ช่างซ่อมบำรุง ใน นครปฐม

ช่างซ่อมบำรุง ใน นครปฐม

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

อยากปูพื้นกระเบื้องเพราะที่เป็นอยู่ตอนนี้คือสภาพกระเบื้องไม่น่ามองสักนิด มีคนแนะนำให้จ้างช่างจากใส่ใจ บริการดีค่ะ ช่างทำงานไวและงานก็ออกมา ชื่นชม ถ้ามีโอกาสจะกลับมาใช้บริการอีกค่ะ
Saijai
จรรยา ถนอมจันทร์
3 ปีที่แล้ว
ช่างมีความชำนาญ สามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหาได้ดี กลับมาใช้บริการแน่นอน
Saijai
ภูวมินทร์ อาริชชา
3 ปีที่แล้ว
เห็นคลิป SAIJAI จากใน tiktok เลยถือโอกาสติดต่อสอบถามเรื่องช่างทาสี แอดมินตอบคำถามดีมากกก
Saijai
ลาน่า สะฟา
3 ปีที่แล้ว
แอร์พังกระทันหัน ติดติอช่างจากใส่ใจมาตรวจสอบรวดเร็วทันใจมาก
Saijai
จริณทร์ สมใจ
4 ปีที่แล้ว
จบครบที่เดียวจริง ๆ ติดต่อช่างมาปูกระเบื้องกับทาสีห้องใหม่ผ่านใส่ใจ งานเนี๊ยบ บริการดี๊ดี
Saijai
วันพร คงชนะ
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง

การซ่อมบำรุงสำคัญอย่างไร
หลายคนอาจจะยังนึกไม่ถึงอันตรายที่อาจเกิดจากใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ขาดการดูแลรักษาและการซ่อมบำรุง เช่น น๊อตบานประตูตู้เสื้อผ้าที่หลวมจากการเปิดปิดบ่อย ๆ หากเราไม่จัดการไขน๊อตให้แน่นตั้งแต่ตอนที่เราทราบแรก ๆ เวลาผ่านไปมันจะยิ่งหลวมกว่าเดิมเพราะมีการเปิดปิดตู้เสื้อผ้าอยู่เป็นประจำ และเพราะเราไม่จัดการมันตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้นอาจส่งผลให้บานประตูของตู้เสื้อผ้านั้นหลุด และอาจจะหล่นมาทับตัวเรา หรืออาจจะให้เกิดการเลือดตกยางออกได้
เพราะเหตุนี้ “การซ่อมบำรุง” หรือ บำรุงรักษา จึงมีความจำเป็นต่อทุก ๆ คน เพราะสิ่งนี้จะยืดระยะเวลาการใช้งานเครื่องจักรเครื่องมือของเราได้มากขึ้น และยังเป็นการประหยัดทรัพยากร ประหยัดเงินที่จะต้องเสียไปหากเราปล่อยให้เครื่องจักรเครื่องมือของเราเกิดความเสียหายจนไม่สามารถแก้ไขได้ อีกทั้งยังลดการสร้างขยะได้อีกด้วย
“การซ่อมบำรุง” หรือ บำรุงรักษา คือการจัดการให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงการรักษาอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือเครื่องจักร ให้อยู่ในสภาพที่ดี และเป็นการทำสิ่งที่ชำรุดให้กลับคืนสู่สภาพที่ดี
เราจึงควรที่จะใส่ใจในการดูแลและรักษาสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้าน หรือที่ทำงานเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย และเพื่อที่สิ่งของเครื่องใช้เหล่านี้จะสามารถใช้งานในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ จะเป็นประโยชน์มากขึ้นถ้าหากเราสามารถบำรุงรักษามันให้อยู่ในสภาพที่ดีจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือเครื่องจักร และยังเป็นการป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากอุบัติที่เกิดจากเครื่องมืออุปกรณ์ที่ชำรุดจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ



คุณสมบัติของช่างซ่อมบำรุง
การที่เราจะสามารถเป็นช่างที่ดีได้นั้นเราควรจะมีคุณสมบัติอย่างไร ควรวางตัวแบบไหน ควรมีแนวคิดหรือวิธีการคิดแบบไหนที่จะเป็นการส่งเสริมให้เรานั้นได้รับโอกาสในเส้นทางอาชีพของเรามากขึ้น SAIJAI จึงได้รวบรวมคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ช่างซ่อมบำรุงหรือช่างอื่น ๆ นั้นพึงมี ดังต่อไปนี้
1.ช่างซ่อมบำรุงควรเป็นคนที่ช่างสังเกต และช่างจดจำ รู้จักการคิดปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงสิ่งต่างๆ ให้เกิดประโยชน์
2.ช่างจะต้องมีนิสัยรักในการทำงาน มีความรับผิดชอบ ทำงานด้วยความปลอดภัย ไม่ประมาท และระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่อยู่เสมอ
3.ช่างจะต้องมีความรู้ความสามารถสูงในสาขาอาชีพของตนเอง และมีความรอบรู้ในเชิงช่างทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน
4.ช่างนั้นจะต้องมีทักษะความสามารถทางช่าง มีความรู้ ความแม่นยำในเครื่องจักรเครื่องมือและอุปกรณ์ รู้จักวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานของเครื่องจักรเครื่องมือ และยังคงพัฒนาทักษะทางการช่างให้มีความเจริญกก้าวหน้า
5.ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นประโยชน์ต่อช่างซ่อมบำรุงมาก ความกล้าที่จะตัดสินใจและมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จ และจะต้องคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกด้วย
6.การมีบุคลิกภาพและมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับช่างซ่อมบำรุง มันจะเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวช่างและลูกค้าที่พบเจอ เพื่อทำให้การทำงานร่วมกันนั้นดำเนินการร่วมกันได้เป็นอย่างดี และจะทำให้การประกอบอาชีพมีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น
และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการทำงานไม่ว่าจะเป็นช่างซ่อมบำรุงหรืออาชีพอื่น ๆ นั่นคือความซื่อสัตย์ ดังสำนวน “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ดังนั้นเราจึงจะต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า และมีมาตรฐานในการทำงานให้มีคุณภาพดีที่สุดเสมอต้นเสมอปลาย ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อที่ลูกค้าจะได้ไว้วางใจให้เราทำงานในครั้งถัดไป
การเรียกช่างซ่อมบำรุงดีกว่าซ่อมเองอย่างไร
เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเสีย ใช้งานไม่ได้ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งซับซ้อนและเกี่ยวโยงสัมพันธ์กับระบบการทำงานเฉพาะทาง ดังนั้นในการแก้ปัญหาให้ตรงจุดจึงต้องอาศัย "ความแม่นยำ" จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานของสิ่งของเหล่านั้น นอกจากนี้ช่างซ่อมบำรุงที่มีความเชี่ยวชาญนั้นจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดแล้ว โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาในการลองทำเองหรือปล่อยให้พังแล้วค่อยซ่อมทีเดียว การปล่อยให้พังแล้วซ่อมทีเดียวนั้นอาจทำให้เกิดอันตรายแก่ตัวเราได้ การให้ช่างซ่อมบำรุงมาดูให้นั้นจะเป็นผลดีต่อตัวเราเองในเรื่องความปลอดภัย ประหยัดเวลาในการลองผิดลองถูกของเราที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้ และช่างซ่อมบำรุงยังสามารถให้คำแนะนำแก่เราถึงวิธีการใช้ หรือวิธีการดูแลรักษาให้ของเหล่านั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวมากขึ้น และเพื่อป้องกันปัญหาเดิม ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
และการที่เราจะทำการซ่อมแซมสิ่งของเหล่านี้ด้วยตัวเองนั้นบางครั้งอาจเกิดความยากลำบาก เกิดความไม่สะดวกในการทำ อาจจะต้องการคนช่วยยก ช่วยดู และที่สำคัญเลยบางคนอาจจะไม่มีอุปกรณ์ในการซ่อมแซม และไม่ควรอย่างยิ่งที่เราจะนำอุปกรณ์ที่มีอยู่มาใช้แล้วคิดว่าก็แทน ๆ กันได้ สิ่งนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีกไม่จบไม่สิ้น
ดังนั้นการให้ผู้ที่มีความชำนาญในด้านนั้น ๆ มาจัดการตรวจสอบและซ่อมบำรุงให้จะเป็นการประหยัดเวลาให้ตัวเราเองได้อย่างมาก
บริการ ซ่อมบำรุง บนแพลตฟอร์ม SAIJAI มีอะไรบ้าง
คุณสามารถหาช่างซ่อมบำรุงในด้านต่าง ๆ จาก SAIJAI มีให้คุณเลือกใช้บริการ
- ช่างทาสี ท่านสามารถหาช่างทาสีให้กับบ้านใหม่หรือห้องของท่านได้จาก SAIJAI การทาสีผนังบ้านเก่ากับบ้านใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ จะมีวิธีการเตรียมพื้นผิว และใช้ผลิตภัณฑ์ทาสีที่แตกต่างกัน รวมถึงการทาสีภายในและภายนอกนั้นจะใช้สีที่มีคุณสมบัติเฉพาะที่แตกต่างกัน ถึงแม้ว่านวัตกรรมสมัยใหม่จะมีทางเลือกสีที่ใช้ได้ทั้งภายนอกและภายใน แต่ช่างทาสีก็จะแนะนำว่าให้เลือกใช้สีที่เหมาะสมกับพื้นที่นั้น ๆ จะดีที่สุด
- ช่างปูกระเบื้อง ถ้าพูดถึงงานปูกระเบื้องไม่ว่าจะเป็นในส่วนของพื้นหรือผนังนั้นก็มีขั้นตอนและรายละเอียดมากมาย ตั้งแต่การเลือกใช้เทคนิควิธีการปูที่เหมาะสมกับชนิดกระเบื้อง และยังต้องใช้ความชำนาญของช่างปูกระเบื้อง และความประณีตละเอียดอ่อนของช่างปูกระเบื้องอีกด้วย
- ช่างฝ้าเพดาน ฝ้าเพดานบ้านก็เป็นอีกอย่างที่จะทำให้บ้านสวย และช่วยเก็บงานโครงสร้างใต้หลังคาให้เรียบร้อย นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้อีกด้วย
- คนดูแลสวน การที่สวนในรั้วบ้านของเราจะสวยงามได้นั้น จะต้องมีความรู้พื้นฐานไม่ใช่แค่การทำให้จบ ๆ ไป และไม่ใช่แค่การทำให้สวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะแค่ความสวยงามอย่างเดียวนั้นไม่พอ เราจะต้องดูแลใส่ใจเพื่อที่สวนของเรานั้นจะได้อยู่ได้อย่างยาวนาน
- ช่างดูแลสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำที่ได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ จะมีคุณภาพน้ำที่ใสสะอาด ปราศจากคราบตะกอน สร้างความมั่นใจในการใช้สระว่ายน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

How to ทำความสะอาดไมโครเวฟง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน

1.อบทิชชูเปียก

นำทิชชูเปียกเข้าไปอบในไมโครเวฟ 3-5 นาที น้ำยาในทิชชู จะระเหยออกมาคลายความเหนียวของคราบอาหาร ที่ติดอยู่ภายในเตาไมโครเวฟ จากนั้น รอให้อุณหภูมิภายในเย็นลง แล้วใช้ทิชชูเช็ดทำความสะอาด

2.โรยเกลือ ป้องกันคราบกระเด็น

ระหว่างที่อบเนื้อสัตว์ หรืออาหาร ให้โรยเกลือลงไปบนถาดเตาอบ จากนั้น อุ่นอาหารตามปกติ เมื่ออาหารสุกเรียบร้อย แทนที่คุณจะเห็นคราบน้ำมัน คราบอาหารเดือดกระเด็นเปรอะเปรื้อนเตาอบเป็นจุดๆ ก็จะกลายเป็นคราบอาหารเกาะเม็ดเกลือเป็นสีดำคล้ำ ทำให้เก็บกวาดง่าย

3.อบคราบสกปรก

ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดตะแกรงให้ทั่ว จากนั้นนำตะแกรงเข้าเตาอบ 3 นาที แค่นี้คราบฝังแน่นก็หลุดร่อน

4.เบกกิ้งโซดา

คราบอาหารที่กระเด็นเลอะผนังและจานรอง ให้ใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำคนให้เข้ากัน แล้วนำไปทาบริเวณคราบสกปรก ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดไมโครเวฟให้ทั่ว

5.ไอระเหยจากน้ำมะนาว

บีบมะนาวใส่ถ้วย แล้วนำน้ำมะนาวไปผสมกับน้ำเปล่า อุ่นในไมโครเวฟด้วยอุณหภูมิสูงสุด 5 นาที ความร้อนจะเปลี่ยนน้ำในถ้วยให้เป็นไอระเหย ซึ่งไอน้ำเหล่านี้จะทำให้คราบฝังแน่นลอกหลุดง่าย จากนั้นใช้ฟองน้ำเช็ดคราบออก มะนาวยังช่วยดับกลิ่นอาหารที่สะสมได้อีกด้วย

6.ยาสีฟัน กำจัดรอยไหม้เกรียม

บีบยาสีฟันลงบนแปรงสีฟัน นำไปขัดที่รอยไหม้ในไมโครเวฟจนรอยไหม้เริ่มหลุดออก เสร็จแล้วผสมสารฟอกขาวกับน้ำสะอาดให้เข้มข้น เทลงบนกระดาษทิชชูแผ่นหนาที่ขนาดใหญ่กว่ารอยไหม้ นำมาวางทับบนรอยไหม้ ทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง คราบไหม้จะอ่อนตัวและหลุดร่อนออกมา เพื่อให้เราเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

7.วางปะเก็นยาง กันคราบรั่วซึม

ใช้ปะเก็นยางซีลรอบพื้นที่วางไมโครเวฟ เพื่อป้องกันไม่ให้คราบอาหารไหลเข้าไปฝังตัวอยู่ในซอกด้านล่าง



ไมโครเวฟเหมือนจะพัง ไม่อยากเสียเงิน แก้เองได้

ซ่อมไมโครเวฟ ไม่ทำงาน ไม่หมุน

สาเหตุหนึ่งเกิดจาก ห้องอบไมโครเวฟสกปรกจากการอุ่น หรือการประกอบอาหาร ทำให้การกระจายคลื่นไมโครเวฟไม่สะดวก การสะท้อนคลื่นอยู่ที่เดิม ๆ เป็นเวลานาน ทำให้เกิดความร้อนสูง หัวเวฟ หรือแมคนิตรอนทำงานหนัก และไหม้ได้ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ ถ้าวันหนึ่งวันใดเกิดการชอร์ตขึ้นมากะทันหัน โดยที่เราไม่ทันตั้งตัว มาดูขั้นตอนการซ่อมไมโครเวฟกัน

1.ถอดปลั๊กไฟ

2.ถอดฝาครอบตัวเครื่อง

3.สังเกตสิ่งผิดปกติ เช่น มีรอยไหม้ ฟิวส์ขาด ฯลฯ

4.ใช้มัลติมิเตอร์เช็คฟิวส์ ถ้าพบว่าฟิวส์ขาด ให้เปลี่ยนใหม่

5.เช็คแผ่นไมก้า หากสกปรก มีรอยไหม้หรือฉีกขาด ให้เปลี่ยนใหม่

ซ่อมไมโครเวฟ ไม่ร้อน

ทั้ง ๆ ที่เราสั่งหรือกดโปรแกรมได้ และมีไฟขึ้นโชว์ในห้องอบปกติ จากประสบการณ์อาการแบบนี้ ให้มุ่งไปที่ฟิวส์และแมคนิตรอน หรือตัวปล่อยคลื่นไมโครเวฟก่อนเลย ถ้าตรวจเช็คแล้วพบว่าฟิวส์ขาด หรือแมคนิตรอนเสีย ให้ถอดอุปกรณ์ทึ่ชำรุดออกมาเป็นตัวอย่าง และซื้อของใหม่มาเปลี่ยนแทน พร้อมประกอบเข้าที่ให้เรียบร้อย มาดูขั้นตอนการซ่อมไมโครเวฟกัน

1.ถอดปลั๊กไฟ

2.เช็คฟิวส์

3.เช็คคาปาซิเตอร์

4.เช็คแมคนิตรอน

5.ทดสอบการใช้งาน และประกอบเข้าที่ให้เรียบร้อย

วิธีเช็คฟิวส์ คาปาซิเตอร์ แมคนิตรอน

- เช็คฟิวส์ ใช้มัลติมิเตอร์วัดขั้วทั้งสองขั้วของฟิวส์แล้วสลับสายกัน ถ้าเข็มขึ้นแสดงว่าฟิวส์ใช้งานได้ แต่ถ้าเข็มไม่ขึ้นแสดงว่าฟิวส์ขาด

- เช็คคาปาซิเตอร์ ตั้งมัลติมิเตอร์ไปที่ X10K วัดระหว่างขั้วทั้งสอง เข็มต้องดีดขึ้น แล้วลงอย่างช้า ๆ แต่ถ้าเข็มดีดขึ้นแล้วค้าง หรือเข็มไม่ขึ้น แสดงว่าอาจจะช็อตหรือขาด

- เช็คแมคนิตรอน ใช้มัลติมิเตอร์วัดที่ขั้วกับตัวถัง ความต้านทานต้องไม่ขึ้น หรือได้ค่าต่ำมาก ๆ แสดงว่าปกติ แต่ถ้าวัดแล้วมีความต้านทานสูง แสดงว่าเสื่อมสภาพหรือเสีย ต้องเปลี่ยนใหม่



วิธีใช้ไมโครเวฟ แบบทะนุถนอม ไม่ต้องซ่อมก่อนถึงเวลา

เตาไมโครเวฟ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่กลายเป็นของที่จำเป็นกันไปเสียแล้วสำหรับหลาย ๆ ครอบครัว เนื่องจากมันเป็นเครื่องใช้ที่ช่วยในการอุ่นอาหาร หรือปรุงอาหารให้สุกได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกมากขึ้น ทั้งยังใช้พื้นที่น้อย ไม่มีปัญหาเรื่องควันในการประกอบอาหาร ดังนั้นมันจึงเป็นอุปกรณ์ในครัวที่เป็นขวัญใจคนในเมืองที่มีเวลาน้อย และบางคนก็มีห้องครัวที่มีขนาดเล็ก อย่างไรก็ตามบ่อยครั้งที่การใช้งานมักมีความเลินเล่อ ทำให้เกิดความเสียหาย เพราะส่วนมากคิดว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย ๆ แต่จริง ๆ แล้วจะต้องใช้งานอย่างถูกต้องเหมาะสมด้วย เพื่อให้สามารถใช้ได้นาน ไม่ต้องหาช่างเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน มาช่วยซ่อมไมโครเวฟให้เสียเงิน หรือต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่บ่อย ๆ เพราะพังเสียหาย

5 ข้อแนะนำในการใช้เตาไมโครเวฟ

1.ระวังเรื่องโลหะ อย่านำเข้าไปในเตาไมโครเวฟเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นภาชนะ ช้อน หรือแม้แต่ฟอยล์ ที่ใช้ห่อหุ้มอาหาร เพราะจะทำให้เกิดการสปาร์ค ทำให้เกิดความเสียหายกับตัวเตา หรือทำให้อาหารเกิดการลุกไหม้ได้เลยทีเดียว

2.อย่าอุ่นอาหารที่มีน้ำ หรือต้มน้ำที่บรรจุจนเต็มภาชนะในเตาไมโครเวฟ เพราะเมื่อมันเกิดความร้อนและเดือด อาจทำให้หกเลอะภายในตู้ได้ ทำให้เกิดการกัดกร่อนเกิดคราบและเสียหายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันกระเด็นไปโดนผนังของเตา

3.อย่านำไข่ดิบทั้งเปลือก มะเขือเทศ หรือผลไม้ที่มีเปลือกบางน้ำฉ่ำเข้าไปอบภายในเตาไมโครเวฟ จะทำให้มันปะทุ แตก เลอะเทอะภายในเตาไมโครเวฟ

4.หลังใช้ทำอาหาร หรืออุ่นอาหาร ควรตรวจสอบและทำความสะอาดภายในตู้ทุกครั้ง ระวังเรื่องเศษอาหารตกค้างในตู้ ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดความสกปรก เกิดการกัดกร่อน หรือแม้แต่เกิดไฟลุกไหม้ภายในตู้ได้

5.ในการใช้ทำอาหาร ควรอ่านคู่มือประกอบด้วย ว่าเป็นเครื่องที่เหมาะสมสำหรับทำอาหารประเภทไหน ด้วยระดับความร้อนไหน และเวลาเท่าใด เพื่อให้ทำเสร็จเร็วตามเวลา ไม่ทำให้เครื่องต้องทำงานหนักติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป