ดูแลเด็ก ใน บางเขน, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน บางเขน, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
3 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
3 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยควรเลือกใช้บริการการเลี้ยงเด็กแบบใด พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว หรือเนอสเซอรี่
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก วันนี้เรามาดูข้อดีขอเสียของพี่เลี้ยงเด็กกันค่ะ ทำไมต้องเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็ก

1) พี่เลี้ยงช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ได้ หากคุณไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยเนื่องจากต้องทำงานนั้น พี่เลี้ยงเด็กคือทางออกของคุณค่ะ
2) หากคุณเลือกพี่เลี้ยงที่มีคุณสมบัติที่ดีสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกของคุณได้ค่ะ
3) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณแบบใกล้ชิดมากกว่าส่งลูกเข้าศูนย์เลี้ยงเด็ก เพราะศูนย์เลี้ยงเด็กนั้นไม่สามารถดูแลเด็ก ๆ แบบใกล้ชิดได้
4) พี่เลี้ยงสามารถยืดหยุ่นเวลาทำงานให้สอดคล้องกับการทำงานของคุณได้
5) คุณไม่ต้องเสียเวลาไปรับไปส่งลูกน้อยที่ศูนย์หากคุณจ้างพี่เลี้ยงมาที่บ้านเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณ
6) ลูกของคุณจะไม่ป่วยบ่อยเหมือนเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีเด็กมากกว่า20คน อาจจะเกิดความเสี่ยงติดโรคจากเพื่อน ๆ ได้
7) พี่เลี้ยงสามารถอยู่ดูแลลูกของคุณและเฝ้าบ้านของคุณได้หากในกรณีคุณกลับบ้านดึก
8) คุณสามารถบอกพี่เลี้ยงเด็กได้หากคุณต้องการให้พี่เลี้ยงมุ่งเน้นพัฒนาการของลูกคุณในด้านไหนเพราะพี่เลี้ยงของคุณจะดูแลเด็กแบบใกล้ชิด และมุ่งเน้นความสนใจให้ลูกของคุณ ต่างจากเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่ต้องเฉลี่ยดูแลอย่างเท่าเทียมกัน

ข้อเสียของพี่เลี้ยงเด็ก

1) ลูกของคุณอาจจะติดพี่เลี้ยงมากเกินไป
2) ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับศูนย์เลี้ยงเด็ก
3) คุณอาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวภายในครอบครัว

อย่างไรก็ดีข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กนั้นจะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ของคุณไปได้เยอะเลยทีเดียว หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็กสักคน ใส่ใจมีบริการด้านนี้ค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

เรื่องราวของแขนบางแขน

บางเขน ชื่อเรียกที่คุ้นชินของคนในกรุงเทพมหานคร เดิมมีฐานะเป็นอำเภอ แต่หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะการปกครองเป็นส่วนท้องถิ่นในช่วงปีพุทธศักราช 2514 – 2515 จึงกลายเป็น เขตบางเขน ปัจจุบันเขตนี้มีการแบ่งเขตการปกครองเป็น 2 แขวง คือ แขวงอนุสาวรีย์ และแขวงท่าแร้ง โดยมีคลองกระเฉด คลองแพรเขียว และไผ่เขียวเป็นเส้นแบ่งเขต พื้นที่เขตบางเขนตั้งอยู่บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีอาณาเขตที่กว้างมากรองรับการขยายตัวของกรุงเทพตอนเหนือได้เป็นอย่างดี มีการสร้างถนนเพิ่มเติม ทั้งสายหลัก ทางพิเศษ สายรอง ทางลัด และการเข้าถึงของรถไฟฟ้าที่เข้าถึงในปัจจุบันคือ รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท โดยมีสถานีที่ให้บริการคือ สถานีกรมทหารราบที่ 11, สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ, สถานีพหลโยธิน 59, สถานีสายหยุด และสถานีสะพานใหม่ รวมถึงโครงการ รถไฟฟ้าสายสีชมพูที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นับได้ว่าเป็นเขตที่มีความเจริญทางการคมนาคมสูง จึงทำให้มีสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับศาสนา การแพทย์ การศึกษา การค้า และหน่วยงานราชการ ฯลฯ ตั้งอยู่หลายแห่งด้วยกัน เช่น
- “ศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต” : เป็นสถานศึกษาที่คอยบ่มเพาะเด็กที่ตั้งอยู่ที่ 69 หมู่6 ซอยวัชรพล ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้งเขตบางเขน ก่อตั้งขึ้นโดยพระครูภาวนาภิธาน เมื่อปีพุทธศักราช 2518 บนเนื้อที่ 2 ไร่ และดูแลโดย แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต โรงเรียนแห่งนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กในชุมชนได้เรียนหนังสือ ได้รับการอบรมสั่งสอนในทางที่ถูกต้อง โดยเน้นใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในการฝึกสมาธิ ปัญญา และปลูกฝังคุณธรรมให้กับเด็ก เพื่อเติบโตเป็นคนดีของสังคม โรงเรียนแห่งนี้ไม่เพียงแต่ให้การศึกษากับเด็ก แต่ยังถือว่าเป็นศูนย์รวมใจของคนในชุมชนนี้ - สนามมวยเวทีลุมพินี : เป็นสถานที่ที่เป็นจุดรวมตัวของผู้ใหญ่ในช่วงการแข่งขันชกมวย ตั้งอยู่ในพื้นที่ของศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน สนามแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2499 ที่มีการชกทั้งมวยไทย และสากล โดยจัดให้มีการชกทุกวันอังคาร และวันศุกร์ เวลา 18.00 – 22.00 น. และวันเสาร์ เวลา 16.00 – 24.30 น. เว้นวันสำคัญทางศาสนา



สถานที่สำคัญทางศาสนาในเขตบางเขน

เขตบางเขน เป็นพื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร มีอาณาเขตกว้างขวางประกอบกับมีชุมชน ย่านการค้า และอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นในท้องที่ จึงมีสถานที่สำคัญทางศาสนาและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น

-วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร: ตั้งอยู่ที่ ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 ได้รับอนุญาตให้สร้างเป็นที่สำนักสงฆ์ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2484 ที่ดินของวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า รวมเนื้อที่ทั้งหมด 226 ไร่ 2 งาน 26 ตารางวา เดิมมีชื่อว่า “วัดประชาธิปไตยฎ เนื่องจากสร้างขึ้นบริเวณใกล้เคียงกับอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นรัฐบาลได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ กิ่งต้นพระศรีมหาโพธิ์และดินดังกล่าวมาประดิษฐานที่วัด จึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดพระศรีมหาธาตุ”

-วัดบางบัว: ตั้งอยู่ที่ 50 ซอยไวปรีชา ถนนพหลโยธิน 46 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัดบางบัวสร้างประมาณพุทธศักราช 2380 บนเนื้อที่ 10 ไร่ 2 งาน 7 ตารางวา แต่เดิมชาวบ้านเรียกว่า วัดลาดน้ำเค็ม วัดบางบัวมีโครงการต่าง ๆ มากมาย เช่น โครงการบวชอุบาสิกาแก้วของวัดพระธรรมกาย โครงการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน เป็นต้น ให้กับประชาชนได้ร่วมกันปฏิบัติธรรม

-วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต: ตั้ง 69 ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ดำเนินการก่อสร้างเมื่อ 28 พฤษภาคม พุทธศักราช 2512 มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 31 ไร่ 2งาน 62 ตารางวา ชื่อของวัดนั้นมีที่มาจากคำว่า "ศิริพงษ์" เป็นนามสกุลของผู้บริจาคที่ดิน ส่วนคำว่า "ธรรมนิมิต" เพราะต้องการให้วัดเป็นวัดปฏิบัติธรรมสมถะวิปัสสนาและศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม ในย่านบางเขนยังคงมีวัดอื่นอีกมากมายให้ประชาชนในพื้นที่ และบริเวณโดยรอบได้เดินทางมาปฏิบัติศาสนกิจ และร่วมฟังธรรมในช่วงวันสำคัญต่าง ๆ



สื่ออิเล็กทรอนิกส์กับเด็กในยุคสมัยใหม่

ในยุคปัจจุบันนี้เรามักจะมองเห็นเด็กกับสื่ออิเล็กทรอนิกส์มาคู่กันเสมอ เพราะไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทได้กลายมาเป็นเพื่อนคลายเหงา และเครื่องฆ่าเวลาของเด็กในยุคนี้ไปแล้ว หากมีการใช้และเรียนรู้อย่างไม่ถูกวิธี อาจเป็น “ดาบสองคม” เพราะสื่อทุกชนิดมีทั้งประโยชน์และโทษ หนึ่งในข้อเสียนั้นคือ กลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่บ่อยครั้งที่สุดจะมีความเสี่ยงเป็นเนื้องอกในสมองเพิ่มขึ้นถึง 40% อ้างอิงจาก ที่นี่

นอกจากนั้นการวิจัยของ นายแพทย์วีระศักดิ์ ชลไชยะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน กุมารเวช (พัฒนาการและพฤติกรรม) พบว่าเด็กแรกเกิดถึงอายุ 2 ปี ยังไม่สามารถแปลงภาพและเสียงที่ได้ยินจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์มาปรับใช้กับโลกแห่งความเป็นจริงได้ด้วยตนเอง ในขณะที่พ่อ แม่ ผู้ปกครองนั้นยังคงวุ่นวายกับการทำงาน ติดต่อธุรกิจเพื่อหาเงินมาจุนเจือภายในครอบครัว หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่จะต้องคอยดูแลความสะอาดบ้าน และความเรียบร้อยภายในบ้าน ทำให้ พ่อ แม่ ผู้ปกครองบางคนตัดสินใจเลือกจ้างพี่เลี้ยงหรือบุคคลที่สามารถคอยดูแลและให้ความช่วยเหลือลูกได้ เพราะเห็นถึงข้อเสียในการปล่อยให้เด็กใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่มีผู้ใหญ่คอยคำแนะนำนั้น เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเสี่ยงในหลายๆด้าน เช่น การเกิดอารมณ์รุนแรง พฤติกรรมลอกเลียนแบบ เป็นต้น

การจ้างพี่เลี้ยงเด็กถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับพ่อ แม่สมัยใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน หรือแม้แต่ทำงานที่บ้าน ที่ออฟฟิศเอง ที่ต้องใช้สมาธิและไม่ต้องการให้ลูกมารบเร้าขณะทำงาน แทนการหยิบยื่นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ลูก แต่การมีผู้ใหญ่คอยให้คำแนะนำขณะใช้งานถือเป็นสิ่งจำเป็นกว่า และยิ่งไปกว่านั้นหากมีใครสักคนที่สามารถชักจูงเด็ก ให้มีเวลาทำกิจกรรมอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ เล่นเกมที่ใช้การคิดวิเคราะห์มากกว่า จะเป็นผลดีต่อสุขภาพกาย สุขภาพตา สุขภาพจิตและส่งผลทางด้านพัฒนาการของเด็กได้ดีกว่า เพียงแต่ต้องมีการคัดกรองพี่เลี้ยงที่มีประวัติดี เชื่อถือได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดในอนาคต