คนขับรถ ใน หนองจอก, กรุงเทพมหานคร

คนขับรถ ใน หนองจอก, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ขับรถลีมูซีนบริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประสบการ14ปี

แสดงเพิ่มเติม

มากมาย ดี มีประสบการณ๋ ค่าบริการตามตกลง

แสดงเพิ่มเติม
ขวัญชัย จงชนะ
ขวัญชัย จงชนะ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 44 ปี

รักการทำงาน ใจเย็น เน้นความปลอดภัย

แสดงเพิ่มเติม

สามารถโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษได้ รู้เส้นทางในกทม. ภาคตะวันออก ภาคใต้และภาคกลางเป็นอย่างดี 1000 บาทสำหรับเหมา 6 ชั่วโมง

แสดงเพิ่มเติม
พงษ์เทพ พลอยพานิช
พงษ์เทพ พลอยพานิช
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี
อภิเดช เบญจพงศาพันธุ์
อภิเดช เบญจพงศาพันธุ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 54 ปี

ตรงเวลา ซื่อสัตย์ เป็นคนตรงๆและมีความรับผิดชอบทำงานจริงจัง

แสดงเพิ่มเติม
ชาญณรงค์ ตัดสุนทร
ชาญณรงค์ ตัดสุนทร
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 43 ปี

ค่าจ้างรายวัน ตั้งแต่08.00-17.00 หลัง17.00เป็นโอทีจะให้ผมพาไปต่างจังหวัดหรือกลับดึกไปใด้หมดทุกสถานะกสรคับเคยขับรถโรงเรียนนานาชาติฟรั่งเศษ ขับรถส่วนกลาวที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นิสัยชอบคุยใด้ทุกเรื่องเก็บความลับของเจ้านายอยู่เป็นคนเขาใด้กับทุกคนคุยเล่นสนกสนานเป็นกันเอง

แสดงเพิ่มเติม
ธัญนิสิษฐ์ บุตรภักดีธรรม
ธัญนิสิษฐ์ บุตรภักดีธรรม
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 47 ปี

ใจเย้น ขับรถตามกฏ หรือ ตาม คำสั่ง 9ชม. คิด 1500 บาท

แสดงเพิ่มเติม
จักรพล หวานคำ
จักรพล หวานคำ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 31 ปี

รักในการบริการครับผม ค่าจ้างตามตกลง

แสดงเพิ่มเติม
ทศพร เจริญบุญณะ
ทศพร เจริญบุญณะ
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 36 ปี

ผมขับรถตามทีลูกค้าต้องการ

แสดงเพิ่มเติม
ฐิติพันธ์ จิตร์ถาวรมณี
ฐิติพันธ์ จิตร์ถาวรมณี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 51 ปี

ประสบการณ์ขับรถนายและส่วนกลาง ไม่่ดื่มเหล้า ไม่สูบ ไม่สัก

แสดงเพิ่มเติม

เรียนรู้เร็วมีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย

ทำงานร่วมกลับผู้อื่นได้

แสดงเพิ่มเติม
ปภัสร์ญาณ์ ตรองพาณิชย์
ปภัสร์ญาณ์ ตรองพาณิชย์
Saijai อายุ 31 ปี
ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 28 ปี
วันชัย มธุรพจน์โสภณ
วันชัย มธุรพจน์โสภณ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 60 ปี

ไม่สูบบุหรี่, ไม่ดื่มเหล้า, สุขุมใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
วชิระ กรับฉิ่ง
วชิระ กรับฉิ่ง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

บริการด้วยใจ ค่าบริการยังไม่รวมค่าน้ำมัน

แสดงเพิ่มเติม
ช่อทิพย์ รอดรัด
ช่อทิพย์ รอดรัด
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 45 ปี

มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ซื้อสัตย์ มีน้ำใจ

แสดงเพิ่มเติม
อรรถพล  เชื่อมเป็น
อรรถพล เชื่อมเป็น
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ประสบการณ์ ขับรถได้ทุกอย่าง (ยกเว้นสิบล้อ+พ่วง)ขับรถนายมา 5 ปี เป็นรถ Benz Alphard Porsche ให้บริการขับรถตู้เที่ยวทั่วไทยครับ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เมื่อไม่กี่วันมานี้ได้ลองใช้บริการคนขับรถ เพราะจะพาเพื่อนชาวต่างชาติไปเที่ยวรอบกรุง ลุงคนขับใจดีมากค่ะ ขับรถนุ่มมาก อยากไปตรงไหนลุงพาไปได้หมด ประทับใจมาก ๆ ค่ะ รับรองว่าจะกลับมาใช้บริการอีกในภายหลังแน่นอนค่ะ
Saijai
ณชยา ฤกษ์ดี
3 ปีที่แล้ว
หาคนขับไว้ขับรถรับส่งพนักงาน จนมาเจอกับคนขับรถผ่านเว็บใส่ใจ ค่าจ้างไม่แพง ใช้บริการมาได้ 3 สัปดาห์แล้วค่ะ คนขับรถมีมารยาทดีมาก ขับรถปลอดภัย ตรงเวลา ประทับใจมากค่ะ
Saijai
กาญจนาถ บัวใส
3 ปีที่แล้ว
คนขับรถทำงานดี บริการดี เดินทางไปไหนก็สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาหลงทางและรอรถติดอีกต่อไป เพราะคนขับรถรู้เส้นทางลัด สะดวกรวดเร็วในการเดินทางมาก ๆ
Saijai
เอมอร สวัสดิรักษา
3 ปีที่แล้ว
จ้างคนขับรถส่วนตัวค่ะ ครั้งแรกที่ใช้บริการคนขับรถจากแพลตฟอร์มของใส่ใจ คนขับรถที่ได้มาจากเว็บไซต์ใส่ใจสุภาพมาก ๆ พูดจาดี ดูเป็นมิตรมาก ๆ ที่สำคัญคือขับรถไปส่งที่หมายอย่างปลอดภัยและตรงเวลาเสมอ ตอนนี้ยังจ้างคนขับรถมาแล้ว 1 เดือนและคิดว่าคงจะจ้างต่อไปเรื่อย ๆ เพราะประทับใจในการให้บริการมากค่ะ
Saijai
พลอยไพลิน นิยมเดช
3 ปีที่แล้ว
เราใช้บริการคนขับรถบนหน้าเว็บไซต์ใส่ใจ คนขับรถมารับเราตรงเวลามาก ๆ ขับรถสุภาพ ใจเย็น ไม่รู้สึกถึงความกังวลเลยค่ะ คนขับรถชำนาญทางในกรุงเทพมาก ๆ เราเสร็จธุระแล้วมีงานต่ออีกที่หนึ่ง พี่คนขับพาเราไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย โดยรวมชื่นชมการให้บริการของพี่คนขับมาก ๆค่ะ
Saijai
ลินดา ทองศรี
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา คนขับรถ

หากคุณเป็นคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ ควรมีคนขับรถดีกว่าไหม
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนบ่อย ๆ การมีคนขับรถส่วนตัวเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคุณมาก ใส่ใจจะมาบอกถึงข้อดีในการมีคนขับรถส่วนตัวเพื่อให้คุณใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจกันค่ะ

1. การมีคนขับรถส่วนตัวช่วยให้คุณประหยัดเวลาไปได้มาก เพราะคุณสามารถทำงานหรือกิจกรรมอื่นในระหว่างการเดินทางซึ่งเป็นไปได้น้อยมากและเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายหากคุณขับรถเอง การจ้างคนขับรถจึงเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณมีเวลามากขึ้นและสามารถทำภารกิจต่าง ๆ ของคุณเองให้เสร็จในระหว่างการเดินทางได้
2. การจ้างคนขับรถช่วยให้คุณควบคุมรายจ่ายได้อย่างชัดเจน เนื่องจากการว่าจ้างนั้นมีการจ่ายค่าบริการเป็นจำนวนที่แน่นอนตามที่ได้ตกลงกันไว้ระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ถูกจ้าง
3. ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่มีผลมาจากความเหนื่อยและความเครียดสะสมได้ คงไม่ดีแน่หากคุณต้องขับรถเองหลังจากเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าจากการทำงาน และอาจส่งผลให้เกิดอันตรายทั้งต่อตัวคุณเองและผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมทาง
4. คนขับรถส่วนตัวที่มีความเป็นมืออาชีพและมีความชำนาญในเส้นทาง การวางแผนเส้นทางที่ดีจะทำให้คุณเดินทางไปถึงที่หมายอย่างตรงเวลา
5. ลดปัญหาการหาที่จอดรถ หากคุณต้องขับรถหาที่จอดรถเองในวันที่มีรถเยอะและหาที่จอดลำบาก คุณอาจต้องจอดรถไกลจากจุดหมายของคุณ นั่นยิ่งทำให้คุณเสียเวลามากยิ่งขึ้น การจ้างพนักงานขับรถช่วยให้คุณสามารถนัดหมายเวลาและสถานที่รับ-ส่งได้ตามที่คุณกำหนด
6. คนขับรถส่วนตัวจะช่วยดูแลและตรวจเช็คสภาพยานพาหนะของคุณตลอดเวลา ช่วยให้คุณคลายความกังวลเรื่องยานพาหนะมีปัญหากลางทางได้

เห็นได้ชัดว่าการมีคนขับรถส่วนตัวนั้นเป็นอะไรที่สะดวกสำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ มาก เมื่อคุณตัดสินใจที่จะจ้างคนขับรถแล้ว สามารถเลือกใช้บริการคนขับรถบนเว็บไซต์ใส่ใจได้เลยค่ะ
คนขับรถควรมีทักษะอะไรบ้าง
1. ขับขี่ปลอดภัย เป็นทักษะแรกที่ต้องมี ผ่านการฝึกอบรมให้เป็นพนักงานขับรถที่ดี ไม่ใช่แค่ต้องไปรับไปส่งเจ้านาย หรือรับส่งพนักงานในองค์กรในแต่ละวันเท่านั้น แต่มีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารบนรถให้ไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
2. มารยาทดี พนักงานขับรถเกือบจะเป็นคนแรกๆ ที่เจ้านายหรือพนักงานคนอื่นๆ ในองค์กรได้เจอในแต่ละวัน พนักงานขับรถที่ดีควรมีจิตใจรักในงานบริการ บางครั้งต้องไปรับบุคคลสำคัญ ลูกค้าคนสำคัญ สิ่งที่คนขับรถแสดงออกจะส่งผลไปถึงองค์กรได้ด้วย
3. เตรียมยานพาหนะให้พร้อมใช้งาน รู้เทคนิคการตรวจสอบและเช็คความปลอดภัย รวมถึงความสะอาด และตัวพนักงานขับรถที่ดีสามารถเตรียมความพร้อมก่อนขับขี่รถ ตัวพนักงานเองก็ต้องมีสุขภาพแข็งแรง มีสติสัมปชัญญะและสมาธิครบถ้วนพร้อมให้บริการ
4. ทัศนคติดี ทัศนคติที่ดีของพนักงานขับรถในขณะปฏิบัติหน้าที่คือ ขับรถตามกฎจราจร มีมารยาทที่ดีต่อผู้ร่วมทาง หากพบผู้ร่วมทางที่มีพฤติกรรมที่ทำให้ไม่พอใจ ก็สามารถควบคุมได้ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของทุกฝ่าย และยังมีทัศนคติในการขับขี่ที่ได้มาตรฐานสากล
5. Defensive Driving หรือ ปลอดภัยไว้ก่อน การฝึกใช้กลยุทธ์การขับขี่ที่ลดความเสี่ยงและช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ เช่นเดียวกับการคาดการณ์อันตรายบนท้องถนน (มักใช้ในเชิงเหตุผล) ด้วยการขับขี่เชิงป้องกัน เพราะการขับขี่เชิงป้องกันหรือ ไม่เพียงแต่ให้พนักงานขับขี่ปลอดภัย แต่เป็นทักษะที่ให้ความปลอดภัยขั้นกว่ากับผู้ใช้บริการ พนักงานขับรถที่ดีจะไม่เพียงแค่รู้กฎจราจรขั้นพื้นฐาน แต่ยังมีการฝึกสมาธิระหว่างขับ มีความเข้าใจในการขับขี่ สาเหตุและปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุ สามารถประเมินสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างละเอียด เรียกได้ว่าเป็นความปลอดภัยขั้นสูงที่พนักงานขับรถที่ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้นเพื่องานคุณภาพ
จ้างคนขับรถค่าใช้จ่ายสูงจริงหรือไม่
การเดินทางด้วยรถยนต์ ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและมีความเป็นส่วนตัว ต่างกับการใช้บริการรถสาธารณะที่มีเวลาเดินทางไม่แน่นอนและอาจต้องต่อรถหลายครั้งกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ยิ่งถ้าในวันหนึ่งๆนั้น เราต้องเดินทางไปหลาย ๆ สถานที่ ยิ่งมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นและความสะดวกสบายลดลง

อย่างไรก็ตามสำหรับนักธุรกิจหรือคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ การมีคนขับรถส่วนตัวช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นอีกมาก จึงเกิดคำถามว่าการจ้างคนขับรถส่วนตัวค่าใช้จ่ายสูงจริงหรือไม่ หากเราใช้บริการจากบริษัทจัดหาคนขับรถ ที่มีบริการคนขับรถประจำสำนักงานที่มีประสบการณ์ขับรถ (แน่นอน เพราะคนขับรถส่วนตัวต้องใช้ความรับผิดชอบ ทักษะ และประสบการณ์สูง อย่างน้อยต้องมีประสบการณ์ในการขับรถหลายปีขึ้นไป) ชำนาญเส้นทางในที่เราทำงานอยู่หรือสามารถพาเราไปในจังหวัดหรือพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยได้

และหากใครที่ต้องการพนักงานขับรถให้เจ้านายชาวต่างชาติ หรือบริการลูกค้าชาวต่างชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง การได้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และภาษาของเจ้านายหรือลูกค้าบ้างนิด ๆ หน่อยๆ เป็นรอง จะอำนวยความสะดวกมากขึ้นเพราะเจ้านายหรือลูกค้าที่ใช้บริการเหล่านี้ไม่ชำนาญเส้นทางในที่ที่เราทำงานอยู่ หากเรามีพนักงานขับรถที่ไว้ใจได้ ได้มาตรฐานสากลและด้วยในอัตราค่าบริการแบบเหมา "รายเดือน" เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่ได้กลับมาย่อมคุ้มค่ามาก ๆ เพราะลูกค้าที่ใช้บริการได้พักผ่อนระหว่างเดินทาง หรือเตรียมงาน เตรียมตัวบนรถระหว่างเดินทางไปทำธุระ สามารถเดินทางไปได้ทันเวลาไม่ว่าจะไปสนามบิน หรือที่ทำงาน หรือสถานที่ไกลๆ สุดท้ายถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายจ้างพนักงานขับรถไปบ้าง แต่ก็คุ้มค่าที่สุด กับสิ่งที่ได้รับกลับมา “เราได้ซื้อเวลา สุขภาพ ความปลอดภัยในการเดินทางและความสำเร็จทางธุรกิจ”
ข้อตกลงสำคัญที่ผู้จ้างควรตกลงกับคนขับรถก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
ข้อตกลงระหว่างนายจ้างกับคนขับรถส่วนตัวควรมีอะไรบ้าง ก่อนตัดสินใจว่าจ้างคนขับรถสักคนลองมาดูกันเลยค่ะ

• มีสัญญาจ้างงานเป็นลายลักษณ์อักษร และแจกแจงสวัสดิการต่าง ๆ ที่จะได้รับนอกเหนือจากเงินเดือน เช่น ประกันสังคม เครื่องแบบ หรือเงินโบนัส
• คนขับรถต้องอนุญาตให้นายจ้างตรวจสอบประวัติการทำงานและประวัติอาชญากรรมได้
• อายุของคนขับรถ นายจ้างมักเลือกอายุตั้งแต่ 25 ปี ขึ้นไป จนถึง 50 ปี ซึ่งเป็นวัยที่มีวุฒิภาวะแล้ว
• คนขับรถต้องมีใบขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
• คนขับรถควรมีประสบการณ์ในการขับรถมาก่อน เพราะต้องใช้ความรับผิดชอบ ทักษะ และประสบการณ์ในการทำงานสูง
• คนขับรถมีความชำนาญในด้านเส้นทางสามารถใช้ Google Map หรือ GPS ได้ดี
• มีการตกลงเรื่องวันทำงาน ระยะเวลาที่ทำงาน วันหยุดต่าง ๆ และหากมีการทำงานนอกเวลา หรือเกินจากเวลาปกติจะมีเงินพิเศษให้หรือไม่ ค่าแรงอยู่ที่เท่าไหร่ มีอาหารให้กี่มื้อ
• มีช่วงระยะทดลองงานเป็นระยะเวลากี่วัน และหากผ่านการทดลองงานจะมีการปรับเพิ่มเงินเดือนตามความเหมาะสมหรือไม่
• การลากิจ ลาป่วยต่าง ๆ ต้องแจ้งกับนายจ้างล่วงหน้า
• มีการตรวจสอบสภาพของรถยนต์ของนายจ้างก่อนที่จะให้คนขับรถส่วนตัวเริ่มงาน เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่ายว่ารถยนต์ที่จะนำมาใช้ขับอยู่ในสภาพอย่างไร มีความปลอดภัยหรือไม่
• ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ ค่าน้ำมัน นายจ้างจะรับผิดชอบในส่วนนี้
• ในขณะที่ปฏิบัติงานคนขับรถจะไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มอื่น ๆที่มีผลต่อการขับขี่รถ
• หากเกิดอุบัติเหตุในขณะที่คนขับรถทำงาน ทางนายจ้างจะดูแลและมีสวัสดิการการรักษาอย่างไร

ขับรถทางไกลต้องเช็กอะไรบ้าง

หลังจากรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ หลังจากโควิดระบาดหนัก หลายๆ คนย่อมวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยว และส่วนมากอยากจะเดินทางไปไกลๆ เพื่อพักผ่อนอย่างสบายใจ แต่เราควรเตรียมพร้อมอย่างไรหากจะต้องเดินทางไกลมาดูกันค่ะ

- เตรียมพร้อมเกี่ยวกับเอกสารสำคัญๆ ของรถและของตัวเราเอง ได้แก่ ใบขับขี่, ทะเบียนรถอาจจะเป็นสำเนาหรือตัวจริงก็ได้, ป้ายภาษีรถยนต์, กรมธรรม์ตัวจริงหรือสำเนาก็ได้ และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับคนขับรถที่ควรมีอีกอย่างก็คือ แว่นตากันแดด เพราะแสงแดดขณะขับรถทำให้กล้ามเนื้อสายตาของคนขับเมื่อยล้าหรือบางครั้งอาจทำให้มองไม่เห็นสิ่งกีดขวาง ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุรถยนต์ขณะขับรถทางไกล ควรมีแว่นตากันแดดติดไว้ในรถด้วย โดยเฉพาะแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ ที่สำคัญเราควรมีเบอร์โทรฉุกเฉินไม่ว่าจะเป็นบริษัทประกันหรือการแจ้งอุบัติเหตุต่างๆ ติดไว้ในเครื่องโทรศัพท์มือถือด้วย

- แบตเตอรี่รถยนต์ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า แบตเตอรี่รถยนต์ของเรานั้นยังอยู่ในสภาพที่พร้อมจะใช้งานและเดินทางไกลได้ เพราะแบตเตอรี่แบบเปียกและแบบแห้งมีอายุการใช้งานแตกต่างกันไป สำหรับแบตเตอรี่แบบเปียกจะสามารถใช้งานได้ไม่เกิน 3 ปี ส่วนแบตเตอรี่แบบแห้งใช้งานได้ประมาณ 5 ปี แต่มีราคาที่สูงกว่า หากแบตเตอรี่รถยนต์ไม่ค่อยจะดีแล้ว จะสังเกตได้จากเวลาที่เราสตาร์ทรถ จะเห็นสัญลักษณ์เตือนรูปแบตเตอรี่บนหน้าปัด หากมีไฟปรากฏแสดงว่าแบตเตอรี่และระบบไฟมีปัญหา

- ไฟรถยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งในการขับขี่รถยนต์ เพราะมีผลต่อการมองและการให้สัญญาณบนท้องถนน ไฟหน้ารถและไฟท้ายรถสำคัญมากต่อการขับขี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนกลางคืน ส่วนไฟเบรก ไฟเลี้ยวและไฟฉุกเฉิน ก็มีความสำคัญเช่นกันเวลาขับขี่รถบนท้องถนน

- ที่ปัดน้ำฝน ในการเดินทางระยะไกล มีโอกาสที่เราจะเจอทั้งแดดและฝน ซึ่งหากมีฝนตก ที่ปัดน้ำฝนจะเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการขับขี่รถยนต์ที่จะทำให้เรามองเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจนระหว่างที่ฝนตก เพราะการใช้ที่ปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพนอกจากจะทำให้กระจกหน้ารถเกิดรอยขีดข่วนแล้ว ยังมีผลต่อการขับขี่รถเป็นอย่างมากอีกด้วย



ขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน

ใครมีรถจะเข้าใจว่า น้ำมัน เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องจ่ายอยู่เป็นประจำทุกเดือน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงในยุคข้าวยากหมากแพงนี้ เพราะพลังงานประเภทน้ำมันยังเป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับรถยนต์บนท้องถนน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีทางเลือกสำหรับ รถที่ใช้ไฟฟ้า เพิ่มมาก็ตาม ดังนั้นหากเรามีเทคนิคในการ ขับรถเพื่อประหยัดน้ำมัน ก็จะทำให้เราลดรายจ่ายในแต่ละเดือนไปได้มากเช่นกัน

- มีการวางแผนก่อนการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางในการเดินทางไปไหนมาไหนในแต่ละวัน เราควรมีการตรวจสอบเส้นทางไม่ว่าจะการฟังสถานีวิทยุหรือ Application ที่ช่วยตรวจสอบสภาพการจราจรล่วงหน้าในแต่ละวัน เพื่อช่วยประหยัดเวลา รวมไปถึงการเดินทางไปด้วยรถคันเดียวกันหากไปในเส้นทางเดียวกัน หรืออาจจะติดรถเพื่อนไปทำงานก็เป็นการประหยัดน้ำมันได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน

- การเช็กลมยางรถยนต์ก็สำคัญสำหรับการเดินทาง เพราะหากลมยางอ่อนเกินไปก็จะทำให้เปลืองน้ำมัน โดยปกติเราควรตรวจเช็กลมยางรถอย่างสม่ำเสมอ หากอยากให้การขับขี่ไม่เปลืองน้ำมัน นอกจากนี้ควรตรวจสอบร่องรอยของการขูดขีด หรือรอยแตกของยาง รวมถึงตรวจสอบวันที่ผลิตยางด้วย หากยางมีอายุเกินกว่า 5 ปี จะต้องเปลี่ยนยางใหม่

- หลีกเลี่ยงการขับรถแบบกระชากรถ เพราะการเร่งเครื่องยนต์แต่ละครั้งจะทำให้เครื่องยนต์ใช้พลังงานมากขึ้น และสิ้นเปลืองน้ำมันเป็นอย่างมาก

- การขับรถเร็วมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งใช้พลังงานน้ำมันมากขึ้นเท่านั้น สำหรับความเร็วที่เหมาะสมในการขับรถจะอยู่ในระดับ 80- 90 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ดังนั้นการหลีกเลี่ยงที่จะขับรถเร็วนอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้ว ยังทำให้ขับรถได้อย่างปลอดภัยห่างไกลจากอุบัติเหตุอีกด้วย



เกิดอุบัติเหตุขณะขับรถยนต์ต้องทำอย่างไร

อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นเราจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมเอาไว้ หากเราขับขี่รถแล้วมีอุบัติเหตุหรือเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น จะได้ไม่ตื่นตระหนกและสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ ควรทำอย่างไรบ้าง มาดูกันค่ะ

- หลีกเลี่ยงการโต้เถียงกับคู่กรณี เพราะนอกจากจะทำให้เสียเวลาแล้ว อาจจะเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้นมาได้ หากยังไม่แน่ใจว่าใครเป็นฝ่ายผิด การกล่าวคำขอโทษและไม่ใช้อารมณ์ในการพูดคุยอาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่า

- ให้หยุดรถแต่ไม่ใช่หยุดรถแบบกะทันหัน หากแต่ควรหาที่จอดที่เหมาะสม หรือจอดตรงที่เดิมแต่มีการเปิดสัญญาณไฟ หรือมีเครื่องกั้นเพื่อบอกรถที่กำลังตามหลังมาให้ได้รู้ว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นและกีดขวางทางในการจราจรอยู่ แต่หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นในที่เปลี่ยว แนะนำว่าไม่ควรลงจากรถทันที แต่ควรที่จะจำเลขทะเบียนของรถคู่กรณี และสถานที่เกิดเหตุไว้ แล้วรีบติดต่อไปยังตำรวจอย่างเร็วที่สุด

- เราควรมีข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับชื่อ ที่อยู่ เลขทะเบียนรถและชื่อประกันที่เรามีเพื่อแจ้งแก่คู่กรณีหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ และควรขอข้อมูลของคู่กรณีด้วย เพื่อความสะดวกในการทำเรื่องของประกันและการดำเนินการต่างๆ

- ทุกครั้งที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เล็กน้อยหรืออุบัติเหตุแบบที่เกิดความเสียหายมาก ก็ต้องมีการแจ้งข้อมูลต่างๆ แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะหากคู่กรณีเดินทางไปแจ้งความกับตำรวจในภายหลัง เจ้าหน้าที่อาจจะสรุปว่าเราเป็นฝ่ายหลบหนี และหากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น ต้องรีบแจ้งความทันที