ช่างปูกระเบื้อง

ช่างปูกระเบื้อง

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการช่างปูกระเบื้องใกล้บ้านคุณ:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ประวัติการทำงาน-ช่างประจำอาคาร8ปี-หัวหน้าช่าง3ปี-ปัจจุบันรับงานเหมาอิสระ 4ปี-ปัจจุบันรับงานไฟฟ้าประปาทาสีงาน Maintenance Service ห้องพัก อพาร์ทเมนท์ ออฟฟิต คอนโด รับงานทำความสะอาดสระว่ายน้ำบริการทั้งงานเล็ก ๆ ถึงงานใหญ่ครับ

แสดงเพิ่มเติม

รีวิวล่าสุด

ช่างพูดคุยง่ายดีครับ ได้ตามที่ต้องการและไม่ทำอะไรโดยไม่ปรึกษาผมด้วย ดีๆๆๆ รอบหน้าจะใช้บริการจากใส่ใจอีก
Saijai
ฤทธ์ ใบทาศร
3 ปีที่แล้ว
เริ่ดมาก ไม่คิดว่าช่างปูกระเบื้องจากใส่ใจจะทำงานไว งานเนี๊ยบแถมยังเสร็จก่อนเวลาที่ตกลงกันไว้
Saijai
คิ้วท์ จัง
3 ปีที่แล้ว
งานโอเค พูดคุยงานง่าย ได้พื้นกระเบื้องแบบที่ต้องการ
Saijai
มาลี เทศะพล
4 ปีที่แล้ว
กระเบื้องห้องน้ำที่บ้านระเบิด เลยติดต่องช่างจากใส่ใจ ช่างเก่งมากแนะนำทั้งแบบกระเบื้องที่เหมาะกับห้องน้ำ ทำงานดีเสร็จไว โอกาสจะใช้บริการอื่น ๆ จากใส่ใจอีกแน่นอน
Saijai
Robert Krabpom
4 ปีที่แล้ว
ดีครับ ช่างทำงานไวงานมีคุณภาพ ถ้ามีโอกาสจะกลับมาใช้บริการจากใส่ใจอีกครับ
Saijai
ฐาพัฒน์ ภาคภูมิ
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างปูกระเบื้อง

การปูกระเบื้องมีกี่แบบ
การเลือกใช้วิธีการปูกระเบื้องที่เหมาะสมกับชนิดกระเบื้อง จะเป็นการป้องกันความเสียหาย กระเบื้องไม่ได้ระดับ หลุดล่อน ไปจนถึงโก่งตัวหรือระเบิดได้ การปูกระเบื้องที่ได้รับความนิยมนั้นมีอยู่ 3 วิธีด้วยกัน ซึ่งทั้ง 3 ข้อนี้มีข้อดีและข้อเสียต่างกัน ดังนี้
1.การปูกระเบื้องแบบซาลาเปา คือการนำปูนมาโปะตรงกลางหลังกระเบื้องไม่เกลี่ยให้ทั่วแผ่น วิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมใช้เพราะไม่เลอะเทอะ สะดวก และยังรวดเร็วอีกด้วย แต่การปูกระเบื้องด้วยวิธีนี้นั้นจะทำให้เกิดช่องว่างใต้กระเบื้อง ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงต่อการแตกร้าวและหลุดล่อนได้ง่าย
2.การปูกระเบื้องแบบกึ่งเปียก หรือเรียกว่า ปูนขี้หนู คือการใช้ปูนผสมทรายกับน้ำในอัตราส่วนน้อย ๆ ทำให้ปูนดูเป็นขุยเหมือน “ขี้หนู” แล้วนำไปเทปรับพื้นให้ได้ระดับที่ต้องการปาดกาวซีเมนต์ด้านหลังกระเบื้อง พรมน้ำบนปูนขี้หนูอีกเล็กน้อย นำกระเบื้องแปะลงไปแล้วเคาะให้ได้ระดับที่ต้องการ เป็นวิธีที่ช่างนิยมใช้เพราะทำได้ง่าย รวดเร็ว ข้อเสียของการปูกระเบื้องแบบนี้คือ ปูนที่อยู่ใต้กระเบื้องมีโอกาสเคลื่อนตัวหรือยุบตัว อีกทั้งมีโอกาสที่กระเบื้องหลุดล่อนในภายหลังเพราะเนื้อปูนยึดเกาะกับหลังกระเบื้องได้ไม่ดีนัก
3.การปูกระเบื้องแบบใช้กาวซีเมนต์ หรือ ปูนกาว วิธีนี้จะต้องเทปรับพื้นให้เรียบได้ระดับและเหลือความหนาไว้สำหรับปูกระเบื้องด้วย จากนั้นก็ทำการผสมปูนกาวแล้วก็นำไปปาดลงบนพื้นผนังด้วยเกรียงหวีตามขนาดที่เหมาะสม ข้อดีคือ การเตรียมส่วนผสมไม่ยุ่งยาก ติดแน่นมากกว่าสองวิธีแรกเพราะเป็นปูนกาว และไม่มีปัญหาเรื่องการยุบตัว แต่ข้อเสียคือต้องใช้เวลาในการเตรียมพื้นผิว
ประเภทของกระเบื้องกับการใช้งานที่เหมาะสม
ก่อนที่เราจะซื้อกระเบื้องปูพื้นหรือผนังบ้านนั้นเราต้องรู้ก่อนว่า กระเบื้องแต่ละแบบมีคุณสมบัติอย่างไร เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและเพื่อที่จะทำให้เรานั้นได้ใช้งานอย่างยาวนาน
กระเบื้องที่คนส่วนมากนิยมนำไปปูพื้น มีราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย คือ กระเบื้องเซรามิก เนื้อกระเบื้องเซรามิกจะมีความแน่นและมีความแข็งแรงสูงเลยทีเดียว สามารถนำไปปูพื้นหรือผนังได้ นอกจากนี้กระเบื้องเซรามิกยังดูดซึมน้ำได้ดี เวลาเปียกน้ำ เนื้อกระเบื้องจะมีความลื่น ไม่ควรเอาไปปูพื้นห้องน้ำหรือบริเวณที่โดนน้ำ
กระเบื้องที่มีการนำมาใช้งานยาวนานที่สุด ใช้กันมาตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน คือ กระเบื้องดินเผา เนื้อกระเบื้องทำมาจากดินเหนียวที่ผ่านการเผา ทำให้เนื้อกระเบื้องมีความด้าน ไม่อมความร้อน และเก็บความชื้นได้ดี มีราคาถูก แต่น่าเสียดายที่เป็นกระเบื้องที่ไม่ค่อยมีความทนทาน ผุกร่อนง่าย และยังทำความสะอาดยากอีกด้วย
กระเบื้องที่มีส่วนผสมของดินขาวและแร่อื่น ๆ ผ่านกระบวนการเผาที่อุณหภูมิสูงจนกระเบื้องเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น มีความแข็งแรง ไม่แตกง่าย ทนต่อการขูดขีด กระเบื้องชนิดนี้คือ กระเบื้องพอร์ซเลน เป็นกระเบื้องที่ง่ายต่อการทำความสะอาด ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค นิยมนำไปปูพื้นในบริเวณที่ใช้งานบ่อย
กระเบื้องที่มีขนาดเล็กที่สุด มีลักษณะเป็นกระเบื้องชิ้นเล็กๆ ชนิดนี้เรียกว่า กระเบื้องโมเสค มีคุณสมบัติระบายน้ำได้ดีจึงนิยมนำไปปูพื้นสระว่ายน้ำ ไม่เหมาะนำไปปูพื้นในบริเวณที่กว้างๆ เพราะมีขนาดเล็กอาจต้องใช้กระเบื้องจำนวนมาก มีราคาที่ค่อนข้างสูง และยังเป็นกระเบื้องที่ทำความสะอาดยากที่สุดอีกด้วย
กระเบื้องชนิดนี้จะมีความคล้ายกับกระเบื้องโมเสค คือ กระเบื้องแก้ว กระเบื้องแก้วเกิดจากการนำชิ้นแก้วมาขึ้นรูปเป็นแผ่นกระเบื้อง มีราคาค่อนข้างสูงแต่ข้อดีคือมีความทนทานมากกว่ากระเบื้องชนิดอื่น เหมาะกับการนำไปใช้ตกแต่งหรือใช้ปูในพื้นที่แคบ ๆ ไม่นิยมปูในพื้นที่กว้างๆ เพราะกระเบื้องชิ้นเล็กปูยาก และอย่างที่บอกเลยคือราคาค่อนข้างสูง
กระเบื้องชนิดนี้เกิดจากธรรมชาติ คือแผ่นหินที่เนื้อแข็ง ไม่กักเก็บความร้อน จุดเด่นคือมีความเย็นอยู่ในตัว จุดด้อยคือมีน้ำหนักเยอะ การดูรักษาค่อนข้างยุ่งยาก เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย กระเบื้องนี้ก็คือ กระเบื้องหินอ่อนนั้นเอง
พื้นภายนอกบ้านหรือนอกอาคาร ควรปูพื้นด้วยกระเบื้องประเภทใด
พื้นนอกบ้านถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างบรรยากาศให้กับตัวบ้าน ไม่ต่างจากกระเบื้องปูพื้นภายในบ้าน วัสดุที่จะใช้ในการปูพื้นนอกบ้านจำเป็นที่จะต้องมีความทนทานสูง เพราะต้องพบเจอทั้งแดดและฝนตลอดเวลา เรามาดูกันว่ากระเบื้องปูพื้นชนิดใดที่เหมาะสำหรับปูภายนอกบ้าน
1.กระเบื้องเซรามิก โดยทั่วไปกระเบื้องชนิดนี้เหมาะกับการปูพื้นในบริเวณที่โดนแสงแดดน้อย เช่น ระเบียงหรือชานบ้าน เนื่องจากความแข็งแรงและทนทานน้อยกว่ากระเบื้องชนิดอื่น ๆ ที่จะนำมาปูนอกบ้าน
2.กระเบื้องซีเมนต์ หรือ กระเบื้องคอนกรีต พื้นผิวของกระเบื้องชนิดนี้จะค่อนข้างหยาบ และมีผิวสัมผัสที่ด้าน ง่ายต่อการซ่อนฝุ่น จึงเป็นที่นิยมในการตกแต่งภายนอกของตัวบ้านและอาคาร
3. กระเบื้องพอร์ซเลน กระเบื้องชนิดนี้ได้รับการจัดอันดับว่าสามารถใช้ปูพื้นหลากหลาย เพราะมีความหนาแน่นและแข็งแรงเป็นพิเศษ เป็นกระเบื้องที่เหมาะสำหรับพื้นที่กลางแจ้ง
4.หินแกรนิต เนื้อหินแกรนิตนั้นค่อนข้างมีความพรุน หากนำไปปูพื้นโดยไม่ทำการปิดร่องหรือทำยาแนวให้เรียบร้อย อาจทำให้น้ำซึมได้
5.หินปูน หินปูนมีความอ่อนตัวกว่าหินชนวนหรือหินแกรนิตจึงทำให้เกิดรอยบิ่นหรือรอยขีดข่วนได้ง่าย ข้อดีของหินปูนคือมีกระบวนการผลิตที่ง่าย สีของหินปูนจะออกไปโทนน้ำตาลหรือเทา เหมาะกับที่ที่มีสภาพอากาศแห้ง ไม่เหมาะกับที่ที่มีอากาศหนาว
6.หินทราเวอร์ทีน เป็นหินที่ขุดได้จากแหล่งแร่ธรรมชาติ สวยงามและแข็งมากแต่ง่ายต่อการสะสมของสิ่งสกปรกเพราะมีพื้นผิวที่เป็นหลุมเล็กน้อย และที่ตั้งของเหมืองหินก็มีความสำคัญต่อคุณภาพของหินเป็นอย่างมาก หินทราเวอร์ทีนจากตุรกีหรืออิตาลีจะเหมาะสมในการปูพื้นนอกบ้านมากที่สุด
การเลือกสีกระเบื้องปูพื้นมีเทคนิคอย่างไร
สีและพื้นผิวของกระเบื้องถือเป็นตัวกำหนดภาพรวมของห้องเลยก็ว่าได้ กระเบื้องปูพื้นมีให้เลือกมากมายหลากหลายแบบ ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกซื้อกระเบื้อง เราต้องดูก่อนว่าห้องของเรามีโทนสีแบบไหน และเราอยากให้ภาพรวมของห้องเราเป็นแบบไหน
ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ควรรู้ก่อนที่เราจะเลือกซื้อกระเบื้องปูพื้นกันเลยค่ะ
1.ขนาดห้อง ไม่ว่าห้องของคุณจะมีขนาดใหญ่หรือเล็ก สีของกระเบื้องที่นำไปปูพื้นจะสามารถช่วยได้ แต่สีโทนไหนล่ะที่จะเหมาะกับห้องของเรา หากห้องของคุณเป็นห้องที่ใหญ่และกว้าง คุณควรเลือกกระเบื้องที่มีสีโทนร้อนหรือมีสีเข้ม จะช่วยทำให้ห้องของเราดูอบอุ่น ให้ความรู้สึกปลอดภัยและทำให้ห้องดูเล็กลงอีกด้วย แต่ถ้าห้องคุณนั้นมีขนาดที่เล็ก ให้เลือกกระเบื้องที่มีสีอ่อน สีอ่อนจะช่วยให้ห้องนั้นดูโล่ง ปลอดโปร่งมากขึ้น และยังให้ห้องดูกว้างขวางขึ้นอีกด้วย
2.ลวดลายของกระเบื้อง พื้นที่ที่มีการใช้งานหรือเดินผ่านบ่อย ๆ ควรเลือกกระเบื้องที่ลาย เพื่อให้ลายกระเบื้องช่วยพลางคราบสกปรกและรอยขีดข่วนที่มาจากใช้งาน
3.ความเข้ากันของสี หากต้องการให้ห้องของคุณดูสงบ ผ่อนคลาย ควรเลือกใช้โทนสีของกระเบื้องให้ใกล้เคียงกับสีผนังห้อง เช่น หากคุณทาสีห้องด้วยสีขาวขวัญบุหรี่ พื้นห้องควรปูด้วยกระเบื้องสีอ่อน ๆ เช่น เทาอ่อน เบจ หรือ ครีม แต่ถ้าหากต้องการห้องดูมีชีวิตชีวาให้เลือกสีกระเบื้องที่ตรงข้ามกับการตกแต่งห้องของเรา
4.ประเภทกระเบื้อง ถึงแม้ประเภทกระเบื้องจะไม่ได้ส่งผลต่อการเลือกสี แต่ถ้าหากใช้ปูในห้องน้ำก็ควรเลือกใช้กระเบื้องที่เหมาะสมกับการใช้งานในห้องน้ำ หรือในห้องครัวก็ควรเลือกใช้กระเบื้องประเภทที่ทำความสะอาดได้ง่าย