอที่จะดูแลเขา เพราะสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนมนุษย์เช่นกัน หากคุณอยากมีสัตว์เลี้ยงไว้ที่บ้าน แต่ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของคุณ การใช้บริการรับดูแลสัตว์เลี้ยงก็นับว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ทักษะสำคัญในการดูแลสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ นี่คือลักษณะและทักษะที่สำคัญ 4 ประการที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. สุขุมและเข้าใจสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงน้องหมา น้องแมวทุกคนรู้ดีว่าการดูแลน้องเหล่านี้มักไม่เป็นไปตามแผนที่เราคิดไว้เสมอไป ดังนั้นพี่เลี้ยงต้องอดทนเวลาที่น้องหมา น้องแมว ดื้อและไม่ปฏิบัติตามที่คาดหวังไว้ ควรสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกกลัวและตอบสนองต่อความวิตกกังวล จะทำให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดี
2. อ่อนโยน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีตระหนักถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงของเราและตอบสนองต่อความต้องการนั้นมองสัตว์เลี้ยงของเราด้วยความรักใคร่และไม่ใช้กำลังหรือการลงโทษทางร่างกาย เช่นตี หรือ ลากสายจูงสุนัขของคุณระหว่างเดินเล่น
3. มีประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัตว์เลี้ยงของเรามีความต้องการดูแลเป็นพิเศษ การจ้างพี่เลี้ยงสัตว์ดูแลสัตว์เลี้ยง ควรจ้างผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์มากเช่น หากเรามีสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ด(German Shepherd)ตัวใหญ่ เราต้องการคนที่เคยดูแลสุนัขขนาดใหญ่มาก่อน ถ้าคนคนนั้นสามารถแสดงใบรับรองเกียรติบัตรที่แสดงถึงประสบการณ์ในการดูแลสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของสุนัขยิ่งขึ้น หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการป่วยหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เราต้องมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือได้ในด้านนั้น ๆ มาดูแลสัตว์เลี้ยงของเรา
4. มีความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยง ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ๆ ) ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ หรือถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน - คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาให้คุณฟัง การพูดคุยแบบนี้คุณสามารถวัดความรักของพวกเขาที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว
วิธีการสังเกตุสัตว์เลี้ยงเมื่อมีอาการป่วย
เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกเราได้เมื่อรู้สึกไม่สบาย หากเราไม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาเริ่มมีอาการผิดปกติ มารู้อีกทีเขาก็ป่วยหนักจนอาจทำให้ไม่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที หรืออาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าเดิมก็เป็นได้

วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้

1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง

หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
ข้อตกลงสำคัญที่ผู้จ้างควรตกลงกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
การใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงในยามที่คุณไม่ว่างนั้นจะช่วยให้คุณคลายความกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณได้ แต่ก่อนจะทำการจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ที่คุณกำหนด ซึ่งข้อตกลงสำคัญมีดังนี้

1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า

หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป

คันนายาว ชื่อนี้มีที่มาอย่างไร

คันนายาว สมัยก่อนในเขตนี้เป็นพื้นที่นาจำนวนมาก ในการทำนาจะมีการปั้นคันนาขึ้นมาหรือแบ่งนาเป็นแหล่ง ๆ โดยจะยกสูงขึ้นจากพื้นนาเรียกว่า "คันนา" ซึ่งชาวนายังใช้เป็นถนนสำหรับเดินทางเข้าออกท้องนาอีกด้วย และในบรรดานาทั้งหมดนั้น มีที่นาอยู่ผืนหนึ่งที่มีอาณาเขตยาวมาก ๆ โดยมีพื้นที่ตั้งแต่บริเวณท้ายหมู่บ้านสุเหร่าแดง หรือบริเวณถนนเสรีไทยในปัจจุบัน ยาวไปจนถึงปลายคันนา ซึ่งแต่ก่อนเรียกบริเวณนั้นว่า โรงแดง เพราะเป็นที่ตั้งของบ้านหลังหนึ่ง มุงหลังคาสังกะสีที่เป็นสนิมมองเห็นเป็นสีแดงมาแต่ไกล ปัจจุบันบริเวณนี้คือถนนรามอินทรา เรียกได้ว่าเป็นนาที่มีคันนาที่ยาวที่สุด จึงเป็นที่มาของชื่อ >คันนายาว ในปัจจุบัน

วิถีชีวิตของชาวคันนายาวถ้าจะเดาจากชื่อ อาชีพดั้งเดิมของคนที่นี่คงจะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากการทำนา สมัยที่มีการทำนากันมากในช่วงเวลาที่ข้าวเริ่มตั้งท้อง ชาวบ้านจะนำอาหารใส่ชะลอมไปประกอบพิธีทำขวัญข้าวขอขมาพระแม่โพสพ โดยแม่หมอเป็นผู้สวดขอขมา ชาวบ้านจะเกี่ยวข้าวบางส่วนมาทำขนมข้าวกระยาคู โดยนำเอาเมล็ดข้าวที่มีน้ำนมอยู่มาโขลกแล้วกรองเอาแต่น้ำ นำน้ำไปต้มกับน้ำตาลได้รสชาติหอมหวานอร่อยและขนมข้าวเม่าใส่กระทงใบตองขนาดใหญ่มาถวาย เพื่อเป็นสิริมงคลสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวนาที่รอผลผลิตจากที่ได้ลงแรงไป



ลักษณะนิสัยระหว่างหมาและแมว แตกต่างกันอย่างไร

ปกติสัตว์เลี้ยงที่ใกล้ชิดกับคนมากจนสามารถอยู่ร่วมบ้าน ร่วมเตียงกับมนุษย์ได้ คือ สุนัขและแมว ทั้งที่สัตว์ทั้งสองชนิดมีนิสัยและพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ผู้เลี้ยงสามารถคาดหวังการตอบสนองที่แตกต่างกันจากการเลี้ยงสัตว์ทั้งสองชนิดนี้ได้ ความแตกต่างระหว่างสุนัขและแมวอาจจะมีให้พิจารณาอยู่ในอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้ประโยชน์ อย่างการเลี้ยงแมว แมวสามารถใช้ประโยชน์ในการกำจัดหนู นก แมลง หรือสัตว์เล็ก ๆ ที่ล่วงล้ำเข้ามาอยู่ในบ้าน ในขณะเดียวกันสุนัขสามารถทำหน้าที่ได้มากมายขึ้นกับสายพันธุ์ เช่น การเฝ้าบ้าน การล่าสัตว์ การป้องกันภัยอันตรายจากการถูกทำร้ายโดยมนุษย์ หรือสัตว์ร้ายอื่นๆ เช่น งู ตะขาบ

โดยการให้อิสระของสัตว์ 2 ชนิดนี้ก็มีลักษณะที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ลักษณะของแมวนั้นเป็นสัตว์ที่มีความรักอิสระแม้จะเป็นสัตว์เลี้ยงก็ตาม แมวจะมีลักษณะนิสัยของสัตว์ป่า คือชอบเที่ยวตามลำพังและทำทุกอย่างตามที่มันพอใจ ดังนั้นการออกไปเดินเล่นกับเจ้าของจึงไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยในแมว การฝึกให้แมวทำตามคำสั่งจึงเป็นไปได้ยาก ในขณะที่สุนัขจะเชื่อฟังและจงรักภักดีต่อเจ้าของ สามารถฝึกและสั่งให้ทำตามคำสั่งได้ โดยลักษณะความเป็นอยู่ของสัตว์ทั้งสองประเภทนี้ก็มีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างมาก โดยแมวเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดเดียวที่ไม่ชอบอยู่เป็นฝูง แมวมักจะชอบอยู่ตามลำพัง ไม่ชอบให้คนไปวุ่นวาย ในขณะที่สุนัขจะชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง มีการจัดลำดับภายในฝูงว่าตัวใดเป็นจ่าฝูง ตัวใดเป็นลูกน้อง เมื่อคนนำสุนัขมาเลี้ยง สุนัขจะนับคนเป็นสมาชิกในฝูง และจะคอยดูแลป้องกันคุ้มครองและเห่าเตือนเมื่อมีคนแปลกหน้าที่มันเข้าใจว่าเป็นศัตรูเข้ามายังในบ้าน



เทคนิคการอาบน้ำให้แมว

สำหรับเจ้าของแมวการดูแลสุขอนามัยของแมวนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด จะเสริมสวยตัวเองโดยใช้ลิ้นเลียทั่วร่างกายจนสะอาด แต่ก็ไม่สะอาดไปทั้งหมด อาจยังมีความสกปรกแฝงอยู่ เจ้าของจึงต้องช่วยดูแลสุขอนามัยให้แมวด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น อาบน้ำ การแปรงขน ตัดเล็บ ขัดหู อื่นๆ

การอาบน้ำให้แมวนั้น ควรฝึกอาบตั้งแต่ยังเป็นลูกแมวจะทำได้ง่ายกว่า โดยเริ่มได้ตั้งแต่แมวมีอายุ 14 สัปดาห์ขึ้นไป หากลูกแมวสกปรกมากจำเป็นต้องอาบน้ำก่อน 14 สัปดาห์ก็ทำได้ แต่ต้องระวังเรื่องความหนาวเย็น ให้ใช้สำลีอุดหูแมวกันน้ำเข้าหู และใช้ยาป้ายตาชนิดน้ำมันป้ายใต้ตาไว้ เพื่อป้องกันสบู่หรือแชมพูเข้าตา เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองในแมวและทำให้แมวดิ้นทุรนทุรายจนเป็นอันตรายได้

หากแมวดุมากเวลาอาบน้ำ อาจจะใช้วิธีจับแมวใส่ถุงผ้า ให้เหลือแต่ส่วนหัวโผล่ออกมา เวลาอาบน้ำให้จุ่มลงไปทั้งถุงโดยเหลือแต่ส่วนหัว อาบน้ำตามปกติเทแชมพูลงในถุง และถูภายนอก หลังจากนั้นให้ล้างแชมพูด้วยน้ำเปล่าให้เกลี้ยง โดยเช็ดและทำความสะอาดส่วนหัวในภายหลัง

ปกติแมวจะมีน้ำมันจากต่อมไขมันใต้รูขุมขนออกมาหล่อเลี้ยงให้ความชุ่มชื่นและขนเป็นเงา จึงไม่ควรอาบน้ำแมวบ่อยเกินไปเพราะเป็นการล้างไขมันจนทำให้ขนแห้งหลุดร่วงง่าย นอกจากนี้การอาบน้ำบ่อย ๆ อาจทำให้แมวเป็นหวัดง่ายอีกด้วย ความถี่ในการอาบน้ำให้แมวอย่างมากที่สุด เพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็พอ สำหรับสบู่หรือแชมพูที่ใช้ต้องระวังเป็นอย่างมาก แมวบางตัวอาจมีอาการแพ้แชมพูที่ใช้ ต้องเปลี่ยนแชมพูตัวใหม่และทดลองเลือกดูว่าแชมพูยี่ห้อไหนที่ทำให้แมวของเราไม่เกิดอาการแพ้