แม่บ้าน ใน คลองเตย, กรุงเทพมหานคร

แม่บ้าน ใน คลองเตย, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ประทับใจในการทำงานของพี่แม่บ้านมากๆ ครับ บ้านสะอาดและจัดข้าวของเรียบร้อยมาก โดยรวมแล้วบริการได้ดีมากครับไม่มีปัญหาอะไร
Saijai
อัศนีย์ เลิศวิจิตร
3 ปีที่แล้ว
เราอยู่คอนโดแถวอโศก ไม่มีเวลาทำความสะอาดเลยเพราะต้องทำงานเกือบทุกวัน เลยตัดสินใจเข้าGoogle หาแม่บ้านทำความสะอาดคอนโด จนเจอเว็บไซต์ของทางใส่ใจเลยเข้าไปดูข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ อันนี้สิ่งที่ประทับใจคือในเว็บไซต์ของใส่ใจมีข้อมูลให้อ่านซึ่งเราคิดว่ามีประโยชน์มาก ๆ ขั้นตอนการจองง่ายด้วย ไม่ยุ่งยาก
Saijai
พิยาดา ลำสนุการ
3 ปีที่แล้ว
ดิฉันจองแม่บ้าน live in ผ่านเว็บใส่ใจ ทำงานมาแล้ว 1 เดือนเต็ม ๆ ประทับใจมากค่ะ ที่สำคัญแม่บ้านทำงานดี ช่วยลดภาระหน้าที่งานของดิฉันไปอย่างมาก โดยรวมแล้วประทับใจค่ะ
Saijai
มารี ไกรทอง
3 ปีที่แล้ว
ใส่ใจมีประวัติ ข้อมูลต่าง ๆ ของแม่บ้านครบถ้วน ที่สำคัญค่าจ้างแบบรายเดือนไม่แพงเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ตอนนี้ก็ยังคงใช้บริการอยู่เรื่อย ๆ เลยค่ะ
Saijai
พัชรนันท์ อมรสัจเวชกุล
3 ปีที่แล้ว
แม่บ้านทำงานดีมาก ๆ ค่ะ ประทับใจมาก ๆ มีความเป็นมืออาชีพ ทำงานตามเวลาที่กำหนด พูดจาดี ทำความสะอาดได้ครบตามที่ต้องการ ไว้จะมาใช้บริการอีกแน่นอนค่ะ
Saijai
อารียา พูนทรัพย์
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา แม่บ้าน

ข้อดีของการจ้างแม่บ้านฟรีแลนซ์ (Freelance Housekeeping)
ภาพในฝันของหลาย ๆ คนคือการได้อยู่ในบ้านที่สะอาด หรือ ทำงานในที่ทำงานมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้เป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ องค์ประกอบในการใช้ชีวิต 24 ชั่วโมง ปัจจุบันคนทำงานมากขึ้นทำให้มีเวลาน้อยลงที่จะจัดการกับสิ่งต่างๆ การจ้างแม่บ้านจึงแบ่งเบาภาระจากหน้าที่ประจำ การจ้างแม่บ้านปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างประจำ จ้างรายวัน จ้างด้วยตัวเอง ซึ่งการจ้างในมีหลายรูปแบบก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ลองมาดูกันว่าการจ้างแม่บ้านนั้นมีข้อดีอย่างไร

การจ้างแม่บ้านฟรีแลนซ์(Freelance Housekeeping) หรือแม่บ้านอิสระเป็นอย่างไร

1. ผู้จ้างงานได้คุยและทำข้อตกลงกับตัวแม่บ้านโดยตรงก่อนจ้างงาน ได้ศึกษานิสัยใจคอและทำความเข้าใจก่อนเริ่มงาน
2. ทำให้คุณมีเวลาว่างมากขึ้น ไม่ต้องกังวลจากงานประจำ ไม่ว่าจะเป็นใคร ต่างก็มีภาระหน้าที่ของตัวเอง แทนที่จะใช้เวลาว่างในวันหยุดกลับต้องมาวุ่นวายเพิ่มกับงานบ้าน การที่เราใช้ “บริการแม่บ้าน” จะช่วยทำให้เรามีเวลาว่างสำหรับการพักผ่อน และผ่อนคลายจากความตึงเครียดต่างๆ แบ่งเบาความกังวลในการดูแลความเรียบร้อยของบ้าน หรือสำนักงาน
3. ทำให้มีตารางการทำความสะอาดที่ตรงเวลา สำหรับการทำความสะอาดบ้านด้วยตัวเองนั้น บางครั้งเราก็กำหนดเวลาที่แน่นอนไม่ได้ ยิ่งครอบครัวที่มีลูก มีเด็กเล็กแล้วความสะอาด สุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญ เวลาที่นอกเหนือจากงานก็ใช้ไปกับครอบครัว ไม่มีเวลามาทำความสะอาด การใช้บริการ แม่บ้านฟรีแลนซ์(Freelance Housekeeping) หรือ แม่บ้านอิสระนั้นช่วยแบ่งเบาปัญหา แม่บ้านจะเข้ามาตามตารางการทำความสะอาดที่ตรงเวลา ตามตารางงานที่ได้ตกลงกันไว้ และทำให้บรรยากาศในบ้านเป็นไปอย่างที่เราต้อง

การแค่เหตุผล 1 2 3 ข้อทำให้เราตัดสินใจไม่นากที่จะมองหาแม่บ้านฟรีแลนซ์(Freelance Housekeeping) หรือ แม่บ้านอิสระ มาแบ่งเบาภาระเรา การที่เรามีเวลาไปกับเพิ่มกิจกรรมอื่นๆ ทำให้รู้ว่าไม่มีอะไรแพงไปมากกว่า "เวลา"
แม่บ้านที่ดีต้องทำอะไรได้บ้าง
งานแม่บ้าน งานที่หลายคนคิดว่าเป็นงานง่าย ๆ แต่ในความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย งานแม่บ้านมีซับซ้อนและใช้ความละเอียดค่อนข้างสูง แม่บ้านที่ดีจึงควรมีลักษณะดังต่อไปนี้

• แม่บ้านควรแต่งกายให้สุภาพและเหมาะสมและสะดวกในการในการทำงาน
• มีมารยาทในการทำงาน และมีสัมมาคารวะ ยิ้มแย้มแจ่มใส
• มีความเป็นมืออาชีพ ดูแลความสะอาดในบริเวณที่รับผิดชอบให้มีความสะอาดตามที่นายจ้างคาดหวัง
• ปฏิบัติงานที่รับผิดชอบให้เสร็จตรงตามเวลาที่กำหนด
• มีความขยันและอดทน รักในงานที่ทำ
• ควรรู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
• สามารถทำงานภายใต้ความกดดันได้
• มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีและต้องปรับตัวง่ายเพราะต้องเจอกับนายจ้างใหม่อยู่ตลอดเวลา
• หากมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษด้วยจะดีมาก เนื่องจากอาจมีนายจ้างเป็นชาวต่างชาติ
• แม่บ้านควรมีความรู้เรื่องการจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้ทำความสะอาดในจุดต่าง ๆ
• แม่บ้านควรมีความระมัดระวังในการใช้น้ำยาเคมีและอุปกรณ์ทำความสะอาดไม่ทำให้เครื่องมือ เครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในบ้านเสียหาย
• แม่บ้านควรมีความเข้าใจการใช้น้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ ภายในบ้าน เพราะแต่ละพื้นผิวย่อมมีการดูแลที่แตกต่างกันไป
• เป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง ไม่เป็นบุคคลพิการหรือเป็นโรคติดต่อใด ๆ ที่มีผลต่อการทำงาน
• แม่บ้านควรสวมอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสมกับการทำงาน เพื่อความปลอดภัยทุกครั้ง เช่น รองเท้า ถุงมือ หน้ากาก เป็นต้น
• ควรมีความซื่อสัตย์ เพราะอาจมีบางเวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่และต้องฝากแม่บ้านให้ดูแลทรัพย์สินและของมีค่าภายในบ้าน
คนส่วนใหญ่กังวลเรื่องอะไรเมื่อต้องใช้บริการแม่บ้านอิสระ (Freelance Housekeeper)
ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักใช้เวลาในแต่ละวันไปกับงานและภารกิจส่วนตัวจนอาจไม่มีเวลาว่างในการดูแลทำความสะอาดบ้านของตนเอง ดังนั้นการเลือกใช้บริการแม่บ้านมาช่วยดูแลทำความสะอาดบ้านจึงเป็นสิ่งที่คนสมัยนี้มักนิยมใช้กัน แต่การจ้างแม่บ้านอิสระนั้นอาจมีสิ่งที่ทำให้คุณไม่สบายใจเช่นกัน

• ความน่าเชื่อถือของแม่บ้านอิสระ บางครั้งคุณอาจยังกังวลว่าหากคุณทำการจ้างแม่บ้านมาดูแลทำความสะอาดบ้านของคุณแล้ว จะมีสิ่งใดที่สามารถรับประกันได้ว่าแม่บ้านอิสระที่คุณจ้างมานั้นจะสามารถปฏิบัติงานได้ตามที่คุณต้องการ คุณอาจต้องเสียเวลาเพื่อเฝ้าดูการทำงานของแม่บ้านก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าแม่บ้านที่คุณจ้างมานั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน
• การจัดตารางเวลาในการทำความสะอาด หากมีเหตุจำเป็นที่อาจทำให้แม่บ้านอิสระไม่สามารถมาทำงานตามวันและเวลาที่คุณกำหนดเอาไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุณอาจไม่สบายใจเนื่องจากต้องหาคนมาทำความสะอาดแทนในช่วงเวลานั้น
• แม่บ้านอิสระที่จ้างมานั้นอาจไม่ได้ทำงานบริการทำความสะอาดที่บ้านคุณในระยะยาว หากการเลือกใช้บริการแม่บ้านของคุณไม่ได้เป็นแบบรายเดือนหรือแม่บ้านประจำ คุณอาจต้องเสียเวลาในการอธิบายและแจกแจงงานใหม่ทุกครั้งที่ทำการจ้างแม่บ้านคนใหม่มาทำความสะอาดบ้านคุณ
• การต่อรองค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ บางครั้งคุณอาจไม่สามารถประเมินราคาในการว่าจ้างแม่บ้านอิสระในแต่ละครั้งได้ ว่าราคานั้นเหมาะสมกับผลงานการทำงานของแม่บ้านที่จ้างมาหรือไม่
• ปัญหาด้านการสื่อสารเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ สำหรับนายจ้างชาวต่างชาติที่เลือกจ้างแม่บ้านอิสระ หากแม่บ้านไม่มีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษก็อาจทำให้การสื่อสารระหว่างนายจ้างและผู้ถูกจ้างเป็นไปอย่างยากลำบาก
ในวันสัมภาษณ์ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับแม่บ้าน?
ก่อนที่เราจะรับแม่บ้านอิสระเข้ามาทำงานกับเราแน่นอนว่าเราต้องทำการพูดคุยและทำความเข้าใจในข้อตกลงและเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ชัดเจน ตัวอย่างเช่น

• พูดคุยรายละเอียดของงานที่ต้องการให้แม่บ้านรับผิดชอบ โดยแจกแจงให้ชัดเจนว่าต้องการให้ทำงานในวันไหน เวลาใด
• หากเป็นแม่บ้านที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน อาจต้องมีช่วงทดลองงาน โดยทดสอบการทำงานด้วยวิธีการต่าง ๆ ก่อนที่จะทำการประเมินผลอีกครั้งว่าจะรับแม่บ้านเข้าทำงานหรือไม่ สิ่งที่จะต้องทดสอบมากเป็นพิเศษก็คือเรื่องความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงาน
• เรื่องของค่าตอบแทน ระยะเวลาในการทำงาน สวัสดิการต่าง ๆ เช่น มีอาหารให้กี่มื้อ และวันหยุดที่จะได้รับ
• แม่บ้านควรมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเหมาะสมกับการทำงานและควรมีผลการตรวจร่างกายมาแสดงต่อนายจ้าง
• นายจ้างมีความคาดหวังว่าแม่บ้านอิสระควรมีความละเอียดรอบคอบ หลังจากทำงานเสร็จแล้วควรมีการตรวจสอบผลงานทุกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีข้อผิดพลาด
• นายจ้างต้องการแม่บ้านอิสระที่มีความซื่อสัตย์เป็นหลัก เนื่องจากต้องเข้ามาดูแลและใกล้ชิดกับสิ่งของต่าง ๆ ที่มีค่าภายในบ้าน ทั้งในเวลาที่นายจ้างอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม
• นายจ้างมีความต้องการแม่บ้านอิสระควรมีใจรักในงานบริการ และที่สำคัญควรรักความสะอาด
• การยืดหยุ่นของเวลาการทำงาน เนื่องจากอาจมีการทำงานเพิ่มเติมนอกเหนือจากงานที่ได้รับหรือเปลี่ยนแปลงชั่วโมงการทำงานตามความสะดวกของนายจ้าง
• หากแม่บ้านต้องการ ลากิจ หรือ ลาป่วย ต้องแจ้งนายจ้างล่วงหน้า
• แม่บ้านอิสระสมัครใจให้นายจ้างสามารถตรวจสอบประวัติส่วนตัว และประวัติการทำงานก่อนว่าจ้างได้

วิธีมัดใจแม่บ้านคนโปรดให้ทำงานกับคุณไปนาน ๆ

หลายครอบครัวมีความจำเป็นที่ต้องใช้บริการแม่บ้านมากขึ้น เพื่อจัดการงานบ้าน ดูแลความสะอาดเรียบร้อยภายในบ้าน เนื่องจากคนในครอบครัวไม่มีเวลามากพอที่จะดูแลงานบ้านเหล่านี้ด้วยตัวเอง หลายคนต้องทำงานนอกบ้านตั้งแต่เช้ากว่าจะกลับถึงบ้านก็ค่ำมืดแล้ว จึงเป็นเหตุผลหลักที่ต้องหาแม่บ้านมาดูแลบ้านแทน ซึ่งหลายท่านคงผ่านขั้นตอนการหาแม่บ้านมาแล้วและเมื่อเจอแม่บ้านที่ถูกใจ ทำงานดี ก็ไม่อยากจะหาคนใหม่มาแทน ซึ่งปัญหาแม่บ้านอยู่ไม่นานเป็นปัญหาหลักที่สร้างความปวดหัวให้กับนายจ้าง จากองค์ประกอบหลายอย่างทั้งตัวแม่บ้านเองรวมถึงปัจจัยที่มาจากนายจ้างด้วย วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการแก้ปัญหาในส่วนของนายจ้างที่จะทำอย่างไรให้แม่บ้านอยู่กับเรานานขึ้น

1. ให้ความเป็นธรรมความเหมาะสมของเงินเดือน ถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆของการจ้างแม่บ้านที่จะต้องให้เงินเดือนเหมาะสมกับงานที่ได้รับมอบหมาย ต้องมีการพูดคุยตกลงกันอย่างชัดเจนตั้งแต่แรกว่าค่าตอบแทนเท่าไหร่ จากหน้าที่อะไรบ้าง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย หากมีงานนอกเหนือจากที่ตกลงกันไว้ก็ควรให้ค่าจ้างเพิ่มกรณีพิเศษ เพื่อให้แม่บ้านรับรู้ถึงความใส่ใจของนายจ้าง

2. ให้ลาหยุดช่วงเทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะช่วงปีใหม่และวันสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันหยุดยาวที่แม่บ้านส่วนใหญ่จะได้ลากลับบ้านไปพบครอบครัว ซึ่งมีแม่บ้านส่วนน้อยเท่านั้น ที่ไม่อยากลาหยุดเพื่อทำงานโอที หากนายจ้างเข้าใจและให้แม่บ้านมีโอกาสหยุดเพิ่มกว่าวันหยุดในปฏิทินก็จะทำให้แม่บ้านมีความสบายใจกลับบ้านไปพักผ่อนและกลับมาทำงานให้เราอย่างเต็มที่

3. ใส่ใจเรื่องการให้เกียรติลูกจ้าง หากนายจ้างชอบพูดจาดูถูกลูกจ้างของตนเองเพราะคิดว่าเป็นแค่ลูกจ้าง ทำงานมีค่าตอบแทนโดยเฉพาะกับลูกจ้างที่เป็นต่างด้าว หากเจอกรณีแบบนี้ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องรีบลาออกอย่างแน่นอน การให้เกียรติซึ่งกันและกันเป็นเรื่องที่สำคัญรวมถึงการเอาใจใส่ ห่วงใย เหมือนคนใกล้ชิดเห็นอก เห็นใจ ฟังความคิดเห็นของลูกจ้างทำความเข้าใจมากขึ้น อยู่กันแบบครอบครัวจะทำให้บรรยากาศในบ้านน่าอยู่มากขึ้น

4. เติมกำลังใจด้วยรางวัลเล็กๆน้อยๆ การที่เรามีของติดไม้ติดมือไม่ว่าจะเป็นขนมหรือของฝากมาฝากแม่บ้านบ้าง เป็นสิ่งที่ช่วยให้แม่บ้านรับรู้ถึงความใส่ใจมีน้ำใจของนายจ้าง ซึ่งแน่นอนหากแม่บ้านมีโอกาสได้กลับบ้านก็จะกลับมาด้วยของฝากท้องถิ่นจากบ้านเกิดให้นายจ้างเช่นกัน ของเล็กๆน้อยๆแบบนี้แม้จะไม่ได้มีมูลค่ามากมาย แต่เป็นการแสดงน้ำใจและเชื่อมความสัมพันธ์ที่ได้ผลดี



สถานที่สำคัญทางเศรษฐกิจในเขตคลองเตย

คลองเตยนอกจากจะเป็นชุมชนที่เกิดจากการตั้งถิ่นฐานอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังมีความสำคัญในลักษณะของการเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่เนื่องจากมีสถานที่สำคัญหลายแห่งด้วยกัน ทำให้คลองเตยเป็นย่านชุมชนที่อยู่อาศัย แหล่งงานขนาดใหญ่ของกรุงเทพโดยมีสถานที่สำคัญเช่น

1. ท่าเรือกรุงเทพหรือที่รู้จักกันในชื่อ “ท่าเรือคลองเตย” เป็นท่าเรือสำคัญของกรุงเทพ อยู่ในความดูแลของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นท่าเรือระหว่างประเทศแห่งแรกของประเทศไทย มีโรงพักสินค้า คลังสินค้า ที่เริ่มก่อตั้งในปีพ.ศ. 2481 และเปิดดำเนินกิจการท่าเรืออย่างเป็นทางการในปีพ.ศ. 2490 ในอนาคตมีโครงการจะทำเป็นDocklands เพื่อพัฒนาท่าเรือกรุงเทพทั้งหมด ซึ่งต่างประเทศจะเรียกท่าเรือคลองเตยว่าBANGKOK PORTหรือเรียกย่อๆว่า PAT (PORT AUTHORITY OF THAILAND)

2. ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ศูนย์ประชุมแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย เป็นศูนย์การประชุมและจัดนิทรรศการโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สะท้อนความเป็นไทยได้อย่างลงตัว ด้วยพื้นที่กว่า 65,000 ตารางเมตร พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและภายในยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร ศูนย์อาหารตลอดจนเครื่องดื่มมากมายและการเดินทางก็สะดวก ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร เป็นจุดเริ่มต้นให้พื้นที่บริเวณนี้เปลี่ยนแปลงไป

3. การท่าเรือแห่งประเทศไทย หน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม ดำเนินการกิจการท่าเรือของประเทศไทย ทั้งการดูแลและพัฒนาท่าเรือของไทย ซึ่งมีท่าเรือในการดูแลด้วยกันทั้งหมด 5 ท่าเรือได้แก่ ท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือเชียงแสน ท่าเรือเชียงของและท่าเรือระนอง

4. โรงงานยาสูบ ของการยาสูบแห่งประเทศไทย ปีพ.ศ. 2493 เกิดแหล่งงานขนาดใหญ่ขึ้นอีกคือ “โรงงานยาสูบ” ของการยาสูบแห่งประเทศไทย ที่มีการขยับขยายส่วนการผลิตยาสูบจากย่านสะพานเหลือง มายังบริเวณพื้นที่คลองเตยซึ่งปัจจุบันเป็น โดยหน่วยงานนี้ทำหน้าที่ประกอบธุรกิจผลิตจัดจำหน่ายบุหรี่สำเร็จรูปทั้งหมด 18 ตรา



พลิกโฉมคลองเตยสู่ Smart City Port

หากพูดถึงคลองเตย หลายคนคงนึกภาพชุมชนแออัดในเขตคลองเตยออกเป็นอันดับแรก ซึ่งความจริงแล้ว คลองเตยคือหนึ่งในย่านใจกลางเมืองที่มีเรื่องราวการตั้งถิ่นฐาน ที่อยู่อาศัยและทำการค้าขายมาอย่างยาวนาน และเคยเป็นที่ตั้งของเมืองปากน้ำพระประแดง เมืองหน้าด่านปากน้ำเจ้าพระยาก่อนจะไปสู่เมืองอื่นๆ ทำให้ย่านคลองเตยมีชุมชนอยู่อาศัยมาเป็นเวลานานจนกลายมาเป็นชุมชนหนาแน่นจนถึงปัจจุบัน โดยจุดกำเนิดของชุมชนคลองเตยหรือที่คุ้นหูกันในชื่อชุมชนแออัด เกิดมาจากการก่อสร้างฐานทัพของสหรัฐในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เกิดความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมาก ทำให้มีแรงงานจากพื้นที่อื่นๆเข้ามาอยู่อาศัยในย่านคลองเตย หลายคนเริ่มปักหลักและจับจองพื้นที่สร้างบ้านหรือนอนพักเป็นห้องแถว ทำให้เกิดเป็นชุมชนขนาดใหญ่หรือที่เรียกกันว่า “สลัมของเตย” แม้ว่าการขับไล่ของทางภาครัฐจะมีมาเรื่อยๆแต่ก็ไม่เป็นผล จนเริ่มหันมาใช้วิธีการประนีประนอม มีการนำโครงการต่างๆเข้ามาพัฒนาในชุมชนแออัดคลองเตย เพื่อยกระดับให้กลมกลืนกับสังคมเมือง จากเดิมที่ชุมชนคลองเตยเป็นชุมชนรอบท่าเรือกรุงเทพ พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ผู้คนใช้อยู่อาศัยเป็นพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย จึงเกิดเป็นแนวคิดการพัฒนาท่าเรือคลองเตยใหม่ ให้กลายเป็น Smart City Port หนึ่งในแลนมาร์คที่สำคัญในอนาคต ของกรุงเทพมหานคร ด้วยพื้นที่กว่า 2000 ไร่ ภายใต้โปรเจ็ค “Mixed-use” ประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า ท่าเรือครุยส์ คาดว่าที่นี่จะกลายเป็นศูนย์กลางพาณิชยกรรมติดแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นหลังโครงการนี้เสร็จสมบูรณ์