ดูแลเด็ก ใน พญาไท, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน พญาไท, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
3 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
3 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว ใส่ใจขอแนะนำให้คุณพ่อคุณมองหาคุณสมบัติและทักษะเหล่านี้ในตัวพี่เลี้ยงเด็กเพื่อให้ได้คนที่ตรงใจที่สุดค่ะ

1. ความอดทน พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเข้าใจในธรรมชาติและอดทนต่อพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน
2. ทักษะการต่อรอง พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเทคนิคในการเจรจาสื่อสารเพื่อโน้มน้าวให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับ
3. ทักษะแก้ปัญหา พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความสามารถในการจัดการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องรายงานคุณพ่อคุณแม่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
4. ความคิดสร้างสรรค์ พี่เลี้ยงเด็กควรมีความคิดสร้างสรรค์ หากิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้เด็กได้เล่นเพลิดเพลินและฝึกช่วยเหลือตัวเอง
5. ตรงต่อเวลา พี่เลี้ยงเด็กต้องเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง คือต้องมาทำงานและเลิกงานตามเวลาที่ตกลงไว้กับคุณพ่อคุณแม่ หากมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาสายควรแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ทราบโดยเร็วที่สุด
6. สุขภาพดี พี่เลี้ยงต้องเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมให้สะอาดอยู่เสมอ
7. วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

พระยาไทย / เขตพญาไท

เขตพญาไทเป็นเขตชั้นในของกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่เกือบสิบตารางกิโลเมตร ที่มีจำนวนประชากรค่อนข้างจะหนาแน่น เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการ เช่น กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร กรมธนารักษ์ กรมบัญชีกลาง เป็นต้น รวมทั้งสถานศึกษา โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และสถานพยาบาลอีกหลายๆ แห่ง เช่น โรงพยาบาลทหารผ่านศึก โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน และ โรงพยาบาลพญาไท 2 หลายๆ คนคุ้นเคยกับถนนพญาไท และวังพญาไท โดยอาจไม่รู้ว่าทั้งถนนพญาไทและวังพญาไทนั้น ปัจจุบันไม่ได้อยู่ใน เขตพญาไทแล้ว หากอยู่ในเขตราชเทวี เขตใหม่ที่แยกออกไปเมื่อ พ.ศ.2537 อีกทั้งชื่อ พญาไท นั้น เดิมคือ พระยาไทย ตามหลักฐานใน สารบาญชี (การจัดวิธีเกณฑ์คนเข้ารับราชการฝ่ายทหารและพลเรือนในสมัยโบราณ ตั้งเป็นกรมเรียกว่า กรมพระสุรัสวดี คือ สัสดี) สำหรับเจ้าพนักงานไปรษณีย์ พ.ศ.2426 สมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีการแบ่งพื้นที่เป็น คลองพระยาไทยบ้านแขกครัว และคลองพระยาไทยฝั่งใต้ และในแผนที่กรุงเทพฯ พ.ศ.2450 และ พ.ศ.2453 แสดงให้เห็นแนว คลองพระยาไทย เริ่มจากคลองสามเสน ทางทิศเหนือ ลงมาเชื่อมกับคลองบางกะปิทางทิศใต้ มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร คลองพระยาไทย นั้นถูกถมไปเกือบหมดแล้วในปัจจุบัน ทุกวันนี้ยังคงปรากฏทางน้ำในพื้นที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และเมื่อเปรียบเทียบกับแผนที่ประวัติศาสตร์และแผนที่กรุงเทพฯ จากคลองบางกะปิหรือในปัจจุบันเรียกว่าคลองแสนแสบ คลองพระยาไทยกลายเป็นซอยเพชรบุรี 12 ซอยเพชรบุรี 7 ซอยราชวิถี 15 จนข้ามไปโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าที่เชื่อมกับคลองสามเสน โดยข้อมูลของสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ระบุว่า คลองพญาไท เริ่มต้นจากคลองบางกะปิถึงถนนเพชรบุรี มีประกาศพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอพญาไท อีกครั้งในปี พ.ศ.2509 โดยมีเหตุผลประกอบว่าตำบลเพชรบุรี ตำบลทุ่งพญาไท ตำบลถนนพญาไท ตำบลมักกะสัน ตำบลสามเสนใน ในอำเภอดุสิต และตำบลบางกะปิ ตำบลห้วยขวาง ในอำเภอบางกะปิ จังหวัดพระนคร มีท้องที่กว้างขวาง มีชุมนุมชนและชุมนุมการค้าหนาแน่น สมควรแยกตำบลดังกล่าว ออกจากอำเภอดุสิตและอำเภอบางกะปิ และยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอพญาไท

ต่อมาเมื่อมีการจัดตั้งกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2515 จึงเปลี่ยนสถานะจากอำเภอเป็นเขตพญาไท รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ปกครองของเขตพญาไทหลายครั้ง ดังนี้ พ.ศ.2516 มีการยกฐานะแขวงห้วยขวาง และแขวงบางกะปิ เป็นเขตห้วยขวาง พ.ศ.2521 แยกแขวงดินแดง และบางส่วนของแขวงสามเสน ไปขึ้นกับเขตห้วยขวาง และ พ.ศ.2532 ยกสี่แขวงทางทิศใต้ ของเขตพญาไท เป็นเขตราชเทวี ปัจจุบันเขตพญาไทจึงประกอบด้วย แขวงพญาไท และแขวงสามเสนในเท่านั้น

พระราชวังพญาไท ที่เป็นที่มาของชื่อเขต รวมทั้งถนนพญาไท จึงไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของเขตพญาไท ด้วยเหตุนี้เอง



วิธีเตรียมพร้อมลูกสำหรับไปสถานที่รับเลี้ยงเด็ก

หลังจากคู่รักใช้เวลาด้วยกันมาช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อมีลูกน้อยเป็นโซ่คล้องดวงใจ ใช้เวลาด้วยกัน ในโลกของความเป็นพ่อ แม่ ลูก เต็มไปด้วยช่วงเวลาแรกช่วงเวลามหัศจรรย์ จนถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องกลับไปทำงาน การเดินทางบทใหม่ เริ่มขึ้น อีกครั้ง ความตื่นเต้น ความกังวล กับการพาลูกน้อยไปสถานที่รับเลี้ยงเด็กเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตามการวางแผนเพิ่มเติมเล็กน้อยจะใช้เวลาไม่นาน ในการเตรียมลูก สำหรับสถานที่รับเลี้ยงเด็กเพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงจะราบรื่นที่สุด สำหรับเราและลูกน้อยของเรา

1.เราควรพาลูกไป เยี่ยมชมโรงเรียน ไปทำความรู้จัก ก่อนไปจริงๆ วันแรก การไปส่งครั้งแรกน่าจะราบรื่นขึ้นหากลูกของคุณเรา จำพื้นที่และครูของเขาได้แล้ว “เมื่อคุณพบครูครั้งแรก คุณครูยังคงเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเราและเป็นคนแปลกหน้ามากๆ สำหรับลูกของเราดังนั้น เราต้องรู้สึกสบายใจ ไว้ใจ เมื่ออยู่กับคุณครู” เราขอแนะนำให้ไป ดูช่วงกลางวันกับลูกของคุณมากกว่าหนึ่งครั้ง ก่อนวันสำคัญจะมาถึง เพื่อความคุ้นเคยไม่แปลกแยก

2.พูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมใหม่ ให้ลูกรู้เข้าใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้น การเล่นกับเพื่อน อยู่ในสังคมวัยเดียวกัน เรียนรู้กับคุณครู ล้วนเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับลูกของเรา แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะรู้สึกหวาดกลัว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการพูดถึงกิจวัตรใหม่ก่อนเริ่มจึงสำคัญมาก “การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับคนทุกวัย เราควรอธิบายให้ลูกฟังว่าพวกเขาจะไปที่ไหนและไปทำไมและพูดถึงเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงวันแรก”

3.ฝึกช่วยเหลือตัวเอง เนื่องจากคุณครูในสถานที่รับเลี้ยงเด็กต้องดูแลเด็กหลายคนพร้อมกัน หากลูกเรามีทักษะและสามารถทำบางสิ่งได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีคนช่วย จะทำให้คุณครูพี่เลี้ยงมีโอกาสที่จะส่งเสริมพัฒนาการและทักษะอื่นๆ ได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น หากเด็กสามารถใส่เสื้อผ้าหรือล้างมือได้นั่นจะช่วยได้มาก หรือสามารถบอกว่าต้องการเข้าห้องน้ำ ห้องสุขาได้

4.นำสิ่งของสุดที่รัก ที่ชอบ หรือช่วยให้หลับสบาย “ให้เด็กโต – เด็กวัยเตาะแตะขึ้นไปนำสิ่งของที่ทำให้นึกถึงบ้านและช่วยให้พวกเขาเข้านอนในช่วงเวลางีบหลับเช่นผ้าห่มหรือตุ๊กตาสัตว์” ปล. มีคำแนะนำนิดหนึ่ง สำหรับเด็กทารกหรือเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ ไม่ควรมีสิ่งของเหล่านี้บนที่นอน ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยในการนอนหลับ

5.คุณพ่อแม่ต้องอดทน “ถึงแม้ว่าวันนั้นเป็นวันที่ลูกของเราไม่ต้องการให้เราเดินจากไปและเพราะลูกมักจะคิดว่า เราเป็นผู้ดูแลหลักของลูก พ่อและแม่คือคนของลูก เด็ก ๆ มีความยืดหยุ่นและพวกเขาจะปรับตัวเมื่อได้ใช้เวลาและความเข้าใจจากผู้คนรอบข้าง “ถ้าพวกลูกรับรู้ว่าสิ่งแวดล้อมปลอดภัยและผู้คนที่อยู่รอบ ๆ สภาพแวดล้อมนั้นคอยให้การสนับสนุนและดูแลพวกเขา

ทุกช่วงเวลาของวัยมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ศึกษา ให้เข้าใจ และโตไปพร้อมๆ กับลูก



“Phya Thai Palace Hotel”

“Phya Thai Palace Hotel”

หากนำชื่อนี้ไปหาในเว็บไซด์ หรือแอปพริเคชั่นรับจองโรงแรม ..ก็คงได้โรงแรมที่มีชื่อใกล้เคียง หากแต่โรงแรมนี้เคยเป็นโรงแรมที่ มีชื่อเสียงและหรูหรา เทียบเท่าหรือมากกว่า โรงแรมออเรียนเต็ล ในสมัยหนึ่งโรงแรมนี้มีชื่อว่า โฮเต็ลพญาไท โฮเต็ลพญาไท จัดเป็นโรงแรมที่หรูหรามากในยุคนั้น และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ ยอดเยี่ยมที่สุดในภาคพื้นตะวันออกไกล (Far East) เดิมที่ โรงแรมแห่งนี้ คือ พระราชวัง และ พระราชวังเก่าแห่งนี้ถูกเปลี่ยนสถานะไปหลายรูปแบบ เริ่มต้นด้วยการเป็นพระราชวังเล็ก ๆ ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงประทับและสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. พ.ศ. 2452 (ค.ศ. 1909) หลังจากนั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ได้มีรับสั่งให้ปรับโครงสร้างพระราชวังและสร้างพระที่นั่งที่ประทับเพิ่มเติมขึ้นอีก 4 แห่ง เป็น พระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถาน พิมานจักรี ศรีสุทธนิวาส เทวราชสภารมย์ และอุดมวนาภรณ์ ก่อนที่จะเปลี่ยนสถานที่ในโรงแรมพญาไทซึ่งเป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดของโลกตะวันออก แต่การบริหารโรงแรมนั้นยากยิ่งนัก ประจวบกับเพิ่งผ่านสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง มาได้ไม่นาน จากโรงแรม โฮเต็ลพญาไท ก็เปลี่ยนเป็นสถานีวิทยุและหน่วยแพทย์ประจำกองทัพซึ่งเป็นต้นกำเนิดของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับพระราชวังแห่งนี้ สถานะล่าสุดของพระราชวังพญาไทคือพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ทุกกระเบียดนิ้ว นอกจากนี้ยังมีหอสูงและซุ้มประตูสูงบนชั้นดาดฟ้าของพระตำหนักพิมานมหาจักรพรรดิ์ได้กลายเป็นสถานที่สำคัญที่ผู้คนจดจำ รวมถึงพระบรมราชานุสาวรีย์สำริดที่มีขนาดเท่ากับพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ประทับในพระอิริยาบถยืนตรงหน้าอาคารอู่รถพระที่นั่ง ควรค่าแก่การไปสักการะ สักครั้งในชีวิต หากเป็นม้วนฟิล์มมองย้อนกลับไปภาพที่ครึกครื้นตอนเริ่มสร้างในปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดที่จะเสวยพระกระยาหารเรียบง่ายที่โรงนาหลวง ในบริเวณพระราชวังพญาไท เช่นเดียวกับฝ่ายใน นำโดยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยฝ่ายในและพระบรมวงศานุวงศ์ ก็โปรดที่จะทำนาปลูกข้าว มาอีกรัชสมัยที่ วงดนตรีสากลชนิดออเคสตร้า ๒๐ คน ใช้นักดนตรีจากกองดุริยางค์ทหารบก บรรเลงให้เต้นรำในวันสุดสัปดาห์ จวบจนหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ จบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกากลับมา ก็ได้นำวงดนตรีแจ็สมาบรรเลงที่โฮเต็ลแห่งนี้ จนมาถึงวันที่สงบนิ่งพักผ่อนท่ามกลางเมืองหลวงที่เปลี่ยนไป ...