วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา คนขับรถ
• คนขับรถควรมีใบขับขี่รถยนต์ และขับรถได้อย่างสุภาพ นุ่มนวล ถูกกฎจราจร คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเมื่อทำการขับขี่ เพราะคนขับรถต้องดูแลรับผิดชอบชีวิตของอีกหลายๆชีวิตภายในรถ รวมทั้งทรัพย์สินต่าง ๆของผู้โดยสารอีกด้วย อย่างเช่นตัวอย่างตามข่าวที่เราเห็นกันบ่อย ๆ อุบัติเหตุส่วนมากเกิดจากคนขับรถที่ประมาท
• มีความรอบรู้เรื่องเส้นทางต่าง ๆ เป็นอย่างดี
• เป็นคนตรงต่อเวลา กระตือรือร้น และพร้อมที่จะทำงานอยู่เสมอ
• มีบุคลิกที่ดี มนุษยสัมพันธ์ดี พูดจาไพเราะ มีความสุภาพ และมีมารยาทที่ดี สิ่งเหล่านี้ส่งผลกับผู้ที่นั่งโดยสารอยู่ในรถด้วย ในบางครั้งที่รถติดหากมีคนขับรถที่พูดคุยดีมีมารยาทก็ช่วยลดความเครียดได้ดีเลยทีเดียว
• คนขับรถควรมีทัศนคติดี เช่น ขับอย่างสุภาพ ไม่ขับฝ่าไฟเหลืองหรือไฟแดง ขับด้วยความเร็วและไม่มีมารยาทบนท้องถนน พฤติกรรมเหล่านี้เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
• เป็นคนขับรถที่มีน้ำใจบนท้องถนน ในช่วงเวลาเร่งด่วน ทุกคนต่างต้องการไปให้ถึงจุดหมายตามกำหนดเวลา การขับรถไม่เพียงแต่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ควรมีน้ำใจซึ่งกันและกันด้วย เช่น การจอดรถให้คนข้ามถนน การขับรถช้า ๆเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นใส่คนที่เดินอยู่ริมถนน หรือการชะลอความเร็วเพื่อให้รถคันอื่นไปก่อน
• คนขับรถควรมีสุขภาพที่แข็งแรง มีสติสัมปชัญญะและสมาธิครบถ้วนพร้อมให้บริการในการขับรถ
• คนขับรถที่ดีต้องรู้เทคนิคการตรวจสอบความปลอดภัยของรถแต่ละรุ่น รู้จักการซ่อมบำรุงรถยนต์ขั้นพื้นฐานได้ เปลี่ยนยาง เช็คน้ำมันเครื่อง มีชำนาญในการล้างรถยนต์ และดูแลรถยนต์ให้สะอาดและอยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ
• รู้จักรักษาความลับของเจ้านายเป็นอย่างดี และเป็นคนที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดี
แตกต่างจากการใช้บริการรถสาธารณะ เช่น แท๊กซี่ ซึ่งค่าบริการเราไม่สามารถกำหนดได้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามเส้นทางและระยะทาง หรือหากเราต้องการเดินทางไปต่างจังหวัด ก็สามารถนำรถส่วนตัวของเราไปใช้โดยมีคนขับรถที่เราไว้ใจได้ไปด้วย ซึ่งมีความปลอดภัยและน่าไว้ใจกว่าไปจ้างคนในพื้นที่ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ยิ่งถ้าเป็นนายจ้างผู้หญิงแล้วย่อมมีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก หรือนายจ้างที่มีธุรกิจที่ต้องไปพบปะสังสรรค์กับกลุ่มลูกค้าต่าง ๆ ที่ต้องมีการดื่มแอลกอฮอล์และหากยังฝืนขับรถด้วยตัวเอง บอกเลยว่าเสี่ยงทั้งอุบัติเหตุและยังผิดกฎหมายอีก หากเกิดอุบัติเหตุหรือโดนตำรวจจับ คงไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่สูงแถมและยังเสียประวัติอีกด้วย
ปัจจุบันในการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวหรือเพื่อกิจกรรมทางธุรกิจ มีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อม รวมทั้งต้องการความสะดวกสบายและปลอดภัย บริการคนขับรถส่วนตัวเป็นทางเลือกที่ดีเนื่องจากมีความสะดวกสบายและมีความปลอดภัยในการเดินทาง และสามารถใช้เวลาระหว่างที่เดินทางในการทำภารกิจอื่น ๆ เช่น บริหาร สั่งงาน ตรวจสอบเอกสารสำคัญ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเรื่องการขับรถยนต์หรือเส้นทาง เพราะคนขับรถส่วนตัวเป็นผู้ทำหน้าที่ขับรถและเตรียมความพร้อมเรื่องเส้นทางไว้ให้ทั้งหมดแล้ว และมีค่าใช้จ่ายประหยัดกว่าการเดินทางโดยวิธีอื่น เนื่องจากใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นพาหนะ
1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยในสัญญาควรระบุว่าเป็นลักษณะการว่าจ้างแบบระยะยาวหรือระยะสั้น มีระยะเวลาตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน ที่สำคัญควรระบุอัตราค่าจ้างไว้อย่างชัดเจน
2. ผู้ว่าจ้างควรตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ เช่นเอกสารยืนยันผ่านการฝึกอบรม และใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะของคนขับรถที่ถูกจ้างมา เพื่อเป็นการยืนยันว่าคนขับรถคนนั้นได้รับอนุญาตให้ขับขี่ยานพาหนะอย่างถูกกฎหมายและมีความเป็นมืออาชีพสูงเนื่องจากผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว
3. ผู้ว่าจ้างควรตรวจสอบประวัติของคนขับรถอีกครั้งให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่าคนขับรถที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมหรือเคยกระทำผิดร้ายแรงมาก่อน
4. แจกแจงเรื่องสวัสดิการต่าง ๆ ให้คนขับรถทราบ เช่น ประกันสังคม หรือสวัสดิการอื่น ๆ ที่ควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน
5. ข้อตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากค่าจ้างของคนขับรถ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าตรวจเช็คสภาพรถ บางครั้งนายจ้างอาจกำหนดค่าใช้จ่ายในการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ให้คนขับรถรับรู้และประเมินค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ในยามที่ต้องนำรถยนต์ไปเช็คสภาพ
6. ข้อตกลงเกี่ยวกับเงื่อนไขอื่น ๆ ในการปฏิบัติงาน คนขับรถควรและไม่ควรทำอะไรบ้างในระหว่างการปฏิบัติงาน เช่น ไม่ควรดื่มสิ่งของมึนเมา ไม่ควรนำรถไปใช้ในการส่วนตัว ฯลฯ
ทั้งหมดนี้คือข้อตกลงหลัก ๆ ที่คุณและคนขับรถควรทำความเข้าใจร่วมกันก่อนเริ่มปฏิบัติงาน
การท่องเที่ยวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย อยู่ติดกับทะเลฝั่งอ่าวไทย และสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีดินแดนเชื่อมต่อกับจังหวัดชุมพรและจังหวัดระนอง ด้วยเส้นทางการคมนาคมที่สามารถเดินทางไปยังจังหวัดได้ทั้งทางรถยนต์ ทางรถไฟ และทางอากาศ
ด้วยปริมาณของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นลำดับทุกปี รวมทั้งการมีสาธารณูปโภคโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รองรับการเติบโตของการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง จึงชี้ให้เห็นว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีศักยภาพในการเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างมาก
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีลักษณะภูมิประเทศทางธรรมชาติที่มีความหลากหลายและแตกต่าง กล่าวคือ มีภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาและทะเล ทางด้านตะวันตกของจังหวัดมีแนวเทือกเขาสูงยาวจากเหนือจรดใต้ และมีเนินเขาไม่สูงนักกระจายอยู่ทั่วไปด้วยลักษณะพิเศษทางภูมิประเทศทำให้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น ธรรมชาติป่า ภูเขา ถ้ำ น้ำตก ทะเล และเกาะเล็กเกาะน้อยกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ทุกอำเภอทั่วทั้งจังหวัด ซึ่งมีประมาณ 21 เกาะ
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ ชายหาดทะเลหัวหิน หาดบ้านกรูด เขาตะเกียบ อ่าวแม่รำพึง สวนสนประดิพัทธ์ น้ำตกป่าละอู หาดสามพระยา ถ้ำแก้ว หาดเขาเต่า ถ้ำไทร จุดชมวิว หิน เหล็ก ไฟ ทุ่งสามร้อยยอด หมู่บ้านไหมไทยจุดชมวิวเขาแดง วนอุทยานปราณบุรี คลองเขาแดง จุดชมวิวเขาแดง วนอุทยานกุยบุรี หาดสามพระยา เขาสามร้อยยอด น้ำตกไทรคู่ อุทยานแห่งชาติหาดวนกร อ่าวบ่อทองหลาง น้ำตกห้วยยาง หาดทางสาย น้ำตกเขาอ่อน ปากน้ำปราณ น้ำตกห้วยยาง อ่าวมะนาว อ่าวน้อย อ่าวประจวบ หาดบางเบ็ด เกาะสังข์ ป่าเขาจ้าว เกาะทะลุ เกาะนมสาว เกาะคน และกุยบุรี ซาฟารีเมืองไทย เป็นต้น
ด่านสิงขร ตลาดชายแดนที่มากกว่าตลาดชายแดน
ตลาดค้าขายชายแดน เป็นตลาดสำคัญระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ที่ทำให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นบริเวณนั้นมีความคึกคัก ช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในท้องถิ่นทั้งสองฟากฝั่ง ซึ่งในทางด้านทิศตะวันตกของประเทศไทยนั้นก็มีตลาดการค้าขายชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านก็คือประเทศพม่าอยู่หลากหลายจุด หนึ่งในนั้นก็คือ ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ด่านสิงขรนั้นเป็นตลาดค้าขายชายแดนที่เป็นเพียงจุดผ่อนปรนการค้า แต่ก็ยังไม่ได้เปิดเป็นด่านหรือจุดผ่านแดนถาวร ในอดีตนั้นบริเวณด่านสิงขรมีความสำคัญกับทั้งประเทศไทยและกับประเทศพม่า โดยใช้เป็นเส้นทางคมนาคมบนบกของคาบสมุทร จากชายฝั่งทะเลด้านหนึ่งไปยังฝั่งทะเลอีกด้านหนึ่ง นั่นก็คือ ฝั่งทะเลอ่าวไทย ไปยังฝั่งทะเลอันดามันของประเทศพม่า เรียกกันว่า เส้นทางข้ามคาบสมุทร
ในสมัยอดีตนั้นพม่าได้ใช้จุดด่านสิงขรนี้ เป็นหนึ่งในเส้นทางเดินทัพ และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เป็นหนึ่งในเส้นทางยุทธศาสตร์ที่กองทัพญี่ปุ่นสร้างขึ้นเพื่อลำเลียงกำลังพลพร้อมกับเสบียงอาหาร เชื่อมต่อไปยังฝั่งเมืองมะริด ในประเทศพม่า
ปัจจุบันด่านสิงขรนั้นกลายเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าระหว่างชายแดนไทยและพม่า และพัฒนามาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยด่านสิงขรนั้นเชื่อมต่อระหว่างฝั่งไทยที่ ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และฝั่งพม่าก็คือหมู่บ้านมูด่อง เมืองมะริด โดยด่านสิงขรนั้นตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 340 กิโลเมตรสามารถเดินทางมาด้วยถนนเพชรเกษม ผ่านแยกตัวเมืองประจวบมาเล็กน้อยจะพบแยกทางขวาเข้าสู่ด่านสิงขรแล้วตรงไปอีก 13 กิโลเมตร
ข้อควรระวังของการขับรถในวันฝนตก
ในช่วงที่เป็นฤดูฝนเต็มตัว ฝนตกบ่อยแทบจะทุกวัน คนขับรถอาจจะต้องใช้ทักษะที่สั่งสมเอาออกมาใช้บนถนนมากขึ้น แต่สำหรับมือใหม่แล้วการขับรถในวันที่ฝนตกหรือถนนเปียกอาจจะเป็นสถานการณ์ที่ไม่ง่ายเลย ทั้งรถติด ทั้งสภาพผิวถนนที่ลื่นกว่าปกติหลายเท่าตัว ทั้งหมดนี้พร้อมที่จะทำให้การขับรถของเราเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เคล็ดลับการขับรถในวันฝนตกอย่างปลอดภัยมีดังต่อไปนี้
สิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบคือสภาพรถที่ต้องอยู่ในสภาพปลอดภัยและพร้อมใช้งาน และสิ่งที่ต้องพร้อมยิ่งกว่าสภาพรถ คือ สติในการขับรถของคนขับรถ เพราะการขับรถในวันฝนตกนั้นต้องใช้สมาธิมากกว่าปกติ ดังนั้นคนขับรถต้องขับรถอย่างมีสติและไม่วางตัวเองในความประมาท เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
ใบปัดน้ำฝน ถึงจะเตรียมรถพร้อมแต่หากการใช้งานไม่สัมพันธ์กันกับปริมาณฝนตกลงมาก็อาจจะทำให้ทัศนวิสัยแย่ลงไปได้ ดังนั้นการเปิดที่ปัดน้ำฝนควรเปิดในระดับความเร็วที่ทำให้เรามองเห็นท้ายรถหรือทางข้างหน้าได้ชัดเจนและอย่าปล่อยกระจกพร่ามัว
เปิดไฟหน้าให้รถคันอื่นเห็น อาจจะไม่ต้องเปิดไฟหน้ารถถ้าฝนแค่ตกปรอย ๆ แต่ถ้าฝนตกหนักควรปิดไฟหน้ารถ เพื่อให้รถคันอื่นมองเห็นรถเรา
ลดความเร็ว แม้จะเปิดที่ปัดน้ำฝนหรือเปิดไฟหน้ารถพร้อมแล้ว แต่ถ้าขับรถด้วยความเร็วสูงจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน การขับรถขณะฝนตกคนขับรถควรปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนดและชะลอความเร็วหรือแวะจอดหากฝนตกหนักจนทัศนะวิสัยแย่จนมองไม่เห็นถนนหรือรถร่วมถนน รอจนฝนซาแล้วค่อยขับต่อไป
เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า ต่อเนื่องจากการลดความเร็ว การขับรถขณะฝนตกหรือถนนเปียก คนขับรถควรเว้นระยะห่างจากรถคันข้างหน้าให้มากกว่าการขับรถในสถานการณ์หรือสภาพอากาศปกติ เพราะระยะเบรคบนถนนที่เปียกจะยาวกว่าระยะเบรคบนถนนที่แห้ง
ประเมินสถานการณ์ ในวันฝนตกบนพื้นถนนบางจุดอาจมีน้ำท่วมขัง คนขับรถต้องใช้ทักษะหรือความจำในการประเมินสภาพถนนช่วงนั้น ถ้าเป็นถนนที่คนขับรถใช้เส้นทางอยู่เป็นประจำก็จะจำได้ง่าย แต่ถ้าเป็นพื้นที่ที่ไม่ชินทางก็ให้ดูรถคันหน้าไว้ ว่าขับไปไลน์ไหนถึงจะปลอดภัย ที่สำคัญคือไม่ควรเสี่ยงขับลงแอ่งน้ำจะดีกว่าเพราะบางทีแอ่งน้ำที่เห็นอาจเป็นหลุมลึกก็ได้
ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับเพื่อความปลอดภัยในการขับรถในวันฝนตกที่คนขับรถควรรู้
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง