วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
บริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันตอนนี้ทำงานขับรถผู้บริหารจนถึงปัจจุบัน9 ปี~นาย แสวง แสงยางใหญ่~Sawang sangyangyai~ อายุ 40 ปี~ส่วนสูง 168 หนัก 70~จบวุฒิการศึกษา ม.6~เป็นทหารมา 2 ปี ~ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่~รับวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว~รู้เส้นทางในกรุงเทพดี และต่างจังหวัด ~ขับได้ทั้งรถยุโรปและญี่ปุ่น~ใช้ google maps คล่อง~ภาษาอังกฤษพื้นฐานได้ และใช้แอพแปลภาษาคล่อง~ 🙏🙏🙏-รับงานเฉพาะวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ครับ
เคยเป็นพนักงานขับรถ U Drink I Drive ขับรถให้กับลูกค้า VIP สามารถขับได้ทั้งรถยุโรป แล้วรถญี่ปุ่น ทั้งเกียร์ Auto และเกียร์ ธรรมดา สาเหตุที่ออกเนื่องจากสถานะการณ์ Covid 19 ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบ จึงลาออก มีประสบการณ์บริษัท 3 ปี มีประสบการ์ขับรถ 15 ปี มีใบขับขี่ สามารถดูแลและเช็คสภาพรถเบื้องต้นได้ รู้เส้นทางในกรุงเทพ และ ปริมณฑล สามารถเดินทางไปต่างจังหวัดได้ เสาร์-อาทิตย์ เก็บความลับของลูกค้า เป็นคนใจเย็น ไม่ขับรถเร็ว ปลอดภัย ขับรถถนุถนอม สามารถดูแลลูกค้าได้ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ตรงต่อเวลา พักอยู่ บางบัวทอง นนทบุรี สามารถตกลงรายละเอียดกันก่อนได้ ยืดหยุ่นได้เต็มที่ครับ
บริการขับรถในกรุงเทพฯ หรือไปตามต่างจังหวัด ประสบการณ์ขับรถตู้ตั้งแต่ปี 2558 ใจเย็น และรองรับแรงกดดันได้ดี สุภาพ มีความอดทนสูง สามารถขับรถยี่ปุ่นรถยุโรปได้ดี มีน้ำใจและเป็นมิตรต่อลูกค้า ไม่มีประวัติเฉี่ยวชน
ขับรถตู้รถเก๋งได้ รักเด็กและเอ็นดูผู้สูงอายุ สามารถบริการขับให้นั่งได้อย่างปลอดภัยค่ะ.....แล้วพบกันนะคะ
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา คนขับรถ
• คนขับรถควรมีใบขับขี่รถยนต์ และขับรถได้อย่างสุภาพ นุ่มนวล ถูกกฎจราจร คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเมื่อทำการขับขี่ เพราะคนขับรถต้องดูแลรับผิดชอบชีวิตของอีกหลายๆชีวิตภายในรถ รวมทั้งทรัพย์สินต่าง ๆของผู้โดยสารอีกด้วย อย่างเช่นตัวอย่างตามข่าวที่เราเห็นกันบ่อย ๆ อุบัติเหตุส่วนมากเกิดจากคนขับรถที่ประมาท
• มีความรอบรู้เรื่องเส้นทางต่าง ๆ เป็นอย่างดี
• เป็นคนตรงต่อเวลา กระตือรือร้น และพร้อมที่จะทำงานอยู่เสมอ
• มีบุคลิกที่ดี มนุษยสัมพันธ์ดี พูดจาไพเราะ มีความสุภาพ และมีมารยาทที่ดี สิ่งเหล่านี้ส่งผลกับผู้ที่นั่งโดยสารอยู่ในรถด้วย ในบางครั้งที่รถติดหากมีคนขับรถที่พูดคุยดีมีมารยาทก็ช่วยลดความเครียดได้ดีเลยทีเดียว
• คนขับรถควรมีทัศนคติดี เช่น ขับอย่างสุภาพ ไม่ขับฝ่าไฟเหลืองหรือไฟแดง ขับด้วยความเร็วและไม่มีมารยาทบนท้องถนน พฤติกรรมเหล่านี้เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
• เป็นคนขับรถที่มีน้ำใจบนท้องถนน ในช่วงเวลาเร่งด่วน ทุกคนต่างต้องการไปให้ถึงจุดหมายตามกำหนดเวลา การขับรถไม่เพียงแต่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ควรมีน้ำใจซึ่งกันและกันด้วย เช่น การจอดรถให้คนข้ามถนน การขับรถช้า ๆเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นใส่คนที่เดินอยู่ริมถนน หรือการชะลอความเร็วเพื่อให้รถคันอื่นไปก่อน
• คนขับรถควรมีสุขภาพที่แข็งแรง มีสติสัมปชัญญะและสมาธิครบถ้วนพร้อมให้บริการในการขับรถ
• คนขับรถที่ดีต้องรู้เทคนิคการตรวจสอบความปลอดภัยของรถแต่ละรุ่น รู้จักการซ่อมบำรุงรถยนต์ขั้นพื้นฐานได้ เปลี่ยนยาง เช็คน้ำมันเครื่อง มีชำนาญในการล้างรถยนต์ และดูแลรถยนต์ให้สะอาดและอยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ
• รู้จักรักษาความลับของเจ้านายเป็นอย่างดี และเป็นคนที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดี
เมื่อมองในเรื่องของค่าใช้จ่าย หากคุณเลือกใช้บริการคนขับรถระยะยาวแล้วคุณไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป เพราะการจ่ายค่าจ้างแบบระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นรายเดือน หรือรายปี คุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายเองได้อย่างชัดเจน อีกทั้งการลงทุนในการจ้างคนขับรถส่วนตัวจะทำให้คุณได้รับการบริการที่สะดวกและสบายกลับมาด้วย ซึ่งถือว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะในระยะสั้นซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า แต่คุณจะไม่สามารถประเมินค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้เลย เนื่องจากการเดินทางในแต่ละวันของคุณนั้นไม่มีอะไรที่แน่นอน ลองนึกภาพในวันที่คุณเดินทางโดยใช้บริการรถสาธารณะอย่างแท็กซี่ สภาพการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนนยิ่งทำให้คุณไม่สามารถกำหนดค่าบริการที่ชัดเจนได้เพราะระยะทางและเวลาที่ไม่แน่นอนนั่นเอง ในขณะเดียวกันไม่มีอะไรมารับประกันความปลอดภัยให้คุณได้
ซึ่งแตกต่างจากการใช้บริการคนขับรถส่วนตัวที่คุณจ้างมาเอง นอกจากจะสามารถยืนยันเรื่องความสะดวกสบายได้แล้ว ยังสามารถยืนยันเรื่องความปลอดภัยให้คุณได้ด้วย เห็นได้ชัดว่าการเลือกใช้บริการคนขับรถส่วนตัวนั้นมีข้อดีกว่ามาก ทั้งในเรื่องของความสะดวกสบายในการเดินทางและการบริการ ที่สำคัญเมื่อลองคำนวณจากการใช้บริการในระยะยาว เรื่องค่าใช้จ่ายถือว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้สำหรับการเลือกใช้บริการนี้
1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยในสัญญาควรระบุว่าเป็นลักษณะการว่าจ้างแบบระยะยาวหรือระยะสั้น มีระยะเวลาตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน ที่สำคัญควรระบุอัตราค่าจ้างไว้อย่างชัดเจน
2. ผู้ว่าจ้างควรตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ เช่นเอกสารยืนยันผ่านการฝึกอบรม และใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะของคนขับรถที่ถูกจ้างมา เพื่อเป็นการยืนยันว่าคนขับรถคนนั้นได้รับอนุญาตให้ขับขี่ยานพาหนะอย่างถูกกฎหมายและมีความเป็นมืออาชีพสูงเนื่องจากผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว
3. ผู้ว่าจ้างควรตรวจสอบประวัติของคนขับรถอีกครั้งให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่าคนขับรถที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมหรือเคยกระทำผิดร้ายแรงมาก่อน
4. แจกแจงเรื่องสวัสดิการต่าง ๆ ให้คนขับรถทราบ เช่น ประกันสังคม หรือสวัสดิการอื่น ๆ ที่ควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน
5. ข้อตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากค่าจ้างของคนขับรถ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าตรวจเช็คสภาพรถ บางครั้งนายจ้างอาจกำหนดค่าใช้จ่ายในการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ให้คนขับรถรับรู้และประเมินค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ในยามที่ต้องนำรถยนต์ไปเช็คสภาพ
6. ข้อตกลงเกี่ยวกับเงื่อนไขอื่น ๆ ในการปฏิบัติงาน คนขับรถควรและไม่ควรทำอะไรบ้างในระหว่างการปฏิบัติงาน เช่น ไม่ควรดื่มสิ่งของมึนเมา ไม่ควรนำรถไปใช้ในการส่วนตัว ฯลฯ
ทั้งหมดนี้คือข้อตกลงหลัก ๆ ที่คุณและคนขับรถควรทำความเข้าใจร่วมกันก่อนเริ่มปฏิบัติงาน
สวนลิ้นจี่ 100 ปี ปอดแห่งบางขุนเทียน
ลิ้นจี่เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่นิยมปลูกตลอดสองริมฝั่งคลองช่วงวัดบางขุนเทียนนอก บางขุนเทียนกลาง บางขุนเทียนใน ปัจจุบันเหลือสวนลิ้นจี่เก่าแก่ ที่จัดว่าเป็นสวนลิ้นจี่ 100 ปี เพียงแห่งเดียวในย่านนี้ คือ Poomjai Garden หรือ ภูมิใจการ์เด้นท์ สวนลิ้นจี่บนพื้นที่ราว 8 ไร่ ที่เคยเป็นที่รกร้าง ต่อมาได้รับการฟื้นฟูให้เป็นสวนผวม แนวเกษตรยั่งยืน ภูมิใจการ์เด้นท์ ตั้งอยู่เลขที่ 9/3 ถนนจอมทอง แขวงจอมทอง เขตจอมทอง สวนลิ้นจี่แห่งนี้ เป็นสวนแห่งความภาคภูมิใจของเจ้าของที่ดินแห่งนี้ ที่ต้องการอนุรักษ์ “สวนแบบโบราณ” ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่สวนมายาวนานเกือบ 200 ปี จึงตั้งชื่อว่า ภูมิใจการ์เด้นท์ สวนแบบโบราณคือการทำสวนแบบปลูกพืชที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ทั้งปี โดยปลูกลิ้นจี่เป็นหลัก แต่ลิ้นจี่จะเก็บได้เพียงปีละครั้ง เจ้าของสวนจะปลูกผลไม้อื่นตามฤดูกาลที่สามารถขายได้ด้วย เช่น ขนุน มะม่วง ตะลิงปิง มะยงชิด มะอึก และพืชผักต่างๆ เพื่อใช้พื้นที่ทุกตารางเมตรให้เป็นระบบนิเวศ ผักผลไม้ที่ปลูกเลยสามารถเก็บเกี่ยวมาทำอาหารได้ตลอดทั้งปี สลับกันไป
ลิ้นจี่ที่ ภูมิใจการ์เด้นท์ ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์กะโหลกใบยาว มีรสหวาน ว่ากันว่าเป็นพันธุ์ที่อร่อยที่สุด อีกพันธุ์คือพันธุ์กะโหลกใบอ้อ ต้นลิ้นจี่ในสวนส่วนมากมีอายุเป็นร้อยปี ปกติลิ้นจี่จะออกลูกปีละครั้งในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน แต่ปัจจุบันแทบไม่ออกผลเลย เนื่องจากลิ้นจี่เป็นพืชที่ชอบอากาศหนาว แต่อากาศไม่หนาวพอจึงต้องรอผลลิ้นจี่นานถึง 5 ปีบ้าง 7 ปีบ้าง จากการพยายามพลิกฟื้นภูมิปัญญาการปลูกลิ้นจี่และการอนุรักษ์ลิ้นจี่โบราณ ภูมิใจการ์เด้นท์จึงดูแลลิ้นจี่อายุกว่า 100 ปี หลายต้นไว้อย่างดี และทำการขึ้นทะเบียนลิ้นจี่ตามโครงการส่งเสริมหนึ่งจังหวัดหนึ่งสิ่งชี้บ่งทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ไว้ด้วย ไม่เพียงเท่านั้น สวนลิ้นจี่โบราณอายุกว่า 100 ปีนี้ ยังได้รับคัดเลือกให้เป็น “รุกขมรดกของแผ่นดินใต้ร่มพระบารมี” จากกระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็นต้นไม้สำคัญของประเทศ
ภายใน ภูมิใจการ์เด้นท์ มีโซนสวน หรือที่เจ้าของเรียกว่า “สวนพิพิธภัณฑ์” เพื่อให้ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนได้ศึกษาการทำสวนโบราณแนวเกษตรยั่งยืน มี “ศาลาภูมิใจ” เป็นศาลาไม้ไผ่ ออกแบบสวยงาม เพื่อให้เป็นที่นั่งรับประทานอาหาร หรือนั่งผ่อนคลายชมทิวทัศน์สองฝั่งคลอง มีการทำเวิร์คชอบ “สำรับชาวสวน” เก็บวัตถุดิบจากในสวนมาปรุงอาหารตามสูตรโบราณ เช่น ปลาทูต้มกะทิสายบัว น้ำพริกมะอึก นอกจากนี้ยังมีโซนคาเฟ่เปิดให้บริการด้วย ชื่อ Natura Garden Café เจ้าของสวนเรียกพื้นที่ส่วนนี้ว่า “ห้องรับแขกของสวน” มีบริการทั้งอาหาร เครื่องดื่มและขนมไทย นั่งทานได้ทั้งในร้าน บริเวณสวนด้านนอก และที่นั่งริมคลอง ได้บรรยากาศความร่มรื่นของธรรมชาติสองฝั่งคลองมากๆ ที่ ภูมิใจการ์เด้นท์ มีที่จอดรถในปริมาณจำกัด แต่สามารถจอดรถด้านนอกเป็นที่จอดรถเอกชน เก็บค่าจอดเพียง 20 บาท แล้วโทรแจ้งให้ทาง ภูมิใจการ์เด้นท์ เอารถออกมารับได้ ถือว่าสะดวกสบาย ภูมิใจการ์เด้นท์ เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10:00 – 18:00 น.ใครต้องการหาสวนร่มรื่น อาหารอร่อย ได้นั่งพักผ่อนคลายเครียด แถมได้ความรู้เรื่องการทำสวนกลับบ้านไปด้วย อย่าลืมแวะมาที่ ภูมิใจ การ์เด้นท์ สักครั้งนะคะ
วัดนางนองวรวิหาร วัดเก่าแก่ในสมัย ร.3 ริมคลองด่าน
วัดนางนองวรวิหารเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ในเส้นทางคมนาคมทางน้ำคือ คลองด่านหรือคลองสนามชัยอยู่ริมคลองฝั่งใต้ตรงข้ามกับวัดหนังราชวรวิหาร เลขที่ตั้งปัจจุบันคือ 76 เขตจอมทอง มีอาณาเขตทางทิศเหนือติดกับคู่เก่าของวัด ทิศใต้ติดกับคลองบางอ้อ ทิศตะวันออกติดกับทางรถไฟ และทิศตะวันตกติดกับคลองด่าน วัดนางนอนวรวิหารเป็นวัดเก่าแก่ที่ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่ สมัยกรุงศรีอยุธยา ในรัชสมัยพระเจ้าเสือ ราวปี พ.ศ. 2245-2252 แขวงบางนางนองเดิมนั้นเป็นนิวาสสถานของ สมเด็จพระศรีสุลาลัย เจ้าจอมมารดาเรียม พระราชชนนีของ รัชกาลที่ 3 ต่อมาตระกูลของสมเด็จพระศรีสุลาลัยย้ายข้ามไปอยู่ทางวัดหนังฝั่งตรงข้าม รัชกาลที่ 3 จึงทรงโปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดนางนองใหม่ทั้งพระอาราม ตามพระราชนิยมในพระองค์ที่พระอุโบสถและพระวิหารคู่ มีศิลปกรรมที่เลียนแบบศิลปะจีนที่ส่วนหลังคาและหน้าบัน หรือหน้าจั่ว เป็นงานก่ออิฐถือปูนเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศ โดยยังคงความเป็นไทยไว้ เช่น บานประตูด้านนอกพระอุโบสถประดับมุกทั้งบาน ด้านในเขียนลายรดน้ำ บานประตูและผนังด้านในเขียนเรื่องจีน การมุงกระเบื้องตามแบบไทย และซ้อนหลังคาในส่วนที่เด่นของตัวอาคาร การบูรณะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2384 โดยพระองค์ให้ประกอบพิธีผูกพัทธสีมาพระอุโบสถและสถาปนาเป็นพระอารามหลวง ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานคือ พระพุทธมหาจักรพรรดิ พระพุทธรูปทรงเครื่อง ปางมารวิชัย 1 ใน 3 องค์ที่มีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งองค์นี้เมื่อเทียบกับอีก 2 องค์ที่เป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดปทุมคงคา เขตสัมพันธวงศ์ และพระประธานในพระอุโบสถวัดหน้าพระเมรุวรวิหาร จ. พระนครศรีอยุธยา ถือว่าสวยงาม วิจิตรอลังการและเป็นเลิศกว่า พระพักตร์เป็นพุทธศิลป์สมัยสุโขทัย ถือเป็นประติมากรรมชิ้นเอกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ระหว่างบานประตูพระอุโบสถเป็นภาพ ฮก ลก ซิ่ว พร้อมเครื่องมงคล ส่วนของพระเจดีย์เป็นแบบย่อมุมไม้ 20 ฐาน 8 เหลี่ยม ยอดแหลมเรียว ด้านหน้าพระเจดีย์ประดิษฐานพระสังข์กัจจายน์ หรือ หลวงพ่อโต ส่วนพระวิหารจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน ประดับปูนปั้นรูปมังกรบริเวณหน้าบัน ใช้กระเบื้องสีประดับเจดีย์จีน
ท่านใดที่มีโอกาสแวะเวียนไปท่องเที่ยวริมคลองด่านหรือคลองสนามชัย อย่าลืมแวะทำบุญกราบพระที่วัดนางนองวรวิหาร แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปวัดหนังวรวิหาร วัดไทร และวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร จะได้ท่องเที่ยวแบบอิ่มบุญค่ะ
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปสอบใบขับขี่รถยนต์
ปัจจุบันกรมการขนส่งได้มีการปรับปรุงระบบการสอบใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน ดังนั้น ผู้ที่กำลังจะไปสอบใบขับขี่ควรเตรียมความพร้อมทั้งทางร่างกายและเอกสารที่จำเป็นต่างๆไว้ ดังนี้
1. สามารถจองคิวเข้ารับการอบรมด้วยระบบออนไลน์ได้ กรมการขนส่งทางบกได้เปิดจองคิวการสอบใบขับขี่ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue (บางจังหวัดบังคับให้จองผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น) หรือโทรศัพท์ติดต่อโดยตรงที่ขนส่งจังหวัดที่ท่านอยู่
2. เตรียมเอกสารให้พร้อม ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนาอีก 1 ชุด ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน และใบรับรองการอบรมหากผู้สอบได้ทำการอบรมนอกขนส่งมาก่อนแล้ว สำหรับชาวต่างชาติให้ใช้หนังสือเดินทาง หรือ Passport หรือใบสำคัญบัตรประจำตัวคนต่างด้าวพร้อมสำเนา
3. เตรียมความพร้อมร่างกาย นอนหลับให้เพียงพอ เพื่อให้มีสมาธิในการทำข้อสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพราะจะมีการทดสอบสมรรถนะทางร่างกายด้วย เช่น การมองเห็น สายตาทางลึก สายตาทางกว้าง และลองอ่านข้อมูลเตรียมสอบในภาคทฤษฎีไว้ด้วย
4. เข้าอบรม 5 ชั่วโมง หลังยื่นเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผู้สอบจะต้องเข้ารับการอบรม 5 ชั่วโมง มีเนื้อหาเกี่ยวกับการขับขี่อย่างปลอดภัย กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และวิธีรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ขับขี่ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท มีความระมัดระวังทุกครั้งที่ขับขี่ และสามารถนำความรู้จากการอบรมไปใช้ปฏิบัติได้จริง
5.ข้อสอบปรนัย ข้อสอบที่มีการปรับปรุงล่าสุดจากประกาศกรมการขนส่งทางบก วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 เน้นเนื้อหาเชิงวิเคราะห์มากขึ้น เน้นแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเหตุการณ์ฉุกเฉินขณะขับขี่ ส่วนป้ายจราจรถูกลดลงเหลือ 10-20 เปอร์เซ็นต์ โดยจะเป็นการสุ่มข้อสอบจำนวน 50 ข้อ แบบปรนัย (ตัวเลือก ก-ง) ซึ่งผู้เข้าสอบต้องทำข้อสอบให้ได้ร้อยละ 90 เปอร์เซ็นต์ หรือ 45 ข้อ หากสอบไม่ผ่าน ขั้นตอนต่อไปจะถูกระงับ ผู้เข้าสอบจะต้องมาสอบใหม่โดยกำหนดไม่เกิน 90 วัน
6. สอบขับขี่รถยนต์ มีทั้งหมด 3 ด่าน คือ
- ขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง ในช่องเดินรถระยะ 12 เมตร โดยต้องไม่ขับชนหรือเบียดเสา
- ขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า โดยต้องจอดขนาน ห่างจากขอบทางไม่เกิน 25 ซม. ล้อหน้าและหลังทับเส้นสีที่กำหนด กันชนหน้าไม่เกินจุดหยุดรถข้างทางและห่างจากเส้นหยุดรถไม่เกิน 1 เมตร
- ขับรถถอยเข้าซองและออกจากช่องว่างด้านซ้าย เปลี่ยนเกียร์ได้ไม่เกิน 7 ครั้ง ไม่ชนหรือเบียดเสาในพื้นที่กำหนด
7. ชำระค่าธรรมเนียมและถ่ายรูปติดบัตร เมื่อทำการทดสอบทุกอย่างผ่านหมดแล้ว จะต้องเสียค่าใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนตัวส่วนบุคคลชั่วคราว 200 บาท และค่าคำขอ 5 บาท รวมเป็น 205 บาท สำหรับใบขับขี่รถยนต์แบบ5 ปี มีค่าใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล 500 บาท ค่าคำขอ 5 บาท รวมเป็น 505 บาท
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วคุณจะสามารถสอบผ่านได้อย่างผ่านฉลุย
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง