ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ใน เมืองสงขลา, สงขลา

ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ใน เมืองสงขลา, สงขลา

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

สามีเป็นคนอเมริกัน ให้ดิฉันช่วยหาคนมาดูแลคุณพ่อของเค้าที่เป็นอัมพฤกษ์ มีภาวะแขนขาอ่อนแรง แต่ยังพอใช้งานได้ ซึ่งปกติคนดูแลที่เชี่ยวชาญด้านนี้ก็หายากอยู่แล้ว ยิ่งเป็นคนดูแลแบบที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้อีก ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ โชคดีที่มาเจอเว็บใส่ใจ มีข้อมูลพร้อม
Saijai
ดรุณี เชอร์แมน
3 ปีที่แล้ว
ช่วงสามเดือนที่แม่สามีมาอยู่ด้วย เราเลยมองหาพี่เลี้ยงมาช่วยดูแล น้องเก่งและมีประสบการณ์ ทำงานอย่างเป็นขั้นตอน น้องถนัดภาษาอังกฤษ แต่ได้ภาษาไทยนิดหน่อย เราเลยสรุปงานให้ ต้องทำได้ตามต้องการ แม่สามีมีคนดูแลตลอด ชวนคุย พาเดินเล่น หายห่วงเลยคะ
Saijai
โบฟอร์ต กิ่งแก้ว
3 ปีที่แล้ว
คุณแม่สามีมาจากประเทศอังกฤษ เราเลยหาผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา จากใส่ใจมาดูแล ทำงานดีมาก พูดภาษาอังกฤษคล่องด้วย แม่สามีชมใหญ่เลย
Saijai
กาญจณา บลัดเวิร์ท
3 ปีที่แล้ว
We have had extremely good services from them. Thank you for providing such a quality services for my mom.
Saijai
Peter H. Jones
3 ปีที่แล้ว
ผู้ดูแลสองภาษาที่เราติดต่อผ่านเว็บใส่ใจ ทำงานดีมาก ขอชื่นชมเลยค่ะ ตั้งใจเข้ามารีวิวให้เลย เพราะน้องเค้าทั้งช่วย​เช็ดตัว เปลี่ยนแพมเพิส พยุง Mama เราให้นั่งรถเข็น จัดยา จัดอาหารให้ ทำกายภาพให้ ดูแลความสะอาด ต่าง ๆ ในบ้านให้เราด้วย น้องเค้าทำงานดีมาก ๆ จริง ๆ ประทับใจมากค่ะ
Saijai
ณัฐวรินทร์ แสงชูโต
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา

ความจำเป็นที่ต้องจ้างผู้ดูแลสองภาษาเพื่อดูแลผู้สูงอายุต่างชาติคืออะไร
สิ่งที่ส่งผลให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุเติบโตได้ดี ส่วนหนึ่งมาจากสภาพสังคมปัจจุบันที่คนวัยหนุ่มสาวส่วนใหญ่ต้องทำงานนอกบ้านทำให้ไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตนเอง รวมถึงความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ทำให้มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ผู้สูงอายุในประเทศไทยไม่ได้มีเพียงแค่คนไทยเท่านั้น แต่ยังมีผู้สูงอายุต่างชาติที่เข้ามาใช้ชีวิตหลังเกษียณหรือเป็นผู้ที่มาอาศัยอยู่ในไทยอีกด้วย จึงต้องมีการจ้างผู้ดูแลสองภาษาเพื่อดูแลผู้สูงอายุต่างชาติ ด้วยเหตุผลดังนี้

1. การสื่อสาร ความจำเป็นหลักในการจ้างผู้ดูแลสองภาษา คือเพื่อดูแลผู้สูงอายุต่างชาติ เพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสาร ผู้ดูแลจะได้รู้ว่าผู้สูงอายุต้องการอะไรหรือมีอาการเจ็บป่วยตรงไหน เพื่อจะได้ตอบสนองให้ตรงจุด เพราะหากมีการสื่อสารผิดพลาด อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและป็นอันตรายต่อตัวผู้สูงอายุได้ ผู้ดูแลที่มีทักษะในการสื่อสารดี จะทำให้สามารถเข้าใจผู้สูงอายุได้มากขึ้นอีกด้วย
2. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ดูแลและผู้สูงอายุ หากผู้ดูแลสามารถพูดภาษาเดียวกับผู้สูงอายุได้ จะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกสบายใจและไว้ใจผู้ดูแลมากขึ้น เพราะการจ้างผู้ดูแลให้อยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง หากไม่สามารถสื่อสารกันได้เข้าใจ จะทำให้ทั้งผู้ดูแลและผู้สูงอายุรู้สึกอึดอัด การจ้างผู้ดูแลสองภาษายังช่วยให้การทำกิจกรรม ต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่น เช่น การพาผู้สูงอายุออกไปเดินเล่น ผ่อนคลาย รวมถึงการพาผู้สูงอายุไปพบแพทย์ ผู้ดูแลจะสามารถเป็นตัวกลางในการสื่อสารได้
3. สร้างความมั่นใจให้กับครอบครัวของผู้สูงอายุและตัวของผู้สูงอายุ การจ้างผู้ดูแลสองภาษา ทำให้มั่นใจได้ว่า ผู้ดูแลจะสามารถดูแลผู้สูงอายุได้เต็มที่ คอยอยู่คุยเป็นเพื่อนผู้สูงอายุได้ การดูแลก็เป็นไปอย่างปลอดภัย และสามารถเป็นทางเลือกให้กับญาติผู้สูงอายุ หรือตัวผู้สูงอายุเองในการจ้างผู้ดูแลได้อีกด้วย

สำหรับผู้ที่ต้องการจ้างคนต่างชาติ เช่น สัญชาติฟิลลิปปินส์ พม่า ลาว หรือ กัมพูชา เพื่อดูแลผู้สูงอายุ ต้องเตรียมอะไรบ้าง
ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ASEAN และยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาทำงานทั้งลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะชาวฟิลิปปินส์ที่ถือเป็นชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง ทำให้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและมีความตั้งใจในการทำงาน ด้วยข้อได้เปรียบทางภาษาทำให้โอกาสที่แรงงานเหล่านี้เข้าไปทำงานแม่บ้าน หรือแม่บ้านดูแลผู้สูงอายุชาวต่างชาติในประเทศไทย

สำหรับผู้ที่ต้องการจ้างคนต่างชาติ เช่น สัญชาติฟิลิปปินส์ พม่า ลาว หรือ กัมพูชา เพื่อดูแลผู้สูงอายุ ต้องเตรียมอะไรบ้าง

1. เตรียมอุปกรณ์ในการดูแลผู้สูงอายุให้พร้อม เช่นอุปกรณ์พยุงช่วยเดิน (Walker) อุปกรณ์ทำความสะอาด สำลี ถุงมือยาง หน้ากากอนามัย เพื่อช่วยให้พี่เลี้ยงชาวต่างชาติทำงานได้สะดวกขึ้น บางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นชาวต่างชาติ อาจมีอุปสรรคทางการสื่อสาร การเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม คนต่างชาติที่มาทำงานได้ตามหน้าที่
2. ตรวจสอบกฎหมายเรื่องใบอนุญาตการทำงาน แน่นอนว่าผู้ที่มารับจ้างดูแลผู้สูงอายุชาวต่างชาตินั้นต้องมีบัตรทำงานหรือใบอนุญาตทำงานจึงเป็นเอกสารสำคัญ ซึ่งนายจ้างทุกคนสามารถตรวจสอบบัตรทำงานได้ ซึ่งจะมีบัตรประเภท MOU และกลุ่มพิสูจน์สัญชาติในประเทศ โดยกลุ่ม MOU จะเป็นบัตรสีขาว และเล่มสีน้ำเงิน มีตราประทับในเล่มระบุ MOU เพื่อความสะดวกควรเลือกจ้างบริษัทที่ดูแล MOU ให้พนักงาน สัญชาติฟิลิปปินส์ พม่า ลาว หรือ กัมพูชา เพื่อลดขั้นตอนความยุ่งยาก
3. ต้องทำการตรวจประวัติอาชญากรรม เพราะแรงงานที่เข้ามามีความหลากหลาย บางครั้งเราไม่อาจทราบได้ว่าเคยมีปัญหาอะไรมาบ้าง การมีหนังสือรับรองก็สามารถ แน่นอนเราต้องสอบถามถิ่นที่พัก พักที่ไหน หากเกิดเหตุฉุกเฉินต้องติดต่อใคร ส่วนหลักประกันนั้น ตัวแทนหรือบริษัทควรเป็นผู้ดูแลหากเกิดความเสียหายขึ้นมา
4. ตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพกับกระทรวงสาธารณสุข ตามกฎหมายแรงงาน ต่างด้าวที่ต้องการทำงานในประเทศไทยต้องทำการตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรับรองว่าไม่เป็นโรคต้องห้าม ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการทำงานดูแลผู้สูงอายุ เพราะผู้สูงอายุสามารถรับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย
5.เตรียมทำความเข้าใจกับผู้สูงอายุ ว่าคนที่จ้างมาทำหน้าที่อะไรบ้าง เพื่อลดความรำคาญใจ หากคนที่จ้างมาทำงานไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ ซึ่งอาจเป็นงานนอกเหนือกว่าที่ตกลงไว้
ระหว่างผู้ดูแลผู้สูงอายุชาวไทยที่มีทักษะภาษาอังกฤษกับผู้ดูแลผู้สูงอายุต่างด้าว แบบไหนค่าจ้างจะสูงกว่ากัน
ก่อนอื่นต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า แรงงานไทยที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ จะต้องการค่าจ้างที่สูง ดังนั้นเมื่อเราจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษหรือภาษาที่สองได้ ย่อมทำให้มีรายจ่ายที่สูงขึ้นเป็นธรรมดา หากเราลองมองตัวเลือกที่เป็นผู้ให้บริการชาวต่างชาติ (ต่างด้าว) เช่น ฟิลิปปินส์ ลาว หรือพม่า เป็นต้น ผู้ให้บริการเหล่านี้มาเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้นจะมีข้อดีอย่างไรบ้าง เรามีข้อมูลบางส่วนเพื่อประกอบการตัดสินใจให้ง่ายขึ้น

1. ค่าจ้างแรงงานต่างด้าวถูกกว่าค่าจ้างแรงงานคนไทย ค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมายกำหนดไว้ที่ 300 กว่าบาทต่อวัน ซึ่งแรงงานไทยน้อยคนที่จะยอมรับได้ ทำให้พยายามหางานใหม่ที่ค่าจ้างสูงกว่า ลาออกบ่อย แต่สำหรับแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในประเทศไทยค่าจ้างขั้นต่ำในอัตรานี้ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเมื่อเทียบกับค่าแรงในบ้านเกิด ทำให้มีการลาออกน้อยและสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
2. ทักษะและฝีมือในการทำงานใกล้เคียงกับแรงงานชาวไทย
3. แรงงานต่างด้าวมีความยืดหยุ่น มีความอดทนสูงและมีความพร้อมทำงานอย่างเต็มที่อยู่ตลอดเวลา

เว็บไซต์ของใส่ใจมีข้อมูลผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุที่พูดภาษาอังกฤษได้หรือไม่
สำหรับท่านที่กำลังมองหาผู้ดูแลผู้สูงอายุที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ท่านสามารถค้นหาผู้ดูแลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวโดยระบุในตัวคัดกรอง (Filters) เพื่อให้ระบบแสดงข้อมูลของผู้ให้บริการที่ตรงตามความต้องการของท่าน และท่านสามารถเลือกดูประวัติของผู้ให้บริการที่ท่านสนใจ รวมถึงอัตรค่าบริการและรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการ เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุ