ดูแลเด็ก ใน สมุทรปราการ

ดูแลเด็ก ใน สมุทรปราการ

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างผ่านเว็บใส่ใจคือดีจริง ๆ พี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็กและเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหายห่วงลูกเลยจริง ๆ หากใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก บริการของทางใส่ใจถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
Saijai
กรรชัย วงศ์พานิชญ์
3 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
3 ปีที่แล้ว
ลูกยังเล็กเราจ้างพี่เลี้ยงมา ตกลงเวลาเริ่มงาน 9.30-17.30 น. (พี่เลี้ยงมา 8.30 น. ทุกวัน ) ประสบการณ์ เคยดูแล เด็กเล็ก 4 เดือน – 2 ขวบ พอเด็กเข้าโรงเรียน ก็ว่าง พอดีที่บ้านช่วยกันหา เจอเว็บนี้เห็นรีวิวประสบการณ์คนเลี้ยงเลย คุยดู พี่เลี้ยงทำงานดีมาก่อนเวลา เตรียมของใช้ ทำงานเป็นระเบียบเหมือนอบรมมาดี อุ่นใจ คิดถูกที่ใช้บริการใส่ใจ แนะนำค่ะ
Saijai
ณัฐวรรณ แสงสีเงิน
3 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
3 ปีที่แล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ลองจ้างผ่านทางใส่ใจดู พี่เลี้ยงทำงานได้น่าพอใจมาก ๆ พูดเพราะมาก จนลูกเราติดคำพูดเลยค่ะ ราคาก็ที่ไม่สูงเกินไป จับต้องได้สำหรับคนที่มีรายได้ไม่เยอะอย่ามากต่อเดือน คุณแม่คนไหนอยากหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำเลยค่ะ
Saijai
ชื่นนภา วัฒนพันธ์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว ใส่ใจขอแนะนำให้คุณพ่อคุณมองหาคุณสมบัติและทักษะเหล่านี้ในตัวพี่เลี้ยงเด็กเพื่อให้ได้คนที่ตรงใจที่สุดค่ะ

1. ความอดทน พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเข้าใจในธรรมชาติและอดทนต่อพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน
2. ทักษะการต่อรอง พี่เลี้ยงเด็กต้องมีเทคนิคในการเจรจาสื่อสารเพื่อโน้มน้าวให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับ
3. ทักษะแก้ปัญหา พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความสามารถในการจัดการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องรายงานคุณพ่อคุณแม่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
4. ความคิดสร้างสรรค์ พี่เลี้ยงเด็กควรมีความคิดสร้างสรรค์ หากิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้เด็กได้เล่นเพลิดเพลินและฝึกช่วยเหลือตัวเอง
5. ตรงต่อเวลา พี่เลี้ยงเด็กต้องเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบในงานของตัวเอง คือต้องมาทำงานและเลิกงานตามเวลาที่ตกลงไว้กับคุณพ่อคุณแม่ หากมีเหตุสุดวิสัยทำให้มาสายควรแจ้งให้คุณพ่อคุณแม่ทราบโดยเร็วที่สุด
6. สุขภาพดี พี่เลี้ยงต้องเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมให้สะอาดอยู่เสมอ
7. วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังกับพี่เลี้ยง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะไว้วางใจให้ลูก ๆ ของคุณอยู่ในความดูแลพี่เลี้ยงเด็ก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเด็กอาจเกิดความรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจมีวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลของทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ดังนี้ค่ะ

1. คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ถึงความจำเป็นที่ต้องให้เด็กๆ อยู่กับพี่เลี้ยง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าคุณพ่อคุณแม่หาคนที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดี
2. คุณพ่อคุณแม่ควรหาพี่เลี้ยงที่เข้ากันได้กับลูก ๆ และมีความพร้อมในการดูแลเด็ก
3. แนะนำให้ลูก ๆ ทำความรู้จักกับพี่เลี้ยง โดยอาจจะเล่าให้ฟังว่าพี่เลี้ยงเห็นใคร ชื่ออะไร คุยกับพี่ผ่านทางวิดีโอคอลก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อนลดความตึงเครียดในการเจอกันครั้งแรก
4. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง เบอร์โทรฉุกเฉิน และสอนให้ลูกใช้โทรศัพท์เพื่อโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือโทรขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. มอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทำระหว่างวัน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีกิจกรรมเบนความสนใจและไม่เอาแต่จดจ่อรอเวลาคุณพ่อคุณแม่กลับบ้าน
6. เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านและต้องให้เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความมั่นใจกับเด็ก ๆ ว่าพี่เลี้ยงจะดูแลเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและย้ำว่าพวกเขาสามารถโทรหาคุณได้เสมอ
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

สมุทรปราการ เมืองแห่งอุตสาหกรรม

จังหวัดสมุทรปราการ เป็นจังหวัดในเขตปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ 1,004,092 ตร.กม. มีความหนาแน่นของประชากรเป็นอันดับ 3 ของประเทศ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่รองรับการขยายตัวของกรุงเทพมหานคร เป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และมีการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมสูง ซึ่งทำรายได้ให้กับจังหวัดสมุทรปราการสูงสุด

จังหวัดสมุทรปราการมีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่ในทุกอำเภอ และมีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ นิคมอุตสาหกรรมบางพลี และ นิคมอุตสาหกรรมบางปู

นิคมอุตสาหกรรมบางพลี อำเภอบางพลี มีเนื้อที่ 1,004 ไร่ มีโรงงานมากถึง 160 โรง ประกอบอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งโรงงานประกอบกิจการอิเล็กทรอนิกส์ โรงงานประกอบกิจการสารเคมี โรงงานประกอบการกิจการฉีดพลาสติกและผลิตภัณฑ์งานพลาสติก

นิคมอุตสาหกรรมบางปู เทศบาลตำบลบางปู อำเภอเมืองสมุทรปราการ เป็นนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ถึง 4,000 ไร่ แบ่งเป็นอุตสาหกรรมทั่วไป 3,400 ไร่ เขตอุตสาหกรรมส่งออก 270 ไร่ เขตพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย 250 ไร่ ส่วนพื้นที่ที่เหลือเป็นสาธารณูปโภค และโรงกำจัดน้ำเสียส่วนกลางของนิคมอุตสาหกรรม มีโรงงาน 510 โรง ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมแปรรูป สิ่งทอ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ โละ พลาสติก เครื่องจักร รวมทั้งอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์

เมื่อจำนวนโรงงานมีมาก จำนวนประชากรก็มีมากขึ้นตามมา รวมทั้งกิจการที่พักอาศัย เช่น หอพักทั่วไป หอพักพนักงาน บ้านเช่า เพื่อรองรับจำนวนพนักงานในแต่ละโรงงาน ยิ่งภาคอุตสาหกรรมเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ ผู้คนก็ยิ่งโยกย้ายเข้ามาเพื่อหางานทำในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการมากขึ้นเท่านั้น เพราะจังหวัดสมุทรปราการเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีโอกาสการจ้างงานสูง



แพขนานยนต์ข้ามฟากพระประแดง ระบบขนส่งสาธารณะที่อยู่คู่ชาวพระประแดงมาช้านาน

เมื่ออำเภอพระประแดง ถูกคั่นด้วยแม่น้ำ การเดินทางข้ามไปมายังเมืองพระประแดงสมัยก่อนจึงใช้เรือและแพขนาดใหญ่เป็นยานพาหนะ แพขนานยนต์เปิดให้บริการข้ามฟากมาก่อนที่จะมีการสร้าง สะพานภูมิพล และเปิดใช้งานในปี พ.ศ. 2549 แพขนานยนต์สามารถบรรทุกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ข้ามฟากไปมาได้เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางของชาวพระประแดงและผู้ที่ต้องเดินทางมาพระประแดง

ปัจจุบัน สะพานภูมิพล ทำให้การเดินทางโดยรถยนต์ หรือรถบรรทุก และรถขนส่งขนาดใหญ่สามารถวิ่งข้ามฝั่งไปมาสะดวกมากขึ้น แต่เป็นปัญหาสำหรับผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ เพราะมอเตอร์ไซค์ไม่ได้การอนุญาตให้ขึ้นสะพานภูมิพล ทำให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามไปมายังพระประแดงจะต้องขี่รถอ้อมไกลเพื่อไปใช้สะพานกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสะพานที่ใกล้ที่สุดในละแวกนี้ ทำให้ใช้การเดินทางเวลานานขึ้น ต้องเผื่อเวลาออกจากบ้านเพื่อให้ทันเวลาเข้างาน ทันเวลานัดหมาย หรือทันเวลานัดส่งของ ระบบขนส่งทางน้ำที่มีมาช้านานอย่างแพขนานยนต์ข้ามฟากของชาวพระประแดงจึงยังคงเปิดให้บริการอยู่ และยังมีผู้นิยมเดินทางด้วยเส้นทางนี้เพราะช่วยย่นเวลาได้มาก อีกทั้งระหว่างยังได้ชมทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยา และชมวิวสะพานภูมิพลที่เป็นสะพานแขวนที่ยาวและสวยที่สุดในประเทศไทย

แพขนานยนต์ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังพระประแดงมี 2 แห่ง คือ แพที่แล่นระหว่างพระประแดง-สุขสวัสดิ์ และ พระประแดง-ปู่เจ้าสมิงพราย เพื่อเชื่อมต่อไปยังบางนา โดยแพขนานยนต์ทั้งสองจุดนี้ สามารถบรรทุกได้ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์เหมือนเมื่อครั้งที่ยังไม่มีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ค่าใช้จ่ายสำหรับรถมอเตอร์ไซค์อยู่ที่คันละ 10 บาท และสำหรับรถยนต์คันละ 20 บาท ถ้ามาจากทางสุขสวัสดิ์ จุดข้ามแพจะอยู่บริเวณสถานีตำรวจภูธรอำเภอพระประแดง เป็นอาคารไม้ดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์และปรับปรุงอย่างสวยงาม จุดข้ามตรงนี้มีจุดชมวิวริมเขื่อนเพื่อชมความงามของสะพานภูมิพล 1 และ 2 โดยเฉพาะช่วงเย็นที่พระอาทิตย์กำลังตก และก่อนจะถึงท่าขึ้นแพ ยังมีตลาดเก่าพระประแดง ศาลเจ้าพ่อพระประแดง และตัวเมืองเก่าให้ได้แวะชม การเดินทางข้ามฟากโดยใช้แพขนานยนต์สามารถช่วยย่นระยะเวลาได้ แถมบนแพยังมีไอศกรีมโบราณขายให้ได้ซื้อกินคลายร้อนอีกด้วย

ใครจะไปพระประแดง แล้วอยากลองใช้วิธีการเดินทางสุดคลาสสิคพร้อมกับชมวิวแม่น้ำและสะพานสวยๆ ต้องมาลองนำรถลงแพดูสักครั้ง แต่เตือนก่อนนะว่า บนแพไม่มีหลังคารหลบร้อน และไม่มีขอบกั้น เพราะฉะนั้นต้องขับรถขึ้นลงแพอย่างระมัดระวัง ดับเครื่องและจอดรถให้สนิทเมื่ออยู่บนแพ จะมีพนักงานนำขอนไม้มาหนุนล้อรถของเราไว้เพื่อความปลอดภัย



6 วิธีป้องกันโรคมือ เท้า ปาก (hand-foot-mouth disease)

โรคฮิตของเด็กในช่วงฤดูฝนที่พ่อแม่ทุกคนไม่อยากให้เกิด คือ โรคมือ เท้า ปาก (hand-foot-mouth disease) โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ระบุว่า โรคมือ เท้า ปาก พบบ่อยในเด็กทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และมีพบประปรายในเด็กโต โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่มเอนเทอโรไวรัส สายพันธุ์คอกซากีไวรัส เอ 16 (coxsackievirus A16) และเอนเทอโรไวรัส 71 (enterovirus 71)

หลังจากเด็กได้รับเชื้อประมาณ 3-6 วัน อาการส่วนใหญ่จะเริ่มจากมีไข้ อ่อนเพลีย อาเจียนบ่อย และมีแผลในปาก รวมทั้งมีผื่นที่มือและเท้า แผลจะปากพบได้หลายตำแหน่ง ตั้งแต่บริเวณเพดานบน กระพุ้งแก้ม หรือลิ้น ทำให้มีอาการเจ็บหรือกลืนน้ำลายไม่ได้ และไม่ยอมทานอาหาร เด็กบางคนที่เป็นเยอะอาจลามออกมาที่ริมฝีปากหรือรอบๆริมฝีปาก ส่วนผื่นมีมือและเท้าจะเป็นลักษณะตุ่มแดงๆ หรือบางครั้งอาจเป็นตุ่มใสที่บริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า หรือง่ามนิ้วมือและนิ้วเท้า ซึ่งจะหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน

โรคมือ เท้า ปาก แพร่กระจายได้ 2 ทาง คือ การสัมผัสโดยตรงหรืออุจจาระของผู้ป่วยซึ่งมีเชื้อไวรัส ระยะที่แพร่เชื้อได้มากคือช่วงภายใน 7 วันแรก หลังจากเริ่มมีอาการ

ปัจจุบันโรคมือ เท้า ปาก ยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ แพทย์จะทำการรักษาตามอาการ ซึ่งโดยปกติเด็กจะไม่มีอาการรุนแรงและสามารถหายได้เอง แต่หากเด็กบางคนที่เจ็บในช่องปากจนไม่ยอมทานอาหาร อาจต้องพบแพทย์เพื่อให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด จนกว่าอาการจะดีขึ้น ทั้งนี้บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนทางสมองและหัวใจ โดยภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงที่สุดที่มีโอกาสเสียชีวิตคือ ก้านสมองอักเสบ ซึ่งพบน้อยมากๆ เฉลี่ย 1-5 รายต่อปี ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกเป็นโรคมือ เท้า ปาก พ่อแม่ควรหมั่นดูแลรักษาสุขอนามัยของลูกดังนี้

1. รักษาความสะอาด ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ก่อนรับประทานอาหาร หลังมีการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรือภายหลังการขับถ่าย หรือเปลี่ยนผ้าอ้อมทุกครั้ง

2. หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกัน เช่น จาน ชาม หลอดดูด แก้วน้ำ ขวดนม ผ้าเช็ดหน้า และใช้ช้อนกลางเวลารับประทานอาหารร่วมกัน

3. รับประทานอาหารที่ปรุงสุก สะอาด ไม่มีแมลงวันตอม และดื่มน้ำสะอาด

4. หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของโรค และอย่าให้เด็กคลุกคลีหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วย

5. ตัดเล็บเด็กให้สั้นเพื่อป้องกันการเกา

6. กรณีเด็กในวัยเรียนหรืออยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็ก หากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ ควรให้เด็กหยุดเรียนเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังเด็กคนอื่นๆ และควรแจ้งทางโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็กให้ทราบ เพื่อปฏิบัติตามแนวทางป้องกันต่อไป

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตอาการ หากมีอาการผิดปกติ หรือรุนแรง ควรพาเด็กเข้าพบแพทย์ทันที