วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
แสดงผล 21 ถึง 21 จาก 21 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา คนขับรถ
• คนขับรถควรมีใบขับขี่รถยนต์ และขับรถได้อย่างสุภาพ นุ่มนวล ถูกกฎจราจร คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเมื่อทำการขับขี่ เพราะคนขับรถต้องดูแลรับผิดชอบชีวิตของอีกหลายๆชีวิตภายในรถ รวมทั้งทรัพย์สินต่าง ๆของผู้โดยสารอีกด้วย อย่างเช่นตัวอย่างตามข่าวที่เราเห็นกันบ่อย ๆ อุบัติเหตุส่วนมากเกิดจากคนขับรถที่ประมาท
• มีความรอบรู้เรื่องเส้นทางต่าง ๆ เป็นอย่างดี
• เป็นคนตรงต่อเวลา กระตือรือร้น และพร้อมที่จะทำงานอยู่เสมอ
• มีบุคลิกที่ดี มนุษยสัมพันธ์ดี พูดจาไพเราะ มีความสุภาพ และมีมารยาทที่ดี สิ่งเหล่านี้ส่งผลกับผู้ที่นั่งโดยสารอยู่ในรถด้วย ในบางครั้งที่รถติดหากมีคนขับรถที่พูดคุยดีมีมารยาทก็ช่วยลดความเครียดได้ดีเลยทีเดียว
• คนขับรถควรมีทัศนคติดี เช่น ขับอย่างสุภาพ ไม่ขับฝ่าไฟเหลืองหรือไฟแดง ขับด้วยความเร็วและไม่มีมารยาทบนท้องถนน พฤติกรรมเหล่านี้เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
• เป็นคนขับรถที่มีน้ำใจบนท้องถนน ในช่วงเวลาเร่งด่วน ทุกคนต่างต้องการไปให้ถึงจุดหมายตามกำหนดเวลา การขับรถไม่เพียงแต่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ควรมีน้ำใจซึ่งกันและกันด้วย เช่น การจอดรถให้คนข้ามถนน การขับรถช้า ๆเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นใส่คนที่เดินอยู่ริมถนน หรือการชะลอความเร็วเพื่อให้รถคันอื่นไปก่อน
• คนขับรถควรมีสุขภาพที่แข็งแรง มีสติสัมปชัญญะและสมาธิครบถ้วนพร้อมให้บริการในการขับรถ
• คนขับรถที่ดีต้องรู้เทคนิคการตรวจสอบความปลอดภัยของรถแต่ละรุ่น รู้จักการซ่อมบำรุงรถยนต์ขั้นพื้นฐานได้ เปลี่ยนยาง เช็คน้ำมันเครื่อง มีชำนาญในการล้างรถยนต์ และดูแลรถยนต์ให้สะอาดและอยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ
• รู้จักรักษาความลับของเจ้านายเป็นอย่างดี และเป็นคนที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดี
อย่างไรก็ตามสำหรับนักธุรกิจหรือคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ การมีคนขับรถส่วนตัวช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นอีกมาก จึงเกิดคำถามว่าการจ้างคนขับรถส่วนตัวค่าใช้จ่ายสูงจริงหรือไม่ หากเราใช้บริการจากบริษัทจัดหาคนขับรถ ที่มีบริการคนขับรถประจำสำนักงานที่มีประสบการณ์ขับรถ (แน่นอน เพราะคนขับรถส่วนตัวต้องใช้ความรับผิดชอบ ทักษะ และประสบการณ์สูง อย่างน้อยต้องมีประสบการณ์ในการขับรถหลายปีขึ้นไป) ชำนาญเส้นทางในที่เราทำงานอยู่หรือสามารถพาเราไปในจังหวัดหรือพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยได้
และหากใครที่ต้องการพนักงานขับรถให้เจ้านายชาวต่างชาติ หรือบริการลูกค้าชาวต่างชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง การได้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และภาษาของเจ้านายหรือลูกค้าบ้างนิด ๆ หน่อยๆ เป็นรอง จะอำนวยความสะดวกมากขึ้นเพราะเจ้านายหรือลูกค้าที่ใช้บริการเหล่านี้ไม่ชำนาญเส้นทางในที่ที่เราทำงานอยู่ หากเรามีพนักงานขับรถที่ไว้ใจได้ ได้มาตรฐานสากลและด้วยในอัตราค่าบริการแบบเหมา "รายเดือน" เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่ได้กลับมาย่อมคุ้มค่ามาก ๆ เพราะลูกค้าที่ใช้บริการได้พักผ่อนระหว่างเดินทาง หรือเตรียมงาน เตรียมตัวบนรถระหว่างเดินทางไปทำธุระ สามารถเดินทางไปได้ทันเวลาไม่ว่าจะไปสนามบิน หรือที่ทำงาน หรือสถานที่ไกลๆ สุดท้ายถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายจ้างพนักงานขับรถไปบ้าง แต่ก็คุ้มค่าที่สุด กับสิ่งที่ได้รับกลับมา “เราได้ซื้อเวลา สุขภาพ ความปลอดภัยในการเดินทางและความสำเร็จทางธุรกิจ”
1. ตกลงคุยเวลาทำงาน เริ่มงานกี่โมงเสร็จกี่โมง ทำงานกี่วันต่อสัปดาห์ กรณีทำงานล่วงเวลา overtime จะคิดค่าแรงอย่างไร หากต้องเดินทางไปต่างจังหวัดมีเบี้ยเลี้ยงเท่าไร ตกลงเรื่องวันหยุดวันลาต้องแจ้งล่วงหน้ากี่วันเพราะเราจะได้จัดหาคนมาทำงานแทน หากกรณีไม่ขาดงานไม่แจ้งล่วงหน้า ต้องยินยอมให้ปรับ หรือ ชดเชยค่าเสียหายได้
2. ประสบการณ์การทำงาน ความชำนาญในเส้นทางหลัก ที่ใช้ประจำหรือเส้นทางที่ผู้จ้างไปทำธุระ นอกจากนั้นคนขับรถอาจต้องดูแลแขกหรือลูกค้าของผู้ว่าจ้างด้วย ประสบการณ์การทำงาน บุคลิกภาพและมารยาท ก็เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงได้
3. สวัสดิการที่จะได้รับ ประกันสังคม ประกันสุขภาพ โบนัสเงินรางวัล ตามโอกาสเทศกาลต่าง ๆ ตามสมควร
4. ยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม หรือมีเงินประกัน เพื่อความปลอดภัยและสบายใจได้ในระดับหนึ่ง
5. บางครั้งอาจต้องมองถึงที่พักของคนขับรถที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน เพราะคนขับรถต้องเตรียมพร้อมก่อนเวลางาน และ กลับหลังเสร็จงานที่ไม่ไกลจากที่ทำงาน เพราะร่างกายต้องการพักผ่อนเช่นกัน แม้บางวันงานไม่หนัก ระยะทางไม่ไกล แต่ถ้าไม่มีเวลาพักผ่อนการเตรียมความพร้อมรอผู้จ้าง จะส่งผลถึงความปลอดภัยเวลาขับขี่ได้
6. ให้แน่ใจว่าเข้าใจระบบรถที่จะขับหรือไม่ ในกรณีที่เกิดปัญหาสามารถแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นได้ อีกทั้งต้องช่วยดูแลทรัพย์สิน (รถ)ของผู้ว่าจ้าง ให้สะอาดเรียบร้อยพร้อมใช้งานตามความเป็นจริง แจ้งซ่อม หรือบำรุงรักษาตามจริง คำนึงเสมอว่าคนขับรถไม่ใช่แค่ผู้ที่นำพาเราไปยังจุดหมายตามคำสั่งหรือข้อตกลง ความปลอดภัยของผู้จ้างเอง หรือลูกค้าหากมีโอกาสต้องดูแล ก็สำคัญด้วยเช่นกัน
หากผู้จ้างไม่สามารถเลือกคนขับรถเองได้แล้ว ลองมองหาตัวแทนที่ไว้ใจได้ทำหน้าที่จัดส่งคนขับรถมาให้ ที่สามารถทำตามข้อตกลงทั้ง 6 ข้อหรือมากกว่าตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง
ประวัติความเป็นมาของอำเภอดอนตูมและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
เดิมอำเภอดอนตูม ขึ้นกับอำเภอกำแพงแสน ต่อมาได้รับการแยกออกมาเป็นกิ่งอำเภอดอนตูม และตั้งเป็นอำเภอดอนตูม ในปี พ.ศ. 2509 จนถึงในปัจจุบัน
โดยคำว่า "ตูม" กับคำว่า "ดอน" มาจากทำเลที่ตั้งมีพื้นที่อยู่ในที่สูงไม่เคยมีประวัติถูกน้ำท่วมใหญ่เลย ซึ่งอดีตเรียกบริเวณนี้ ว่า "เมืองตูม" สันนิษฐานว่าเป็นชื่อเมืองเก่าแก่ในสมัยศรีวิชัยเป็นราชธานีต่อมาทางราชการจึง จัดตั้งอำเภอชื่อแรก คือ อำเภอสามแก้ว ต่อมาเปลี่ยนเป็นอำเภอ กำแพงแสน แล้วแยกออกมาเป็นกิ่งอำเภอดอนตูม เมื่อ วันที่ 4 มกราคม 2509 ต่อมาเปลี่ยนเป็นอำเภอเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2512
ในย่านนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวไม่มากนัก แต่จะเป็นร้านอาหารเสียเป็นส่วนใหญ่ สามารถขับรถจากกรุงเทพฯ มาดอนตูมได้อย่างสะดวก โดยร้านอาหารที่เป็นที่นิยมในอำเภอดอนตูม คือร้านที่มีชื่อว่า Amber Terrace ซึ่งเหมาะแก่การขับรถพาครอบครัวมาทานอาหารในยามว่าง ภายในร้านมีบรรยากาศที่ร่มรื่น ด้านหน้าร้านจะเป็นร้านกาแฟและเบเกอรี่ ตบแต่งด้วยเครื่องครัวที่เจ้าของร้านสะสมไว้ เป็นแนวทองเหลืองสวยงามมาก มีพื้นที่ด้านในซึ่งจัดได้แบบลงตัวไว้สำหรับรับประทานอาหาร ต้นไม้ร่มรื่น อาหารอร่อย
ร้านนี้เป็นร้านอาหารท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติแสนร่มรื่น ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ พร้อมเสิร์ฟด้วยอาหารฟิวชั่นและเค้กโฮมเมดที่เลือกคัดสรรแต่วัตถุดิบคุณภาพ โดยเฉพาะกาแฟรสชาติเยี่ยมที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการหลบหนีความวุ่นวายในกรุงเทพฯ "เทอเรส ดอนตูม" เป็นอีกหนึ่งที่พักผ่อนหย่อนใจที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
5 เทคนิกการขับรถในวันที่หมอกหนา
เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยมีประสบการณ์ในการขับรถท่ามกลางสายหมอกกันมาพอสมควร ซึ่งการขับรถในสภาพอากาศแบบนี้ จะต้องใช้ทักษะและไหวพริบที่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว ซึ่งในสภาพอากาศที่มีหมอกหนาอาจทำให้การมองเห็นของเรานั้นมีระยะที่น้อยลง และอาจเป็นอันตรายได้
วิธีในการขับรถในวันที่หมอกหนามีวิธีดังนี้
1. ใช้ไฟต่ำ
แม้หลายคนจะเชื่อว่าควรเปิดไฟสูงขณะขับรถฝ่าหมอกเพราะไฟสูงส่องได้ไกลถึง 120 เมตร แต่แท้จริงแล้ว ไฟสูงจะสะท้อนโมเลกุลของน้ำที่อยู่ในหมอกจนเกิดแสงสะท้อนรบกวนทัศนวิสัยผู้ขับขี่ เช่นเดียวกับตอนฝนตกหนักที่หยดน้ำทำหน้าที่เหมือนเลนส์หักเหแสงและทำให้มองเห็นทางหรือรถรอบข้างได้ไม่ชัดเจน ดังนั้น การขับรถให้ปลอดภัยในกรณีฝ่าหมอก ควรเปิดไฟต่ำหรือโคมไฟใหญ่เท่านั้น นอกจากนี้ ขณะผ่านเนิน โค้ง และทางแยกต่างๆ อาจกะพริบไฟเพื่อให้รถที่สวนมาสังเกตเห็นรถเราได้ง่ายขึ้นด้วย สำหรับรถที่มีไฟตัดหมอก การเปิดไฟตัดหมอกก็ช่วยได้ แต่เมื่อทัศนวิสัยดีขึ้นแล้วควรปิดทันทีเพื่อไม่ให้รบกวนสายตาผู้ขับขี่ยวดยานอื่น ๆ
2. งดเปิดไฟฉุกเฉินขับรถ
เพื่อขจัดความเข้าใจผิดเรื่องในการเปิดไฟฉุกเฉินขับรถ ขอย้ำกันอีกทีว่าไฟฉุกเฉินใช้เฉพาะเมื่อรถเสียเท่านั้น ยิ่งขณะหมอกลงจัดซึ่งผู้ขับขี่กะระยะห่างระหว่างรถได้ลำบาก การใช้ไฟฉุกเฉินจะทำให้รถคันอื่นเข้าใจผิดว่ารถจอดอยู่ หรือหากเปิดไฟเลี้ยวขณะที่เปิดไฟฉุกเฉิน รถคันอื่นจะไม่รู้ว่าเรากำลังจะเลี้ยวและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้
3. ขจัดฝ้าบนกระจก
สำหรับรถยนต์แล้ว การขับรถขณะหมอกลงคงเลี่ยงไม่พ้นเรื่องฝ้าบนกระรถที่ยิ่งเพิ่มอุปสรรคด้านทัศนวิสัย หากรถไม่มีโหมดไล่ฝ้าบนกระจกหลัง ลองสังเกตว่าฝ้าเกาะอยู่บนกระจกด้านในหรือด้านนอก หากเกิดด้านในให้ลดอุณหภูมิแอร์ลง แต่หากเกิดด้านนอกให้ปรับอุณหภูมิแอร์ขึ้น หากฝนไม่ตก การเปิดกระจกรถเล็กน้อยเพื่อปรับอุณหภูมิภายในและภายนอกตัวรถให้ใกล้เคียงกันจะช่วยลดฝ้าได้ หรือจอดรถในที่ปลอดภัยแล้วเช็ดฝ้าที่เกาะกระจกด้านนอกด้วยผ้าสะอาด
4. รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า
เพื่อความปลอดภัย ให้รักษาความเร็วในการขับตามรถคันหน้า โดยใช้หลักการ 5 วินาที (หรือ 3 วินาที ในทัศนวิสัยปกติ) สังเกตง่าย ๆ คือ หากรถคันหน้าขับผ่านหลักกิโล ป้ายบอกทางหรือต้นไม้ข้างทางจุดใดจุดหนึ่งก็ได้ ให้นับในใจว่า หนึ่งพัน สองพัน สามพัน สี่พัน ห้าพัน หากเราขับรถผ่านหลักกิโลหรือต้นไม้นั้นๆ ก่อนนับจบ “ห้าพัน” หมายความว่าเรายังเว้นระยะห่างไม่พอ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน อาจจะเบรครถไม่ทัน
5. รถจี้ท้าย ไม่ต้องเร่งหนี
แม้ว่าจะรู้สึกอยากขับหนีรถคันที่จ่อท้ายรถคุณมากแค่ไหน ขอแนะนำว่าอย่าพยายามเร่งเครื่องหนี เพราะจะยิ่งทำให้การขับรถฝ่าหมอกอันตรายมากขึ้น พยายามรักษาระดับความเร็วที่เหมาะสมและปลอดภัยไว้ก่อน
การเลือกซื้อรถมือสอง เราต้องดูอะไรบ้าง
รถมือสองคือรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว มีการสึกหรอไปตามกาลเวลา สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อรถมือสอง คือ สภาพรถ เพราะถ้าซื้อรถมือสองที่สภาพแย่มาก ๆ คงต้องจ่ายเงินไปกับการซ่อมไม่น้อย หลัก ๆ เลยคือให้เป็นรถที่ไม่เคยผ่านการชนมาก่อน
สิ่งที่ต้องพิจารณาสำหรับการซื้อรถมือสองมีดังนี้
1. ดูรูปทรงของตัวรถโดยรวม สิ่งที่เราต้องดูสำหรับจุดนี้ในการเลือกซื้อรถมือสองคือความสมดุลของโครงสร้าง รถใช้งานทั่วไปไม่ควรจะมีส่วนไหนที่เอียงผิดปกติ เช่นกันชน ฝากระโปรง เสาหลังคา ประตู หรือความสูงต่ำของด้านหน้ากับด้านหลังรถ ถ้าดูแล้วเห็นว่าเอียง โดยไม่มีการดัดแปลงสภาพรถมา ก็เดาได้เลยว่ารถคันนี้ผ่านการชนแบบหนัก ๆ มาแน่นอน
2. ภายในรถ ต้องดูเป็นจุด ๆ ไป ตั้งแต่เบาะคนขับและผู้โดยสาร คอนโซลหน้า พวงมาลัย เกียร์ หน้าปัดไมล์ ผ้าหลังคารถ ของเหล่านี้สังเกตว่าใช้งานได้หรือไม่ด้วยตาเปล่าได้เลย บางส่วนเจ้าของเดิมอาจเปลี่ยนมาใหม่ แต่ถือว่าเป็นส่วนที่ไม่มีอันตรายกับการขับขี่
3. แอร์รถ ต้องเย็นและฉ่ำ ถ้าไม่เย็นต้องหาสาเหตุได้ว่ามาจากอะไร น้ำยาแอร์ หรือคอมเพรสเซอร์ เหมือนจะเป็นปัญหาเล็ก ๆ แต่แอร์เป็นปัญหาที่จุกจิก ดังนั้นถ้าแก้ปัญหาไม่ได้แบบชัดเจนอย่าเสี่ยงซื้อรถมาดีกว่า
4. ในห้องเครื่อง ฝากระโปรง ควรซื้อรถมือสองที่เรียบร้อยมาในสภาพโรงงาน รูนอตต่าง ๆ ต้องกลม ไม่มีรอยทำสีหนา ๆ ที่บ่งบอกว่ากลบร่องรอยจากอุบัติเหตุ
6. สีรถ การซื้อรถมือสองการทำสีสำคัญมาก จะบ่งบอกร่องรอยการชนได้จากความหนาของสีแต่ละจุด ซึ่งต้องดูใกล้ ๆ บางคนที่มีความรู้เรื่องรถมือสอง จะใช้วิธีเคาะแล้ว ซึ่งการทำสีมากน้อยเสียงจะต่างกัน และหมายถึงรอยแผลที่สีกลบอยู่ก็จะมากน้อยต่างกันไปด้วย ในการซื้อรถมือสองอย่าเลือกที่ทำสีมาทั้งคันโดยไม่มีเหตุผลที่ดี เพราะจำเป็นต้องทำสีใหม่หมด นอกจากการชนหนักหรือคว่ำมา
7. คานหน้ารถ คือการดูสีข้างในเป็นสำคัญ ต้องดูรูนอตว่ากลมเป็นปกติหรือไม่ และดูรูปทรงของคานว่ายังได้รูปได้ทรงเป็นปกติ เพราะคานเป็นส่วนรับน้ำหนัก ถ้าเคยชนมาจะมีร่องรอยปรากฏอยู่ตรงนี้แน่นอน
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง