ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ดินแดง, กรุงเทพมหานคร

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ดินแดง, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ราคาไม่แพง มีการบอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆให้ด้วย ซึ่งตอนนี้ใช้บริการมา 4ครั้งแล้วครับ บริการดีทุกครั้งเลยครับ
Saijai
ศิลา ใจอารีย์
3 ปีที่แล้ว
หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
ลองจองพี่เลี้ยงดูแลน้องหมาผ่านเว็ปใส่ใจ รู้สึกประทับใจมากครับ เจ้าด้อบบี้เองก็ดูเหมือนจะดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อนใหม่ด้วย เห็นตามติดน้องที่มาช่วยดูแลไม่ห่างเลย
Saijai
ชิตพล เจียรเวชพรกุล
3 ปีที่แล้ว
โชคดีที่ได้มาเจอเว็บไซต์ของใส่ใจเพราะมีบริการคนดูแลสัตว์เลี้ยงหลากหลายรูปแบบ ประทับใจมาก ๆ ครับ นอกจากจะมีพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังมีบริการฝึกสอนสัตว์เลี้ยง อาบน้ำตัดขน อีกทั้งยังมีบริการสัตว์แพทย์นอกสถานที่ บอกได้เลยว่าครบวงจรจริง ๆ
Saijai
ศราวุติ ชัยเกตุ
3 ปีที่แล้ว
สะดวกมากเลยค่ะ นัดพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เราต้องการมาดูแลน้องหมาที่บ้านได้เลย ไม่ยุ่งยาก ระบบใช้งานง่าย สะดวกสุด ๆ ค่ะ ชอบ ๆ
Saijai
ธีรศักดิ์ เหมศักดิ์
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ความสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยง
การมีสัตว์เลี้ยงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในงานอดิเรกของหลาย ๆ คนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งสัตว์เลี้ยงที่คนนิยมเลี้ยงกันก็มีมากมายหลายชนิด แน่นอนว่านั่นหมายถึงการที่เราต้องใช้เวลาไปกับการดูแลเอาใจใส่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทั้งการดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย สุขภาพ รวมไปถึงสภาพจิตใจของสัตว์เหล่านี้ด้วย

การดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงในทุก ๆ ด้านที่กล่าวมาข้างต้นนั้นนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะมันส่งผลดีให้กับทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง ในมุมมองของเจ้าของ การได้ให้อาหาร หรือการเล่นกับสัตว์เลี้ยงนั้นเปรียบเสมือนความสุขอย่างหนึ่ง ในวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน หากได้กลับมาเจอสัตว์เลี้ยงนั่งรออยู่ที่หน้าประตู เพียงเท่านี้ก็ช่วยคลายความเหนื่อยไปได้เยอะเลยทีเดียว กลับกันในมุมของสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างครบถ้วนนั้นจะส่งผลดีให้กับพวกเขาเช่นกัน สัตว์เลี้ยงสัมผัสได้ถึงความรักที่ได้รับจากเจ้าของ ในขณะเดียวกันพวกเขาจะมอบความรักกลับคืนให้เจ้าของเช่นเดียวกัน

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการมีสัตว์เลี้ยงในบ้านคือ สามารถเยียวยาสภาพจิตใจของผู้เลี้ยงได้ ซึ่งการได้ใช้เวลาทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกันระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงช่วยลดอาการตึงเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ ทั้งยังช่วยให้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย เช่นการพาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่นทำให้ผู้เลี้ยงเองได้ออกกำลังกายไปด้วย

เห็นได้ชัดว่าการมีสัตว์เลี้ยงนั้นมีประโยชน์ต่อคนมากมาย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะฉะนั้น ก่อนเลี้ยงต้องมั่นใจว่าคุณจะมีความรับผิดชอบมากพอที่จะดูแลเขา เพราะสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนมนุษย์เช่นกัน หากคุณอยากมีสัตว์เลี้ยงไว้ที่บ้าน แต่ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของคุณ การใช้บริการรับดูแลสัตว์เลี้ยงก็นับว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ทักษะสำคัญในการดูแลสัตว์เลี้ยงมีอะไรบ้าง
หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ นี่คือลักษณะและทักษะที่สำคัญ 4 ประการที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี

1. สุขุมและเข้าใจสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงน้องหมา น้องแมวทุกคนรู้ดีว่าการดูแลน้องเหล่านี้มักไม่เป็นไปตามแผนที่เราคิดไว้เสมอไป ดังนั้นพี่เลี้ยงต้องอดทนเวลาที่น้องหมา น้องแมว ดื้อและไม่ปฏิบัติตามที่คาดหวังไว้ ควรสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกกลัวและตอบสนองต่อความวิตกกังวล จะทำให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดี
2. อ่อนโยน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีตระหนักถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงของเราและตอบสนองต่อความต้องการนั้นมองสัตว์เลี้ยงของเราด้วยความรักใคร่และไม่ใช้กำลังหรือการลงโทษทางร่างกาย เช่นตี หรือ ลากสายจูงสุนัขของคุณระหว่างเดินเล่น
3. มีประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัตว์เลี้ยงของเรามีความต้องการดูแลเป็นพิเศษ การจ้างพี่เลี้ยงสัตว์ดูแลสัตว์เลี้ยง ควรจ้างผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์มากเช่น หากเรามีสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ด(German Shepherd)ตัวใหญ่ เราต้องการคนที่เคยดูแลสุนัขขนาดใหญ่มาก่อน ถ้าคนคนนั้นสามารถแสดงใบรับรองเกียรติบัตรที่แสดงถึงประสบการณ์ในการดูแลสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของสุนัขยิ่งขึ้น หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการป่วยหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เราต้องมองหาพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือได้ในด้านนั้น ๆ มาดูแลสัตว์เลี้ยงของเรา
4. มีความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยง ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ๆ ) ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ หรือถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน - คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาให้คุณฟัง การพูดคุยแบบนี้คุณสามารถวัดความรักของพวกเขาที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว
วิธีการสังเกตุสัตว์เลี้ยงเมื่อมีอาการป่วย
เพราะสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกเราได้เมื่อรู้สึกไม่สบาย หากเราไม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาเริ่มมีอาการผิดปกติ มารู้อีกทีเขาก็ป่วยหนักจนอาจทำให้ไม่สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที หรืออาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าเดิมก็เป็นได้

วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้

1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง

หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง
ผู้ว่าจ้างควรตกลงอะไรกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงก่อนทำการจ้าง เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นห่วงและต้องการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและมาดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้านหรือไม่มีเวลาพาน้อง ๆ ไปเดินเล่น มักมองหาผู้ช่วยงานในส่วนนี้และก่อนที่จะเริ่มงานกันต้องมีข้อตกลงกัน เพื่อให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงและผู้ว่าจ้างรู้สึกสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

1. สอบถามประสบการณ์ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกคนรู้ดีว่าการเลี้ยงสัตว์ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นพิเศษที่จะดูแลสัตว์นั้นๆ เพราะมีหน้าที่มากกว่าการให้อาหาร หรือ พาสัตว์เข้านอน การชวนสัตว์เลี้ยงเล่นหรือทำกิจกรรม หรือเคยดูแลสัตว์ชนิดไหน สายพันธุ์อะไรมาก่อน
2. ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะไม่ต้องตลอดทั้งวันหรือเป็นบางช่วงเวลา การพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ไปทำกิจกรรมในเวลาเช้า หรือเวลาเย็น หรือต้องดูแลตลอดทั้งวันในช่วงที่เจ้าของต้องไปทำงาน
3. ค่าจ้างในการทำงานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์เลี้ยง หน้าที่ความรับผิดชอบ เช่น ต้องให้อาหารกี่ครั้ง ต้องพาไปเดินเล่นหรือไม่ ต้องทำความสะอาดด้วยหรือเปล่า และความยากง่ายในการดูแลตามชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ
4. ลองถามคำถามที่น่าสนใจในระหว่างการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูเพื่อให้รู้สึกถึงบุคลิกของผู้สมัคร เช่น อะไรคือสิ่งที่สนุกที่สุดหรือน่าอายที่สุดที่คุณเคยสัมผัสกับสัตว์ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดีจะแสดงความรักที่แท้จริงต่อสัตว์เลี้ยงในการตอบคำถามของคุณ ถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของหรือดูแลมาก่อน คนที่รักสัตว์จะกระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเองให้คุณฟัง จากการพูดคุยในลักษณะนี้คุณสามารถวัดความรักที่มีต่อสัตว์และระดับความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานนี้ได้เลยทีเดียว

จะดีหรือไม่ถ้ามีใครที่เชื่อถือได้พร้อมให้คำแนะนำและพร้อมทำตามข้อตกลง ด้วยใจรักต่อสัตว์เลี้ยงจากใจจริงที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับท่านทุกความกังวลก็จะหมดไป

Bangkok Youth Centre (Thai-Japan)

ในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปีกรุงรัตนโกสินทร์ โดยมติจากคณะรัฐบาลในสมัยนั้น (ฯพณฯ พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์) ได้อนุมัติให้สร้างศูนย์เยาวชนนี้ขึ้นที่บริเวณสนามกีฬาดินแดงเดิมของกรุงเทพมหานคร รวมเนื้อที่ประมาณ 73 ไร่ ภายใต้งบประมาณร่วมประมาณ 300 ล้านบาทเศษ ใช้ระยะเวลาสร้างประมาณ 2 ปี (กุมภาพันธ์ 2523 - ตุลาคม 2524) ประกอบด้วยสนามกีฬาต่างๆ ทั้งสนามฟุตบอลพร้อมลู่วิ่งมาตรฐานซึ่งสามารถจุคนดูได้ถึง 6,400 ที่นั่ง สนามอเนกประสงค์ที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาในร่มทุกประเภท สนามยูโด สนามมวย สนามกีฬากลางแจ้ง และสระว่ายน้ำ ฯลฯ ซึ่งได้เปิดบริการให้กับประชาชนทั่วไปที่สมัครเป็นสมาชิกรายปี สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ถือเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย–ญี่ปุ่น) หรือ Bangkok Youth Centre (Thai-Japan) ภายใต้การกำกับ ดูแลของกรุงเทพมหานคร ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย–ญี่ปุ่น) ถูกสร้างขึ้นจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและรัฐบาล ไทย เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นเห็นชอบรายละเอียดโครงการแล้ว จึงมอบหมายให้เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยในขณะนั้น ลงนามในสัญญาข้อตกลงจัดสร้างศูนย์เยาวชน ร่วมกับผู้แทนรัฐบาลไทยคือ อธิบดีกรมวิเทศสหการ กระทรวงการต่างประเทศ ในขณะนั้น เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2522 โดยมีบริษัท คุเมะ สถาปนิกและวิศวกร จำกัด เป็นผู้ออกแบบอาคารสนามกีฬา และควบคุมการก่อสร้าง ร่วมกับข้าราชการกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง จนแล้วเสร็จเมื่อเดือนธันวาคมปีเดียวกัน โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่9) เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิด เมื่อเวลา 16:45 นาฬิกา ของวันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2525 ศูนย์เยาวชนแห่งนี้ ตั้งอยู่ริมถนนมิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เหตุการณ์สำคัญทางด้านกีฬา ใช้เป็นสนามหลักในการแข่งขัน เอเชียนอินดอร์-มาร์เชียลอาร์ตสเกมส์ 12 พฤศจิกายน - 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 - เอเชียนอินดอร์เกมส์ 2005 และ 1 สิงหาคม - 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552 - เอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ 2009

อีกทั้งยังใช้จัดงาน คอนเสิร์ตในหลายๆ ครั้ง เช่น 4 สิงหาคม พ.ศ. 2528 - คอนเสิร์ต คนเดียวที่เป็นหนึ่ง ของ อัญชลี จงคดีกิจ ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 , 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 - คอนเสิร์ต แบบเบิร์ดเบิร์ด (ครั้งที่ 1) ของ ธงไชย แมคอินไตย์ , 16 เมษายน พ.ศ. 2531 - คอนเสิร์ต MICRO ROCK CONCERT เอาไมโครไปเลย! ของวง ไมโคร / คอนเสิร์ตใหญ่ขายบัตรเป็นทางการครั้งแรกของวงไมโคร 26 มกราคม พ.ศ. 2535 - คอนเสิร์ต 9 อ.ส.ม.ท. / เป็นการขึ้นแสดงคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของพุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็นต้น



การเลือกสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก

การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอาจเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าสำหรับเด็ก สัตว์เลี้ยงที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดีสามารถนำความสุขมาให้ได้

การเลี้ยงสัตว์ยังเป็นโอกาสให้เด็กๆ เรียนรู้บทเรียนชีวิตอันมีค่าในขณะที่ดูแลสิ่งมีชีวิต สัตว์เลี้ยงสามารถสอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับความรับผิดชอบและความเชื่อถือได้ด้วยคำแนะนำจากผู้ใหญ่ เป็นโบนัสเพิ่มเติม สัตว์เลี้ยงบางตัวให้ความรักตอบแทนการเอาใจใส่ด้วยความรักของเด็ก

1. ปลา ปลาอาจเป็นสัตว์เลี้ยงตัวแรก ที่สมบูรณ์แบบสำหรับเด็ก และปลาทองดูจะเป็นตัวเลือกยอดนิยมอันดับต้นๆ แต่ถ้าเทียบกันเรื่องความยากง่ายในการดูแล ปลากัดไทยจะดูแลง่ายกว่า เพราะไม่ต้องใช้เครื่องเติมออกซิเจน ตัวกรอง หรือแทบจะไม่ต้องใช้สารเคมีเลย ปลากัดจะเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในตู้ปลาขนาดเล็กที่มีน้ำอย่างน้อย 2 แกลลอน โดยเปลี่ยนและเก็บไว้ที่อุณหภูมิระหว่าง 76 ถึง 82°F (24 และ 28°C) เป็นประจำ อย่าลืมปรึกษาและขอคำแนะนำจากผู้ขายเพื่อจะได้มีวิธีดูแลปลาให้ดีที่สุด

2. สัตว์เลื้อยคลาน อาจจะไม่น่ารักเหมือนสัตว์เลี้ยงขนปุกปุยอย่าง สุนัข แมว หรือกระต่าย แต่สัตว์เลื้อยคลานจะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ จึงทำให้เหมาะกับการเป็นสัตว์เลี้ยงของเด็ก เช่น เต่าญี่ปุ่น เต่าแก้มแดง มังกรเครา เบี๊ยดดรากอน กิ้งก่าเวลล์คามิเลียน ก่อนตัดสินใจมีสัตว์เลี้ยง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ศึกษาข้อกำหนดการดูแลเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานตัวใหม่

3. นก นกเป็นตัวเลือกของการมีสัตว์เลี้ยงที่ดีอีกทางเลือกหนึ่ง แม้ว่าการเป็นเจ้าของนกจะยากกว่าการดูแลเต่าหรือปลา นกบางตัวฉลาด แสนรู้และต้องการดูแลเกือบทุกวัน สำหรับเด็กที่ไม่เคยเลี้ยงนกมากก่อน อาจเริ่มจากากรเลี้ยงนกแก้วที่มีราคาไม่แพงมาก นกที่มีราคาแพงกว่า (และฉลาดกว่า) เช่น นกกระตั้วก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีเช่นกัน แต่นกประเภทนี้ต้องการการดูแลมากกว่านกแก้ว

4. หนู สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เช่น หนูแฮมสเตอร์ หนูตะเภา และหนูเจอร์บิล เลี้ยงง่ายและส่วนใหญ่จะเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างเล็ก และยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่เป็นมิตรกับเด็กอีกด้วย

5. แมว ลูกแมวเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดในวัยเด็ก แมวต้องการความเป็นอิสระ แต่ค่อนข้างจะมีความขัดแย้งในตัวเอง เพราะแมวต้องการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของเป็นอย่างมาก แมวต้องได้รับการตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนเป็นประจำ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกแมวที่เหมาะสมกับเด็กๆ แมวอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสุนัขถ้าครอบครัวของคุณมีพื้นที่ใช้สอยจำกัด

6. สุนัข ลูกสุนัขที่น่ากอดน่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงสำหรับเด็กที่คลาสสิกที่สุด จำไว้ว่าการเลือกสุนัขตัวโปรด ไม่ใช่แค่การตกหลุมรักดวงตาสีน้ำตาลโต เพราะสุนัขบางตัวอาจไม่เหมาะกับเด็ก ก่อนรับสุนัขไปเลี้ยง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสุนัขมีความเข้าสังคมและอยู่ร่วมกับเด็กๆ ได้ดี ลูกสุนัขต้องออกกำลังกายทุกวัน ตรวจสุขภาพสัตว์และฉีดวัคซีนเป็นประจำ และต้องการความรักมากมาย สุนัขทุกตัวมีความแตกต่างกัน แต่สายพันธุ์ที่เป็นมิตรต่อเด็ก ได้แก่: ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ บีเกิ้ล



ข้อดีเมื่อเด็กมีสัตว์เลี้ยง

สัตว์เลี้ยงและเด็กเป็นของคู่กัน แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าการมีสัตว์เลี้ยงมีประโยชน์อย่างไร เราสรุปข้อดีเกี่ยวกับการมีสัตว์ได้ดังนี้

1. การเล่นกับแมวหรือสุนัขสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้

มันเป็นความจริง การลูบคลำสัตว์เลี้ยงเพียง 15 นาทีสามารถลดความดันโลหิตได้ 10% การศึกษาพบว่า เมื่อเราอยู่กับสัตว์เลี้ยง ร่างกายจะหลั่งสารเซโรโทนิน ออกซิโทซิน โปรแลคติน และฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอลก็ลดลง ซึ่งแพทย์ได้ชี้แจงว่า การคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงจะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารสื่อประสาท (Neurochemical) และออกซิโตซิน (Oxytocin) ออกมา ก่อให้เกิดความรู้สึกเป็นสุข เท่ากับช่วยลดระดับคอร์ติซอล (Cortisol) และฮอร์โมนความเครียดที่มีอยู่ลงไปด้วย นอกจากนี้ยังมีการวิจัยแสดงให้เห็นอีกว่า การเล่นกับสัตว์เลี้ยง สามารถบรรเทาอาการโรคเครียดจากเหตุร้าย (PTSD = post-traumatic stress disorder) ได้อีกทางหนึ่งด้วย

2. เด็กที่นำสัตว์เลี้ยงออกไปข้างนอกเพื่อเดินเล่นหรือออกกำลังกายด้วย จะทำให้เด็กกระฉับกระเฉงมากขึ้น เมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง เด็กที่มีสัตว์เลี้ยงใช้เวลามากกว่า 11 นาทีในการออกกำลังกาย (ต่อวัน) ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน

3. การให้อาหารและการดูแลสัตว์เลี้ยงส่งเสริมความรับผิดชอบในวัยเด็ก

เด็ก ๆ สามารถได้รับความมั่นใจโดยมีความรับผิดชอบในการดูแลสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ยังช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ถึงความสำคัญของการทำกิจวัตรประจำวัน

4. เด็กที่มีสัตว์เลี้ยงแสดงการควบคุมแรงกระตุ้น ทักษะการเข้าสังคม และความนับถือตนเองที่ดีขึ้น สัตว์เลี้ยงมีความหมายมากสำหรับเด็กๆ และยังช่วยสอนทักษะการเผชิญปัญหาและเพิ่มความมั่นใจได้อีกด้วย

5. สัตว์เลี้ยงลดความเครียด ความเหงา ความซึมเศร้า และความวิตกกังวล มีอารมณ์ดี จากงานวิจัยพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์ส่วนมากจะอารมณ์ดีมากกว่าคนที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ เพราะจะช่วยทำให้ไม่รู้สึกเหงาและมีความสุขสนุกสนานเมื่อได้เล่นและใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงของตนเอง

ความเป็นเพื่อนสามารถช่วยป้องกันความเจ็บป่วยทางจิตและแม้กระทั่งเพิ่มอายุขัยให้กับชีวิตของคุณ การดูแลสัตว์สามารถช่วยให้คุณรู้สึกต้องการและเป็นที่ต้องการ และไม่ต้องสนใจปัญหาของคุณ วัยรุ่นทุกคนสามารถได้รับประโยชน์จากสิ่งนั้น!

6.ช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางด้านของสังคม การมีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัขสามารถช่วยให้เราสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราเห็นคนเดินมาที่ถนนเราคงจะไม่อยากที่จะเข้าไปทักทายคนแปลกหน้า แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเรามีสุนัขมากับเราด้วยมันเป็นการง่ายที่จะมีปฏิสัมพันธ์ต่อคนที่ไม่รู้จัก เพราะคนโดยทั่วไปมักจะสนใจและกล้าทักทายพูดคุยสบตากับคนที่มากับสัตว์เลี้ยงนั่นเอง

7. สัตว์เลี้ยงให้ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข

สัตว์เลี้ยงสามารถปลอบโยน สนับสนุน และแม้กระทั่งรับฟังปัญหาของเด็กโดยไม่ต้องตัดสินหรือผลที่ตามมา