ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางกะปิ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน บางกะปิ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
น้องแมว 2 ตัว ไม่สามารถเดินทางไปกับครอบครัวเราได้ ลูกสาวจึงหาที่ดูแล เจอเว็บใส่ใจ ที่ฝากเลี้ยงอยู่ใกล้บ้าน จึงฝากใส่ใจให้ดูแล ห้องพักแยกออกมาเป็นสัดส่วน น้องมีของเล่น คลายเหงา
Saijai
วรากร พงศ์ศิริพัฒน์
3 ปีที่แล้ว
เหตุผลที่เลือกใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยง เพราะว่าไม่มีเวลาดูแลน้องหมาน้องแมวที่บ้านเลยจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาดูแลแทนเวลาเราไม่อยู่ อยากแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่ราคาไม่สูง ผู้ให้บริการบนเว็บไซต์ใส่ใจเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
Saijai
มัจฉา รุ่งอนันต์
3 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
3 ปีที่แล้ว
สะดวกมากเลยค่ะ นัดพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เราต้องการมาดูแลน้องหมาที่บ้านได้เลย ไม่ยุ่งยาก ระบบใช้งานง่าย สะดวกสุด ๆ ค่ะ ชอบ ๆ
Saijai
ธีรศักดิ์ เหมศักดิ์
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ขอดีของการมีสัตว์เลี้ยง
เครียด เหงา เศร้า บางครั้งเราต้องการคนมาคอยรับฟังปัญหา ซึ่งนอกจากเพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกก็คือ การมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว นก ปลา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนนิยม สัตว์เลี้ยง สามารถช่วยเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเหงาและเครียด ไปจนถึงผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี คุณทราบหรือไม่ว่าการเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์ต่อเรามากกว่าที่คิด มาดูข้อดีกันเลยค่ะ

- การเลี้ยงสุนัขหรือแมวเพื่อบำบัดความเครียดหรือในต่างประเทศเรียกว่า Pets Therapy (สัตว์เลี้ยงบำบัด) ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยมานานแล้วว่า การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้น สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้จริง ทั้งยังมีคำแนะนำให้ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบรรเทาความเหงาและป้องกันโรคซึมเศร้าอีกด้วย

- การมีสัตว์เลี้ยงช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยผลการศึกษาพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์จะมีค่าคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดอย่างไตรกลีเซอร์ไรด์น้อย เนื่องจากมีกิจกรรมพาสัตว์เลี้ยงไปเดินออกกำลังกายนั่นเอง
- ช่วยลดความดันโลหิต เพราะการมีสัตว์เลี้ยงจะทำให้เราคลายเครียด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์กพบว่า ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคความดันโลหิตสูงจะมีค่าความดันโลหิตที่ต่ำลงเมื่อมีสัตว์เลี้ยง

- Rebecca A. Johnson ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี ได้กล่าวว่า เพียงแค่มองสัตว์เลี้ยง สมองจะหลั่งออกซิโทซิน ทำให้มีความสุขและลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เกิดความเครียด โดยมีผลการวิจัยกับทหารผ่านศึกชาวสหรัฐอเมริกา ที่ประสบภาวะผิดปกติทางจิตใจหรือ PTSD พบว่า ทหารผ่านศึกนายนั้นไม่กล้าออกจากบ้านโดยไม่มีภรรยาไปด้วย เมื่อได้ลองเลี้ยงสุนัข เพียงไม่กี่อาทิตย์เขาก็มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและกล้าที่จะออกจากบ้านเพียงล
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
สัญญานที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยมีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหลายๆครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักมีอาการป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว ใส่ใจอยากแบ่งปันความรู้กันและวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เหมือนเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เราได้สังเกตและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ทันเวลา

1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
ข้อตกลงสำคัญที่ผู้จ้างควรตกลงกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
การใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงในยามที่คุณไม่ว่างนั้นจะช่วยให้คุณคลายความกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณได้ แต่ก่อนจะทำการจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ที่คุณกำหนด ซึ่งข้อตกลงสำคัญมีดังนี้

1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า

หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป

อยากเลี้ยงสัตว์ต้องเตรียมตัวอย่างไร

การมีสัตว์เลี้ยง เหมือนกับการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจที่จะมี สัตว์เลี้ยง ต้องเข้าใจว่าเราต้องรับผิดชอบชีวิตหนึ่งไปตลอด บางคนแค่อยากเลี้ยงตามแฟชั่นหรือความเหงา สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหาสัตว์ไร้บ้านหรือสัตว์จรจัดตามมาในภายหลัง ดังนั้นก่อนจะมี สัตว์เลี้ยง ควรศึกษาและเตรียมความพร้อมเสียก่อน โดยปัจจัยพื้นฐานมีดังต่อไปนี้

1 ค่าใช้จ่าย เป็นปัจจัยแรกของการเลี้ยงสัตว์ เพราะไม่ใช่แค่ค่าอาหารในแต่ละเดือนเท่านั้น แต่ยังมีค่าอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ที่นอน ของเล่น และยังมีค่าอาบน้ำ ตัดขน รวมทั้งค่าวัคซีนและค่าทำหมัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสิ่งต่างๆ สำหรับสัตว์และจำนวนของสัตว์เลี้ยงด้วยที่อาจจะทำให้ปัจจัยของค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นได้อีก

2 เวลา การมี สัตว์เลี้ยง ต้องแบ่งเวลาให้กับเขาด้วย เพราะสัตว์เลี้ยงสามารถเป็นโรคซึมเศร้าหรือมีอาการเหงา และอาการเครียดได้เช่นกัน นอกจากนั้นสัตว์เลี้ยงทั้งหลายส่วนมากแล้วต้องการการออกกำลังกายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพาไปเดินเล่นแถวบ้านหรือเดินเล่นตามสวนสาธารณะ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง นอกจากเวลาในการทำกิจกรรมกับ สัตว์เลี้ยง แล้วยังต้องมีเวลาพาเขาไปทำอย่างอื่นด้วย เช่น การพาไปตรวจร่างกายประจำปี ฉีดวัคซีน หรือพาไปหาสัตวแพทย์เมื่อ สัตว์เลี้ยง ป่วย ดังนั้นถ้าเราไม่มีเวลามากพอสำหรับ สัตว์เลี้ยง ก็ไม่ควรเลี้ยงจะดีกว่า

3 สถานที่ สัตว์เลี้ยง ต้องการพื้นที่เพื่อความเป็นอิสระและความเป็นส่วนตัว ดังนั้นหากเราต้องการจะเลี้ยงสัตว์ สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมก็คือ สถานที่ นั่นเอง สิ่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เจ้าของควรทำการศึกษาให้ดีเสียก่อนว่าสัตว์ที่จะเลือกเลี้ยง ต้องการสถานที่แบบไหน พื้นที่มากน้อยเพียงใด เช่น แมว หรือ สุนัข ซึ่งต้องการพื้นที่ในการวิ่งเล่น และมีอาณาเขตของตัวเอง นอกจากนี้ควรตรวจสอบด้วยว่าสถานที่ที่เราอยู่อาศัย หากไม่ใช่บ้านของเราเอง แต่เป็นหอพักหรือห้องเช่า ทางเจ้าของสถานที่อนุญาตให้มีการเลี้ยงสัตว์ได้หรือไม่ แต่หากเป็นที่บ้านของเราอย่างน้อยก็ต้องขออนุญาตคนในครอบครัวด้วย



โจ๊กข้อไก่รสเด็ด หรือ ก๋วยจั๊บรสดี ร้านดังย่านบางกะปิ

ร้านนี้มีเมนูเด็ดที่ใครมาแล้วก็ต้องสั่ง คือ โจ๊กข้อไก่ ในตำนาน ด้วยสูตรเด็ดที่ตุ๋นข้อไก่จนเปื่อย แตกต่างจากที่อื่นซึ่งอาจจะมีเนื้อที่แข็ง ไม่เปื่อย แต่ที่นี่รับรองว่า ฟิน กินเเล้วติดใจ มีทั้ง โจ๊กข้อไก่ แบบธรรมดาหรือจะเป็นรสต้มยำ ที่สำคัญคือ โจ๊กที่นี่เครื่องแน่นๆ ทั้งเครื่องในไก่ ไก่ฉีก และปลากรอบ เรียกว่าใส่มาให้แบบไม่อั้น ไม่หวงเครื่องกันเลยทีเดียว

ที่สำคัญร้านนี้ไม่ได้มีดีเเค่ โจ๊กข้อไก่ แต่อีกหนึ่งเมนูเด็ดก็คือ กวยจั๊บ ด้วยน้ำซุปที่เข้มข้น หอมเครื่องปรุงรส สูตรเด็ดของร้าน แถมด้วยเครื่องแน่นๆ ไม่แพ้ โจ๊กข้อไก่

โจ๊กข้อไก่ เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 30 ปี จุดเด่นที่ทำให้ใครๆ ก็กลับมาทานโจ๊กร้านนี้ก็คือ เนื้อโจ๊กเหนียวแน่นหนึบ ทานคู่กับข้อไก่ที่ผ่านการต้มจนเปื่อยในน้ำซุปสูตรเด็ดของทางร้าน รับประทานแล้วละลายในปาก ใครมาทานโจ๊กที่นี่รับรองว่าติดใจ ต้องกลับมากินซ้ำ หรือซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านอย่างแน่นอน

ปัจจุบันทางร้านมีการพัฒนาสูตรของโจ๊กแบบใหม่ เรียกได้ว่าเป็น เมนูยอดฮิต นั่นก็คือ โจ๊กต้มยำปลากรอบไข่เยี่ยวม้า หรือจะเป็นเมนูอื่นๆ ที่มีความหลากหลายให้เลือกชิม เช่น เกาเหลากวยจั๊บ, เกาเหลาข้อไก่หรือจะเป็น กระเพาะปลาน้ำข้น ก็ใส่ข้อไก่เข้าไปในเมนูให้หมด

ขั้นตอนการทำ โจ๊กข้อไก่ พิถีพิถันตั้งแต่วิธีการเลือกข้าว ต้องใช้ข้าวถึง 3 ชนิดนำมารวมกัน ได้แก่ ข้าวเหนียว ท้ายข้าว และข้าวหอมเก่า แล้วต้มให้เดือดโดยไฟอ่อน ส่วนข้อไก่นั้นต้องใช้ในปริมาณมาก อย่างน้อยวันละมากกว่า 100 กิโล โดยจะใส่ข้อไก่ลงไปต้มในช่วงที่น้ำยังไม่เดือด เพื่อให้ซุปหวาน แล้วเติมรสด้วยเกลือ เม็ดซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และซีอิ๊วดำ จากนั้นใส่รากผักชี ขิงสด กระเทียม รวมถึงใบเตยแล้วต้มต่อจนเปื่อยนุ่ม จนได้ โจ๊กข้อไก่ รสชาติอร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพง เพียงชามละ 35 บาทเท่านั้น

ร้านตั้งอยู่ที่ แยกลำสาลี ช่วงโค้งกรุงเทพกรีฑา ซอย 1 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ



เคล็ดลับการเลี้ยงสุนัขให้ Fit & Firm

นอกจากคนจะต้องการการออกกำลังกายเพื่อรักษาสุขภาพและมีรูปร่างที่ดีแล้ว สุนัขของเราก็ต้องรักษาหุ่นเช่นเดียวกัน เพราะ ความอ้วน ส่งผลต่อร่างกายและสุขภาพของน้องหมาได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นโรคต่างๆ หรืออาการเจ็บป่วย การควบคุมดูแลเรื่องอาหารให้กับสุนัขนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเจ้าของบางคนตามใจสุนัขจนเคยชิน อยากกินอะไรก็ได้กิน ไม่ว่าจะอาหารของสุนัขหรือจะเป็นอาหารของคน ทำให้พฤติกรรมการกินอาหารแบบไร้ขีดจำกัดนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ หรือเป็นที่มาของ โรคอ้วน นั่นเอง

เจ้าของควรทราบด้วยว่า อาการป่วยที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักตัวของน้องหมา ก็มีความคล้ายคลึงกับของมนุษย์ ซึ่งทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย ตัวอย่างเช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ หรือโรคไต เมื่อสุนัขเป็น โรคอ้วน คุณภาพชีวิตของน้องหมาจะแย่ลง วันนี้เรามีวิธีมาแนะนำเพื่อให้สุนัขมีคุณภาพชีวิตที่ดี

- การเดินออกกำลังกาย วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับสุนัข ซึ่งจะช่วยให้ทั้งเจ้าของและน้องหมาได้ออกกำลังกายและใช้เวลาร่วมกันอีกด้วย เรียกได้ว่ายิ่งเดินยิ่งดี แต่ก็ควรเปลี่ยนเส้นทางในการเดินบ้างเพื่อไม่ให้เกิดความเบื่อหน่าย เช่น วันนี้เดินแถวบริเวณหมู่บ้าน วันถัดไปเลือกไปเดินแถวชายหาดใกล้ๆ บ้าน การที่เราพาสุนัขไปยังที่ใหม่ๆ จะทำให้เขากระตือรือร้นในการออกกำลังกาย และไม่รู้สึกเบื่อหน่าย

- การควบคุมอาหาร การควบคุมอาหารสำหรับสุนัขมีความสำคัญอย่างยิ่ง และปัจจัยหลักมาจากตัวเจ้าของที่จะเลือกให้อาหารที่มีคุณค่าและควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละวันของสุนัข ลดการให้ขนมระหว่างมื้ออาหาร ที่สำคัญเจ้าของต้องใจแข็งและทนกับการออดอ้อนขออาหารเพิ่มของสุนัขให้ได้ และควรเลือกอาหารให้เหมาะสมกับอายุ เพศ และพันธุ์ของสุนัขด้วย