พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ใน กะทู้, ภูเก็ต

พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ใน กะทู้, ภูเก็ต

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ชาตรี หนูเขต
ชาตรี หนูเขต
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น ตรงต่อเวลา มนุษย์สัมพันธ์ดี ชอบช่วยเหลือ รักสัตว์ สู้้งานไม่ทิ้งงาน

แสดงเพิ่มเติม
Naruemol Suttigerd
Naruemol Suttigerd
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล
Nuttawan Lompitak
Nuttawan Lompitak
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เคยดูแลและพยาบาลสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงไว้เองจนสิ้นอายุขัยตามธรรมชาติ ทั้งสุนัข แมว ไก่ และปลา ลูกค้าท่านใดที่มีสัตว์เลี้ยงแปลกๆ สามารถสอบถามก่อนได้ค่ะ พร้อมที่จะเรียนรู้ และยินดีให้บริการค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ธนัชชา ชาคริยา
ธนัชชา ชาคริยา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เราต้องไปต่างจังหวัดหลายวัน แล้วนกแก้วมาคอว์ที่เลี้ยงไว้ดันมามีอาการแปลก ๆ ตอนเราไม่อยู่ โชคดีที่พี่เลี้ยงช่วยดูแลหายา และมาดูแลจนน้องกลับมาเป็นปกติเลยครับ อยากขอบคุณพี่เลี้ยงมาก ๆ ครับ
Saijai
ณัฐภัทร ดวงดี
4 ปีที่แล้ว
จ้างคนดูแลสัตว์เลี้ยงให้มาดูแลสุนัข 3 ตัว เค้าบริการดีทุกขั้นตอน ให้อาหารให้น้ำ พาน้องไปถ่าย ไปวิ่งเล่นตรงเวลาตลอดเลย กลับบ้านมาน้องดูร่าเริงมาก ประทับใจมากค่ะ
Saijai
ณรงค์เดช อชิวารักษ์
5 ปีที่แล้ว
พี่เลี้ยงจะใส่ใจดูแลน้องอย่างเต็มที่ วันไปรับน้องมีความสุขกระโดดหาเหมือนเดิม
Saijai
ปลายดาว ธวัชพลังกร
5 ปีที่แล้ว
ประทับใจที่ดูแลน้องดี สะอาด มีของเล่น เล่นกับน้อง
Saijai
สุภัสสรา รัศมีงาม
5 ปีที่แล้ว
พี่เลี้ยงดูแลน้องดุ๊กดิ๊กดีมากค่ะ เป็นเพื่อนเล่นกับน้อง ทำให้น้องมีความสุขมากเลยค่ะ
Saijai
วริษา ชราปรีชากุล
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงควรดูแลสัตว์เลี้ยงด้านใดบ้าง
รักสัตว์ ไม่อยากให้เขาต้องถูกกักขังหรือไม่อยากให้เขาต้องเปลี่ยนที่อยู่ ไปอยู่ในกรงแคบ ๆ หรืออยู่กับเพื่อนแปลกหน้า บางที่อาจจะรับฝากสัตว์หลายชนิด เช่น มีทั้งสุนัขและแมว อยู่ในที่เดียวกันแต่ขังกรงไว้แยกกัน ทำให้สัตว์เลี้ยงของเราเกิดความกังวลใจ รู้สึกไม่ปลอดภัย สุดท้ายคนที่รู้สึกแย่และรู้สึกไม่ดี ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่เจ้าของที่อาจจะทุกข์ใจมากกว่า คนที่มีสัตว์เลี้ยงจะเข้าใจถึงความรู้สึกนี้มากที่สุด ดังนั้น อาชีพพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจึงเกิดขึ้น

หน้าที่และบทบาทของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีอะไรกันบ้างมาดูกันค่ะ

1. พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสามารถมาดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ถึงบ้าน เพื่อให้สัตว์เลี้ยงของเราได้อยู่ในบ้านโดยไม่ต้องขังกรง หรือว่าง่ายๆ ก็คือ อยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมที่คุ้นเคย ไม่ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า เพราะแค่ไม่มีเจ้าของอยู่ใกล้ๆ เขาก็เศร้ามากพอแล้ว อย่างน้อยหากสัตว์เลี้ยงยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิม ย่อมดีต่อสัตว์เลี้ยงมากที่สุด
2. คอยส่งภาพถ่ายของสัตว์เลี้ยงแสนรักให้เจ้าของได้อัปเดตอยู่ตลอดเวลา เจ้าของมีความสบายใจไม่ต้องคอยกังวลว่าสัตว์เลี้ยงจะเป็นอย่างไร มีความสุขดีไหมเวลาที่เจ้าของไม่อยู่ดูแล
3. คนที่มาทำอาชีพพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงส่วนมากจะเป็นคนที่รักสัตว์อยู่แล้ว และส่วนมากจะมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสัตว์เป็นอย่างดี เจ้าของสามารถไว้วางใจได้ว่าหากสัตว์เลี้ยงมีอาการผิดปกติ พี่เลี้ยงจะสังเกตอาการได้ทันที ทำให้สัตว์ปลอดภัยเพราะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
บริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเชื่อถือได้หรือไม่
หากจะฝากสัตว์เลี้ยงแสนรักไว้กับใครสักคน เราจะไว้ใจเขาได้อย่างไร วันนี้มีคำแนะนำมาบอกค่ะ

1) คัดกรองคนก่อนรับเข้าทำงาน เราจะต้องทราบรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับคนที่เราจะเลือกมาทำหน้าที่ “พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง” ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยว่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ประวัติการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงาน หรืออาจจะต้องตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่าว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงคนนี้มีการทำงานเป็นอย่างไร
2) ต้องทำการคุยและสัมภาษณ์พี่เลี้ยงก่อนทำการจ้างงาน ลองทดสอบโดยให้อยู่กับสัตว์เลี้ยงหรือสร้างสถานการณ์ขึ้นมาแล้วให้พี่เลี้ยงตอบว่าหากเจอเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้จะต้องทำอย่างไร รวมทั้งทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสัตว์ว่ามีเพียงพอหรือไม่ ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และการดูแลใส่ใจ การเลือกอาหารอีกทั้งการความสะอาดด้วย แม้ว่าการจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีความรู้ และมีประสบการณ์อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการจ้างคนที่ไม่มีประสบการณ์ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าและลดความเสี่ยงที่สัตว์เลี้ยงจะไม่ปลอดภัยได้
3) นิสัยใจคอ ควรพิจารณานิสัยส่วนตัวของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ดี โดยทำการสังเกตไม่ว่าจะเป็นการพูด การแสดงออกเมื่ออยู่กับสัตว์ ที่สำคัญควรจะเป็นบุคคลที่ใจเย็น ไม่หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย เพราะการดูแลสัตว์หากไม่มีใจรักแล้วย่อมจะทำงานได้ยาก

จากคำแนะนำดังกล่าวข้างต้น เราจะไว้ใจพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้หรือไม่ เริ่มต้นตั้งแต่การคัดเลือกคนเข้ามาทำงานนี้ อีกวิธีที่สามารถช่วยให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงวางใจได้ก็คือ การติดกล้องวงจรปิดไว้ในบ้าน เพื่อคอยหมั่นตรวจสอบพฤติกรรมของทั้งสัตว์เลี้ยงและพี่เลี้ยงไปในตัว
จ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงคิดค่าบริการครั้งละเท่าไหร่
พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง คือ ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มาถึงบ้านตามเวลาที่กำหนดเพื่อให้อาหาร อาบน้ำ พาสัตว์เลี้ยงทำการถ่ายหนัก/เบา ดูแลเรื่องความสะอาดต่าง ๆ พี่เลี้ยงไม่เพียงแต่ดูแลสัตว์เลี้ยงเท่านั้นแต่ยังอาศัยอยู่ที่บ้านของเจ้าของเพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีเพื่อนเล่นและไม่รู้สึกหดหู่แถมยังรู้สึกปลอดภัย สัตว์เลี้ยงไม่มีความเครียดเพราะได้อยู่ในบ้านของตัวเอง

ราคาสำหรับบริการดูแลสัตว์เลี้ยงจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้

1) พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแบบไปเช้า/เย็นกลับ หรือแบบค้างคืน ราคาก็จะแตกต่างกันไป ซึ่งแบบค้างคืนจะมีราคาสูงกว่าเพราะพี่เลี้ยงต้องใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยงทั้งวันทั้งคืน
2) จำนวนของสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูแล หากมีสัตว์เลี้ยงมากกว่า 1 ตัว ราคาจะเพิ่มตามจำนวนของสัตว์เลี้ยง ยิ่งสัตว์เลี้ยงจำนวนมากเท่าไหร่ ความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงก็ต้องมากตามไปด้วย
3) ประเภทของสัตว์ที่ต้องดูแล มีความยากง่ายแตกต่างกันไป เช่น สุนัข แมว กระต่าย หนูตะเภา นก หรือสัตว์เลื้อยคลานอื่น ๆ ที่เป็นสัตว์แปลกก็จะดูแลยากขึ้นไปอีกเพราะต้องเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญจริง ๆ จึงจะดูแลสัตว์เหล่านั้นได้
4) ขนาดของสัตว์เลี้ยงก็มีผลกับการดูแลเช่นกัน ว่าจะมีราคาแตกต่างกันอย่างไร จากการตรวจสอบและสรุปคร่าวๆ พบว่า ราคามาตรฐานของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะเริ่มต้นอยู่ที่ 300 บาทจนถึงสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น

ดังนั้นเจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถเลือกและลองพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูก่อนเพื่อหาคนที่ถูกใจจริง ๆ มาดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณ
เราจะรู้ได้อย่างไรมาสัตว์เลี้ยงของเรานั้นมีน้ำหนักเกินเกณฑ์
หลาย ๆ คนที่เลี้ยงสัตว์อาจชอบซื้อขนมจุกจิกให้สัตว์เลี้ยงแสนรักกินเล่นอยู่บ่อย ๆ หรือบางครั้งอาจมานั่งมองเวลาที่เรากำลังกินอาหารอยู่ด้วยสายตาที่ต้องการกินอาหารเหล่านั้นด้วย จึงทำให้เราเกิดความสงสารและต้องแบ่งอาหารให้พวกมันกินในที่สุด แต่หากพวกมันกินเยอะจนน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ เพราะสัตว์เลี้ยงที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์ปกติอาจทำให้มีโรคอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคกระดูกและข้อ โรคหัวใจและหลอดเลือด ฯลฯ ซึ่งคงไม่ดีแน่หากพวกมันเป็นโรคเหล่านี้ เพราะเจ้าของอาจจะต้องพาไปหาสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษาอยู่บ่อย ๆ

สัตว์เลี้ยงที่มีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐานนั้นอาจเกิดจากสาเหตุที่พวกมันได้รับการเผาผลาญพลังงานในร่างกายไม่สมดุลกับสิ่งที่ได้กินไปในแต่ละครั้งนั่นเอง บางครั้งอาจเกิดจากพันธุกรรม อายุ หรือแม้กระทั่งสาเหตุจากการทำหมันด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงมีน้ำหนักที่เกินเกณฑ์ เจ้าของควรให้สัตว์เลี้ยงได้ออกกำลังกายเพื่อเป็นการเผาผลาญพลังงานด้วย พยายามหากิจกรรมง่าย ๆ ทำเช่น ฝึกให้สัตว์เลี้ยงวิ่งไปเก็บของเล่น หรืออาจพาไปเดินเล่นออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาทีก็ถือว่าช่วยได้มากเลยทีเดียว และที่สำคัญคือเจ้าของควรควบคุมอาหารที่ต้องให้สัตว์เลี้ยงกินในแต่ละวันในสัดส่วนที่เหมาะสมด้วย และหมั่นชั่งน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงอยู่บ่อย ๆ เพื่อตรวจสอบดูว่าพวกมันมีน้ำหนักที่เกินเกณฑ์หรือไม่ หากมีน้ำหนักที่เกินกว่ามาตรฐานก็ควรรีบหาวิธีแก้ไขโดยเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคที่จะส่งผลต่อสุขภาพและชีวิตของสัตว์เลี้ยงได้