แม่บ้านและบริการเสริม ใน หางดง, เชียงใหม่

แม่บ้านและบริการเสริม ใน หางดง, เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

โพสต์งานทิ้งไว้บนเว็บใส่ใจ อยากได้แม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยง แม่บ้านติดต่อกลับมาเร็วมาก ได้สัมภาษณ์กับแม่บ้านโดยตรง ประทับใจสุด ๆ เลยค่ะ
Saijai
มยุรา สหมงคลพัฒนา
3 ปีที่แล้ว
พิมจ้างแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงให้มาช่วยดูแลลูกนิด ๆ หน่อย ๆ ปกติแม่บ้านก็ทำงานบ้านไปตามตารางค่ะ ทำเสร็จหมดเรียบร้อยทุกวัน พอเสร็จงานก็มาช่วยดูแลลูกให้ตอนพิมไม่ว่าง ช่วยแบ่งเบาภาระไปได้เยอะเลยค่ะ
Saijai
คุณแม่พิมพ์พกา
4 ปีที่แล้ว
ผมจองแม่บ้านผ่านเว็บใส่ใจมาช่วยทำงานบ้านและดูแลคุณยาย พี่เค้าทำงานดีมากเลยครับ ที่สำคัญราคาเป็นกันเอง ไม่ได้คิดราคาผมแพงมาก ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวเลยครับ
Saijai
เอกราช ศรีเวียงคุ้ม
4 ปีที่แล้ว
เราต้องการแค่คนมาดูแลอยุ่เป็นเพื่อนช่วยหยิบจับสิ่งของ และทำความสะอาดบ้านนิดหน่อย สุดท้ายได้สิ่งที่ต้องการเทียบกับความปลอดภัย และความสุขของแม่ราคานี้คุ้มค่ามาก เราก็เหมือนได้ญาติอีกคนมาช่วยดูแล
Saijai
ภูษิตา วัฒนาเมธานนท์
4 ปีที่แล้ว
ทำงานดีมาก ๆ แม่สามีชอบมากค่ะ ท่านบอกไม่เหงาเลยตั้งแต่มีแม่บ้านมาอยู่ด้วย คุยเก่ง แถมทำงานเก่งอีกด้วย คุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ
Saijai
ธนัชญา จุฬามณี
1 วินาทีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา แม่บ้านและบริการเสริม

อะไรคือข้อดีและข้อเสียของการจ้างแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงเด็ก
แม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงเด็ก คือ ทำงานบ้าน 60% และเลี้ยงเด็ก 40% โดยจะต้องทำงาน2อย่างนี้ควบคู่กันไป ซึ่งจะต้องเลี้ยงเด็กได้ และทำงานบ้านทุกอย่างได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งการปัดกวาเช็ดถู รวมไปถึงการจัดข้าวของภายในบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และในส่วนของการเลี้ยงเด็ก หากเป็นเด็กเล็ก จะทำหน้าที่เพียงแค่ช่วยดูแลเด็กในยามที่พ่อแม่ทำธุระ หรือคอยช่วยแม่เลี้ยงเด็ก หรือในบางครั้งที่ลูกของท่านอยู่ในวัยที่ต้องเข้าโรงเรียน ซึ่งไม่จำเป็นที่พี่เลี้ยงต้องดูแลตลอดเวลา จะดีกว่าไหม หากการจ้างแม่บ้านคนเดียวแต่สามารถแบ่งเบาภาระคุณได้ทั้ง2 อย่าง โดยให้ทำงานในช่วงของกลางวัน และคอยดูแลเด็กเมื่อกลับมาจากโรงเรียนระหว่างรอพ่อแม่กลับมาจากทำงาน

ข้อดี ประหยัดค่าจ้างและลดความยุ่งยากในการติดต่อจ้างแยกเป็นแม่บ้านและพี่เลี้ยงเด็ก ง่ายต่อการติดตามงานและการติดต่อเมื่อต้องการใช้บริการแม่บ้านและพี่เลี้ยงเด็ก รวมถึงได้การทำงานที่ครอบคลุมทั้งบ้านไม่ว่าจะเป็นงานดูแลความสะอาดภายในบ้าน การดูแลความสะอาดอุปกรณ์หรือเครื่องใช้สำหรับเด็กไปในตัว
ข้อเสีย งานพี่เลี้ยงเด็กนั้นจำเป็นต้องให้เวลาและใส่ใจเด็กให้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นช่วงเด็กรับประทานอาหาร การอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งการที่ต้องทำทั้งหน้าที่แม่บ้านไปด้วยและเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปด้วยนั้นอาจทำให้ไม่สามารถทำงานด้านใดด้านหนึ่งได้อย่างเต็มที่หรืออาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายเช่นกัน ทั้งนี้นายจ้างเองก็ไม่ควรจะให้ทำงานทั้ง 2 อย่าง หนักๆในเวลาเดียวกัน


หน้าที่ความรับผิดชอบของแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงมีอะไรบ้าง ต่างจากงานแม่บ้านปกติอย่างไร
แม่บ้านปกติกับแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงนั้นแตกต่างกันอย่างไร? ใส่ใจจะมาอธิบายให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจกัน ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจระหว่างแม่บ้านทั่วไปกับแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงก่อน แม่บ้านทั่วไปคือแม่บ้านที่มีทักษะในด้านการทำความสะอาดบ้านทั่วไป ส่วนแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงคือแม่บ้านที่ต้องมีทั้งทักษะในด้านการทำความสะอาดบ้านทั่วไป และทักษะในการเลี้ยงเด็กด้วยเช่นกัน กล่าวคือแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงนั้นต้องสามารถทำงานบ้านต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายไปพร้อม ๆ กับการดูแลเด็กด้วยนั่นเอง

หน้าที่หลัก ๆ ของแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงมีดังต่อไปนี้

1. ดูแลทำความสะอาดบ้านและสามารถทำงานบ้านทุกส่วนได้ ไม่ว่าจะเป็นงานบ้านแบบปกติทั่วไปอย่างกวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า ล้างห้องน้ำ ฯลฯ และรวมถึงการดูแลทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ของเด็กด้วย เช่น ล้างขวดน้ำ เก็บของเล่น เป็นต้น
2. หน้าที่ในการดูแลเด็ก แต่ปกติแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงนั้นต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานบ้าน และต้องแบ่งเวลาบางส่วนเพื่อมาดูแลเด็กด้วย ดังนั้นการจ้างแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงจึงเหมาะสมกับการให้มาดูแลเด็กโตที่มีอายุ 2 ขวบขึ้นไป
3. แม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงสามารถอยู่และทำกิจกรรมร่วมกับเด็กได้เป็นบางเวลา โดยส่วนใหญ่อาจเป็นเวลาที่ผู้ปกครองมีธุระส่วนตัวต้องทำ จึงสามารถวานให้พี่เลี้ยงหรือแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงมาอยู่เล่นกับเด็กในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ได้นั่นเอง
4. แม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงสามารถช่วยดูแลในเรื่องของการทำอาหารว่างง่าย ๆ ให้กับเด็กได้ เพราะส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการทำงานบ้าน จึงอาจเป็นเรื่องยากหากต้องคอยดูแลเด็กเล็กที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ดังนั้นแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงจึงควรเป็นแค่ผู้ช่วยให้กับผู้ปกครองในการเลี้ยงเด็กเล็กเท่านั้น การจ้างแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงจึงอาจเหมาะกับการดูแลเด็กโตและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากกว่านั่นเอง
หากต้องการใช้บริการแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยง ค่าจ้างหรือเงินเดือนสูงกว่าแม่บ้านธรรมดาหรือไม่
เนื่องจากการจ้างแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงเด็ก แม่บ้านต้องรับภาระหน้าที่ 2 อย่างในคราวเดียวกัน ทั้งขอบเขตของงานที่เพิ่มมากขึ้น เช่น แม่บ้านโดยทั่วไปจะดูแลแค่ส่วนของการทำงานบ้านเพียงอย่างเดียว แต่แม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงเด็กต้องทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กควบคู่ไปด้วย เช่น การป้อนนม การอาบน้ำให้ ดูแลเด็กเมื่อคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่ หรือทำตามที่แม่เด็กมอบหมายงานได้

จะเห็นได้ว่าภาระงานมากกว่าการทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามไม่ควรใช้งานแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงเด็กเกินประสิทธิภาพที่จะสามารถทำงานได้ มิเช่นนั้นแล้ว งานที่ออกมาทั้ง2อย่าง จะไม่มีคุณภาพเช่นกัน เท่ากับคุณเสียเงินเปล่า โดยไม่ได้อะไรกลับมา ซึ่งค่าจ้างหรือเงินเดือนของแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงเด็ก สูงกว่าแม่บ้านทั่วไป เพราะแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงนั้นนอกจากความรู้และความสามารถในการทำความสะอาดที่ดีแล้วนั้น ยังจำเป็นต้องมีความรู้และความสามารถในการเลี้ยงดูเด็กเพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย เพราะการดูแลเด็กนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจึงยิ่งต้องให้ความสำคัญแก่ด้านนี้มากขึ้นเป็นพิเศษ จึงเป็นเหตุผลที่ค่าจ้างในการใช้บริการหรือเงินเดือนของแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงนั้นสมควรที่จะสูงกว่าแม่บ้านทั่วไป โดยค่าจ้างแม่บ้านทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณเดือนละ 12,000-15,000บาท และค่าจ้างแม่บ้านกึ่งพี่เลี้ยงเด็กจะอยู่ที่ประมาณ15,000-20,000บาทต่อเดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขอบเขตงานที่ทำด้วย เช่น อายุของเด็ก ความรับผิดชอบต่อเด็กเป็นต้น หากคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายอยากจ้างคนคนเดียวแต่ทำงานได้หลากหลาย
เรทค่าจ้างแม่บ้านกึ่งผู้ดูแลผู้สูงอายุแพงกว่าเรทค่าจ้างแม่บ้านธรรมดาหรือไม่
งานแม่บ้าน ปกติก็มีหน้าที่รับผิดชอบค่อนข้างมากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทำความสะอาดและยังต้องมีทักษะในการใช้อุปกรณ์ทำความสะอาด เลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นงานที่ต้องมีประสบการณ์และผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี แต่ถ้าเป็นแม่บ้านและต้องดูแลผู้สูงอายุด้วย ทักษะต่าง ๆ ย่อมต้องเพิ่มมากขึ้น เพราะงานดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่าย และมีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก โดยปกติต้องผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดีเพราะต้องดูแลทุก ๆ อย่างเริ่มตั้งแต่

1. อาหารการกิน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและลดโอกาสการเกิดโรคของผู้สูงอายุ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ดูแลเรื่องการใช้ยาในผู้สูงอายุซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
2. การออกกำลังกาย เพื่อรักษาสุขภาพของผู้สูงอายุให้แข็งแรง โดยผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องมีความรู้ว่าควรเลือกการออกกำลังกายแบบใดที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
3. ด้านสุขอนามัย ผู้ดูแลจะช่วยดูแลให้ผู้สูงอายุอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม มีอากาศถ่ายเทสะดวก มีความปลอดภัย พื้นต้องไม่ลื่น มีราวจับเพื่อช่วยในการทรงตัว โดยเฉพาะสถานที่ที่สามารถเกิดอุบัติเหตุได้บ่อย เช่น ห้องน้ำ บริเวณบันไดขึ้น-ลง เป็นต้น
4. การดูแลผู้สูงอายุแบบที่ดูแลตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุแบบป่วยติดเตียง ก็จะมีความซับซ้อนมากขึ้นไปอีก ผู้ดูแลจำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องแผลกดทับและต้องหมั่นช่วยพลิกตัว เปลี่ยนท่านอนทุก ๆ 2 ชั่วโมง, การขับถ่าย ควรหมั่นดูแลเรื่องความสะอาดและความเปียกชื้น

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่างานของแม่บ้านธรรมดากับแม่บ้านกึ่งคนดูแลผู้สูงอายุ มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ดังนั้นไม่แปลกเลยหากแม่บ้านกึ่งคนดูแลผู้สูงอายุจะมีค่าจ้างที่สูงกว่า เพราะมีหน้าที่รับผิดชอบมากกว่านั่นเอง