ดูแลเด็ก ใน ราชเทวี, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน ราชเทวี, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
3 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
3 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
3 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยควรเลือกใช้บริการการเลี้ยงเด็กแบบใด พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว หรือเนอสเซอรี่
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก วันนี้เรามาดูข้อดีขอเสียของพี่เลี้ยงเด็กกันค่ะ ทำไมต้องเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็ก

1) พี่เลี้ยงช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ได้ หากคุณไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยเนื่องจากต้องทำงานนั้น พี่เลี้ยงเด็กคือทางออกของคุณค่ะ
2) หากคุณเลือกพี่เลี้ยงที่มีคุณสมบัติที่ดีสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกของคุณได้ค่ะ
3) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณแบบใกล้ชิดมากกว่าส่งลูกเข้าศูนย์เลี้ยงเด็ก เพราะศูนย์เลี้ยงเด็กนั้นไม่สามารถดูแลเด็ก ๆ แบบใกล้ชิดได้
4) พี่เลี้ยงสามารถยืดหยุ่นเวลาทำงานให้สอดคล้องกับการทำงานของคุณได้
5) คุณไม่ต้องเสียเวลาไปรับไปส่งลูกน้อยที่ศูนย์หากคุณจ้างพี่เลี้ยงมาที่บ้านเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณ
6) ลูกของคุณจะไม่ป่วยบ่อยเหมือนเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีเด็กมากกว่า20คน อาจจะเกิดความเสี่ยงติดโรคจากเพื่อน ๆ ได้
7) พี่เลี้ยงสามารถอยู่ดูแลลูกของคุณและเฝ้าบ้านของคุณได้หากในกรณีคุณกลับบ้านดึก
8) คุณสามารถบอกพี่เลี้ยงเด็กได้หากคุณต้องการให้พี่เลี้ยงมุ่งเน้นพัฒนาการของลูกคุณในด้านไหนเพราะพี่เลี้ยงของคุณจะดูแลเด็กแบบใกล้ชิด และมุ่งเน้นความสนใจให้ลูกของคุณ ต่างจากเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่ต้องเฉลี่ยดูแลอย่างเท่าเทียมกัน

ข้อเสียของพี่เลี้ยงเด็ก

1) ลูกของคุณอาจจะติดพี่เลี้ยงมากเกินไป
2) ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับศูนย์เลี้ยงเด็ก
3) คุณอาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวภายในครอบครัว

อย่างไรก็ดีข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กนั้นจะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ของคุณไปได้เยอะเลยทีเดียว หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็กสักคน ใส่ใจมีบริการด้านนี้ค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว ใส่ใจขอแนะนำให้คุณพ่อคุณมองหาคุณสมบัติและทักษะเหล่านี้ในตัวพี่เลี้ยงเด็กเพื่อให้ได้คนที่ตรงใจที่สุดค่ะ

1. ความอดทน พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเข้าใจในธรรมชาติและอดทนต่อพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน
2. ทักษะการต่อรอง พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเทคนิคในการเจรจาสื่อสารเพื่อโน้มน้าวให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับ
3. ทักษะแก้ปัญหา พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความสามารถในการจัดการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องรายงานคุณพ่อคุณแม่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
4. ความคิดสร้างสรรค์ พี่เลี้ยงเด็กควรมีความคิดสร้างสรรค์ หากิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้เด็กได้เล่นเพลิดเพลินและฝึกช่วยเหลือตัวเอง
5. ตรงต่อเวลา พี่เลี้ยงเด็กต้องเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง คือต้องมาทำงานและเลิกงานตามเวลาที่ตกลงไว้กับคุณพ่อคุณแม่ หากมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาสายควรแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ทราบโดยเร็วที่สุด
6. สุขภาพดี พี่เลี้ยงต้องเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมให้สะอาดอยู่เสมอ
7. วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ในวันสัมภาษณ์พ่อแม่ควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงเด็ก
ขั้นตอนของการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่คุณจะได้ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่คุณจะจ้าง แต่ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำการตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน ดังนั้นวันนี้ใส่ใจมีข้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและพูดคุยถึงข้อตกลงที่สำคัญมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1) ขอบเขตหน้าที่ที่คุณต้องการให้พี่เลี้ยงทำ เช่น ช่วยเลี้ยงลูกคุณขณะคุณไม่อยู่บ้าน ช่วยเตรียมกับข้าวให้ลูกน้อยรับประทานในแต่ละมื้อ ช่วยสอนการบ้านหากพี่เลี้ยงมีความสามารถ
2) วันและเวลาการทำงาน ในวันที่สัมภาษณ์คุณและพี่เลี้ยงจะต้องตกลงเรื่องวันเวลาการทำงานให้อย่างชัดเจน และคุณควรจะมีวันหยุดให้พี่เลี้ยงตาม กฎหมายกระทรวงแรงงาน นายจ้างต้องให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันพักร้อน ได้ 6 วัน ต่อ ปี และต้องหยุดตามประเพณี ปีละไม่น้อยกว่า 13 วัน
3) ค่าจ้าง คุณจะต้องตกลงเรื่องค่าจ้างกับพี่เลี้ยงให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คุณควรที่จะเพิ่มเงินเดือนให้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่พี่เลี้ยงเด็กทำงานในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายเงินค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน
4) ข้อตกลงในการอาศัยอยู่ในบ้าน หากคุณมีกฎระเบียบที่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กปฏิบัติตามกฎที่คุณตั้งไว้ คุณต้องแจ้งให้พี่เลี้ยงเด็กรับทราบก่อนเริ่มงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5) ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ คุณควรแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบ และควรกำชับพี่เลี้ยงว่าไม่ให้ลูกของคุณเล่นโทรศัพท์ขณะที่คุณไม่อยู่ เพราะเด็กอาจได้รับผลกระทบจากการเล่นโทรศัพท์นานเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นและส่งผลกับสายตา ดังนั้นพี่เลี้ยงจะต้องหากิจกรรมที่ให้เด็กได้พัฒนาตนเองมากกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือ

ข้อมูลทั่วไป เขตราชเทวี

เขตราชเทวี มีพื้นที่ติดกับเขตพญาไท เขตดินแดง เขตห้วยขวาง เขตวัฒนา เขตปทุมวัน และเขตดุสิต ถือเป็นย่านใจกลางเมืองที่มีสถานที่สำคัญจำนวนมาก ทั้งหน่วยงานภาครัฐ สถานศึกษา สถานพยาบาล

ในอดีตราชเทวี เคยรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกับเขตดุสิต แล้วย้ายไปขึ้นกับเขตพญาไท จนกระทั่งเมืองมีการขยายตัว เขตพญาไทมีประชากรเพิ่มขึ้น จึงแยกพื้นที่ราชเวที ออกเป็นเขตราชเทวี ซึ่งในพื้นที่เขตราชเทวี นอกจากจะมีสถานที่สำคัญของหน่วยงานภาครัฐแล้ว ยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจำนวนมากด้วย เช่น พระราชวังพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด ช่วงเวลาที่กรุงเทพฯ เริ่มขยายตัว ย่านสีลม สาทร เป็นศูนย์กลางธุรกิจหลัก เริ่มมีกลุ่มทุนที่มองการขยายการลงทุนไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ และพื้นที่ราชเทวี โดยคำว่า "พระราชเทวี" ตั้งตามพระนาม พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี หรือที่ชาววังสมัย ร.5 - ร.6 ออกพระนามว่า เสด็จพระนาง เป็นพระมเหสีชั้นลูกหลวงตำแหน่ง พระนางเจ้า พระราชเทวี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ต่างพระมารดากับพระราชสวามี ด้วยพระองค์ประสูติแต่เจ้าคุณจอมมารดาสำลี พระสนมเอก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับเฉลิมพระนามเป็นสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ชาววังจึงออกพระนามว่าสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า นับแต่นั้น เขตราชเทวี มีพื้นที่ 7.16 ตารางกิโลเมตร มีประชากรอยู่ที่ 72,304 คน โดยแม้ว่าพื้นที่ราชเทวียังไม่ได้อะไรที่เป็นแลนด์มาร์ก หรือจุดที่ดึงให้คนต้องมาเลย กลุ่มใบหยก ผู้ร่ำรวยมาจากธุรกิจโรงน้ำแข็ง ตัดสินใจประมูลซื้อที่ดินบริเวณราชปรารถ เพื่อพัฒนาเป็นอาคารที่ชื่อ “ใบหยก” ก่อสร้างเสร็จในปี 2530 เป็นอาคารความสูง 43 ชั้น 151 เมตร และกลายเป็นอาคารที่สูงที่สดในประเทศไทยเวลานั้น ตึกใบหยก (สูง 151 เมตร 43 ชั้น) และตึกใบหยก II (304 ม. 85 ชั้น) เป็นอาคารที่เคยสูงที่สุดในกรุงเทพฯที่ไม่เคยมองข้ามจากเส้นขอบฟ้า ตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่ที่เรียกว่าประตูน้ำ (โปรดดูหมวดช้อปปิ้งด้านล่าง) การก่อสร้างอาคารใบหยกเสร็จสิ้นในปี 2530 และยังคงสูงที่สุดจนถึงปี พ.ศ. 2536 อาคารใบหยก 2 สร้างเสร็จในปลายปี 2540 และเปิดให้ประชาชนทั่วไปในเดือนมกราคม 2541 อาคารทั้งสองหลังส่วนใหญ่ใช้เป็นโรงแรมใบหยกสวีท (ใน ทาวเวอร์ I) และใบหยกสกาย (ทาวเวอร์ II) โดยมีชั้นล่างเป็นร้านค้าเชิงพาณิชย์

 

อีกสถานที่สำคัญคือ วังสวนผักกาด หรือ วังสวนผักกาด เป็นพิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา ทางใต้ของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงโบราณวัตถุของไทย รวมทั้งเครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียงที่มีอายุกว่า 4,000 ปี เดิมเป็นบ้านของกรมหลวงชุมพรพงศ์บริพัตรและพระมเหสี ทั้งสองได้ดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดในปี พ.ศ. 2495 พิพิธภัณฑ์มีกลุ่มบ้านทรงไทยสี่หลังที่มีโถงทางเดินระหว่างบ้านทั้งสอง นอกจากนี้ยังมีงานศิลปะที่จัดแสดงใน Marsi Gallery ชื่อสวนผักกาดแปลว่า "กะหล่ำปลี" แต่คอลเล็กชั่นศาลาโบราณห้าหลังของพิพิธภัณฑ์เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมพื้นบ้านดั้งเดิมในเมือง Lacquer Pavilion เป็นอาคารที่โดดเด่นที่สุดและมีอายุมากกว่า 450 ปี



6 เคล็ดลับการนอนหลับสำหรับเด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

สาเหตุของปัญหาการนอนไม่หลับในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มีความซับซ้อนและหลายประการ เมื่อเด็กไม่ยอมนอน พ่อ แม่ ผู้ปกครองก็อดนอนไปด้วย การอดนอนของเด็กมีผลทำให้เด็กงอแง อารมณ์ฉุนเฉียว สมาธิสั้น การเติบโตชะลอตัว สุขภาพ และแม้กระทั่งการเรียนรู้ ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับการนอนหลับให้เต็มอิ่ม ซึ่งคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองและพี่เลี้ยงเด็กสามารถให้ได้ผลกับเด็ก และสามารถนำมาปรับใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาการนอนในทุกวัย

1 รักษาเวลานอนและเวลาตื่นให้สม่ำเสมอ นาฬิกาชีวิตมีอิทธิพลอย่างมากต่อความตื่นตัวและความง่วงนอน คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองหรือพี่เลี้ยงเด็กควรพาเด็กเข้านอนในเวลาเดิมทุกวัน โดยเด็กจะตอบสนองได้ดีที่สุดเมื่อเข้านอนระหว่างเวลา 18.30 - 19.30 น. เด็กส่วนใหญ่จะนอนหลับได้ดีขึ้นและนานขึ้นเมื่อเข้านอนเร็ว

2 ควรงีบหลับระหว่างวันเป็นประจำทุกวัน การงีบหลับในระหว่างวันเป็นประจำทุกวันมีความสำคัญ ความยาวและคุณภาพของงีบยังส่งผลต่อการนอนหลับตอนกลางคืน การงีบหลับที่ดีเท่ากับการนอนหลับตอนกลางคืนที่ดีขึ้น

3 สร้างบรรยากาศให้น่านอนความมืดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนการนอนหลับเพิ่มขึ้น คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองหรือพี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับความง่วงนอนของเด็กให้เข้ากับเวลานอนได้โดยการหรี่ไฟในช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนเข้านอน การให้เด็กได้รับแสงยามเช้าถือเป็นการส่งสัญญาณว่า "ได้เวลาตื่นและตื่นตัวแล้ว"

4 ทำกิจกรรมชวนง่วง เมื่อใกล้ถึงเวลานอนคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองหรือพี่เลี้ยงเด็ก ควรลดการเคลื่อนไหว ให้อยู่อย่างสงบ ช่วยการอ่านหนังสือหรือเล่านิทานก่อนนอน กิจกรรมเหล่านี้จะทำให้เด็กลดความตื่นตัว

5 จัดที่นอนให้นุ่มสบายน่านอน ที่ต้องแน่ใจว่าที่นอนนั้นนอนสบาย ผ้าห่มอุ่น อุณหภูมิห้องเหมาะสม ชุดนอนก็สบาย และห้องนอนก็น่าอยู่

6 ให้สารอาหารที่เหมาะสม อาหารอาจส่งผลต่อระดับพลังงานและความง่วงนอน คาร์โบไฮเดรตมีผลทำให้ร่างกายสงบ ในขณะที่อาหารที่มีโปรตีนหรือน้ำตาลสูงจะสร้างความตื่นตัว การขาดวิตามินอันเนื่องมาจากการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพอาจส่งผลต่อการนอนหลับของเด็ก จัดหาอาหารเพื่อสุขภาพให้ลูกของคุณทุกวัน



กิจกรรมสนุก ๆ ที่ต้องทำกับเด็กอายุ 3-5 ปี

อายุ 3-5 ปีเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เด็กเรียนรู้และพัฒนา เด็กๆ มีความอยากรู้อยากเห็นอยู่ตลอดเวลา ถามคำถามและสำรวจโลกรอบตัวพวกเขา พ่อ แม่ ผู้ปกครองและพี่เลี้ยงเด็กสามารถสนุกไปกับการส่งเสริมพัฒนาการให้เติบโตผ่านการเล่น ต่อไปนี้คือ 6 กิจกรรมที่ง่ายและสนุกสำหรับพ่อ แม่ ผู้ปกครองและพี่เลี้ยงเด็กและเด็กก่อนวัยเรียนที่ต้องทำร่วมกัน:

1. หัดเขียนตัวอักษรด้วยกัน

เด็กวัย 3 ขวบมักชอบวาดรูป พวกมันจะสร้างคนเป็นวงกลมด้วยแขนขาที่เรียวยาวและหน้าตาตลก ใช้ประโยชน์จากความชอบในงานศิลปะ สร้างตัวอักษรบนด้วยเส้นประสีแดง วิธีนี้จะช่วยให้เด็กเรียนรู้รูปร่างของตัวอักษรแต่ละตัว วาดตัวอักษรด้วยดินสอและให้เด็กลากเส้นตามรอยประ

2. ปริศนาจิ๊กซอว์

การต่อจิ๊กซอว์ไม่ได้มีไว้สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น ลองหาจิ๊กซอว์แบบง่าย ๆ การต่อจิ๊กซอว์ช่วยส่งเสริมสมาธิ และความอดทน ซึ่งเป็นคุณลักษณะสำคัญในทุกขั้นตอนของชีวิต

3. เกมขว้างรับ

อีกวิธีที่ยอดเยี่ยมในการช่วยให้ลูกน้อยควบคุมทักษะการทรงตัว คือการเล่นเกมขว้างปา กระโดดบนตารางเครื่องบิน

4. จับคู่รูปร่าง

ในวัยนี้เด็กควรรู้จักชื่อรูปทรงที่เรียบง่าย พ่อแม่สามารถช่วยลูกๆ ได้ด้วยการชี้ให้เห็นรูปร่างต่างๆ ในโลกรอบตัวพวกเขา ลูกของเล่นอาจเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือลูกบอลเป็นวงกลม จากนั้นทำแฟลชการ์ดที่คล้ายกับรูปทรงเหล่านี้ สร้างวงกลม สี่เหลี่ยม หัวใจ วงรี ฯลฯ สองวง ผสมการ์ดและส่งเสริมให้เด็กๆ จับคู่รูปทรงที่ถูกต้องเข้าด้วยกัน

5. เล่นบิงโก

เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสอนเด็กๆ เกี่ยวกับตัวอักษรและตัวเลข สร้างการ์ดบิงโกตัวอักษรและตัวเลขที่เด็กๆ กำลังเรียนรู้ อย่าลืมให้รางวัลแก่ผู้ชนะ หนังสือเล่มใหม่เป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยมเพราะเป็นการเรียนรู้ตัวอักษรเหล่านั้นต่อไป

6. สร้างโทรศัพท์กระป๋อง

เป็นวิธี่ที่จะสอนเด็กเกี่ยวกับการสั่นสะเทือนและคลื่นเสียงโดยการทำโทรศัพท์กระป๋อง ใช้กระป๋องสองกระป๋องที่เอาขอบออกและลบแหลมคม จากนั้นเจาะหรือเจาะรูที่ด้านล่างแล้ววางลวดหรือเชือกระหว่างกระป๋อง ผูกปมที่ปลายแต่ละด้านเพื่อให้เชือกหรือลวดอยู่ที่นั่น