ช่างซ่อมบำรุง ใน เมืองสงขลา, สงขลา

ช่างซ่อมบำรุง ใน เมืองสงขลา, สงขลา

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ก่อนจะเข้าหน้าฝนเราอยากซ่อมฝ้าเพดานที่มีรอยรั่วให้เรียบร้อยซะก่อน กลัวว่าจะมีน้ำรั่วตอนหน้าฝนแค่คิดก็สยอง ช่างทำงานดีค่ะ รวดเร็วแล้วก็เนี๊ยบดี ดีค่ะ
Saijai
จานิสตา ฟามิน
2 ปีที่แล้ว
รีโนเวทห้องเก็บของแล้วสภาพผนังห้องคือแย่มากก เคยได้ยินว่ามีบริการช่างทาสีจาก SAIJAI ผ่านๆ เลยลองติดต่อดู ผนังบ้านออกมาดูดีมาก ช่างเก่งจริง ๆ เก็บงานละเอียด
Saijai
ภูมินทร์ พฤกษ์
3 ปีที่แล้ว
แอร์พังกระทันหัน ติดติอช่างจากใส่ใจมาตรวจสอบรวดเร็วทันใจมาก
Saijai
จริณทร์ สมใจ
3 ปีที่แล้ว
นี่ใช้บริการช่างล้างแอร์ แต่เครื่องทำน้ำอุ่นเสียพอดีเลยถือโอกาสลองถามช่างที่มาล้างแอร์ดู ตอบได้หมดดีมากกกก
Saijai
เมลาณี ภพพิกุล
3 ปีที่แล้ว
บริการดี ช่างพูดจาสุภาพ งานละเอียดงานเนี๊ยบ รอบหน้าใช้บริการอีกแน่นอน
Saijai
เมธัต กิจเจริญ
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง

ทำไมการซ่อมบำรุงจึงมาความสำคัญ
ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสำคัญและความจำเป็นของ “การซ่อมบำรุง” หลายคนอาจจะมองว่า การซ่อมบำรุงเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ไม่อยากจ่าย หากอุปกรณ์เครื่องมือภายในบ้านหรือในออฟฟิศเกิดชำรุดหรือเสียหาย ก็แค่ซ่อม ในกรณีที่ซ่อมไม่ได้ก็แค่ซื้อใหม่ ไม่เห็นว่าจำเป็นต้องดูแลรักษา หรือซ่อมบำรุงกันอย่างสม่ำเสมอ
แต่ที่จริงแล้ว “การซ่อมบำรุง” หรือ บำรุงรักษา หมายถึง งานหรือกิจกรรมที่จัดให้มีขึ้นเพื่อให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงการรักษาอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือเครื่องจักร ให้อยู่ในสภาพที่ดี และเป็นการทำสิ่งที่ชำรุดให้คืนดี
อันตรายที่เกิดจากใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ขาดการดูแลและ บำรุงรักษา ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม เช่น การเกิดไฟฟ้ารั่วเนื่องจากการติดตั้งใช้เดินสายไฟที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน การขาดการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า การใช้งานที่ไม่ถูกต้อง ตลอดไปจนถึงการเสื่อมสภาพของฉนวนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้มาเป็นเวลานาน เป็นต้น
การละเลยขาดความใส่ใจในการซ่อมบำรุงและปล่อยให้เครื่องจักรเครื่องมือของเราเกิดปัญหา อาจทำให้การทำงานหยุดชะงักลงหรืออาจทำให้เครื่องจักรเครื่องมือของเรานั้นเกิดความเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ค่าใช้จ่ายที่น้อยในตอนแรกนั้นมากขึ้นกว่าเดิม หรือเราอาจจะต้องเสียเงินซื้อเครื่องจักรและเครื่องมือใหม่เพราะอาจจะชำรุดจนไม่สามารถซ่อมบำรุงได้อีกต่อไป
เครื่องมือเครื่องจักรไม่ว่าจะเป็นในหน่วยงานใหญ่หน่วยงานเล็ก หรือแม้กระทั้งในบ้านของเรา ควรที่จะดูแลและบำรุงรักษา ให้พร้อมใช้งานเสมอในระยะยาว จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือเครื่องจักร และยังเป็นการป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากอุบัติที่เกิดจากเครื่องมืออุปกรณ์ที่ชำรุดจนถึงขั้นต้องรักษาพยาบาล และในบางกรณีอาจร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต
ช่างซ่อมบำรุงที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร
ความซื่อสัตย์และการมีความรับผิดชอบ เป็นสิ่งที่สำคัญในการทำงานทุก ๆ ประเภท การที่เราจะทำงานได้อย่างมีคุณภาพ และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ความซื่อสัตย์และการมีความรับผิดชอบนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังสุภาษิตที่ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” กล่าวคือ “ความซื่อสัตย์ทำให้คนเชื่อใจ มีคนนับถือ ไม่มีวันอดตาย มีคนคอยช่วยเหลือ แต่หากมีนิสัยคดโกง เมื่อถูกจับได้ย่อมไม่มีใครอยากช่วยเหลือหรือเกี่ยวข้องด้วย” แล้วช่างซ่อมบำรุงที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไรกันนะ
การมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จลุล่วงภายในระยะเวลาที่ได้ตกลงกับผู้ว่าจ้าง อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าการมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับนั้นเป็นสิ่งสำคัญและยังเป็นตัวชี้วัดคุณภาพในการทำงานของบุคคลนั้น ๆ ทำให้เห็นว่าบุคคลนั้น ๆ มีความใส่ใจต่องานมากน้อยเพียงใด ในระยะเวลาที่ตกลงกันไว้
ความซื่อสัตย์เป็นอีกสิ่งที่สำคัญเช่นกัน การที่เรามีความซื่อสัตย์ไม่ว่ากับเพื่อนร่วมงานหรือผู้ว่าจ้างจะทำให้ตัวเรานั้นมีความน่าเชื่อถือ แต่ไม่ได้มีแค่สองสิ่งนี้ที่เป็นคุณสมบัติของช่างซ่อมบำรุง ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ความรู้ความสามารถในงานซ่อมบำรุงและมีความรอบรู้ในเชิงช่างทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ช่างซ่อมบำรุงจะต้องมีความรู้ในเรื่องเครื่องจักร เครื่องมือ วัสดุและอุปกรณ์ และยังต้องมีความกล้าที่จะตัดสินใจ มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จก็เป็นคุณสมบัติที่ดีของช่างซ่อมบำรุงเช่นกัน
ทำไมการเรียกช่างซ่อมบำรุงจึงดีกว่าการซ่อมเอง
จริงอยู่ว่าปัญหาเครื่องมือเครื่องจักรเสียบางอย่างสามารถตรวจสอบและแก้ไขได้เองทันที ถึงอย่างนั้นก็มีปัญหาอีกหลายอย่างที่ต้องได้รับการซ่อมแซมจากช่างซ่อมบำรุงที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขได้อย่างตรงจุด และเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการไม่รู้วิธีซ่อมของเรา หลายคนอาจจะพบเจอปัญหาเครื่องมือเครื่องจักรเสียอยู่บ่อย ๆ แม้ว่าเราจะใช้สิ่งของนั้น ๆ ตามคู่มือที่เรามีอย่างไว้อย่างละเอียด หรือข้อมูลการซ่อมแซมนั้นเราอาจจะสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายบนอินเทอร์เน็ต ปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเครื่องจักรเครื่องมือของเรานั้นอาจดูเหมือนซ่อมแซมได้ง่ายไม่จำเป็นต้องเรียกช่างซ่อมบำรุงก็ได้ แต่ในความเป็นจริงอาจเกิดจากสาเหตุที่ซับซ้อนกว่านั้น
หากคุณได้แต่คาดการณ์สาเหตุ โดยระบุสาเหตุไม่ได้ชัดเจนแล้ว "ลอง" ลงมือซ่อมเองตามวิธีที่เราคิดว่าน่าจะใช่นั้นย่อมเสี่ยงทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเราได้ง่าย ปัญหาเหล่านั้นอาจเป็นปัญหาที่อันตรายถึงชีวิต และการที่เรา "ลอง" ซ่อมแซมเครื่องจักรเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆเหล่านั้นด้วยตนเอง อาจจะทำให้คุณภาพของสิ่งของเหล่านั้นมีคุณภาพที่ลดลง หากคุณลองค้นหาวิธีซ่อมอุปกรณ์หรือแก้ไขมันด้วยตัวเองจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ จะพบว่าเว็บไซต์เหล่านั้นไม่แนะนำให้ซ่อมหรือแก้ไขด้วยตัวเอง แต่แนะนำให้ปรึกษาหรือเรียกช่างซ่อมบำรุงที่เป็นมืออาชีพมาดูแทน เพราะเครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์ที่เราอาจจะไม่คุ้นชิน อีกทั้งยังไม่มีอุปกรณ์ซ่อมไฟพร้อมเท่ากับช่างซ่อมบำรุงมืออาชีพ
และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรเรียกช่างซ่อมบำรุงมืออาชีพมากกว่าลงมือซ่อมเครื่องจักรเครื่องมือเหล่านั้นด้วยตนเอง

คุณสามามารถหาช่างซ่อมบำรุงด้านใดได้บ้าง จากแพลตฟอร์ม SAIJAI
การบำรุงรักษาสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านของเรา นอกบ้าน หรือบริเวณพื้นที่ของบ้านนั้นจะทำให้บ้านของเราน่าอยู่มากขึ้น อีกทั้งยังสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอาศัยอยู่ให้ตัวเราเองอีกด้วย
เมื่อว่าด้วยเรื่องของการทาสีบ้านนั้น เป็นเรื่องที่ต้องยกให้มืออาชีพอย่าง “ช่างทาสี” โดยเฉพาะเพราะการทาสีบ้านนั้นเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียด ความใส่ใจ รวมถึงการเลือกสีที่มีความคงทนติดอยู่ได้นานเพื่อสร้างความสวยงามให้กับบ้านของเรา
การใช้บริการช่างจาก “ช่างปูกระเบื้อง” ที่มีความชำนาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อที่เราจะได้รับงานที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อนและมีความสวยงาม
สำหรับฝ้าเพดานที่หลายคนมองข้ามนั้นก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้บ้านมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น การเลือกฝ้าเพดานจึงเป็นอีกอย่างหนึ่งสำคัญ การใช้บริการช่าง “ช่างฝ้าเพดาน” เป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพื่อจะเลือกฝ้าเพดานที่เหมาะสมกับบ้านของเรา ให้มีความทนทาน และสามารถคงอยู่ได้อย่างยาวนาน
การดูแลสวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความใส่ใจเป็นอย่างมาก การทำสวนไม่ใช่การทำแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องทำให้สวนนั้นสามารถอยู่ได้อย่างยาวนาน การมี “คนดูแลสวน” จึงเป็นสิ่งที่เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลาให้แก่ตัวเราขึ้นมาก ๆ
คุณภาพของสระว่ายน้ำจะดีได้นั้น จะต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ การดูแลที่มีขั้นตอนมากมาย และยากลำบากสำหรับเจ้าของสระบางรายจึงทำให้ต้องมีการจ้าง “ช่างดูแลสระว่ายน้ำ” เพื่อการดูแลสระว่ายน้ำของเราที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ปัญหามุ้งลวดเปลี่ยนเองซ่อมเอง ได้หรือไม่

มุ้งลวด เป็นสิ่งสำคัญที่มีอยู่ในทุก ๆ บ้าน เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งเข้ากรอบกับบานประตู หรือหน้าต่าง เพื่อป้องกันยุง แมลง ในยามที่เปิดประตูออกเพื่อให้อากาศได้ถ่ายเท แต่ในบ่อยครั้งมักเกิดการชำรุด เสียหาย อาจจะเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ฝีมือของลูกน้อยวัยกำลังซน เขี้ยวเล็บของน้องหมาน้องแมว หรือการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ทำให้อุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันยุง หรือแมลงนั้น เกิดเป็นช่องโหว่ ที่ทำให้สัตว์มีปีกเหล่านั้นบินเข้ามาภายในบ้านได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น SaiJai จึงนำเทคนิค การซ่อมแซม หรือเปลี่ยนมุ้งลวดที่อยู่ในสภาพชำรุด เสียหาย ให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมปกติ

แบบที่ 1 ซ่อมรูรั่ว มุ้งลวด ขนาดเล็ก หรือรอยขาดเป็นแนวยาว มีขั้นตอน ดังนี้

1.ตัดแต่งรอยขาด และเก็บขอบลวดที่ชำรุดเสียหายให้เรียบร้อย

2.ตัดเทปกาวซ่อมมุ้งลวด ให้มีขนาดใหญ่กว่ารูที่ขาดเล็กน้อย

3.ลอกฟิล์มกาวออก แล้วแปะเทปกาวซ่อมมุ้งลวด ทับไปที่รอยชำรุด ใช้มือกดเทปกาวติดกับมุ้งลวด ให้สนิท

แบบที่ 2 เปลี่ยนมุ้งลวดทั้งบาน มีขั้นตอนดังนี้

1.ใช้คีม ไขขวง หรือที่หนีบ ดึงขอบเส้นยาง หรือขอบอะลูมิเนียม ของกรอบหน้าต่าง ออกทั้ง 4 ด้าน

2.ลองแผ่นมุ้งลวดเก่าออกก่อน แล้วปัดฝุ่นทำความสะอาดตามขอบร่องต่าง ๆ

3.ตัดแผ่นมุ้งลวดใหม่ ให้มีขนาดใหญ่กว่ากรอบ ด้านละประมาณ 1 นิ้ว แล้วนำไปวางบนกรอบหน้าต่าง จากนั้นให้ใช้ลูกกลิ้ง กดมุ้งลวดลงไปในร่อง เพื่อกำหนดและตรึงมุ้งลวดทุกด้านให้ตึง

4.ใช้ลูกกลิ้งกดเส้นยาง หรือขอบอะลูมิเนียม อัดลงไปในร่องให้แน่น

5.ใช้คัตเตอร์รีดมุ้งลวดส่วนเกินออก แล้วเก็บรายละเอียดชิ้นงานให้เรียบร้อย



เลือกมุ้งลวดอย่างไร ติดตั้งอย่างไร ให้ถูกใจที่สุด

มุ้งลวด เป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอีกชนิดหนึ่งที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์อย่างมาก ในการช่วยป้องกันแมลง เช่น ยุง ไม่ให้เข้ามาภายในบ้านของเราได้ ปัจจุบันมีการเลือกใช้กันอย่างแพร่หลาย และเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกบ้านต้องมีการติดตั้งไว้ ดังนั้น SaiJai ขอเสนอบทความ ที่จะช่วยให้คุณรู้ว่าควรจะเลือกมุ้งลวด แบบไหน อย่างไร เพื่อไม่ให้มีปัญหาจุกจิกกวนใจได้ในภายหลัง

ใช้มุ้งลวดแบบไหนใช่ที่สุด

ควรมีการคำนึงถึงวัสดุที่ใช้ และความจำเป็น เจ้าของบ้านเองควรทำความเข้าใจประเภทของมุ้งลวด ว่าต้องการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อย่างไร ซึ่งมุ้งลวดแต่ละประเภท มีคุณสมบัติในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ควรมีการเลือกให้ตอบโจทย์ความต้องการให้ได้มากที่สุด เช่น

- มุ้งไนลอน ที่มีความแข็งแรงด้วยเส้นใยสังเคราะห์ มีความหนา อากาศถ่ายเทได้ยาก แต่ทนทาน จึงไม่เหมาะหากนำไปติดตั้งบริเวณหน้าต่าง

- มุ้งอะลูมิเนียม ช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวก แต่มีความผุกร่อนได้ง่าย ใช้ไปนาน ๆ จะมีการยึดติดไม่ค่อยดี และต้องทำความสะอาดเป็นประจำ

- มุ้งเหล็กกล้า ทนต่อการกระแทกหรือการแทงด้วยของมีคม มีความปลอดภัยสูง เหมาะกับการติดตั้งภายนอก แต่ปัจจุบันยังมีราคาสูง

- มุ้งไฟเบอร์ หรือ มุ้งใยแก้ว ทนทานต่อการผุกร่อนได้ดี ไม่เป็นสนิมเพราะมีการผลิตด้วยความร้อนสูง เหมาะมากในบ้านพักต่างอากาศ ชายทะเล แต่ไม่ทนแรงกระแทกมากนัก อาจทำให้เกิดการผิดรูปเสียทรงเดิมได้

ติดมุ้งลวดด้านไหนดีกว่ากัน

การติดตั้งมุ้งลวด ทำได้ทั้งด้านในและด้านนอก ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความชอบของเจ้าของบ้าน ซึ่งมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป คือ การติดมุ้งลวดด้านใน เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากการติดตั้งภายในสามารถใช้มุ้งลวดแบบอะลูมิเนียมแบบบาง มีความทนทานน้อยหน่อย แต่ราคาไม่สูงมาก ติดไว้ด้านในช่วยให้ดูแลรักษาง่าย โดยมีประตูเปิดออกทางด้านนอกแทน

การติดมุ้งลวดด้านนอก หากเลือกเอาวัสดุที่มีความแข็งแรง ก็จะเป็นทางเลือกที่ดีในเรื่องความปลอดภัย แต่หากเลือกใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพ ก็จะทำให้มุ้งลวดเสื่อมสภาพเร็ว และชำรุดได้ง่ายเมื่อโดนแรงกระแทก



วิธีซ่อมมุ้งลวดขาด หมดกังวลเรื่องยุงเข้า

อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับซ่อมมุ้งลวด มีดังนี้

มุ้งลวด เทปกาวซ่อมมุ้งลวด เส้นยางสำหรับทำขอบมุ้งลวด ถุงมือ กรรไกร คีม คัตเตอร์ ลูกกลิ้ง ค้อน ไขขวง

ถัดมา เราจะเริ่มซ่อมมุ้งลวด ไปดูกันว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง รับรองว่าทำตามได้ ง่ายนิดเดียว

1.ซ่อมรูรั่วขนาดเล็ก ซ่อมแซมมุ้งลวดที่ขาดเป็นรูกว้าง

ขั้นตอนที่ 1 คือ ทำการตัดแต่งมุ้งลวดของคุณให้เรียบร้อย

ขั้นตอนที่ 2 คือ ให้วัดขนาดรูที่ขาด แล้วตัดเทปซ่อมมุ้งลวดให้มีขนาดใหญ่กว่ารูที่ขาด ลอกฟิล์มกาวออก

ขั้นตอนที่ 3 คือ เริ่มแปะเทปกาว ใช้มือกดฟิล์มให้ติดกับมุ้งลวดจนแนบสนิท

2.ซ่อมมุ้งลวดที่ขาดเป็นแนวยาว หรือขอบที่ติดกับกรอบ

ขั้นตอนที่ 1 คือ ทำการตัดแต่งมุ้งลวดของคุณให้เรียบร้อย

ขั้นตอนที่ 2 คือ ให้ตัดฟิล์มกาวตามความยาวของรูรั่ว แล้วลอกฟิล์มกาวออก

ขั้นตอนที่ 3 คือ เริ่มแปะเทปกาว ใช้มือกดฟิล์มให้ติดกับมุ้งลวดจนแนบสนิท

3.เป็นการซ่อมแบบเปลี่ยนมุ้งลวดทั้งบาน

ขั้นตอนที่ 1 คือ ให้นำไขขวงมาถอดบานพับและด้านจับ นำออกให้หมด

ขั้นตอนที่ 2 คือ ใช้คีมมาดึงขอบออก

ขั้นตอนที่ 3 คือ ทำการดึงมุ้งลวดเก่าออกมา

ขั้นตอนที่ 4 คือ ให้ปัดฝุ่นทำความสะอาด ตามขอบร่องต่าง ๆ ของตัวมุ้งลวด

ขั้นตอนที่ 5 คือ ให้เริ่มวางแผ่นมุ้งลวดใหม่บนกรอบหน้าต่าง วัดระยะให้ห่างจากกรอบด้านละ 1 นิ้ว แล้วตัดส่วนที่เป็นมุมให้มีความเฉียง 45 องศา

ขั้นตอนที่ 6 คือ ใช้ลูกกลิ้งกดมุ้งลวดให้ลงไปในร่อง แล้วสลับไปทำด้านตรงข้ามก่อน เพื่อดึงมุ้งลวดนั้นให้ตึง

ขั้นตอนที่ 7 คือ ให้นำค้อน ตอกเส้นยางอัดลงไปในร่อง

ขั้นตอนที่ 8 คือ ใช้คัตเตอร์กรีดมุ้งลวดส่วนที่เกินออก เพื่อเป็นการเก็บรายละเอียด