คนสวน ใน จอมทอง, เชียงใหม่

คนสวน ใน จอมทอง, เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

สวนน่ามองขึ้นเยอะ คิดถูกแล้วจริง ๆ ที่ใช้บริการจากใส่ใจ
Saijai
ธารา อานนา
2 ปีที่แล้ว
ช่างมีความแบบยังไงดี คือเก็บงานละเอียดไม่ทิ้งไว้ให้ต้องทำตามหลัง
Saijai
นัฐ สงบคราม
2 ปีที่แล้ว
ช่างมาเร็วมากทำงานเร็วแล้วก็เก็บกวาดเรียบร้อย มีสื่อสารพลาดเล็กน้อยแต่ไม่เกิดปัญหาใด ๆ
Saijai
ยุวพันธ์ อันดี
3 ปีที่แล้ว
แอดมินทำงานเร็วมากมีปัญหาเล็กน้อยก็รีบประสานงานให้ประหยัดเวลา สะดวกและรวดเร็ว
Saijai
สมชาย ละเอี่ยมอ่อง
3 ปีที่แล้ว
ใช้บริการจากที่นี่หลายครั้งแล้วประทับใจเหมือนเดิม โอกาสหน้าก็จะกลับมาใช้บริการจาก SAIJAI อีกแน่นอน
Saijai
อาริชิ มาศสุข
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา คนสวน

การดูแลสนามหญ้าให้เหมือนใหม่
วฺิธีการดูแลสนามหญ้าให้สวยงามอยู่เสมอ
1.สิ่งที่สำคัญในการดูแลสนามหญ้าอันดับแรกเลยคือการเลือกสายพันธุ์หญ้าให้เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการปลูก สำหรับประเทศไทยที่มีลักษณะร้อนชื้น ฝนตกชุก หญ้าที่เหมาะและนิยมใช้ปูสนามหญ้ากันในประเทศไทย ได้แก่
- หญ้าญี่ปุ่น เป็นหญ้าที่ทนต่อการโดนเหยียบย่ำได้ดี แต่มีข้อเสียที่ใบแข็งและหยาบ เวลาสัมผัสจะทำให้ระคายผิวหนังจึงไม่เหมาะในการใช้นั่งเล่น เหมาะสำหรับปลูกกลางแจ้งที่มีแดดจัด
- หญ้านวลน้อย เป็นหญ้าที่สามารถปลูกได้กับดินทุกสภาพ ปลูกง่าย ดูแลง่าย หน้าตาใกล้เคียงกับหญ้าญี่ปุ่นแต่มีใบที่กว้างและนุ่มกว่า สัมผัสแล้วไม่ระคายผิว ตัดแต่ให้เรียบร้อยหญ้าจะแน่นเหมือนปูพรม ทนต่อการโดนเหยียบย่ำได้ดี สามารถนั่งเล่นได้ แต่ในฤดูแล้งควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
- หญ้ามาเลเซีย เป็นหญ้าที่เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ทนต่อทุกสภาพอากาศ แต่ไม่เหมาะกับการถูกเดินเหยียบเนื่องจากมีใบที่อวบน้ำและเปราะ เหมาะที่จะปลูกใต้ต้นไม้หรือชายคาบ้านเพราะต้องการแสงแดดเป็นน้อยแต่ก็สามารถปลูกในที่กลางแจ้งได้แต่ต้องหมั่นรดน้ำอยู่อย่างสม่ำเสมอ
- หญ้าแพรก เป็นหญ้าที่ทนแล้งได้ดีที่สุด เหมาะกับการปลูกในที่ที่มีแสงแดดจัด เติบโตอย่างรวดเร็วจึงไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาตัดเอง เพราะต้องตัดแต่งอยู่บ่อย ๆ
2. การรดน้ำให้ถูกวิธี ช่วงเวลาที่เหมาะกับการรดน้ำ คือในเวลาเช้าตรู่เพราะหญ้าจะนำสารอาหารที่ได้จากการรดน้ำ มาเสริมสร้างให้หญ้าเจริญเติบโต และรดอย่างพอดีไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป หากเป็นหญ้าที่เพิ่งปลูกไหม้ควรรดน้ำวันละ 2-3 ครั้ง ติดต่อกัน 10 วันเพื่อให้หญ้าฟื้นฟูและหยั่งรากลงไปในดินให้พร้อมสำหรับการเจริญเติบโต
3.ในหนึ่งเดือนเราควรใส่ปุ๋ยให้หญ้าเดือนละ 1 ครั้ง โดยหลังการใส่ปุ๋ยนั้นเราจะต้องรดน้ำให้ชุ่ม
4.ควรตัดหญ้าทุก ๆ 7-14 วัน โดยทุกครั้งที่ตัดนั้นควรเหลือหญ้าความยาวไว้ประมาณ 1 นิ้ว และควรตัดหญ้าในวันที่อากาศดี ไม่มีฝน ตอนที่สนามหญ้าแห้ง
ปัญหาในการจัดสวนและวิธีแก้
ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการจัดสวนของเรา อาจเกิดจากความไม่รู้หรือไม่เข้าใจของเราเพื่อที่จะคงความสวยงามของสวนไว้ได้นาน เราจึงควรเรียนรู้วิธีการแก้ไขปัญหาที่สามารถพบได้บ่อย ได้แก่
1.การรดน้ำต้นไม้ที่มากเกินความจำเป็น หรือการรดน้ำที่บ่อยเกินไปเพราะต้นไม้บางชนิดไม่ได้ต้องการน้ำมากมายอะไร ซึ่งการรดที่มากและบ่อยเกินไปจะทำให้ให้รากต้นไม้เน่าเพราะรากไม่สามารถดูดซึมน้ำได้ทัน ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องศึกษาว่าต้นไม้ที่เราปลูกนั้นต้องการน้ำมากน้อยแค่ไหน
2.ไม่ปลูกต้นไม้ พืช หรือดอกไม้ใกล้กันเกินไป เพราะเมื่อเจริญเติบโตอาจทำให้กิ่งก้านพันกับต้นอื่น ๆ ทำให้ดอกหรือผลของต้นไม้เสียหายได้
3.การวางหรือตำแหน่งต้นไม้ไม่ถูกต้อง คือต้นไม้แต่ละชนิดมีความต้องการในการรับแสงแดดไม่เท่ากัน หากโดนแสงแดดน้อยหรือมากเกินไปจะทำให้การเจริญเติบโตไม่เต็มที่เท่าที่ควร
4.ตรวจสอบสภาพดินก่อนปลูกต้นไม้ เราจำเป็นที่จะต้องรู้ก่อนว่าดินในสวนของเรานั้นเหมาะกับต้นไม้ที่เราต้องการนำมาปลูกหรือไม่ เพราะหากไม่ตรวจสอบผลที่ตามมาอาจทำให้ต้นไม่ไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่
5.การระบายน้ำในกระถางยาว ปัญหาที่พบบ่อยคือปุ๋ยเฉอะแฉะ เพราะการระบายน้ำไม่ค่อยดี แก้ได้ด้วยการที่ขุดดินและต้นไม้ในกระถางออกมา จากนั้นปูผ้าลงในกระถางแล้วใช้ก้อนหินหรือก้อนกรวดมาวางกองไว้โดยเว้นนะยะห่าง 3-4 นิ้วจนเต็มแล้วนำต้นไม้ของเรากลับใส่กระถางเหมือนเดิม การทำแบบนี้ก็เพื่อช่วยให้สามารถระบายน้ำได้ดียิ่งขึ้น

ทำความรู้จักต้นไม้ยอดฮิตสำหรับปลูกไว้ริมรั้ว
ต้นไม้บางชนิดนอกจากจะสามารถให้ร่มเงาแล้วบางชนิดยังสามารถออกผลหรือส่งกลิ่นหอมได้อีกด้วย ต้นไม้ที่ได้รับความนิยมในการปลูกริมรั้วบ้านมีต้นอะไรบ้าง เรามาดูกันค่ะ
ไทรเกาหลี เป็นต้นไม้ที่นิยมปลูกริมรั้วเป็นแนวรั้วเนื่องจากทรงของพุ่มไม้ค่อนข้างแน่น ไทรเกาหลีเมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงประมาณ 5-6 เมตร มีใบเขียวดกตลอดทั้งปี
เฟื่องฟ้า/ เป็นต้นที่สามารถตัดแต่งและบังคับทิศทางการเจริญเติบโตได้ ออกดอกเป็นช่อ ๆ ตามยอดของกิ่งไม้ โดยปกติจะมีความสูงอยู่ที่ 1-3 เมตร ในการดูแลนั้นเฟื่องฟ้าเป็นต้นที่ต้องการแสงแดดหากได้รับแสงแดดไม่เพียงพอจะทำให้สีของดอกไม่ชัดและออกดอกน้อย
ดอกเข็ม เป็นต้นไม้ที่ปลูกเพื่อความสวยงาม สีของดอกเข็มนั้นมีหลากหลาย เช่น แดง ขาว ชมพู เหลือง เป็นต้น ออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอดหรือกิ่งข้างของต้น ออกดอกตลอดทั้งปี
พลับพลึง พลับพลึงเป็นพันธุ์ไม้ล้มลุกขึ้นเป็นกอ มีหัวอยู่ใต้ดินใบจะออกรอบ ๆ ลำต้น มีลักษณะแคบและเรียวยาวประมาณ 1 เมตร ออกดอกเป็นช่อ เหมาะกับการปลูกในดินที่มีความชื้นแฉะหรือระบายน้ำได้ไม่ดี
มะม่วง เป็นต้นผลไม้ที่สามารถปลูกได้ง่ายจึงทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีรสชาติอร่อยตามความสุกดิบของผลมะม่วงอีกด้วย
ฝรั่ง เป็นอีกต้นที่ได้รับความนิยมในการปลูกริมรั้ว ความสูงของต้นจะอยู่ที่ 3-10 เมตร ผลของต้นฝรั่งนั้นมีประโยชน์อย่างมากมาย ทั้งในเรื่องการช่วยดับกลิ่นปาก เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
จัดสวนตามเทรนด์ฮิต
การจัดสวนไม่เพียงแต่ช่วยให้บ้านของเราดูสบาย แต่ยังทำให้เราอยากอยู่บ้านมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และแน่นอนว่าการจัดสวนไม่ได้จัดได้เพียงแบบเดียว มีสไตล์การจัดสวนที่มากมาย อย่างเช่น
- การจัดสวนสไตล์ทรอปิคอล เป็นการจัดสวนที่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศร้อนชื้น การแต่งสวนสไตล์นี้จะเน้นที่โทนสีเขียวเป็นหลัก ดูมีความร่มรื่น มีน้ำตกขนาดย่อม ๆ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบความร่มรื่นเป็นอย่างมากและยังเข้ากันได้ดีกับบ้านไม้ แต่เพราะมีต้นไม้เยอะจึงไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาดูแลสวนมากนัก
- การจัดสวนสไตล์โมเดิร์น ในการจัดสวนสไตล์โมเดิร์นนั้นจะมีการแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน เน้นองค์ประกอบเป็นรูปทรงเรขาคณิต ไม่จำเป็นต้องมีต้นไม้มากเกินไปในสวน เน้นใช้ต้นไม้ที่รูปทรงโดดเด่นและมีความชัดเจน สีที่ใช้ในการตกแต่งมักเป็น ดำ เทา หรือขาว เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการดูแล
- การจัดสวนสไตล์มินิมอล ไม่เน้นการตกแต่งที่มากมายโดยจะเน้นการตกแต่งน้อยชิ้นแต่ดูมาก ใช้ต้นไม้ที่สามารถดูแลได้ง่าย อาจจะเพิ่มลูกเล่นด้วยการยกพื้นขึ้นมาคล้ายขั้นบันได เหมาะกับคนที่ต้องการให้บ้านมีความสบายตา ชอบซ่อนลูกเล่นให้สวนดูมีอะไรมากขึ้น ไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาในการดูแลสวน
- การจัดสวนสไตล์อังกฤษ จะมีความคลาสสิค นิยมปลูกดอกไม้ให้มีสีสันสวยงาม ในส่วนของทางเดิน นิยมใช้อิฐมอล หินธรรมชาติ การจัดสวนสไตล์นี้เหมาะกับคนที่ชอบดอกไม้หรืออาจเหมาะกับบ้านที่ตกแต่งสไตล์วินเทจนั่นเอง
- การจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น ในการจัดสวนสไตล์จะต้องมีความพิถีพิถัน ใส่ใจและต้องเวลาดูสวนพอสมควร เพราะการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่นนั้นยึดหลักของนิกายเซน เพื่อฝึกจิตใจและปล่อยวางไปกับธรรมชาติ เหมาะกับการพักผ่อนจิตใจได้ดี