ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ใน ชลบุรี

ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ใน ชลบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

Saijai
ยังไม่มีข้อมูลการรีวิว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้

ข้อดีของการจ้างคนเฝ้าไข้
ข้อดีของการจ้างคนเฝ้าไข้ การที่เราจะหาคนมาดูแลคนที่เรารักเราต้องเลือกแล้วเลือกอีก เพราะปัจจุบันเราต้องทำงานเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว การดูแลผู้ป่วยหรือเฝ้าไข้ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยพอสมควร ทำให้เราอาจพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบทั้งงานประจำและการดูแลผู้ป่วยได้

การจ้างคนเฝ้าไข้ ทำให้เราได้ผู้ที่ให้บริการดูแลผู้ป่วยที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น และมีใจรักในงานบริการ การที่คนเฝ้าไข้ผ่านการอบรมหลักสูตรบริบาล หรือการดูแลผู้ป่วย ข้อดีคือ ผู้ที่เฝ้าไข้ สามารถดูแลทำความสะอาดร่างกาย อาบน้ำ เช็ดตัว และเปลี่ยนเสื้อผ้าผู้ป่วย (ในกรณีที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้) แทนเราได้ และมีความชำนาญ จัดอาหาร จัดยา (ป้อนอาหารตามอาการ) ให้อาหารทางสายยาง และดูดเสมหะ (กรณีที่จำเป็น) รวมถึงดูแลการขับถ่าย พลิกตัว ป้องกันการเกิดแผลกดทับ และทำแผลอย่างถูกวิธี

ในกรณีที่ผู้ป่วยอยู่บนเตียงนาน ๆ ยังสามารถช่วยทำกายภาพบำบัดเบื้องต้นให้เกิดการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ มีการพูดคุย และให้กำลังใจ คอยสังเกตอาการของผู้ป่วย หากผิดสังเกตก็สามารถแจ้งให้ผู้ว่าจ้างทราบทันที คนเฝ้าไข้สามารถทำงานเฝ้าไข้เวรละ 8 หรือ12 หรือ 24 ชั่วโมงตามที่ญาติต้องการเพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ว่าจ้าง ข้อดีเหล่านี้ทำให้เราสบายใจและวางใจได้ เมื่อเราจ้างคนเฝ้าไข้มาดูแลคนที่เรารัก การดูแลเอาใจใส่ที่ดีถูกต้องก็ย่อมส่งผลดีต่อผู้ป่วยเองทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ


คนเฝ้าไข้ควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
การพิจารณาคุณสมบัติของคนที่จะมาเฝ้าไข้ให้กับผู้ป่วยพักฟื้นนั้นเป็นอีกสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ซึ่งคุณสมบัติหลัก ๆ ที่จำเป็นเหล่านั้นมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

1. ผู้ดูแลหรือคนเฝ้าไข้ผู้ป่วยต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยพักฟื้น และมีความเชี่ยวชาญด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับผู้ป่วยด้วยเช่นกัน หากได้ผู้เฝ้าไข้ที่เคยผ่านการฝึกอบรมในด้านการพยาบาลพิเศษมาจะยิ่งดีต่อตัวผู้ป่วยเลยทีเดียว
2. ผู้เฝ้าไข้ต้องเป็นคนที่บรรลุนิติภาวะแล้ว และมีใจรักในงานด้านการบริการ สามารถดูแลผู้ป่วยพักฟื้นได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยในการทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างคล่องแคล่ว เช่น การเช็ดตัว ป้อนข้าว ป้อนยา ดูแลการขับถ่ายของผู้ป่วย เป็นต้น
3. มีความสามารถในการทำกายภาพบำบัดเบื้องต้นให้กับผู้ป่วยได้ เพราะผู้ป่วยพักฟื้นบางรายอาจนอนบนเตียงเป็นเวลานานเกินจนเสี่ยงทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนล้า ดังนั้นผู้ดูแลจำเป็นต้องทำกายภาพบำบัดให้กับผู้ป่วยอยู่บ่อย ๆ ด้วยเช่นกัน
4. ผู้เฝ้าไข้สามารถอยู่เป็นเพื่อนและพูดคุยกับผู้ป่วยได้ ผู้ป่วยบางรายอาจใช้เวลารักษานานจนอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วย ทำให้เกิดอาการเครียดหรือภาวะซึมเศร้าได้ ดังนั้น การมีเพื่อนคอยรับฟังปัญหาหรือชวนพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ ในแต่ละวันจะช่วยลดอาการเหล่านี้ของผู้ป่วยได้
5. สามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกันกับผู้ป่วยได้ตลอดเวลา บางครั้งผู้ป่วยพักฟื้นอาจไม่ได้แค่ต้องการนอนอยู่เฉย ๆ อย่างเดียว การทำกิจกรรมง่าย ๆ อย่างอ่านหนังสือ พาเดินเล่นใกล้ ๆ บริเวณห้องพักก็อาจทำให้ผู้ป่วยมีความสุขได้เช่นกัน
6. ผู้ดูแลหรือคนเฝ้าไข้จำเป็นต้องมีความรอบคอบ และหมั่นสังเกตอาการในแต่ละวันของผู้ป่วย เพื่อคอยรายงานให้กับผู้ว่าจ้างและขอคำปรึกษาจากแพทย์ต่อไป
ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติสำคัญที่จะทำให้การดูแลผู้ป่วยนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นตลอดระยะเวลาที่ต้องพักฟื้นเลยก็ว่าได้
สิ่งที่กวนใจคุณเมื่อจำเป็นต้องจ้างคนเฝ้าไข้ แนวทางแก้ไขมีอย่างไรบ้าง
หากคุณจำเป็นต้องจ้างผู้ดูแลเพื่อมาดูแลผู้ป่วยที่กำลังอยู่ในระยะพักฟื้นที่บ้านนั้น แน่นอนว่าอาจมีสิ่งที่คอยกวนใจจนทำให้เป็นกังวลอยู่ไม่น้อย ซึ่งปัญหาโดยส่วนใหญ่ที่จะทำให้คุณต้องคอยพะวงอยู่ตลอดเวลาคือการที่ต้องคอยกังวลว่าผู้ดูแลจะมีความรับผิดชอบในการดูแลผู้ป่วยที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัวที่คุณรักได้ดีหรือไม่นั่นเอง

แนวทางในการแก้ไขคือการเลือกพิจารณาเลือกผู้ดูแลจากคุณสมบัติต่าง ๆ ที่เหมาะสมและตรงต่อความต้องการของคุณ จึงควรพิจารณาเลือกผู้ดูแลที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี หรือเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลปฐมพยาบาลผู้ป่วยทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติจะดีที่สุด เพราะถือเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าผู้ดูแลนั้นมีความมืออาชีพจริง ๆ และสามารถอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับผู้ป่วยแทนเราได้นั่นเอง

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก คงหนีไม่พ้นเรื่องความปลอดภัยทั้งของตัวผู้ป่วยเองและทรัพย์สินต่าง ๆ ภายในบ้าน วิธีแก้ปัญหาคือควรตรวจสอบประวัติของผู้ดูแลให้ละเอียดก่อนทำการจ้างนั่นเอง โดยสามารถตรวจสอบจากการค้นหารีวิวเพิ่มเติมจากผู้จ้างก่อนหน้านี้ ที่สำคัญต้องมั่นใจว่าผู้ดูแลที่จะจ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำผิดทางอาชญากรรมใด ๆ มาก่อนด้วย

อีกหนึ่งทางที่สามารถคลายกังวลให้คุณได้คือการนัดสัมภาษณ์ก่อนการจ้างงานเพื่อที่คุณจะได้ทำความรู้จักนิสัยใจคอของผู้ดูแล อีกทั้งคุณสามารถสังเกตวิธีการตอบคำถามของผู้ดูแลเพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณได้ เพราะฉะนั้นหากคุณจะเลือกใครสักคนมาดูแลคนใกล้ชิด ควรตรวจสอบทุกอย่างให้ละเอียดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายภาคหน้า และเพื่อคุณจะได้ผู้ดูแลที่ดีที่สุดมาดูแลคนที่คุณรัก
ผู้ป่วยโรคใดบ้างที่ผู้ให้บริการบน Platform ของใส่ใจที่ทางใส่ใจไม่รับดูแล
ในกรณีที่ผู้ป่วยมีโรคที่อาจเป็นอันตรายและอาจทำให้ผู้ดูแลเสี่ยงอันตราย ซึ่งหมายถึงผู้ป่วยที่เจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อหรือได้รับการรักษาที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ดูแลได้ ผู้ดูแลต้องปฏิบัติตามการแนะนำของแพทย์จึงไม่สามารถให้บริการเฝ้าไข้ ผู้ป่วยที่มีโรคต่าง ๆ ดังนี้

• วัณโรคที่ตรวจเสมหะพบเชื้อ โดยเชื้อวัณโรคจะแพร่โดยเชื้อจนอยู่ในเสมหะที่มีขนาด 1-5 ไมครอน เชื้อจะไปถึงถุงลมในปอดและทำให้เกิดการติดเชื้อ เสมหะเกิดจากการไอ จาม พูด เชื้อโรคอาจจะอยู่ที่กล่องเสียงหรือในปอด ซึ่งสามารถติดต่อได้หากอยู่ใกล้ผู้ติดเชื้อโดยไม่ระมัดระวัง
• ไข้หวัดใหญ่ ผู้มีอาการน้ำมูกไหล ไข้ไม่สูงมาก ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ที่สามารถติดต่อกันได้ง่าย ผ่านการไอหรือจาม เชื้อจะเข้าทางเยื่อบุตาและปาก สัมผัสเสมหะของผู้ป่วยทางแก้วน้ำ ผ้า จูบ สัมผัสทางมือที่ปนเปื้อนเชื้อโรค
• ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นโรคติดต่อที่สามารถแพร่จากคนสู่คนผ่านทางละอองน้ำมูก น้ำลายจากจมูกหรือปาก ซึ่งออกมาเมื่อผู้ป่วยโรคโควิด 19 ไอ จามหรือพูด ละอองเหล่านี้ค่อนข้างหนัก กระจายไปได้ไม่ไกลและตกลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว เรารับเชื้อโรคโควิด 19 ได้จากการหายใจเอาละอองเข้าไปจากผู้ป่วย
• ผู้ป่วยที่กำลังรักษาการรักษาโรคด้วยเรเดียมและสารกัมมันตรังสีระยะอันตราย