ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

มองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่มีความรู้ด้านนี้มาช่วยดูแลเค้าที่บ้าน เจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดูรายละเอียดและสามารถสอบถามราคาได้อย่างชัดเจน ก่อนที่เราจะตัดสินใจจ้าง แถมราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด เยี่ยมไปเลยค่ะ
Saijai
ปัทมา เลิศชนะ
3 ปีที่แล้ว
หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
เหตุผลที่เลือกใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยง เพราะว่าไม่มีเวลาดูแลน้องหมาน้องแมวที่บ้านเลยจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาดูแลแทนเวลาเราไม่อยู่ อยากแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่ราคาไม่สูง ผู้ให้บริการบนเว็บไซต์ใส่ใจเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
Saijai
มัจฉา รุ่งอนันต์
3 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
3 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ขอดีของการมีสัตว์เลี้ยง
เครียด เหงา เศร้า บางครั้งเราต้องการคนมาคอยรับฟังปัญหา ซึ่งนอกจากเพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกก็คือ การมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว นก ปลา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนนิยม สัตว์เลี้ยง สามารถช่วยเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเหงาและเครียด ไปจนถึงผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี คุณทราบหรือไม่ว่าการเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์ต่อเรามากกว่าที่คิด มาดูข้อดีกันเลยค่ะ

- การเลี้ยงสุนัขหรือแมวเพื่อบำบัดความเครียดหรือในต่างประเทศเรียกว่า Pets Therapy (สัตว์เลี้ยงบำบัด) ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยมานานแล้วว่า การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้น สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้จริง ทั้งยังมีคำแนะนำให้ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบรรเทาความเหงาและป้องกันโรคซึมเศร้าอีกด้วย

- การมีสัตว์เลี้ยงช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยผลการศึกษาพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์จะมีค่าคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดอย่างไตรกลีเซอร์ไรด์น้อย เนื่องจากมีกิจกรรมพาสัตว์เลี้ยงไปเดินออกกำลังกายนั่นเอง
- ช่วยลดความดันโลหิต เพราะการมีสัตว์เลี้ยงจะทำให้เราคลายเครียด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์กพบว่า ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคความดันโลหิตสูงจะมีค่าความดันโลหิตที่ต่ำลงเมื่อมีสัตว์เลี้ยง

- Rebecca A. Johnson ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี ได้กล่าวว่า เพียงแค่มองสัตว์เลี้ยง สมองจะหลั่งออกซิโทซิน ทำให้มีความสุขและลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เกิดความเครียด โดยมีผลการวิจัยกับทหารผ่านศึกชาวสหรัฐอเมริกา ที่ประสบภาวะผิดปกติทางจิตใจหรือ PTSD พบว่า ทหารผ่านศึกนายนั้นไม่กล้าออกจากบ้านโดยไม่มีภรรยาไปด้วย เมื่อได้ลองเลี้ยงสุนัข เพียงไม่กี่อาทิตย์เขาก็มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและกล้าที่จะออกจากบ้านเพียงล
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
วิธีการสังเกตุสัตว์เลี้ยงเมื่อมีอาการป่วย
เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกเราได้เมื่อรู้สึกไม่สบาย หากเราไม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาเริ่มมีอาการผิดปกติ มารู้อีกทีเขาก็ป่วยหนักจนอาจทำให้ไม่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที หรืออาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าเดิมก็เป็นได้

วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้

1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง

หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นห่วงและต้องการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและมาดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้านหรือไม่มีเวลาพาน้อง ๆ ไปเดินเล่น มักมองหาผู้ช่วยงานในส่วนนี้และก่อนที่จะเริ่มงานกันต้องมีข้อตกลงกัน เพื่อให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและผู้ว่าจ้างรู้สึกสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว

จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป

ตะลอนกินรอบกรุงเทพ

กรุงเทพ ไม่ใช่จังหวัดเล็กๆ เลย หากใครไปเที่ยวกรุงเทพ นอกจากจะไปเพื่อเที่ยวและช้อปปิ้งแล้ว การไปหาของกินอร่อยๆ ที่กรุงเทพก็เป็นอีกจุดประสงค์หลักในการเดินทางไปกรุงเทพด้วยเช่นกัน วันนี้มาลองสำรวจของกินอร่อยๆ ตามจุดต่างๆ ของกรุงเทพกันค่ะ

-ย่านราชวัตร ย่านเก่าแก่ของกรุงเทพซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ย่านนี้มีของกินอร่อยๆ ขึ้นชื่อมากมาย อาทิเช่น ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ราชวัตร, หอยทอด-ผัดไทย สวัสดีราชวัตร, ราดหน้ามะยอดผัก, เย็นตาโฟ วิโรจน์โภชนา, เป็ดย่าง วันสตาร์, ข้าวขาหมูราชวัตร, ลูกชิ้นราชวัตร

-ท่าพระจันทร์ เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่อีกย่านที่มีร้านอาหารดังๆ มากมาย แถมยังราคาไม่แพงอีกด้วย และที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากก็คือ ร้านโรตี-มะตะบะ ท่าพระจันทร์ เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมากว่า 40 ปี ด้วยรสชาติที่อร่อยและราคาที่เป็นกันเอง ทำให้ร้านนี้เป็นที่นิยม อีกร้านก็คือ ร้านไตปลารสเด็ด (แม่สมถวิล) เมนูเด็ดคือ ขนมจีนราดแกงไตปลา รสชาติเข้มข้นถึงเครื่อง อร่อยถูกใจใครหลายๆคน จนต้องกลับมากินซ้ำอีกหลายๆ รอบ นอกจากนั้นร้านนี้ยังมีข้าวแกงรสชาติจัดจ้านขายอีกด้วย

- วังหลัง ย่านนี้เป็นย่านดังที่ใครๆ ก็ต้องรู้จัก นอกจากจะมีของกินอร่อยๆ แล้วยังมีทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้ามือสอง เรียกได้ว่าถ้ามาที่นี่จะได้ทั้งกิน ทั้งช้อป คุ้มเกินคุ้มกันเลยทีเดียว ของกินขึ้นชื่อของที่นี่ ได้แก่ หมูทอดชาววัง ด้วยตำนานอันยาวนานกว่า 13 ปีรับประกันความอร่อยได้เลย ส่วนขนมที่ขึ้นชื่อก็คือ ประเสริฐ โรตีสายไหม ซึ่งร้านเปิดมานานกว่า 20 ปีที่สำคัญ สายไหมและแป้งของที่นี่ไม่ใส่สารกันบูด เป็นของฝากที่ใครๆ ก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน



อยากเลี้ยงสัตว์ต้องรู้อะไรบ้าง

ความเหงา ความโดดเดี่ยว ทำให้มนุษย์ต้องการเพื่อนแก้เหงา ไม่ใช่คนโสดก็คงไม่เหงามากนัก เพราะได้ใช้เวลากับคนรักและครอบครัว ญาติพี่น้อง แต่มีคนส่วนมากที่อยู่ในเมืองหลวงอย่างเช่น กรุงเทพ อาศัยอยู่คอนโด หรืออยู่บ้านเพียงลำพัง ไม่มีคนอยู่ด้วยจึงต้องการมีสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน เนื่องจากปัจจุบันคนนิยมอยู่ตัวคนเดียวเพิ่มมากขึ้น ทำให้รู้สึกเหงา สัตว์เลี้ยงจึงเป็นสิ่งที่จะนำมาเลี้ยงแก้เหงาได้ดีที่สุด แต่ก่อนที่จะนำสัตว์มาเลี้ยงนั้น เราควรถามตัวเองก่อนว่า เราต้องการเลี้ยงสัตว์ไปเพื่อจุดประสงค์ใด และมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนที่จะเลี้ยงสัตว์ หาความรู้เกี่ยวกับสัตว์นั้นๆ อย่างละเอียด รวมถึงพฤติกรรมหรือข้อห้ามในการเลี้ยงสัตว์เหล่านั้น รวมไปถึงตรวจสอบความพึงพอใจของคนรอบข้างที่อยู่กับเรา ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องหรือคนรัก ก่อนจะนำสัตว์มาเลี้ยง และที่สำคัญที่สุด คือ เรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องจ่ายหากมีสัตว์เลี้ยง ตัวอย่างเช่น ค่าวัคซีน ค่าวิตามิน ค่ายา หรือค่าทำหมันต่างๆ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายจิปาถะในแต่ละเดือน คือ ค่าอาหาร ขนม หรือหากเป็นแมวก็ต้องมีกระบะทราย และทรายแมวเพิ่มเติมมาอีกด้วย ปัญหาหลักๆ หากตัดสินใจเลี้ยงสัตว์โดยไม่ได้คำนึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ก็คือ การไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้อีกต่อไป เช่น ย้ายที่อยู่ไปอยู่ในที่ที่ไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ หรือมีบุคคลในครอบครัวแพ้ขนสัตว์ต่างๆ วิธีที่ต้องดำเนินการเป็นอันดับแรกก็คือ การหาบ้านใหม่ให้สัตว์เลี้ยง ซึ่งในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ การหาบ้านใหม่เป็นไปได้ค่อนข้างยาก หากเจ้าของเดิมไม่มีความรับผิดชอบ บางครั้งอาจจะทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้และย้ายที่อยู่ไป ส่งผลให้เกิดภาระกับสังคมและมีสัตว์จรจัดเพิ่มมากขึ้น



คิดถึงกรุงเทพ คิดถึงแหล่งช้อปปิ้ง

การช้อปปิ้งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่เป็นที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เด็กหรือผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งเสื้อผ้า ของใช้ ของแต่งบ้าน ของเล่น ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แหล่งช้อปปิ้งเด็ด ๆ ในกรุงเทพคุณไม่ควรพลาด มีที่ไหนกันบ้าง มาดูกันค่ะ

ประตูน้ำ เป็นแหล่งช้อปที่ทั้งคนไทยและคนต่างชาตินิยมช้อปปิ้งเลือกซื้อเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า ซึ่งมีทั้งขายปลีกและขายส่ง สโลแกนของที่นี่คือ ยิ่งซื้อเยอะยิ่งคุ้ม

ตลาดนัดสำเพ็ง เป็นย่านช้อปปิ้งเก่าแก่ของกรุงเทพ ที่ใครๆ ต้องรู้จัก ปัจจุบันตลาดนัดสำเพ็งเป็นศูนย์รวมสินค้ามากมาย ได้แก่ ของเล่น เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า โดยฝั่งเยาวราชจะมีสินค้าประเภทกิ๊ฟช็อป เครื่องเขียน ตุ๊กตาขายอยู่จำนวนมาก ส่วนอีกฝั่งที่อยู่ติดกับพาหุรัดจะเน้นขายเสื้อผ้าเป็นหลัก

ปากคลองตลาด แหล่งช้อปปิ้งดอกไม้ที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกกันเลยทีเดียว เพราะคุณสามารถมาเลือกซื้อดอกไม้ที่นี่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่ว่าคุณจะต้องการดอกไม้แบบไหน ประเภทไหน ทั้งสายพันธุ์ไทยหรือสายพันธุ์ต่างชาติ ดอกไม้นำเข้าจากต่างประเทศก็หาซื้อได้จากที่นี่

ตลาดนัดจตุจักร แหล่งช้อปปิ้งที่มีทุกอย่างที่คุณต้องการ ตั้งแต่ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ต้นไม้ ของประดับตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ของเก่า สัตว์เลี้ยง ส่วนมากคนนิยมมาเดินที่นี่ในวันเสาร์-อาทิตย์ แต่จริง ๆ แล้วตลาดนัดจตุจักรเปิดทุกวัน แต่จะแตกต่างกันตามแต่โซนที่กำหนด ตัวอย่างเช่น วันพุธ-วันพฤหัส ตลาดนัดต้นไม้ จะเปิดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น. วันศุกร์ ตลาดนัดเซรามิก เปิดตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตลาดนัดทั่วไป จะเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น.