ติวเตอร์คณิตศาสตร์

วิชาคณิตศาสตร์ไม่ใช่วิชาที่อาศัยการท่องจำเพียงอย่างเดียว บางเนื้อหาอาจมีความซับซ้อนและเข้าใจยาก ต้องอาศัยวิธีการคิดวิเคราะห์ที่แม่นยำและการทบทวนทำแบบฝึกหัดอยู่เป็นประจำ หากนักเรียนไม่ได้รับการเรียนการสอนอย่างถูกต้องและการอธิบายอย่างชัดเจนจากครูที่โรงเรียนอาจส่งผลให้ไม่เข้าใจและแก้โจทย์ต่าง ๆ ไม่ได้เลย ดังนั้นการจ้างครูสอนพิเศษหรือติวเตอร์คณิตศาสตร์ส่วนตัวเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์ขึ้นได้ด้วยวิธีการสอนที่หลากหลายดังนี้

1. ติวเตอร์วิชาคณิตศาสตร์มักมีทักษะการสอนที่ยอดเยี่ยม และสามารถอธิบายเทคนิคต่าง ๆ ให้ผู้เรียนเข้าใจได้ง่าย เช่น เทคนิคในการจำสูตร เพื่อให้วิธีการคิดและคำนวณโจทย์เป็นไปอย่างง่ายดายและไม่ซับซ้อน และทำให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกไปกับการคิดคำนวณมากยิ่งขึ้น
2. ครูสอนพิเศษโดยส่วนใหญ่จะให้ผู้เรียนหมั่นทำแบบฝึกหัดหลากหลายรูปแบบ เพื่อฝึกฝนกระบวนการคิดและความแม่นยำ ซึ่งการทบทวนและทำแบบฝึกหัดอยู่บ่อยครั้งช่วยให้เกิดความเคยชินกับโจทย์คำถามในรูปแบบต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น
3. การจ้างครูสอนพิเศษเพื่อมาสอนแบบตัวต่อตัว ช่วยให้ผู้เรียนมีสมาธิในการเรียนมากขึ้น โดยปกติแล้วการเรียนในห้องเรียนแบบเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ มักมีสิ่งรบกวนที่อาจทำให้ผู้เรียนไม่สามารถจดจ่ออยู่กับการเรียนได้ตลอดเวลา และทำให้ไม่เข้าใจบทเรียนในที่สุด
4. ติวเตอร์วิชาคณิตศาสตร์จะให้ความใส่ใจในการสอนอย่างเต็มที่ เมื่อผู้เรียนไม่เข้าใจในบทเรียนไหนติวเตอร์จะอธิบายพร้อมกับบอกเทคนิคเพื่อทำให้ผู้เรียนเห็นภาพได้เร็วขึ้นและสามารถเข้าใจบทเรียนได้ในที่สุด
ดังนั้น การจ้างครูสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์สามารถช่วยให้เด็กเก่งขึ้นได้แน่นอน เนื่องจากทักษะการสอนที่หลากหลายซึ่งจะทำให้วิชาคณิตศาสตร์ไม่ถูกมองว่าเป็นวิชาที่ยุ่งยากและน่าเบื่ออีกต่อไป

คณิตศาสตร์อาจไม่ใช่เรื่องยากและน่าเบื่อของใครหลาย ๆ คนอีกต่อไป หากทำตามเคล็ดลับต่าง ๆ ที่ใส่ใจรวบรวมมาให้ดังต่อไปนี้

1. หัดท่องจำสูตรและนำไปประยุกต์ใช้กับโจทย์คำถามอื่น ๆ ให้เป็น ไม่ว่าจะเป็นสูตรมาตรฐานหรือสูตรลัดก็ตาม โดยสามารถเลือกวิธีจำสูตรในแบบที่ตัวเองถนัด แต่หากไม่สามารถจำสูตรได้ทั้งหมด ควรจำสูตรพื้นฐานให้ได้อย่างแม่นยำ เพราะการจำสูตรพื้นฐานทำให้เราสามารถนำไปปรับใช้กับคำถามข้ออื่น ๆ ที่มีวิธีการคิดคำนวณที่คล้าย ๆ กันได้
2. หมั่นทบทวนความรู้และทำแบบฝึกหัดอยู่เป็นประจำ เนื่องจากวิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ต้องอาศัยความแม่นยำในการคำนวณ การทำแบบฝึกหัดบ่อย ๆ ช่วยให้เกิดความคุ้นชินกับรูปแบบของโจทย์คำถามและสามารถแก้โจทย์ออกมาได้อย่างง่ายดาย
3. มีความละเอียดรอบคอบในการอ่านโจทย์ทุกครั้ง การที่ทำโจทย์ออกมาไม่ได้คำตอบที่ถูกต้องส่วนใหญ่แล้วมาจากการอ่านคำถามไม่ถูกต้อง หรือที่เรียกว่าตีโจทย์ไม่แตกนั่นเอง ดังนั้น ควรให้เวลาในการอ่านและทำความเข้าใจโจทย์ให้ดีก่อนเริ่มทำทุกครั้งด้วยเช่นกัน
4. หมั่นตรวจสอบคำตอบทุกครั้งหลังจากทำโจทย์เสร็จอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้ขาดตกขั้นตอนใดไปและใช้วิธีการคำนวณตัวเลขที่ถูกต้อง ในขณะเดียวกันการตรวจคำตอบอย่างละเอียดรอบคอบก็สามารถช่วยให้เราเข้าใจทฤษฎีที่สำคัญต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ในโจทย์เหล่าได้อีกด้วย
5. มีสมาธิในขณะทำโจทย์ต่าง ๆ พยายามทำให้เสร็จเป็นข้อ ๆ และไม่ควรแก้โจทย์แบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ แล้วเลิก เพราะอาจทำให้ขาดสมาธิได้ เมื่อขาดสมาธิก็อาจทำให้ไม่สามารถจดจ่อกับโจทย์ตรงหน้าได้อีกต่อไป

หากทุกคนได้ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนคณิตศาสตร์แล้ว วิชาคณิตศาสตร์ก็จะไม่ใช่วิชาที่ยุ่งยากและน่าเบื่อสำหรับทุกคนอีกต่อไป

ชอบเรียนคณิตศาสตร์แล้วจะไปเรียนต่อสาขาวิชาใดได้บ้าง

1. คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ภาควิชาสถิติ สาขาประกันภัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ต้องมีความถนัดในการคำนวณ เพราะจะต้องเรียนทั้งสถิติและคณิตศาสตร์ ซึ่งจะเอาไปประยุกต์เป็นหลักด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย และต้องมีความละเอียดรอบคอบ ทำงานอย่างมีหลักการและมีเหตุผล ชอบติดตามความเคลื่อนไหวและความก้าวหน้าในวงการธุรกิจ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เพื่ออนาคตสามารถไปประกอบอาชีพ นักคณิตศาสตร์ประกันภัย อาชีพที่มีค่าตอบแทนสูง และกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยทั่วไปแล้ว นักคณิตศาสตร์ประกันภัยจะทำหน้าที่เกี่ยวกับการคาดคะเนและประเมินสถานการณ์ทางธุรกิจ การประเมินความเสี่ยงทั้งในปัจจุบันและอนาคต หรือเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินแก่บริษัทประกันภัยและธนาคาร การเรียนในสาขาคณิตศาสตร์ประกันภัยจะต้องศึกษาความรู้หลายๆ ด้านเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน อาทิ ความรู้ทางคณิตศาสตร์ สถิติ ประกันภัย
2. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิศวกรรมการเงิน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ศึกษาในสาขาวิชานี้ เพื่อจบออกมาแล้วประกอบ อาชีพนักวิศวกรรมการเงิน ซึ่งถือเป็นอาชีพที่ค่อนข้างใหม่ในประเทศไทย แต่เป็นอาชีพที่ความต้องการในตลาดแรงงานกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปแล้ว การเรียนในสาขาวิศวกรรมการเงินจะเน้นการเรียนทักษะด้านการวิเคราะห์การเงิน การลงทุน และการจัดการความเสี่ยง เมื่อเรียนจบแล้ว งานที่ทำส่วนใหญ่จะเป็นงานด้านบริหารความเสี่ยง นโยบายสินเชื่อ วิเคราะห์หลักทรัพย์ หรือการเป็นนักวิจัยในหน่วยงานธนาคาร และบริษัทหลักทรัพย์

สาขาวิชาดังกล่าวเป็นเพียงแนวทางบางส่วนที่ดูมีความเหมาะสมและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบันเท่านั้น เพราะยังมีสาขาวิชาอื่น ๆ อีกมากมายที่เหมาะสมกับคนที่ชอบเรียนคณิตศาสตร์ เช่น เศรษฐศาสตร์ วิศวกรรม และบัญชี เป็นต้น