รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ

รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ปนัดดา ราชสี
ปนัดดา ราชสี
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

อดนอนได้ ความอดทนสูงใจรักในงานบริการ ซื้อสัตย์ รักงานชอบคุย

แสดงเพิ่มเติม

รีวิวล่าสุด

คุณแม่เป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เราเลยต้องหาคนมาอยู่เป็นเพื่อน กังวลใจในความปลอดภัยของแม่ด้วย แต่โชคดีได้เจอคนดูแลที่เว็บใส่ใจ คนนี้ผ่านการตรวจสอบประวัติมาแล้ว ตอนนี้น้องเค้ามาทำงานได้ 3 เดือนแล้ว นอกจากช่วยดูแลคุณแม่ ช่วยทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกด้วย
Saijai
เนตรวดี พิศสมพร
3 ปีที่แล้ว
หาคนอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุนี่อาจจะยังไม่ค่อยฮิตในไทยเท่าไหร่ แต่สำหรับใครที่มีคนเฒ่าคนแก่อยู่บ้านคนเดียวตลอดลองใช้บริการนี้ของใส่ใจกันดูเถอะค่ะ เพราะคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปจริง ๆ
Saijai
วราภรณ์ บุตรธงไชย
4 ปีที่แล้ว
เทียบค่าใช้จ่ายกับการที่ได้พี่แป๋วมาอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่แล้วไม่เสียดายเงินเลย พี่เขาตื่นเช้า เตรียมอาหาร หลังจากมื้อเช้า ก็จัดการเรื่องเสื้อผ้าคุณแม่ คอยพูดคุยดูแลท่านไม่เหงา คุณแม่ดูมีสดชื่นขึ้น ลูกๆก็สบายใจ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป หมดห่วงคะ
Saijai
ธิดา เมธีวัชรโสภณ
4 ปีที่แล้ว
ชอบตั้งแต่คนดูแลมาตรงเวลา ดูแลดี คุณยายผมบอกว่าชอบพี่คนนี้มากครับ มีแต่เรื่องสนุก ๆ เล่าให้แกฟัง คอยหากิจกรรมมาให้ทำไม่น่าเบื่อเลย คุ้มค่าน่าใช้บริการอีกมาก ๆ ครับ
Saijai
วราวุธ นาควานิตย์
4 ปีที่แล้ว
หลังจากเข้าไปหน้าเพจ บริการอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ เราสามารถเห็นรูป อ่านประวัติ ดูประสบการณ์ทำงาน ได้อย่างละเอียด ก่อนมีการพูดคุย รายละเอียด ทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ง่ายและท้ายที่สุด เราดีใจ ที่ได้ใช้บริการของใส่ใจ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ได้ผู้ดูแลตรงตามที่เราต้องการ
Saijai
ปรียา อรรถจิรานนท์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ

ทำไมจึงไม่ควรให้ผู้สูงอายุ หรือคนชราอยู่ตามลำพัง
ข้อมูลจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พบว่าสถิติประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าภาพรวมของประชากรในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2553-2573 จะอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่า “สังคมสูงวัย (Aged Society)” และอาจเข้าสูงสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ภายในอีก 10 ปีหลังจากนั้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากสภาพการทำงานและสังคมก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน และอาจทำให้ผู้สูงอายุต้องอยู่บ้านตามลำพังมากขึ้น แม้ผู้สูงอายุบางคนจะสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในสังคมได้ แต่ต้องยอมรับว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เองตามที่ใจต้องการ เนื่องด้วยสภาพร่างกายและสิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เราจึงไม่ควรให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพัง เพราะผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างคล่องแคล่ว การต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านหรือทำอะไรตามลำพังอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ต่อตัวผู้สูงอายุได้ เช่น หากปล่อยให้ผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวลำบากต้องเดินขึ้น-ลงบันไดเองนั้น อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และหากไม่มีคนอยู่ในบ้าน ผู้สูงอายุเองก็ไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้เช่นกัน อีกปัญหาหนึ่งที่เกิดจากการให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังคือปัญหาทางสภาพจิตใจนั่นเอง เมื่อไม่มีคนคอยอยู่เป็นเพื่อนหรือพูดคุยและรับฟัง ผู้สูงจะรู้สึกเหงา เกิดอาการเครียด และมีภาวะซึมเศร้าในที่สุด ดังนั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ ผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยอาจจะเป็นคนในครอบครัวเอง หรือจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพมาดูแลได้เช่นกัน


คุณสมบัติของผู้ให้บริการอยู่ป็นเพื่อนผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
คุณสมบัติของผู้ให้บริการอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง?

1. บรรลุนิติภาวะ เพราะบุคคลเหล่านี้จะมีวุฒิภาวะที่เพียงพอ สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ เพราะผู้สูงอายุนั้นถือว่าเป็นวัยที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
2. มีใจรักในงานบริการ มีความอดทนและสามารถอยู่เป็นเพื่อนพูดคุยกับผู้สูงอายุได้ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ต้องการความรักความเอาใจใส่จากลูกหลาน ในบางครั้งก็ต้องการคลายความเหงาโดยการหาเรื่องมาเล่ามากมาย หากผู้ดูแลคอยเอาใจใส่ อยู่เป็นเพื่อนคอยรับฟังและพูดคุยกับผู้สูงอายุตลอดก็อาจทำให้ได้รับความรักจากผู้สูงอายุกลับมาเช่นกัน
3. ผู้ที่อยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุนั้นจะต้องเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ มีสุขอนามัยที่ดีและบุคลิกภาพที่ดีเช่นกัน ในวัยของผู้สูงอายุนั้นถือเป็นวัยที่ค่อนข้างอ่อนแอ หากผู้ดูแลที่มีโรคประจำตัว หรือสุขภาพไม่แข็งแรงมาอยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุตลอดเวลา ก็อาจเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อให้กับผู้สูงอายุได้
4. มีความกระฉับกระเฉงในการทำงานและสามารถช่วยเหลือผู้สูงอายุในการทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ เช่น การทานอาหาร อาบน้ำ เป็นต้น บางครั้งผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องทานยาก็อาจหลงลืมเวลาในการทานยาได้ ดังนั้น ผู้ดูแลที่อยู่เป็นเพื่อนต้องคอยเตือนผู้สูงอายุถึงเวลาทานยาบ่อย ๆ
5. บุคคลที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุได้นั้นจะต้องสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นเพื่อนผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา เช่น การออกกำลังกาย ดังนั้นควรชวนผู้สูงอายุไปเดินออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุนั้นมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงยิ่งขึ้น
6. มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุ และสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้เป็นอย่างดีเพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุเอง
ในประเทศไทยอาชีพรับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุเป็นที่ต้องการหรือไม่
ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้คาดการณ์ว่าในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุคืออาชีพและสายงานใหม่ ๆ เพื่อช่วยตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุในประเทศไทยที่มีมากขึ้นในทุก ๆ วันนั่นเอง โดยรูปแบบของงานนั้นจะเน้นไปทางด้านการดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุเสียส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบริการดูแลคนป่วยและผู้สูงอายุ บริการอาสาสมัคร เป็นต้น บางคนอาจจะเคยได้ยินอาชีพ “บริการอยู่เป็นเพื่อผู้สูงอายุ” มาบ้าง แต่ส่วนมากอาจยังไม่ทราบและเข้าใจหน้าที่ของอาชีพนี้มากนัก ใส่ใจจะมาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาชีพนี้ให้คุณได้ทำความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น ความจริงอาชีพบริการรับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุนั้นได้รับความนิยมค่อนข้างสูงในต่างประเทศ เนื่องจากผู้สูงอายุบางคนที่อยู่คนเดียวแต่ยังพอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ก็ต้องการคนไว้คอยรับฟังและพูดคุยอยู่เป็นเพื่อนไว้คลายเหงานั่นเอง แต่สำหรับในประเทศไทยนั้น อาชีพอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เพราะส่วนใหญ่จะเน้นไปการดูแลอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากกว่า แต่ความเป็นจริงแล้วหน้าที่ของผู้ให้บริการรับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุนั้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุได้มากมายเช่นกัน เพราะการอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุไม่เพียงแค่ต้องคอยอยู่พูดคุยกับผู้สูงอายุเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถคอยดูแลและช่วยเหลือเรื่องอื่น ๆ ให้ผู้สูงอายุได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการชวนผู้สูงอายุไปเดินเล่นออกกำลังกาย พาผู้สูงอายุไปทำธุระต่าง ๆ ด้านนอก เป็นต้น ซึ่งเรียกได้ว่าสามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุได้อย่างครบครันเลยทีเดียว
กิจกรรมคลายเหงาที่คนอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุสามารถทำกับผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
ผู้สูงอายุหลายท่านต้องอาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น ลูกหลานไม่มีเวลาให้ หรือสูญเสียคนรักไป ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ส่งผลให้ผู้สูงอายุเกิดความเหงา โดดเดี่ยว รู้สึกอ้างว้างในชีวิต การมีผู้มาอยู่เป็นเพื่อน ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน จะสามารถช่วยลดความรู้สึกเหงาของผู้สูงอายุได้ ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่อยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับผู้สูงอายุได้ดังนี้

1. การทำกิจกรรมนอกบ้าน ในกรณีที่ผ้สูงอายุ สามารถเดินทางออกจากบ้านได้ ซึ่งกิจกรรมแต่ละอย่างที่ทำขึ้นอยู่กับสถานที่ ว่าจะไปที่ไหน เช่น สวนสาธารณะ กิจกรรมที่สามารถทำได้คือ เดินเล่น นั่งพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ หรือเข้าวัด ทำบุญ ฟังธรรม การได้พบเห็นสังคมภายนอก ทำให้ผ้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลายขึ้นอีกด้วย
2. การออกกำลัง โดยผู้สูงอายุแต่ละท่านจะมีการออกกำลังกายที่เหมาะสมต่างกันไป ตามสภาพร่างกายและความสามารถ การออกกำลังกายนอกจากจะลดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ยังช่วยให้ร่างกาย และกระดูกแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ซึ่งเมื่อทำเป็นประจำ จะกลายเป็นกิจกรรมช่วยแก้เหงาหลักของผู้สูงอายุก็ว่าได้ โดยสามารถออกกำลังกายได้ตั้งแต่การเดิน เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ ซึ่งสามารถทำได้ทุกวัน
3. ทำกิจกรรมโปรดที่ผู้สูงอายุสนใจ เช่น การทำอาหาร ทำขนม หรือทำงานที่ผู้สูงอายุถนัด ซึ่งงานฝีมือโดยส่วนใหญ่ถือเป็นงานอดิเรกของผู้สูงอายุเลยก็ว่าได้ ทั้งการเย็บปักถักร้อย งานฝีมือทางศิลปะ นอกจากจะเป็นกิจกรรมคลายเหงา ช่วยให้เพลิดเพลินได้แล้ว ผลงานเหล่านี้ยังมีคุณค่าด้านจิตใจอีกด้วย