วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา คนขับรถ
• คนขับรถควรมีใบขับขี่รถยนต์ และขับรถได้อย่างสุภาพ นุ่มนวล ถูกกฎจราจร คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเมื่อทำการขับขี่ เพราะคนขับรถต้องดูแลรับผิดชอบชีวิตของอีกหลายๆชีวิตภายในรถ รวมทั้งทรัพย์สินต่าง ๆของผู้โดยสารอีกด้วย อย่างเช่นตัวอย่างตามข่าวที่เราเห็นกันบ่อย ๆ อุบัติเหตุส่วนมากเกิดจากคนขับรถที่ประมาท
• มีความรอบรู้เรื่องเส้นทางต่าง ๆ เป็นอย่างดี
• เป็นคนตรงต่อเวลา กระตือรือร้น และพร้อมที่จะทำงานอยู่เสมอ
• มีบุคลิกที่ดี มนุษยสัมพันธ์ดี พูดจาไพเราะ มีความสุภาพ และมีมารยาทที่ดี สิ่งเหล่านี้ส่งผลกับผู้ที่นั่งโดยสารอยู่ในรถด้วย ในบางครั้งที่รถติดหากมีคนขับรถที่พูดคุยดีมีมารยาทก็ช่วยลดความเครียดได้ดีเลยทีเดียว
• คนขับรถควรมีทัศนคติดี เช่น ขับอย่างสุภาพ ไม่ขับฝ่าไฟเหลืองหรือไฟแดง ขับด้วยความเร็วและไม่มีมารยาทบนท้องถนน พฤติกรรมเหล่านี้เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
• เป็นคนขับรถที่มีน้ำใจบนท้องถนน ในช่วงเวลาเร่งด่วน ทุกคนต่างต้องการไปให้ถึงจุดหมายตามกำหนดเวลา การขับรถไม่เพียงแต่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ควรมีน้ำใจซึ่งกันและกันด้วย เช่น การจอดรถให้คนข้ามถนน การขับรถช้า ๆเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นใส่คนที่เดินอยู่ริมถนน หรือการชะลอความเร็วเพื่อให้รถคันอื่นไปก่อน
• คนขับรถควรมีสุขภาพที่แข็งแรง มีสติสัมปชัญญะและสมาธิครบถ้วนพร้อมให้บริการในการขับรถ
• คนขับรถที่ดีต้องรู้เทคนิคการตรวจสอบความปลอดภัยของรถแต่ละรุ่น รู้จักการซ่อมบำรุงรถยนต์ขั้นพื้นฐานได้ เปลี่ยนยาง เช็คน้ำมันเครื่อง มีชำนาญในการล้างรถยนต์ และดูแลรถยนต์ให้สะอาดและอยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ
• รู้จักรักษาความลับของเจ้านายเป็นอย่างดี และเป็นคนที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดี
อย่างไรก็ตามสำหรับนักธุรกิจหรือคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ การมีคนขับรถส่วนตัวช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นอีกมาก จึงเกิดคำถามว่าการจ้างคนขับรถส่วนตัวค่าใช้จ่ายสูงจริงหรือไม่ หากเราใช้บริการจากบริษัทจัดหาคนขับรถ ที่มีบริการคนขับรถประจำสำนักงานที่มีประสบการณ์ขับรถ (แน่นอน เพราะคนขับรถส่วนตัวต้องใช้ความรับผิดชอบ ทักษะ และประสบการณ์สูง อย่างน้อยต้องมีประสบการณ์ในการขับรถหลายปีขึ้นไป) ชำนาญเส้นทางในที่เราทำงานอยู่หรือสามารถพาเราไปในจังหวัดหรือพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยได้
และหากใครที่ต้องการพนักงานขับรถให้เจ้านายชาวต่างชาติ หรือบริการลูกค้าชาวต่างชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง การได้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และภาษาของเจ้านายหรือลูกค้าบ้างนิด ๆ หน่อยๆ เป็นรอง จะอำนวยความสะดวกมากขึ้นเพราะเจ้านายหรือลูกค้าที่ใช้บริการเหล่านี้ไม่ชำนาญเส้นทางในที่ที่เราทำงานอยู่ หากเรามีพนักงานขับรถที่ไว้ใจได้ ได้มาตรฐานสากลและด้วยในอัตราค่าบริการแบบเหมา "รายเดือน" เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่ได้กลับมาย่อมคุ้มค่ามาก ๆ เพราะลูกค้าที่ใช้บริการได้พักผ่อนระหว่างเดินทาง หรือเตรียมงาน เตรียมตัวบนรถระหว่างเดินทางไปทำธุระ สามารถเดินทางไปได้ทันเวลาไม่ว่าจะไปสนามบิน หรือที่ทำงาน หรือสถานที่ไกลๆ สุดท้ายถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายจ้างพนักงานขับรถไปบ้าง แต่ก็คุ้มค่าที่สุด กับสิ่งที่ได้รับกลับมา “เราได้ซื้อเวลา สุขภาพ ความปลอดภัยในการเดินทางและความสำเร็จทางธุรกิจ”
• มีสัญญาจ้างงานเป็นลายลักษณ์อักษร และแจกแจงสวัสดิการต่าง ๆ ที่จะได้รับนอกเหนือจากเงินเดือน เช่น ประกันสังคม เครื่องแบบ หรือเงินโบนัส
• คนขับรถต้องอนุญาตให้นายจ้างตรวจสอบประวัติการทำงานและประวัติอาชญากรรมได้
• อายุของคนขับรถ นายจ้างมักเลือกอายุตั้งแต่ 25 ปี ขึ้นไป จนถึง 50 ปี ซึ่งเป็นวัยที่มีวุฒิภาวะแล้ว
• คนขับรถต้องมีใบขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
• คนขับรถควรมีประสบการณ์ในการขับรถมาก่อน เพราะต้องใช้ความรับผิดชอบ ทักษะ และประสบการณ์ในการทำงานสูง
• คนขับรถมีความชำนาญในด้านเส้นทางสามารถใช้ Google Map หรือ GPS ได้ดี
• มีการตกลงเรื่องวันทำงาน ระยะเวลาที่ทำงาน วันหยุดต่าง ๆ และหากมีการทำงานนอกเวลา หรือเกินจากเวลาปกติจะมีเงินพิเศษให้หรือไม่ ค่าแรงอยู่ที่เท่าไหร่ มีอาหารให้กี่มื้อ
• มีช่วงระยะทดลองงานเป็นระยะเวลากี่วัน และหากผ่านการทดลองงานจะมีการปรับเพิ่มเงินเดือนตามความเหมาะสมหรือไม่
• การลากิจ ลาป่วยต่าง ๆ ต้องแจ้งกับนายจ้างล่วงหน้า
• มีการตรวจสอบสภาพของรถยนต์ของนายจ้างก่อนที่จะให้คนขับรถส่วนตัวเริ่มงาน เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่ายว่ารถยนต์ที่จะนำมาใช้ขับอยู่ในสภาพอย่างไร มีความปลอดภัยหรือไม่
• ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ ค่าน้ำมัน นายจ้างจะรับผิดชอบในส่วนนี้
• ในขณะที่ปฏิบัติงานคนขับรถจะไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มอื่น ๆที่มีผลต่อการขับขี่รถ
• หากเกิดอุบัติเหตุในขณะที่คนขับรถทำงาน ทางนายจ้างจะดูแลและมีสวัสดิการการรักษาอย่างไร
ที่มาที่ไปของอำเภอปากเกร็ด
ปากเกร็ด เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ทรงโปรดยกฐานะให้ บ้านตลาดขวัญ เป็นเมืองนนทบุรี โดยมีตัวเมืองดั้งเดิมอยู่ที่ตำบลบางกระสอในปัจจุบัน มีแม่น้ำเจ้าพระยาตัดผ่านตัวอำเภอ
ในปี พ.ศ. 2427 ได้ฐานะเป็น แขวงตลาดขวัญ และต่อมาได้รับการยกฐานะเป็น อำเภอปากเกร็ด ตั้งที่ว่าการอำเภออยู่ในพื้นที่วัดสนามเหนือ ต่อมาในปี พ.ศ. 2485 จังหวัดนนทบุรีถูกยุบลงเรื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ อำเภอปากเกร็ดจึงถูกย้ายไปขึ้นกับจังหวัดพระนคร จนกระทั่งวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 ได้มีการจัดตั้งจังหวัดนนทบุรีขึ้นมาอีกครั้ง อำเภอปากเกร็ดจึงกลับมาอยู่ในเขตการปกครองของจังหวัดนนทบุรี ต่อมาในปี พ.ศ. 2505 มีการย้ายที่ว่าการอำเภอมาตั้งริมถนนแจ้งวัฒนะ หมู่ 5 ตำบลปากเกร็ด เพื่อให้สะดวกในการติดต่อราชการของประชาชนในพื้นที่ และมีการแยกพื้นที่ทางตะวันออกของตำบลปากเกร็ดตั้งเป็นตำบลคลองเกลือในปี พ.ศ. 2532
ส่วนที่มาของชื่ออำเภอ “ปากเกร็ด” สันนิษฐานว่ามาจากชื่อวัดปากอ่าว ประสมกับคำว่า “เกร็ด” ที่แปลว่า “ห้วงน้ำแคบต่อจากห้วงน้ำใหญ่ทั้งสอง” คำว่าปากเกร็ดจึงน่าจะมีความหมายว่า “บริเวณแผ่นดินที่เป็นปากอ่าว มีอาณาเขตติดต่อกับแม่น้ำใหญ่”
อีกข้อสันนิษฐาน กล่าวว่า “ปากเกร็ด” อาจมาจากชื่อคลองขุดในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ เพื่อใช้ลัดแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงที่เริ่มไหลวกเข้าไปในคุ้งบางบัวทอง อดีตผู้คนจะเรียกคลองนี้ว่า “คลองเตร็ดน้อย” และเพี้ยนมาเป็น “คลองลัดเกร็ด” หรือเกาะเกร็ดในปัจจุบัน และบริเวณต้นคลองลัดเรียกว่า “ปากเกร็ด”
ปัจจุบันอำเภอปากเกร็ดแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 12 ตำบล 85 หมู่บ้าน ถือเป็นอำเภอที่มีตำบลมากที่สุดในจังหวัดนนทบุรี พื้นที่ฝั่งตะวันตกส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้ ไร่นา วิถีชีวิตแบบชนบท ในขณะที่ฝั่งตะวันออกเป็นเขตที่พักอาศัย อุตสาหกรรม โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า และที่ตั้งของหน่วยงานราชการสำคัญของประเทศ มีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 2 แห่ง คือ สะพานนนทบุรี (สะพานนวลฉวี) และสะพานพระราม 4
อิมแพ็ค เมืองทองธานี ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมขนาดใหญ่ระดับชาติ
ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี (IMPACT Arena, Exhibition and Convention Center, Muang Thong Thani) เป็นศูนย์จัดแสดงสินค้าและการประชุมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยเนื้อที่กว่า 140,000 ตารางเมตร รองรับการจัดงานอีเวนท์ต่างๆมากกว่า 400 งาน ต่อปี ประกอบด้วยอาคารจัดงานต่างๆพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน พื้นที่เชื่อมต่อระหว่างการจัดงานเป็นสัดส่วน
ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ถูกสร้างเป็นศูนย์กีฬ่าเมืองทองธานี ในปี พ.ศ. 2539 โดยบริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) เพื่อสนับสนุนการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 ในปี พ.ศ. 2541 โดยใช้เป็นสนามแข่งขันกีฬาในร่ม เช่น ยิมนาสติกและมวยสากลสมัครเล่น และได้รับการพัฒนามาเป็นศูนย์แสดงสินค้าและจัดประชุมขนาดใหญ่ขึ้นในภายหลัง ภายใต้ชื่อว่า “อิมแพ็ค เมืองทองธานี”
พื้นที่ภายในแบ่งเป็น 5 ส่วนสำคัญ คือ
อาคารชาแลนเจอร์ (IMPACT Challenger) เป็นอาคารใหญ่ที่สามารถเปิดเชื่อมต่อได้ถึง 3 อาคาร (อาคาร 1-3) แต่ละห้องมีเนื้อที่ 20,000 ตารางเมตร รวมทั้งหมด 60,000 ตาราง ใช้เป็นพื้นที่จัดงานระดับประเทศและนานาชาติ
ศูนย์แสดงสินค้า (IMPACT Exhibition Center) ประกอบด้วย 8 อาคาร มีพื้นที่รวม 47,000 ตารางเมตร รองรรับการจัดแสดงสินค้า นิทรรศการ และการประชุมระดับสากล
อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม (IMPACT Forum) เดิมชื่อ อิมแพ็ค คอนเวนชั่น เซ็นต์เตอร์ เป็นอาคารประชุมขนาดใหญ่ ความจุสูงสุดได้ถึง 2,000 ที่นั่ง พร้อมห้องประชุมย่อยอีก 26 ห้อง มีความสวยงาม ออกแบบผสมผสามศิลปะไทยร่วมสมัย
อิมแพ็ค อารีน่า (IMPACR Arena) อาคารด้านหน้าสุด สำหรับจัดงานแสดงที่ต้องการเวที เช่น คอนเสิร์ตต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นอาคารจัดงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดด้วยพื้นที่และการตกแต่ง รวมถึงสามารถใช้เป็นพื้นที่จัดการแข่งขันกีฬาในร่มได้ด้วย ตัวอาคารมีเพดานสูง 24 เมตร และจุได้ถึง 12,000 ที่นั่ง
เดอะ พอร์ทอล ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ (The Portal Lifestyle Complex) เป็นอาคารศูนย์การค้าสูง 4 ชั้น ตกแต่งทันสมัยสวยงามภายใต้แนวคิด “คลื่นน้ำ” เชื่อมต่ออาคาร อารีน่า ชาเลนเจอร์ และอาคารศูนย์แสดงสินค้า
นอกจากนี้ภายในอิมแพ็ค เมืองทองธานี ยังมีลานอเนกประสงค์ อิมแพ็ค สแควร์ (Aktiv Square) อิมแพ็ค เลคไซด์ (IMPACT Lakeside) ธันเดอร์โดม ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ และโซนโรงแรมระดับ 5 ดาว อย่าง โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ อิมแพ็ค และ โรงแรมไอบิส กรุงเทพ อิมแพ็ค อีกทั้งยังมีการจัดการเรื่องการเดินทางที่หลากหลายรูปแบบและสะดวกสบาย ใช้เวลาไม่นานจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิและสนามบินนานาชาติดอนเมือง มีทั้งอาคารลานจอดรถ ระบบบริการรถสาธารณะทั้งรถตู้สาธารณะ รถประจำทาง จุดจอดรถแท็กซี่ รถสองแถว รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถ Shuttle Bus และจุดบริการเช่ารถ “ฮ๊อปคาร์ (HAUPCAR)” เรียกว่าเลือกจัดงานที่นี่จบครบในคราวเดียว
รถเสียจะเลือกซ่อมอู่หรือซ่อมศูนย์บริการดี
กรณีที่รถเสียหรือมีอะไหล่บางตัวชำรุดเสียหาย หลายคนลังเลว่าจะเลือกนำรถเข้าซ่อมที่อู่ซ่อมรถทั่วไปหรือจะซ่อมที่ศูนย์บริการดี
ซ่อมอู่ คือการนำรถเข้าซ่อม “อู่ในเครือ” ที่ทำสัญญาไว้กับบริษัทประกันภัยรถยนต์ ซึ่งเราสามารถโทรนัดวันเวลานำรถเข้าซ่อมกับบริษัทประกันภัยได้เลย ไม่ต้องสำรองจ่าย และอีกประเภทคือ “อู่นอกเครือ” คืออู่ที่ไม่ได้ทำข้อตกลงไว้กับบริษัทประกันภัยรถยนต์ เราจะต้องสำรองจ่ายค่าซ่อมก่อนนำใบเสร็จไปเบิกกับบริษัทประกันภัยอีกที
ซ่อมศูนย์บริการ หรือที่หลายๆคนเรียกว่า “ซ่อมห้าง” คือการนำรถยนต์เข้าซ่อมกับศูนย์บริการของรถยนต์ที่เราเป็นเจ้าของเช่น ศูนย์ฮอนด้า ศูนย์โตโยต้า
ข้อดีของการนำรถยนต์ซ่อมที่ศูนย์บริการ
1. มีความน่าเชื่อคือ
2. มีระบบการทำงานที่ได้มาตรฐาน
3. ได้อะไหล่แท้และมีใบรับประกันการซ่อม
4. มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับรถแต่ละยี่ห้อ
ข้อเสียของการนำรถยนต์ส่งซ่อมที่ศูนย์บริการ
1. รอคิวนาน
2. ศูนย์บริการมีไม่ทั่วถึง อาจไม่มีศูนย์บริการใกล้บ้าน ทำให้ไม่สะดวกสบายนักเวลาจะส่งรถหรือรับรถ
3. ค่าอะไหล่และค่าบริการสูง โดยเฉพาะหากรถหมดประกัน การส่งรถซ่อมศูนย์ควรคุยกับช่างให้ดีว่าอะไหล่ชิ้นไหนควรเปลี่ยนทันที อะไหล่ชิ้นไหนยังสามารถใช้ต่อได้ เพื่อลดค่าใช้จ่าย เพราะหากปล่อยให้ช่างเช็คและเปลี่ยนตามความเห็นเบื้องต้นได้เลยอาจตกใจกับบิลค่าซ่อมได้
มาดูข้อดีของการส่งรถซ่อมอู่บ้าง
1. มีตัวเลือกเยอะ เพราะอู่ซ่อมรถทั่วไปมีอยู่หลายพื้นที่ เราสามารถเลือกอู่ที่เราไว้ใจได้
2. สามารถซ่อมแยกส่วนได้ อะไรเสียก็ซ่อมส่วนนั้น ไม่ต้องเหมายกเซ็ต ทำให้ไม่เปลืองค่าใช้จ่าย
3. ไม่ต้องรอคิวนาน เพราะอู่ซ่อมรถทั่วไปมีเยอะ หาง่าย
4. เบี้ยประกันรถยนต์ถูกกว่าการส่งซ่อมศูนย์บริการ
5. เลือกคุณภาพอะไหล่ได้ตามต้องการ ทั้งยี่ห้อ และเกรดอะไหล่ อะไหล่แท้หรืออะไหล่เทียบ
ข้อเสียของการส่งรถซ่อมอู่
1. มาตรฐานการซ่อมอาจขึ้นอยู่กับดวง ว่าจะได้อู่ที่ซ่อมดี มีช่างที่ชำนาญการซ่อม บริการดี และให้คำแนะนำดีหรือไม่
2. หากซ่อมแล้วเกิดปัญหาภายหลัง จะเคลมซ้ำยาก
3. หากเจ้าของรถยนต์ไม่มีความรู้เรื่องอะไหล่รถเลย อาจได้อะไหล่คุณภาพไม่ดี อะไหล่เทียบ หรืออะไหล่มือสองที่ใช้แล้วมาเปลี่ยนให้โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ดังนั้นเจ้าของรถต้องทำการบ้านอย่างดีก่อนนำรถซ่อมอู่ ถามหาอู่ที่ดี เก่ง และไว้ใจได้จากคนรู้จัก หรือจากกลุ่มผู้ใช้รถยี่ห้อเดียวกันหรือรุ่นเดียวกันเพื่อป้องกันการถูกหลอกซ่อมจากอู่ที่เอาเปรียบลูกค้า
สุดท้าย ขอแนะนำว่า หากรถของเราเป็นรถใหม่ ป้ายแดง หรือเจ้าของรถเป็นมือใหม่หัดขับ ไม่มีประสบการณ์ในการดูรถ เช็คอะไหล่ ควรนำรถเข้าซ่อมกับศูนย์บริการ รถยนต์ยี่ห้อนั้น ๆ เพื่อความอุ่นใจ แต่หากเจ้าของรถเป็นผู้มีประสบการณ์เรื่องรถยนต์ ซ่อมรถเป็นอยู่บ้าง รู้เรื่องอะไหล่ ชิ้นส่วนต่างๆของรถมากพอสมควร บวกกับใช้รถที่มีอายุการใช้งานค่อนข้างนานแล้ว แนะนำให้เลือกซ่อมอู่ที่เรารู้จักและไว้ใจเพื่อลดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับเบี้ยประกัน สามารถต่อรองราคา เลือกอะไหล่ได้เอง
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง