ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ใน ปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร

ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ใน ปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ใน ปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 29 ปี
สุวณิช  พงษ์ศิริเจริญ
สุวณิช พงษ์ศิริเจริญ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

พยาบาลวิชาชีพ ICU และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ นิสัยร่าเริง สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เข้าใจชีวิต เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพระบบสมอง หลอดเลือด หัวใจ ทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดระบบต่างๆ ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้าน ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการเพื่อน

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

Saijai
ยังไม่มีข้อมูลการรีวิว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้

จำเป็นหรือไม่ที่ต้องมีคนเฝ้าไข้ผู้ป่วยตอนอยู่โรงพยาบาล
การที่ผู้ป่วยเข้ารับรักษาโรคในโรงพยาบาลและมีการเข้ารับรักษาเป็นผู้ป่วยใน (IPD : In Patient Department) แล้วนั้น การมีคนเฝ้าไข้ผู้ป่วยตอนอยู่โรงพยาบาลนั้นถือเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าสาเหตุการเข้ารับรักษาจะเกิดขึ้นเนื่องจากโรคประจำตัว เจ็บป่วยหนักจนต้องนอนโรงพยาบาล การเข้าผ่าตัด หรือการประสบอุบัติเหตุ เป็นต้น แต่ละอาการอาจมีความรุนแรงแตกต่างกันไป ผู้ป่วยบางส่วนที่ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยหนักหรือร้ายแรงมากอาจยังพอสามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง แต่สำหรับผู้ป่วยบางคนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ไม่ว่าสาเหตุจะมาจากอาการข้างเคียงของยาที่ได้รับ หรือลักษณะความเจ็บป่วยของโรค การมีญาติหรือคนเฝ้า จะช่วยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับผู้ป่วยได้ เช่น พยุงไปห้องน้ำ ป้อนข้าว ซื้อของให้ และแจ้งแพทย์หรือพยาบาล หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติใด ๆ เพราะพยาบาลไม่ได้เฝ้าอยู่ดูอาการผู้ป่วยตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องมีคนเฝ้าไข้ที่คอยดูแล สังเกตอาการ เพื่อที่จะได้รักษาทันท่วงที

ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่มีญาติ ไม่มีผู้ที่สามารถเฝ้าไข้ตอนอยู่โรงพยาบาล หรือญาติจำเป็นต้องไปทำกิจธุระบางอย่างในช่วงเวลาหนึ่ง ทางเลือกที่น่าสนใจอีกทางหนึ่งคือ จ้างพยาบาลพิเศษเฝ้าไข้ผู้ป่วยนั้นเอง โดยในโรงพยาบาลทั่วไปมีบริการทางเลือกพิเศษนี้ให้แก่ผู้ป่วยในและญาติอยู่แล้ว แต่อัตราค่าบริการค่อนข้างสูง เพราะผู้ให้บริการเป็นพยาบาลวิชาชีพ แต่เนื่องจากผู้ป่วยยังอยู่ในโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์ อาจไม่จำเป็นต้องจ้างพยาบาลวิชาชีพเสริม ตัวเลือกอีกแบบสำหรับการเฝ้าไข้ อาจเป็นบุคคลทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรงและรักงาน อัตราค่าบริการจะถูกกว่าแบบแรก การใช้บริการทั้งสองแบบทำให้ครอบครัวของผู้ป่วยนั้นอุ่นใจว่าผู้ทำหน้าที่เฝ้าไข้และผู้ป่วยไม่ต้องอยู่ตามลำพัง
ก่อนทำการจ้างคนเฝ้าไข้ไม่ว่าจะเฝ้าที่บ้านหรือโรงพยาบาล คุณสมบัติของผู้เฝ้าไข้ถือเป็นสิ่งสำคัญ คุณสมบัติดังกล่าวมีอะไรบ้าง
ก่อนเลือกใครสักคนมาเป็นคนเฝ้าไข้ ให้กับคนในครอบครัวของเรา เราควรพิจารณาคุณสมบัติต่อไปนี้

1. ตรวจสอบหลักฐานไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชนหรือหลักฐานการผ่านงานต่าง ๆ เพื่อความมั่นใจว่าบุคคลที่เราจะจ้างมาเป็นคนเฝ้าไข้ไม่ว่าจะที่บ้านของเราเองหรือที่โรงพยาบาลมีความน่าเชื่อถือและไม่มีประวัติอาชญากรรมใด ๆ
2. ควรเป็นผู้ที่ไม่เสพสารเสพติดหรือของมึนเมาต่าง ๆ เพราะงานเฝ้าไข้นั้น นอกจากต้องคอยดูแลผู้ป่วยแล้วยังต้องคอยสังเกตอาการของผู้ป่วยอยู่ตลอดเวลา หากเป็นผู้ที่ไม่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนแล้วย่อมทำงานในลักษณะนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน
3. เป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะและมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีความอดทนสูงและรักในงานบริการ เพราะต้องดูแลผู้ป่วยซึ่งอาจจะต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก
4. ควรผ่านการฝึกอบรมการดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น
5. เป็นคนรักสะอาด สามารถช่วยอาบน้ำเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า เปลี่ยนซักผ้าปูเตียง ปลอกหมอน ผ้าห่ม ให้คนไข้ได้
6. ควรเป็นผู้มีประสบการณ์ในการเฝ้าไข้มาก่อน เพื่อความคล่องตัวในการทำงานและผู้ว่าจ้างไม่ต้องเหนื่อยในการสอนงานมาก
7. เป็นบุคคลที่รู้จักการดูแลเอาใจใส่คนไข้ อารมณ์ดี ใจเย็น พูดคุยกับคนไข้ได้ดี และคอยหากิจกรรมต่าง ๆ ให้คนไข้ได้ทำอีกทั้งยังต้องช่วยสังเกตอาการเจ็บป่วยที่ผิดปกติเบื้องต้นของคนไข้ได้ โดยอาชีพนี้จะไม่เหมาะกับคนใจร้อน
สิ่งที่ทำให้เราเป็นกังวลเมื่อต้องใช้บริการคนเฝ้าไข้ และเราจะมีวิธีการอย่างไรเพื่อคลายความกังวลนั้น ๆ
เมื่อมีผู้ป่วยในครอบครัว หรือผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียวเพียงลำพังเกิดเจ็บป่วย จนไม่สามารถดูแลตนเองได้และคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดไม่สามารถดูแลได้เนื่องจากต้องทำงาน การปล่อยให้ผู้ป่วยต้องอยู่ตามลำพังถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดคิดหรืออาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน แล้วไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันเวลา จึงจำเป็นต้องใช้บริการคนเฝ้าไข้เพื่อให้คอยดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วย

แต่ญาติผู้ป่วยอาจยังมีความกังวลใจว่าผู้ดูแลอาจไม่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่หรือดูแลผู้ป่วยได้ไม่ถูกวิธี เพราะผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ภาระส่วนจึงไปตกอยู่ที่คนเฝ้าไข้ จนทำให้คนเฝ้าไข้ไม่ค่อยใส่ใจผู้ป่วย หรือผู้เฝ้าไข้อำนวยแค่ความสะดวกทางร่างกายให้เพียงอย่างเดียว ไม่ได้พยายามทำให้ผู้ป่วยมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น ซึ่งทางญาติสามารถมีวิธีลดความกังวลได้โดยหาคนเฝ้าไข้ที่มีประวัติการทำงานที่ดี อาจสอบถามจากผู้ที่เคยใช้บริการ การหาผู้ให้บริการจากสื่อออนไลน์เป็นอีกวิธีที่เราจะสามารถหาข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับประสบการณ์และความพีงพอใจจากลูกค้ารายก่อน ๆ (รีวิว) ถ้าผู้ให้บริการผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมมาแล้วจะทำให้ผู้ว่าจ้างสบายใจได้ว่า คนเฝ้าไข้ไม่เคยมีประวัติทำผิดกฏหมาย ประวัติการอบรมในหลักสูตรเกี่ยวกับหน้าที่ผู้ดูแลป่วยเป็นอีกอย่างที่ทำให้ครอบครัวผู้ป่วยวางใจได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับการดูแลอย่างดี
ผู้ป่วยที่มีโรคติดต่อทางใส่ใจรับดูแลหรือไม่
บน Platform ของใส่ใจมีผู้ให้บริการเฝ้าไข้ แต่ต้องขอสงวนสิทธิ์หากผู้ป่วยมีโรคติดต่อดังต่อไปนี้

1. โรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 / COVID-19) โดยจะมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจหอบเหนื่อย หรือมีอาการของโรคปอดอักเสบ ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการของระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ในเวลาต่อมา
2. โรคไข้ทรพิษหรือฝีดาษ (Smallpox) โรคนี้จะมีตุ่มขึ้นตามผิวหนัง หากตุ่มเหล่านี้แตกก็จะทำให้ติดต่อกันได้ผ่านทางระบบทางเดินหายใจและการสัมผัสทางผิวหนัง ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคนี้ แต่สามารถป้องกันโรคนี้ได้ด้วยการฉีดวัคซีน โดยการปลูกฝี
3. โรควัณโรค ที่มีการดื้อยา 4 ขนาน ได้แก่ ไอโซไนอะซิด (Isoniazid) ไรแฟมพิซิน (Rifampicin) กลุ่มยาฟลูออโรควิโนโลน (Fluoroquinolones) และกลุ่มยาทางเลือกที่สอง ที่เป็นยาชนิดฉีด (Second-line injectable drugs) ซึ่งหมายความว่า วัณโรคชนิดนี้จะไม่สามารถใช้ยาดังกล่าวรักษาให้หายได้ ดังนั้น ผู้ป่วยมีโอกาสในการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นได้ง่าย
4. โรคตาแดง เป็นโรคติดต่อที่แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ผ่านการสัมผัสสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วยและมักระบาดในช่วงหน้าฝน ถึงแม้ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็สามารถติดต่อได้และต้องรีบทำการรักษา
5. โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด เอ เอช1เอ็น1 (โรคไข้หวัดใหญ่ 2009) เป็นโรคที่แพร่ติดต่อระหว่างคนสู่คนเริ่มพบที่ประเทศเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกา ต่อมาได้แพร่ไปยังหลายประเทศ

ไม่เพียงแต่ 5 โรคข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอีกหลาย ๆ โรคติดต่อร้ายแรงที่ผู้ให้บริการต้องขอสงวนสิทธิ์ในการรับดูแลเพื่อความปลอดภัยของผู้ดูแล