แม่บ้านและบริการเสริม

แม่บ้านและบริการเสริม

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

รีวิวล่าสุด

พี่เลี้ยงทำงานดี ทั้งช่วยดูแลพ่อแม่และทำงานบ้านด้วย สะอาด บ้านเรียบร้อย ทำอาหารถูกปากท่านทั้งสองด้วยครับ
Saijai
นริสรา เมธาวริศกุล
3 ปีที่แล้ว
โพสต์งานทิ้งไว้บนเว็บใส่ใจ อยากได้แม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยง แม่บ้านติดต่อกลับมาเร็วมาก ได้สัมภาษณ์กับแม่บ้านโดยตรง ประทับใจสุด ๆ เลยค่ะ
Saijai
มยุรา สหมงคลพัฒนา
3 ปีที่แล้ว
ทำงานอย่างดีเกินคาดจริง ๆ จ้า ตั้งแต่เลือกแม่บ้าน ตกลงเงื่อนไขเพิ่มเติม เลือกเรทราคา ทั้งหมดนี้ใส่ใจจัดการให้ทุกอย่าง สะดวกและสบายมาก ๆ จ้า
Saijai
ปวีณา หทัยฤดี
3 ปีที่แล้ว
เห็นบริการแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงบนเว็บไซต์ใส่ใจ ลองเข้าไปอ่านดู จนได้เจอคนที่ตรงใจ ราคาสมเหตุสมผล ทั้งทำงานบ้านทั้งดูแลเด็ก ๆ เบาแรงไปได้เยอะเลย ชีวิตดีขึ้นเยอะเลยครับ
Saijai
กรินทร์ ชาส์ล
3 ปีที่แล้ว
ทำงานดีมาก ๆ แม่สามีชอบมากค่ะ ท่านบอกไม่เหงาเลยตั้งแต่มีแม่บ้านมาอยู่ด้วย คุยเก่ง แถมทำงานเก่งอีกด้วย คุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ
Saijai
ธนัชญา จุฬามณี
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา แม่บ้านและบริการเสริม

ข้อดีและข้อเสียเมื่อแม่บ้านและพี่เลี้ยงเด็กเป็นคนเดียวกัน
แม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยง หรือ พี่เลี้ยงกึ่งแม่บ้าน มีข้อดียังไงหรือมีข้อเสียตรงไหน ลองเปรียบเทียบกันดูนะคะ

ข้อดีของแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยง หลักๆ คือนายจ้างจะได้ผู้ช่วยทำงานบ้านต่าง ๆ มาช่วยผ่อนแรง ไม่ว่าจะเป็นงานบ้านทั่วไปเช่น ปัดกวาด เช็ดถู ซักผ้า รีดผ้า ดูแลความสะอาดเรียบร้อยทั่วไปภายในบ้าน รวมไปถึงการดูแลในส่วนของเด็ก เช่น ทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ของเด็กไม่ว่าจะเป็น ขวดนม ของเล่น เสื้อผ้า ช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือแม้แต่ช่วยทำอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับเด็ก แต่ในส่วนของการเลี้ยงเด็กนั้น แม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงมักจะเป็นเพียงผู้ช่วยคุณแม่ในการเลี้ยงน้องเท่านั้น หรืออาจจะช่วยอยู่เป็นเพื่อนกับเด็กน้อยหากคุณแม่มีธุระ หากคิดว่าจ้างแค่แม่บ้านแล้วได้ทั้งคนทำความสะอาดและคนดูแลเด็กแล้วเหมือนจะคุ้มค่ามาก ๆ

ส่วนข้อเสียของแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยง ส่วนใหญ่ปัญหาของการจ้างแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยง มักจะมีความยุ่งยากในการจัดสรรเวลาและแบ่งเวลาในการทำงาน บางครั้งอาจจะอยู่เลี้ยงเด็กนานเกินไปจนทำให้มีเวลาที่จะทำงานบ้านให้เสร็จและสะอาดทันเวลา หรือหากมัวแต่ทำความสะอาดก็ไม่มีเวลามาช่วยดูแลเด็กอีก ดังนั้นนายจ้างจึงควรแบ่งงานให้แม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงให้ชัดเจน ว่าควรทำงานแต่ละอย่างในเวลาไหน อย่างไร เพราะหน้าที่ทั้งสองอย่างที่รับผิดชอบก็มีความจำเป็นเท่า ๆกัน ตัวอย่างเช่น อาจจะให้แม่บ้านได้มีเวลาในการทำงานบ้านในช่วงที่เด็กนอนหรือเด็กไปโรงเรียน เป็นต้น
หน้าที่ความรับผิดชอบของแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงมีอะไรบ้าง ต่างจากงานแม่บ้านปกติอย่างไร
แม่บ้านปกติกับแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงนั้นแตกต่างกันอย่างไร? ใส่ใจจะมาอธิบายให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจกัน ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจระหว่างแม่บ้านทั่วไปกับแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงก่อน แม่บ้านทั่วไปคือแม่บ้านที่มีทักษะในด้านการทำความสะอาดบ้านทั่วไป ส่วนแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงคือแม่บ้านที่ต้องมีทั้งทักษะในด้านการทำความสะอาดบ้านทั่วไป และทักษะในการเลี้ยงเด็กด้วยเช่นกัน กล่าวคือแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงนั้นต้องสามารถทำงานบ้านต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายไปพร้อม ๆ กับการดูแลเด็กด้วยนั่นเอง

หน้าที่หลัก ๆ ของแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงมีดังต่อไปนี้

1. ดูแลทำความสะอาดบ้านและสามารถทำงานบ้านทุกส่วนได้ ไม่ว่าจะเป็นงานบ้านแบบปกติทั่วไปอย่างกวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า ล้างห้องน้ำ ฯลฯ และรวมถึงการดูแลทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ของเด็กด้วย เช่น ล้างขวดน้ำ เก็บของเล่น เป็นต้น
2. หน้าที่ในการดูแลเด็ก แต่ปกติแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงนั้นต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานบ้าน และต้องแบ่งเวลาบางส่วนเพื่อมาดูแลเด็กด้วย ดังนั้นการจ้างแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงจึงเหมาะสมกับการให้มาดูแลเด็กโตที่มีอายุ 2 ขวบขึ้นไป
3. แม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงสามารถอยู่และทำกิจกรรมร่วมกับเด็กได้เป็นบางเวลา โดยส่วนใหญ่อาจเป็นเวลาที่ผู้ปกครองมีธุระส่วนตัวต้องทำ จึงสามารถวานให้พี่เลี้ยงหรือแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงมาอยู่เล่นกับเด็กในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ได้นั่นเอง
4. แม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงสามารถช่วยดูแลในเรื่องของการทำอาหารว่างง่าย ๆ ให้กับเด็กได้ เพราะส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการทำงานบ้าน จึงอาจเป็นเรื่องยากหากต้องคอยดูแลเด็กเล็กที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ดังนั้นแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงจึงควรเป็นแค่ผู้ช่วยให้กับผู้ปกครองในการเลี้ยงเด็กเล็กเท่านั้น การจ้างแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงจึงอาจเหมาะกับการดูแลเด็กโตและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากกว่านั่นเอง
หากต้องการใช้บริการแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยง ค่าจ้างหรือเงินเดือนสูงกว่าแม่บ้านธรรมดาหรือไม่
เนื่องจากการจ้างแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงเด็ก แม่บ้านต้องรับภาระหน้าที่ 2 อย่างในคราวเดียวกัน ทั้งขอบเขตของงานที่เพิ่มมากขึ้น เช่น แม่บ้านโดยทั่วไปจะดูแลแค่ส่วนของการทำงานบ้านเพียงอย่างเดียว แต่แม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงเด็กต้องทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กควบคู่ไปด้วย เช่น การป้อนนม การอาบน้ำให้ ดูแลเด็กเมื่อคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่ หรือทำตามที่แม่เด็กมอบหมายงานได้

จะเห็นได้ว่าภาระงานมากกว่าการทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามไม่ควรใช้งานแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงเด็กเกินประสิทธิภาพที่จะสามารถทำงานได้ มิเช่นนั้นแล้ว งานที่ออกมาทั้ง2อย่าง จะไม่มีคุณภาพเช่นกัน เท่ากับคุณเสียเงินเปล่า โดยไม่ได้อะไรกลับมา ซึ่งค่าจ้างหรือเงินเดือนของแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงเด็ก สูงกว่าแม่บ้านทั่วไป เพราะแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงนั้นนอกจากความรู้และความสามารถในการทำความสะอาดที่ดีแล้วนั้น ยังจำเป็นต้องมีความรู้และความสามารถในการเลี้ยงดูเด็กเพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย เพราะการดูแลเด็กนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจึงยิ่งต้องให้ความสำคัญแก่ด้านนี้มากขึ้นเป็นพิเศษ จึงเป็นเหตุผลที่ค่าจ้างในการใช้บริการหรือเงินเดือนของแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงนั้นสมควรที่จะสูงกว่าแม่บ้านทั่วไป โดยค่าจ้างแม่บ้านทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณเดือนละ 12,000-15,000บาท และค่าจ้างแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงเด็กจะอยู่ที่ประมาณ15,000-20,000บาทต่อเดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขอบเขตงานที่ทำด้วย เช่น อายุของเด็ก ความรับผิดชอบต่อเด็กเป็นต้น หากคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายอยากจ้างคนคนเดียวแต่ทำงานได้หลากหลาย
เรทค่าจ้างแม่บ้านกึ่งผู้ดูแลผู้สูงอายุแพงกว่าเรทค่าจ้างแม่บ้านธรรมดาหรือไม่
งานแม่บ้าน ปกติก็มีหน้าที่รับผิดชอบค่อนข้างมากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทำความสะอาดและยังต้องมีทักษะในการใช้อุปกรณ์ทำความสะอาด เลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นงานที่ต้องมีประสบการณ์และผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี แต่ถ้าเป็นแม่บ้านและต้องดูแลผู้สูงอายุด้วย ทักษะต่าง ๆ ย่อมต้องเพิ่มมากขึ้น เพราะงานดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่าย และมีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก โดยปกติต้องผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดีเพราะต้องดูแลทุก ๆ อย่างเริ่มตั้งแต่

1. อาหารการกิน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและลดโอกาสการเกิดโรคของผู้สูงอายุ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ดูแลเรื่องการใช้ยาในผู้สูงอายุซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
2. การออกกำลังกาย เพื่อรักษาสุขภาพของผู้สูงอายุให้แข็งแรง โดยผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีความรู้ว่าควรเลือกการออกกำลังกายแบบใดที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
3. ด้านสุขอนามัย ผู้ดูแลจะช่วยดูแลให้ผู้สูงอายุอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม มีอากาศถ่ายเทสะดวก มีความปลอดภัย พื้นต้องไม่ลื่น มีราวจับเพื่อช่วยในการทรงตัว โดยเฉพาะสถานที่ที่สามารถเกิดอุบัติเหตุได้บ่อย เช่น ห้องน้ำ บริเวณบันไดขึ้น-ลง เป็นต้น
4. การดูแลผู้สูงอายุแบบที่ดูแลตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุแบบป่วยติดเตียง ก็จะมีความซับซ้อนมากขึ้นไปอีก ผู้ดูแลจำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องแผลกดทับและต้องหมั่นช่วยพลิกตัว เปลี่ยนท่านอนทุก ๆ 2 ชั่วโมง, การขับถ่าย ควรหมั่นดูแลเรื่องความสะอาดและความเปียกชื้น

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่างานของแม่บ้านธรรมดากับแม่บ้านกึ่งคนดูแลผู้สูงอายุ มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ดังนั้นไม่แปลกเลยหากแม่บ้านกึ่งคนดูแลผู้สูงอายุจะมีค่าจ้างที่สูงกว่า เพราะมีหน้าที่รับผิดชอบมากกว่านั่นเอง