คนขับรถ ใน ปากเกร็ด, นนทบุรี

คนขับรถ ใน ปากเกร็ด, นนทบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

สุภาพ เรียบร้อย ซื่อสัตย์ ไว้ใจได้

แสดงเพิ่มเติม
เกรียงศักดิ์ เพ็งสมบูรณ์
เกรียงศักดิ์ เพ็งสมบูรณ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 62 ปี

บริษัทเทเลคอมเอเซีย. บริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยี่ประเทศไทยจำกัด. ส่วนตัวผมไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มสุราเป็นคนใจเย็นสุขุมพูดน้อยแต่มีเหตุผล ค่าจ้างตามที่บริษัทให้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
นิพนธ์ เล็กขำ
นิพนธ์ เล็กขำ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 51 ปี

ตรงต่อเวลามีความรับผิดชอบกระตือลือล้น

แสดงเพิ่มเติม
ภาสินี ป่วนเทียน
ภาสินี ป่วนเทียน
Saijai อายุ 43 ปี

ขับรถทุกวันเพื่อรับส่งลูกไปโรงเรียนมาหลายปีแล้ว ไปต่างจังหวัดบ้างขับรถเป็นมามากกว่า 10 ปี

แสดงเพิ่มเติม
นายวงศกรต์ เดชวรรณ
นายวงศกรต์ เดชวรรณ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 40 ปี

ค่าบริการตามความเหมาะสม

ผ่านการขับรถมา หลายชนิด ทั้งรถยนต์ราชการ รถตู้นำเที่ยว รถบัสนำเที่ยว รถพยาบาล รถแท็กซี่บุคคล รถส่วนบุคคล พร้อมมีใบอนุญาตขับรถ ท.2 ผ่านการอบรมจากโรงเรียนการขนส่ง

แสดงเพิ่มเติม
พรเทพ รักษ์มณี
พรเทพ รักษ์มณี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ชอบงานบริการ ขับรถนิ่ม บริการดีมากคับ

แสดงเพิ่มเติม
กษิรา ฮุนตระกูล
กษิรา ฮุนตระกูล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 36 ปี
เจนจิรา เจริญลาภ
เจนจิรา เจริญลาภ
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

ดิฉันชื่อเจนค่ะ มีความใจเย็นในการขับรถ เน้นความปลอดภัยตลอดการขับค่ะ ได้รับวัคซีนครบสองเข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ฐิติพล นิ่มสกุล
ฐิติพล นิ่มสกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

อดีตเคยทำงานประจำ ด้านการออกแบบ ผลิต ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ปัจจุบันทำอาชีพนายหน้าอสังหาฯ ชอบเดินทางท่องเที่ยว ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคม ด้านอาชีพอิสระ ขับรถยนต์ส่วนตัวให้บริการ รับ-ส่ง ผ่านแอพลิเคชั่น UBER และ GRAB ,ขับรถรับ-ส่ง นักท่องเทียวต่างชาติ ประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นคนใจเย็น รอบคอบ และ จดจำสถานที่ได้แม่นยำ

แสดงเพิ่มเติม
ประดิภัทร ขันธ์วงศ์
ประดิภัทร ขันธ์วงศ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 37 ปี

ผม นายประดิภัทร ขันธ์วงศ์ ผมเป็นคนนิสัยร่าเริงอัธยาศัยดีเข้ากับคนง่ายมีประสบการณ์ขับรถแท็กชี่มาประมาณ8-9ปีและสามารถเดินทางไกลได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
ธนภัทร นิธิสุนทรวัฒน์
ธนภัทร นิธิสุนทรวัฒน์
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

เคยขับรถรับส่งพนักงานของธนาคารกรุงไทยและปัจจุบันยังทำงานขับรถให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า(export and import bank)

แสดงเพิ่มเติม
ธีรินทร์  เรือนแก้ว
ธีรินทร์ เรือนแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ขับรถให้ระดับผู้บริหารแบงค์ เป็นคสชอบขับรถเรื่อยๆแล้วแต่ผู้โดยสารสั่งการ.ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษได่บ้างในยามจำเป็น

แสดงเพิ่มเติม
ดุสิต ส่งเสริม
ดุสิต ส่งเสริม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

-ขับรถให้ผู้บริหาร 4 ปี

-ปัจจุบันทำงานขับรถให้นาย ทำงานขับรถมาแล้ว10 ปี

-นิสัยดี เป็นคนตรงเวลา ไม่เคยทิ้งงาน มีความรับผิดชอบสูง รักในงานบริการ

-เชื่อถือไว้ใจได้ ปัจจุบันรับราชการอยู่

แสดงเพิ่มเติม
อนุกุล นพพนาวัน
อนุกุล นพพนาวัน
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 33 ปี

มีจักยานยนต์ส่วนบุคล ไม่มีใบขับขี่เพราะอยู่ในชั่งจองคิวลงทะเบียน รายวัน350-400 ราย ชั่วโมงละ40

แสดงเพิ่มเติม

นิสัยใจเย็น..สามารถรอลค.ได้..ไม่เลือกงานค่ะ..พูดจาสุภาพกับลคเสมอค่ะ ถ่าใช้รถ+คนขับคิดตามระยะทาง/ใช้คนขับอย่างเดียวชม.ละ250ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
สมพงษ์ สระทองยอด
สมพงษ์ สระทองยอด
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 32 ปี
ธนพันธ์ สุวรรณคร
ธนพันธ์ สุวรรณคร
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 36 ปี

เคยขับรถให้นายมา4กระทรวง กระทรวงอุตสาหกรรม กรมศิลปากร กระทรวงยุติธรรม สคบ.

แสดงเพิ่มเติม
ก่อเกียรติ อิศรางกูร
ก่อเกียรติ อิศรางกูร
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

ปัจจุบันขับรถส่งอาหารครับ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เมื่อไม่กี่วันมานี้ได้ลองใช้บริการคนขับรถ เพราะจะพาเพื่อนชาวต่างชาติไปเที่ยวรอบกรุง ลุงคนขับใจดีมากค่ะ ขับรถนุ่มมาก อยากไปตรงไหนลุงพาไปได้หมด ประทับใจมาก ๆ ค่ะ รับรองว่าจะกลับมาใช้บริการอีกในภายหลังแน่นอนค่ะ
Saijai
ณชยา ฤกษ์ดี
3 ปีที่แล้ว
หาคนขับไว้ขับรถรับส่งพนักงาน จนมาเจอกับคนขับรถผ่านเว็บใส่ใจ ค่าจ้างไม่แพง ใช้บริการมาได้ 3 สัปดาห์แล้วค่ะ คนขับรถมีมารยาทดีมาก ขับรถปลอดภัย ตรงเวลา ประทับใจมากค่ะ
Saijai
กาญจนาถ บัวใส
3 ปีที่แล้ว
คนขับรถทำงานดี บริการดี เดินทางไปไหนก็สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาหลงทางและรอรถติดอีกต่อไป เพราะคนขับรถรู้เส้นทางลัด สะดวกรวดเร็วในการเดินทางมาก ๆ
Saijai
เอมอร สวัสดิรักษา
3 ปีที่แล้ว
เราใช้บริการคนขับรถบนหน้าเว็บไซต์ใส่ใจ คนขับรถมารับเราตรงเวลามาก ๆ ขับรถสุภาพ ใจเย็น ไม่รู้สึกถึงความกังวลเลยค่ะ คนขับรถชำนาญทางในกรุงเทพมาก ๆ เราเสร็จธุระแล้วมีงานต่ออีกที่หนึ่ง พี่คนขับพาเราไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย โดยรวมชื่นชมการให้บริการของพี่คนขับมาก ๆค่ะ
Saijai
ลินดา ทองศรี
3 ปีที่แล้ว
สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น แต่เรายังไม่สามารถไปรับลูกค้าที่โรงแรมมาประชุมที่ออฟฟิศได้ เลยเลือกใช้บริการคนขับรถในเว็บใส่ใจไปรับแทน เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาได้รับคำชม คนขับรถไปรอที่โรงแรมก่อนเวลาลูกค้าลงมาจากห้องก็เข้าไปแนะนำตัวถามชื่อแล้ว ตรงมาออฟฟิศ บริการสุภาพเรียบร้อยมาก ผมเลยไว้วางใจให้คนขับรถดูแล ที่สำคัญ คนขับรถใส่ใจเรื่องสุขอนามัย ใส่หน้ากากตลอดการบริการ
Saijai
สัมพันธ์ ลาภอุดมกิจ
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา คนขับรถ

ข้อดีของการมีคนขับรถส่วนตัว
ข้อดีของการมีคนขับรถส่วนตัว

1. เราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ให้เสร็จได้ในขณะเดินทาง การขับรถต้องใช้เวลามาก เมื่อเรามีคนขับรถคุณส่วนตัว เราสามารถทำงานให้เสร็จได้ในขณะที่เราอยู่ในรถ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล โทรศัพท์หรืออ่านหนังสือ เราสามารถติดตามงานได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องกังวล กับการจดจ่ออยู่กับท้องถนน
2. ลดความเครียดความหงุดหงิดและอันตรายให้น้อยที่สุด เป็นที่ยอมรับว่าการขับรถอาจทำให้เกิดความเครียดได้ ความเครียดทำให้หงุดหงิดและความโกรธบนท้องถนนจะเพิ่มโอกาสที่จะเกิดอันตราย การมีคนขับรถส่วนตัวที่อยู่หลังพวงมาลัยเราสามารถนั่งและผ่อนคลาย หากเราเหนื่อยจากงาน เรายังสามารถนอนหลับได้ตลอดเส้นทาง
3. บอกลาปัญหาที่จอดรถ ที่จอดรถอาจเป็นฝันร้ายโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ บางครั้งเราต้องจอดรถไกลจนต้องใช้เวลากว่า 20 นาที ในการเดินไปยังจุดหมาย เมื่อเรามีคนขับรถส่วนตัวเราสามารถลงรถและนัดไปรับได้ในที่ที่เราต้องการ โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการจอดรถโดยสิ้นเชิง
4. ความตรงต่อเวลา เป็นส่วนหนึ่งของงานของคนขับรถในการวางแผนเส้นทางที่เร็วและมีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อให้เราไปถึงที่ที่คุณต้องตรงเวลา โดยจะคำนึงถึงช่วงเวลาของวันสภาพอากาศและปัญหาทางถนนที่อาจเกิดขึ้นเพื่อให้เราทำได้อย่างง่ายดาย เมื่อพนักงานขับรถมืออาชีพดูแลรายละเอียดเหล่านี้ให้เรา เราจะไม่สายสำหรับเที่ยวบิน ตรงเวลาต่อการนัดหมาย
5. การทำงานอย่างมืออาชีพ คนขับรถส่วนตัว มีความภาคภูมิใจในรูปลักษณ์ของตนเองและแต่งกายอย่างสุภาพอยู่เสมอ คนขับรถส่วนตัว ที่ได้รับการอบรมหลายคนสามารถ ขับรถไปรับ ส่งลูกค้า หรือผู้ร่วมงานทางธุรกิจ แทนเรา เป็นการสร้างความประทับใจเบื้องต้นได้
6. อีกหน้าที่ คนขับรถส่วนตัวเหล่านี้ยังดูแลยานพาหนะของเราอย่างดีเยี่ยมและบำรุงรักษาตลอดเวลา ทำให้เราสบายใจในการใช้ยานพาหนะไม่กังวลว่าเสียกลางทาง หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นถ้าเราดูแลยานพาหนะไม่ดีพอ
คนขับรถควรมีทักษะอะไรบ้าง
1. ขับขี่ปลอดภัย เป็นทักษะแรกที่ต้องมี ผ่านการฝึกอบรมให้เป็นพนักงานขับรถที่ดี ไม่ใช่แค่ต้องไปรับไปส่งเจ้านาย หรือรับส่งพนักงานในองค์กรในแต่ละวันเท่านั้น แต่มีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารบนรถให้ไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
2. มารยาทดี พนักงานขับรถเกือบจะเป็นคนแรกๆ ที่เจ้านายหรือพนักงานคนอื่นๆ ในองค์กรได้เจอในแต่ละวัน พนักงานขับรถที่ดีควรมีจิตใจรักในงานบริการ บางครั้งต้องไปรับบุคคลสำคัญ ลูกค้าคนสำคัญ สิ่งที่คนขับรถแสดงออกจะส่งผลไปถึงองค์กรได้ด้วย
3. เตรียมยานพาหนะให้พร้อมใช้งาน รู้เทคนิคการตรวจสอบและเช็คความปลอดภัย รวมถึงความสะอาด และตัวพนักงานขับรถที่ดีสามารถเตรียมความพร้อมก่อนขับขี่รถ ตัวพนักงานเองก็ต้องมีสุขภาพแข็งแรง มีสติสัมปชัญญะและสมาธิครบถ้วนพร้อมให้บริการ
4. ทัศนคติดี ทัศนคติที่ดีของพนักงานขับรถในขณะปฏิบัติหน้าที่คือ ขับรถตามกฎจราจร มีมารยาทที่ดีต่อผู้ร่วมทาง หากพบผู้ร่วมทางที่มีพฤติกรรมที่ทำให้ไม่พอใจ ก็สามารถควบคุมได้ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของทุกฝ่าย และยังมีทัศนคติในการขับขี่ที่ได้มาตรฐานสากล
5. Defensive Driving หรือ ปลอดภัยไว้ก่อน การฝึกใช้กลยุทธ์การขับขี่ที่ลดความเสี่ยงและช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ เช่นเดียวกับการคาดการณ์อันตรายบนท้องถนน (มักใช้ในเชิงเหตุผล) ด้วยการขับขี่เชิงป้องกัน เพราะการขับขี่เชิงป้องกันหรือ ไม่เพียงแต่ให้พนักงานขับขี่ปลอดภัย แต่เป็นทักษะที่ให้ความปลอดภัยขั้นกว่ากับผู้ใช้บริการ พนักงานขับรถที่ดีจะไม่เพียงแค่รู้กฎจราจรขั้นพื้นฐาน แต่ยังมีการฝึกสมาธิระหว่างขับ มีความเข้าใจในการขับขี่ สาเหตุและปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุ สามารถประเมินสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างละเอียด เรียกได้ว่าเป็นความปลอดภัยขั้นสูงที่พนักงานขับรถที่ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้นเพื่องานคุณภาพ
จ้างคนขับรถค่าใช้จ่ายสูงจริงหรือไม่
การเดินทางด้วยรถยนต์ ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและมีความเป็นส่วนตัว ต่างกับการใช้บริการรถสาธารณะที่มีเวลาเดินทางไม่แน่นอนและอาจต้องต่อรถหลายครั้งกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ยิ่งถ้าในวันหนึ่งๆนั้น เราต้องเดินทางไปหลาย ๆ สถานที่ ยิ่งมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นและความสะดวกสบายลดลง

อย่างไรก็ตามสำหรับนักธุรกิจหรือคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ การมีคนขับรถส่วนตัวช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นอีกมาก จึงเกิดคำถามว่าการจ้างคนขับรถส่วนตัวค่าใช้จ่ายสูงจริงหรือไม่ หากเราใช้บริการจากบริษัทจัดหาคนขับรถ ที่มีบริการคนขับรถประจำสำนักงานที่มีประสบการณ์ขับรถ (แน่นอน เพราะคนขับรถส่วนตัวต้องใช้ความรับผิดชอบ ทักษะ และประสบการณ์สูง อย่างน้อยต้องมีประสบการณ์ในการขับรถหลายปีขึ้นไป) ชำนาญเส้นทางในที่เราทำงานอยู่หรือสามารถพาเราไปในจังหวัดหรือพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยได้

และหากใครที่ต้องการพนักงานขับรถให้เจ้านายชาวต่างชาติ หรือบริการลูกค้าชาวต่างชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง การได้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และภาษาของเจ้านายหรือลูกค้าบ้างนิด ๆ หน่อยๆ เป็นรอง จะอำนวยความสะดวกมากขึ้นเพราะเจ้านายหรือลูกค้าที่ใช้บริการเหล่านี้ไม่ชำนาญเส้นทางในที่ที่เราทำงานอยู่ หากเรามีพนักงานขับรถที่ไว้ใจได้ ได้มาตรฐานสากลและด้วยในอัตราค่าบริการแบบเหมา "รายเดือน" เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่ได้กลับมาย่อมคุ้มค่ามาก ๆ เพราะลูกค้าที่ใช้บริการได้พักผ่อนระหว่างเดินทาง หรือเตรียมงาน เตรียมตัวบนรถระหว่างเดินทางไปทำธุระ สามารถเดินทางไปได้ทันเวลาไม่ว่าจะไปสนามบิน หรือที่ทำงาน หรือสถานที่ไกลๆ สุดท้ายถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายจ้างพนักงานขับรถไปบ้าง แต่ก็คุ้มค่าที่สุด กับสิ่งที่ได้รับกลับมา “เราได้ซื้อเวลา สุขภาพ ความปลอดภัยในการเดินทางและความสำเร็จทางธุรกิจ”
ข้อตกลงที่ผู้ว่าจ้างควรตกลงกับคนขับรถมีอะไรบ้าง
เมื่อคุณตัดสินใจว่าจ้างหรือใช้บริการคนขับรถส่วนตัว ข้อตกลงสำคัญต่าง ๆ ที่คุณควรทำความเข้าใจร่วมกับคนขับรถก่อนเริ่มงานนั้นมีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยในสัญญาควรระบุว่าเป็นลักษณะการว่าจ้างแบบระยะยาวหรือระยะสั้น มีระยะเวลาตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน ที่สำคัญควรระบุอัตราค่าจ้างไว้อย่างชัดเจน
2. ผู้ว่าจ้างควรตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ เช่นเอกสารยืนยันผ่านการฝึกอบรม และใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะของคนขับรถที่ถูกจ้างมา เพื่อเป็นการยืนยันว่าคนขับรถคนนั้นได้รับอนุญาตให้ขับขี่ยานพาหนะอย่างถูกกฎหมายและมีความเป็นมืออาชีพสูงเนื่องจากผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว
3. ผู้ว่าจ้างควรตรวจสอบประวัติของคนขับรถอีกครั้งให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่าคนขับรถที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมหรือเคยกระทำผิดร้ายแรงมาก่อน
4. แจกแจงเรื่องสวัสดิการต่าง ๆ ให้คนขับรถทราบ เช่น ประกันสังคม หรือสวัสดิการอื่น ๆ ที่ควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน
5. ข้อตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากค่าจ้างของคนขับรถ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าตรวจเช็คสภาพรถ บางครั้งนายจ้างอาจกำหนดค่าใช้จ่ายในการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ให้คนขับรถรับรู้และประเมินค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ในยามที่ต้องนำรถยนต์ไปเช็คสภาพ
6. ข้อตกลงเกี่ยวกับเงื่อนไขอื่น ๆ ในการปฏิบัติงาน คนขับรถควรและไม่ควรทำอะไรบ้างในระหว่างการปฏิบัติงาน เช่น ไม่ควรดื่มสิ่งของมึนเมา ไม่ควรนำรถไปใช้ในการส่วนตัว ฯลฯ

ทั้งหมดนี้คือข้อตกลงหลัก ๆ ที่คุณและคนขับรถควรทำความเข้าใจร่วมกันก่อนเริ่มปฏิบัติงาน

ที่มาที่ไปของอำเภอปากเกร็ด

ปากเกร็ด เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ทรงโปรดยกฐานะให้ บ้านตลาดขวัญ เป็นเมืองนนทบุรี โดยมีตัวเมืองดั้งเดิมอยู่ที่ตำบลบางกระสอในปัจจุบัน มีแม่น้ำเจ้าพระยาตัดผ่านตัวอำเภอ

ในปี พ.ศ. 2427 ได้ฐานะเป็น แขวงตลาดขวัญ และต่อมาได้รับการยกฐานะเป็น อำเภอปากเกร็ด ตั้งที่ว่าการอำเภออยู่ในพื้นที่วัดสนามเหนือ ต่อมาในปี พ.ศ. 2485 จังหวัดนนทบุรีถูกยุบลงเรื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ อำเภอปากเกร็ดจึงถูกย้ายไปขึ้นกับจังหวัดพระนคร จนกระทั่งวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 ได้มีการจัดตั้งจังหวัดนนทบุรีขึ้นมาอีกครั้ง อำเภอปากเกร็ดจึงกลับมาอยู่ในเขตการปกครองของจังหวัดนนทบุรี ต่อมาในปี พ.ศ. 2505 มีการย้ายที่ว่าการอำเภอมาตั้งริมถนนแจ้งวัฒนะ หมู่ 5 ตำบลปากเกร็ด เพื่อให้สะดวกในการติดต่อราชการของประชาชนในพื้นที่ และมีการแยกพื้นที่ทางตะวันออกของตำบลปากเกร็ดตั้งเป็นตำบลคลองเกลือในปี พ.ศ. 2532

ส่วนที่มาของชื่ออำเภอ “ปากเกร็ด” สันนิษฐานว่ามาจากชื่อวัดปากอ่าว ประสมกับคำว่า “เกร็ด” ที่แปลว่า “ห้วงน้ำแคบต่อจากห้วงน้ำใหญ่ทั้งสอง” คำว่าปากเกร็ดจึงน่าจะมีความหมายว่า “บริเวณแผ่นดินที่เป็นปากอ่าว มีอาณาเขตติดต่อกับแม่น้ำใหญ่”

อีกข้อสันนิษฐาน กล่าวว่า “ปากเกร็ด” อาจมาจากชื่อคลองขุดในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ เพื่อใช้ลัดแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงที่เริ่มไหลวกเข้าไปในคุ้งบางบัวทอง อดีตผู้คนจะเรียกคลองนี้ว่า “คลองเตร็ดน้อย” และเพี้ยนมาเป็น “คลองลัดเกร็ด” หรือเกาะเกร็ดในปัจจุบัน และบริเวณต้นคลองลัดเรียกว่า “ปากเกร็ด”

ปัจจุบันอำเภอปากเกร็ดแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 12 ตำบล 85 หมู่บ้าน ถือเป็นอำเภอที่มีตำบลมากที่สุดในจังหวัดนนทบุรี พื้นที่ฝั่งตะวันตกส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้ ไร่นา วิถีชีวิตแบบชนบท ในขณะที่ฝั่งตะวันออกเป็นเขตที่พักอาศัย อุตสาหกรรม โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า และที่ตั้งของหน่วยงานราชการสำคัญของประเทศ มีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 2 แห่ง คือ สะพานนนทบุรี (สะพานนวลฉวี) และสะพานพระราม 4



อิมแพ็ค เมืองทองธานี ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมขนาดใหญ่ระดับชาติ

ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี (IMPACT Arena, Exhibition and Convention Center, Muang Thong Thani) เป็นศูนย์จัดแสดงสินค้าและการประชุมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยเนื้อที่กว่า 140,000 ตารางเมตร รองรับการจัดงานอีเวนท์ต่างๆมากกว่า 400 งาน ต่อปี ประกอบด้วยอาคารจัดงานต่างๆพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน พื้นที่เชื่อมต่อระหว่างการจัดงานเป็นสัดส่วน

ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ถูกสร้างเป็นศูนย์กีฬ่าเมืองทองธานี ในปี พ.ศ. 2539 โดยบริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) เพื่อสนับสนุนการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 ในปี พ.ศ. 2541 โดยใช้เป็นสนามแข่งขันกีฬาในร่ม เช่น ยิมนาสติกและมวยสากลสมัครเล่น และได้รับการพัฒนามาเป็นศูนย์แสดงสินค้าและจัดประชุมขนาดใหญ่ขึ้นในภายหลัง ภายใต้ชื่อว่า “อิมแพ็ค เมืองทองธานี”

พื้นที่ภายในแบ่งเป็น 5 ส่วนสำคัญ คือ

อาคารชาแลนเจอร์ (IMPACT Challenger) เป็นอาคารใหญ่ที่สามารถเปิดเชื่อมต่อได้ถึง 3 อาคาร (อาคาร 1-3) แต่ละห้องมีเนื้อที่ 20,000 ตารางเมตร รวมทั้งหมด 60,000 ตาราง ใช้เป็นพื้นที่จัดงานระดับประเทศและนานาชาติ

ศูนย์แสดงสินค้า (IMPACT Exhibition Center) ประกอบด้วย 8 อาคาร มีพื้นที่รวม 47,000 ตารางเมตร รองรรับการจัดแสดงสินค้า นิทรรศการ และการประชุมระดับสากล

อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม (IMPACT Forum) เดิมชื่อ อิมแพ็ค คอนเวนชั่น เซ็นต์เตอร์ เป็นอาคารประชุมขนาดใหญ่ ความจุสูงสุดได้ถึง 2,000 ที่นั่ง พร้อมห้องประชุมย่อยอีก 26 ห้อง มีความสวยงาม ออกแบบผสมผสามศิลปะไทยร่วมสมัย

อิมแพ็ค อารีน่า (IMPACR Arena) อาคารด้านหน้าสุด สำหรับจัดงานแสดงที่ต้องการเวที เช่น คอนเสิร์ตต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นอาคารจัดงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดด้วยพื้นที่และการตกแต่ง รวมถึงสามารถใช้เป็นพื้นที่จัดการแข่งขันกีฬาในร่มได้ด้วย ตัวอาคารมีเพดานสูง 24 เมตร และจุได้ถึง 12,000 ที่นั่ง

เดอะ พอร์ทอล ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ (The Portal Lifestyle Complex) เป็นอาคารศูนย์การค้าสูง 4 ชั้น ตกแต่งทันสมัยสวยงามภายใต้แนวคิด “คลื่นน้ำ” เชื่อมต่ออาคาร อารีน่า ชาเลนเจอร์ และอาคารศูนย์แสดงสินค้า

นอกจากนี้ภายในอิมแพ็ค เมืองทองธานี ยังมีลานอเนกประสงค์ อิมแพ็ค สแควร์ (Aktiv Square) อิมแพ็ค เลคไซด์ (IMPACT Lakeside) ธันเดอร์โดม ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ และโซนโรงแรมระดับ 5 ดาว อย่าง โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ อิมแพ็ค และ โรงแรมไอบิส กรุงเทพ อิมแพ็ค อีกทั้งยังมีการจัดการเรื่องการเดินทางที่หลากหลายรูปแบบและสะดวกสบาย ใช้เวลาไม่นานจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิและสนามบินนานาชาติดอนเมือง มีทั้งอาคารลานจอดรถ ระบบบริการรถสาธารณะทั้งรถตู้สาธารณะ รถประจำทาง จุดจอดรถแท็กซี่ รถสองแถว รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถ Shuttle Bus และจุดบริการเช่ารถ “ฮ๊อปคาร์ (HAUPCAR)” เรียกว่าเลือกจัดงานที่นี่จบครบในคราวเดียว



รถเสียจะเลือกซ่อมอู่หรือซ่อมศูนย์บริการดี

กรณีที่รถเสียหรือมีอะไหล่บางตัวชำรุดเสียหาย หลายคนลังเลว่าจะเลือกนำรถเข้าซ่อมที่อู่ซ่อมรถทั่วไปหรือจะซ่อมที่ศูนย์บริการดี

ซ่อมอู่ คือการนำรถเข้าซ่อม “อู่ในเครือ” ที่ทำสัญญาไว้กับบริษัทประกันภัยรถยนต์ ซึ่งเราสามารถโทรนัดวันเวลานำรถเข้าซ่อมกับบริษัทประกันภัยได้เลย ไม่ต้องสำรองจ่าย และอีกประเภทคือ “อู่นอกเครือ” คืออู่ที่ไม่ได้ทำข้อตกลงไว้กับบริษัทประกันภัยรถยนต์ เราจะต้องสำรองจ่ายค่าซ่อมก่อนนำใบเสร็จไปเบิกกับบริษัทประกันภัยอีกที

ซ่อมศูนย์บริการ หรือที่หลายๆคนเรียกว่า “ซ่อมห้าง” คือการนำรถยนต์เข้าซ่อมกับศูนย์บริการของรถยนต์ที่เราเป็นเจ้าของเช่น ศูนย์ฮอนด้า ศูนย์โตโยต้า

ข้อดีของการนำรถยนต์ซ่อมที่ศูนย์บริการ

1. มีความน่าเชื่อคือ

2. มีระบบการทำงานที่ได้มาตรฐาน

3. ได้อะไหล่แท้และมีใบรับประกันการซ่อม

4. มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับรถแต่ละยี่ห้อ

ข้อเสียของการนำรถยนต์ส่งซ่อมที่ศูนย์บริการ

1. รอคิวนาน

2. ศูนย์บริการมีไม่ทั่วถึง อาจไม่มีศูนย์บริการใกล้บ้าน ทำให้ไม่สะดวกสบายนักเวลาจะส่งรถหรือรับรถ

3. ค่าอะไหล่และค่าบริการสูง โดยเฉพาะหากรถหมดประกัน การส่งรถซ่อมศูนย์ควรคุยกับช่างให้ดีว่าอะไหล่ชิ้นไหนควรเปลี่ยนทันที อะไหล่ชิ้นไหนยังสามารถใช้ต่อได้ เพื่อลดค่าใช้จ่าย เพราะหากปล่อยให้ช่างเช็คและเปลี่ยนตามความเห็นเบื้องต้นได้เลยอาจตกใจกับบิลค่าซ่อมได้

มาดูข้อดีของการส่งรถซ่อมอู่บ้าง

1. มีตัวเลือกเยอะ เพราะอู่ซ่อมรถทั่วไปมีอยู่หลายพื้นที่ เราสามารถเลือกอู่ที่เราไว้ใจได้

2. สามารถซ่อมแยกส่วนได้ อะไรเสียก็ซ่อมส่วนนั้น ไม่ต้องเหมายกเซ็ต ทำให้ไม่เปลืองค่าใช้จ่าย

3. ไม่ต้องรอคิวนาน เพราะอู่ซ่อมรถทั่วไปมีเยอะ หาง่าย

4. เบี้ยประกันรถยนต์ถูกกว่าการส่งซ่อมศูนย์บริการ

5. เลือกคุณภาพอะไหล่ได้ตามต้องการ ทั้งยี่ห้อ และเกรดอะไหล่ อะไหล่แท้หรืออะไหล่เทียบ

ข้อเสียของการส่งรถซ่อมอู่

1. มาตรฐานการซ่อมอาจขึ้นอยู่กับดวง ว่าจะได้อู่ที่ซ่อมดี มีช่างที่ชำนาญการซ่อม บริการดี และให้คำแนะนำดีหรือไม่

2. หากซ่อมแล้วเกิดปัญหาภายหลัง จะเคลมซ้ำยาก

3. หากเจ้าของรถยนต์ไม่มีความรู้เรื่องอะไหล่รถเลย อาจได้อะไหล่คุณภาพไม่ดี อะไหล่เทียบ หรืออะไหล่มือสองที่ใช้แล้วมาเปลี่ยนให้โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ดังนั้นเจ้าของรถต้องทำการบ้านอย่างดีก่อนนำรถซ่อมอู่ ถามหาอู่ที่ดี เก่ง และไว้ใจได้จากคนรู้จัก หรือจากกลุ่มผู้ใช้รถยี่ห้อเดียวกันหรือรุ่นเดียวกันเพื่อป้องกันการถูกหลอกซ่อมจากอู่ที่เอาเปรียบลูกค้า

สุดท้าย ขอแนะนำว่า หากรถของเราเป็นรถใหม่ ป้ายแดง หรือเจ้าของรถเป็นมือใหม่หัดขับ ไม่มีประสบการณ์ในการดูรถ เช็คอะไหล่ ควรนำรถเข้าซ่อมกับศูนย์บริการ รถยนต์ยี่ห้อนั้น ๆ เพื่อความอุ่นใจ แต่หากเจ้าของรถเป็นผู้มีประสบการณ์เรื่องรถยนต์ ซ่อมรถเป็นอยู่บ้าง รู้เรื่องอะไหล่ ชิ้นส่วนต่างๆของรถมากพอสมควร บวกกับใช้รถที่มีอายุการใช้งานค่อนข้างนานแล้ว แนะนำให้เลือกซ่อมอู่ที่เรารู้จักและไว้ใจเพื่อลดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับเบี้ยประกัน สามารถต่อรองราคา เลือกอะไหล่ได้เอง