วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง
1.ช่างซ่อมบำรุงควรเป็นคนที่ช่างสังเกต และช่างจดจำ รู้จักการคิดปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงสิ่งต่างๆ ให้เกิดประโยชน์
2.ช่างจะต้องมีนิสัยรักในการทำงาน มีความรับผิดชอบ ทำงานด้วยความปลอดภัย ไม่ประมาท และระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่อยู่เสมอ
3.ช่างจะต้องมีความรู้ความสามารถสูงในสาขาอาชีพของตนเอง และมีความรอบรู้ในเชิงช่างทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน
4.ช่างนั้นจะต้องมีทักษะความสามารถทางช่าง มีความรู้ ความแม่นยำในเครื่องจักรเครื่องมือและอุปกรณ์ รู้จักวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานของเครื่องจักรเครื่องมือ และยังคงพัฒนาทักษะทางการช่างให้มีความเจริญกก้าวหน้า
5.ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นประโยชน์ต่อช่างซ่อมบำรุงมาก ความกล้าที่จะตัดสินใจและมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จ และจะต้องคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกด้วย
6.การมีบุคลิกภาพและมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับช่างซ่อมบำรุง มันจะเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวช่างและลูกค้าที่พบเจอ เพื่อทำให้การทำงานร่วมกันนั้นดำเนินการร่วมกันได้เป็นอย่างดี และจะทำให้การประกอบอาชีพมีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น
และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการทำงานไม่ว่าจะเป็นช่างซ่อมบำรุงหรืออาชีพอื่น ๆ นั่นคือความซื่อสัตย์ ดังสำนวน “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ดังนั้นเราจึงจะต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า และมีมาตรฐานในการทำงานให้มีคุณภาพดีที่สุดเสมอต้นเสมอปลาย ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อที่ลูกค้าจะได้ไว้วางใจให้เราทำงานในครั้งถัดไป
หากคุณได้แต่คาดการณ์สาเหตุ โดยระบุสาเหตุไม่ได้ชัดเจนแล้ว "ลอง" ลงมือซ่อมเองตามวิธีที่เราคิดว่าน่าจะใช่นั้นย่อมเสี่ยงทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเราได้ง่าย ปัญหาเหล่านั้นอาจเป็นปัญหาที่อันตรายถึงชีวิต และการที่เรา "ลอง" ซ่อมแซมเครื่องจักรเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆเหล่านั้นด้วยตนเอง อาจจะทำให้คุณภาพของสิ่งของเหล่านั้นมีคุณภาพที่ลดลง หากคุณลองค้นหาวิธีซ่อมอุปกรณ์หรือแก้ไขมันด้วยตัวเองจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ จะพบว่าเว็บไซต์เหล่านั้นไม่แนะนำให้ซ่อมหรือแก้ไขด้วยตัวเอง แต่แนะนำให้ปรึกษาหรือเรียกช่างซ่อมบำรุงที่เป็นมืออาชีพมาดูแทน เพราะเครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์ที่เราอาจจะไม่คุ้นชิน อีกทั้งยังไม่มีอุปกรณ์ซ่อมไฟพร้อมเท่ากับช่างซ่อมบำรุงมืออาชีพ
และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรเรียกช่างซ่อมบำรุงมืออาชีพมากกว่าลงมือซ่อมเครื่องจักรเครื่องมือเหล่านั้นด้วยตนเอง
- ช่างทาสี การทาสีนั้นอาจจะดูเหมือนง่ายแต่ก็ไม่ง่ายไปซะทีเดียว การทาสีผนังบ้านใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จกับการทาสีผนังบ้านเก่านั้นมีการเตรียมพื้นผิวในการทาสีและมีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทาสีที่ต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นในการที่เราจะให้ผู้ที่มีประสบการณ์ในการทาสีเพื่อความสวยงามของบ้านที่เรารักและจะอาศัยอยู่ไปอีกนาน
- ช่างปูกระเบื้อง การใช้บริการช่างจากช่างปูกระเบื้องที่มีความชำนาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อที่เราจะได้รับงานที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อนและมีความสวยงาม
- ช่างฝ้าเพดาน เพื่อป้องกัน ในแสงแดดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวของเราและ เพื่อเก็บโครงสร้างใต้หลังคาให้บ้านดูสวยงาม โดยฝ้าเพดานนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายประเภท มีความสวยงามเหมาะกับการแต่งบ้านแต่ละแบบต่างกันออกไป
- คนดูแลสวน การดูแลสวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความใส่ใจเป็นอย่างมาก การทำสวนไม่ใช่การทำแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องให้สวนนั้นสามารถอยู่ได้อย่างยาวนาน
- ช่างดูแลสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำของเราจะสะอาดได้นั้น ต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เราอาจจะคิดว่าเราสามารถที่จะดูสระว่ายน้ำด้วยตัวเองได้ แต่ในความเป็นจริงมีรายละเอียดปลีกย่อยในการดูแลและบำรุงรักษาสระว่ายน้ำอีกมากพอสมควรที่เราอาจจะยังไม่รู้ ดังนั้นการเรียงช่างที่เป็นดูแลสระว่ายน้ำนั้นจะช่วยให้เราสะดวกในการดูแลมากกว่าเดิม เพราะสระว่ายน้ำเป็นสิ่งก่อสร้างที่ถาวรเหมือนกับบ้านและตึกที่เราอาศัย การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
5 จุดในบ้านที่ควรตรวจตราก่อนเข้าหน้าฝน
- ระบบไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าเป็นจุดที่สำคัญเป็นอย่างมากเพราะหากปล่อยให้มีไฟฟ้าชำรุด สายไฟขาด กระแสไฟรั่ว หรือมีไฟกะพริบ อาจเกิดทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้คนที่อยู่อาศัยในบ้านอาจถูกไฟดูดหรือถูกไฟช็อตได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจเช็คระบบไฟฟ้าทั้งหมดภายในบ้านและติดต่อช่างมาซ่อมให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยของผู้อาศัย
- หลังคาบ้าน หากพบว่าหลังคาบ้านมีรอยแตกร้าว รอยรั่ว หรือมีน้ำซึม ควรติดต่อช่างเพื่อทำการซ่อมแซมทันทีหากปล่อยไว้ น้ำอาจจะรั่วซึมเข้าบ้านและอาจส่งผลกระทบทำให้ส่วนอื่น ๆ ภายในบ้านได้รับความเสียหายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากน้ำรั่วในตำแหน่งตรงกับระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ผู้อยู่อาศัยอาจได้รับอันตรายจากการโดนไฟดูดหรือลื่นล้มได้
- ท่อน้ำภายในบ้าน เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนปริมาณน้ำที่ไหลผ่านท่ออาจจะมากกว่าปกติ หากมีสิ่งอุดตันอยู่ในท่อน้ำจะส่งผลให้ไม่สามารถระบายน้ำออกได้ทัน อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมขังภายในบ้านและสร้างความเสียหายได้ ดังนั้น เราจำเป็นต้องตรวจสอบว่ามีสิ่งอุดตันอยู่ภายในท่อน้ำหรือไม่เช่น กิ่งไม้ ใบไม้ หรือขยะมูลฝอย เป็นต้น
- ประตูและหน้าต่าง เป็นอีกจุดหนึ่งที่เราควรให้ความสำคัญเพราะหากเราใช้ประตูหรือหน้าต่างที่ทำจากไม้ ในช่วงฤดูฝนหรือในช่วงเวลาที่สภาพอากาศมีความชื้นสูงจะส่งผลให้ประตูหรือหน้าต่างที่ทำจากไม้นั้นขยายตัว และอาจทำให้ประตูปิดไม่สนิทได้ ควรเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำได้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว
- สวนและต้นไม้ ในช่วงฤดูฝนสวนและต้นไม้ของเราจะสามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ซึ่งทำจำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้รกเกินไป และอาจทำให้เกิดความอันตรายจากสัตว์เลื้อยคลานแก่ผู้อาศัยได้
รวมปัญหาในบ้านที่มาพร้อมหน้าฝน และวิธีแก้
- หลังคารั่ว เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในทุก ๆ บ้านและเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขโดยเร็วในการแก้ไขนั้นควรให้ช่างฝ้าเพดานมาตรวจสอบและซ่อมแซมให้เรียบร้อย เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ จะทำให้บ้านเกิดความเสียหายได้ และเป็นอันตรายต่อผู้อาศัยอีกด้วย
- ผนังรั่วซึม ปัญหานี้มีความคล้ายคลึงกับการเกิดหลังคารั่ว คือการที่มีน้ำซึมเข้ามาตามรอยแตกของกำแพง และปัญหาที่ตามมาคือการเกิดเชื้อราบนฝาผนัง มีกลิ่นอับ และอาจทำให้เกิดไฟรั่วได้เช่นกัน ควรเรียกช่างมาตรวจสอบและซ่อมแซมโดยเร็ว
- ท่อน้ำทิ้งหรือรางน้ำฝนตัน สาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตันของท่อน้ำหรือรางน้ำฝนนั้นคือมีฝุ่นโคลนเศษใบไม้หรือกิ่งไม้ตกลงไป ซึ่งส่งผลให้เวลาฝนตกในปริมาณมากจะไม่สามารถระบายน้ำทิ้งได้ทัน จำเป็นอย่างยิ่งเราจะต้องคอยตรวจสอบรางน้ำอยู่อย่างสม่ำเสมอ
- บ้านมีกลิ่นอับ สาเหตุที่ทำให้บ้านเกิดกลิ่นอับชื้นหลัก ๆ คือการเก็บผ้าที่ยังตากไม่แห้งมาไว้ในบ้าน หรือในบ้านมีจุดที่อับชื้นไม่สามารถถ่ายเทอากาศได้
- เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค เมื่อฝนตกแล้วสิ่งที่ตามมาคือการเกิดน้ำขังอยู่บนพื้น ในกระถางรองต้นไม้ หรือสิ่งของที่ไม่ได้ใช้งาน เมื่อปล่อยทิ้งไว้ก็จะมียุงมาวางไข่ในบริเวณนั้น ๆ จนกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายได้ ให้เราหมั่นตรวจสอบและเดินสำรวจรอบ ๆ บ้านของตนเอง หากเจอจุดที่มีน้ำขังให้เรารีบคว่ำหรือเทน้ำทิ้งเพื่อป้องกันการเกิดลูกน้ำยุงลาย
- ต้นไม้หักทับตัวบ้าน การปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ใกล้ ๆ ตัวบ้าน หากเกิดฝนตกหนักลมแรงหรือเกิดพายุขึ้น อาจทำให้กิ่งไม้หรือลำต้นนั้นหักโค่นลงมาทับตัวบ้านได้ วิธีการแก้ไขคือการตัดแต่งกิ่งไม้อย่าให้มีส่วนของต้นไม้ยื่นหรือล้ำมาพาดตัวบ้าน
- ไฟฟ้าลัดวงจร สาเหตุจากสายไฟเสื่อมสภาพ ให้เราหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอเมื่อเกิดปัญหาจะได้รีบเรียกช่างมาซ่อมได้ทันเวลา
วิธีจัดการความชื้นกระเบื้องปูพื้น
สาเหตุหลักที่ทำให้พื้นกระเบื้องเกิดความชื้นนั้น เกิดจากการควบแน่นของพื้นกระเบื้อง ที่ไอน้ำในอากาศเข้าสู่ในบ้านของเรา และสัมผัสกับพื้นกระเบื้องเย็นทำให้อากาศลดลงอย่างรวดเร็วและควบแน่นบนพื้นผิว ส่งผลให้เกิดไอน้ำหรือความชื้นเกาะบนแผ่นกระเบื้องจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พื้นกระเบื้องในบ้านของเราเปียกโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ทำให้เกิดปัญหารอยด่างหรือรอยคราบบนผิวกระเบื้องตามมา หรือเกิดจากการที่ไม่มีแผงกั้นความชื้นใต้แผ่นคอนกรีต วิธีการจัดการความชื้นบนพื้นกระเบื้องมีอะไรบ้างเรามาดูกันค่ะ
- การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะในห้องน้ำ ที่ทั้งพื้นและผนังนั้นถูกปูด้วยกระเบื้องและยังมีความชื้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราเราต้องหมั่นทำความสะอาดพื้นผิวของกระเบื้อง ช่องว่างระหว่างกระเบื้องและร่องยาแนวด้วยการใช้แปรงขัดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อรา
- เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ เปิดประตูและหน้าต่างในตอนเช้าและเย็น โดยเปิดหน้าต่างที่หันไปทิศใต้หรือทิศตะวันออกเพื่อลดระดับไอน้ำในอากาศที่จะเข้าสู่ห้องของเรา และในตอนที่มีแดดจัดนั้นให้เราเปิดประตูและหน้าต่างเพื่อให้อากาศในห้องไหลเวียนดี ช่วยระเหยความชื้นบนกระเบื้อง
- ปูพรมบนพื้น พรมจะช่วยในการดูดซับความชื้นหรือน้ำที่เกาะมากับรองเท้าของเรา เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีไอน้ำจากข้างนอกเข้ามาในบ้านของเรา ให้เรานั้นเช็ดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน หรือเปลี่ยนไปใส่รองเท้าที่เอาไว้ใส่เดินในบ้านโดยเฉพาะแทน และหากบ้านนั้นปูด้วยกระเบื้องขัดเงาสามารถปูหนังสือพิมพ์ลงบนพื้นเพื่อช่วยดูดซับน้ำเมื่อเกิดความชื้นบนกระเบื้อง
- ปลูกต้นไม้ที่ช่วยดูดซับความชื้นในห้อง ต้นไม้ที่เราก็ชอบปลูกไว้ในบ้านนั้นนอกจากจะให้ความสวยงามแล้วยังสามารถดูดซับไอน้ำจากกระเบื้องได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่มีฝนตกความชื้นในห้องสูง ถ้าในห้องมีกระถางต้นไม้ พืชก็จะช่วยดูดซับความชื้นภายในห้องได้ หากลองทำทุก ๆ ทางแล้วยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้แนะนำให้เรียกช่างมาดูเพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายต่อกระเบื้องของเรานะคะ
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง