ช่างซ่อมบำรุง ใน เชียงใหม่

ช่างซ่อมบำรุง ใน เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ก่อนจะเข้าหน้าฝนเราอยากซ่อมฝ้าเพดานที่มีรอยรั่วให้เรียบร้อยซะก่อน กลัวว่าจะมีน้ำรั่วตอนหน้าฝนแค่คิดก็สยอง ช่างทำงานดีค่ะ รวดเร็วแล้วก็เนี๊ยบดี ดีค่ะ
Saijai
จานิสตา ฟามิน
2 ปีที่แล้ว
บ้านค่อนข้างมีอายุพอสมควร เลยลองทักไปสอบถามเรื่องทาสีผนักนอกบ้าน แอดมินตอบดีมาก
Saijai
เบพิริน เหมสิรักษ์
2 ปีที่แล้ว
ที่บ้านปลูกต้นไทรเกาหลีอยู่ตรงริมรั้วหน้าบ้านไม่ได้ตัดนานแล้วต้นไม้รกมากเรียกช่างทำสวนจากใส่ใจมาจัดการให้ งานละเอียดมาก ไม่ต้องมาตามเก็บเศษใบไม้ที่ร่วงอยู่ทีหลัง ช่างสวนจัดการให้หมด
Saijai
อันลิน พนพพันธ์
2 ปีที่แล้ว
จ้างช่างจากใส่ใจมาติดตั้งเพดานใหม่ คุณภาพงานดีเยี่ยมเหมือนไม่เคยพังมาก่อน
Saijai
พิมพร พรพิพันธ์
2 ปีที่แล้ว
บริการดี ช่างพูดจาสุภาพ งานละเอียดงานเนี๊ยบ รอบหน้าใช้บริการอีกแน่นอน
Saijai
เมธัต กิจเจริญ
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง

ทำไมการซ่อมบำรุงจึงมาความสำคัญ
ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสำคัญและความจำเป็นของ “การซ่อมบำรุง” หลายคนอาจจะมองว่า การซ่อมบำรุงเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ไม่อยากจ่าย หากอุปกรณ์เครื่องมือภายในบ้านหรือในออฟฟิศเกิดชำรุดหรือเสียหาย ก็แค่ซ่อม ในกรณีที่ซ่อมไม่ได้ก็แค่ซื้อใหม่ ไม่เห็นว่าจำเป็นต้องดูแลรักษา หรือซ่อมบำรุงกันอย่างสม่ำเสมอ
แต่ที่จริงแล้ว “การซ่อมบำรุง” หรือ บำรุงรักษา หมายถึง งานหรือกิจกรรมที่จัดให้มีขึ้นเพื่อให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงการรักษาอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือเครื่องจักร ให้อยู่ในสภาพที่ดี และเป็นการทำสิ่งที่ชำรุดให้คืนดี
อันตรายที่เกิดจากใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ขาดการดูแลและ บำรุงรักษา ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม เช่น การเกิดไฟฟ้ารั่วเนื่องจากการติดตั้งใช้เดินสายไฟที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน การขาดการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า การใช้งานที่ไม่ถูกต้อง ตลอดไปจนถึงการเสื่อมสภาพของฉนวนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้มาเป็นเวลานาน เป็นต้น
การละเลยขาดความใส่ใจในการซ่อมบำรุงและปล่อยให้เครื่องจักรเครื่องมือของเราเกิดปัญหา อาจทำให้การทำงานหยุดชะงักลงหรืออาจทำให้เครื่องจักรเครื่องมือของเรานั้นเกิดความเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ค่าใช้จ่ายที่น้อยในตอนแรกนั้นมากขึ้นกว่าเดิม หรือเราอาจจะต้องเสียเงินซื้อเครื่องจักรและเครื่องมือใหม่เพราะอาจจะชำรุดจนไม่สามารถซ่อมบำรุงได้อีกต่อไป
เครื่องมือเครื่องจักรไม่ว่าจะเป็นในหน่วยงานใหญ่หน่วยงานเล็ก หรือแม้กระทั้งในบ้านของเรา ควรที่จะดูแลและบำรุงรักษา ให้พร้อมใช้งานเสมอในระยะยาว จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือเครื่องจักร และยังเป็นการป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากอุบัติที่เกิดจากเครื่องมืออุปกรณ์ที่ชำรุดจนถึงขั้นต้องรักษาพยาบาล และในบางกรณีอาจร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต
คุณสมบัติของช่างซ่อมบำรุง
การที่เราจะสามารถเป็นช่างที่ดีได้นั้นเราควรจะมีคุณสมบัติอย่างไร ควรวางตัวแบบไหน ควรมีแนวคิดหรือวิธีการคิดแบบไหนที่จะเป็นการส่งเสริมให้เรานั้นได้รับโอกาสในเส้นทางอาชีพของเรามากขึ้น SAIJAI จึงได้รวบรวมคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ช่างซ่อมบำรุงหรือช่างอื่น ๆ นั้นพึงมี ดังต่อไปนี้
1.ช่างซ่อมบำรุงควรเป็นคนที่ช่างสังเกต และช่างจดจำ รู้จักการคิดปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงสิ่งต่างๆ ให้เกิดประโยชน์
2.ช่างจะต้องมีนิสัยรักในการทำงาน มีความรับผิดชอบ ทำงานด้วยความปลอดภัย ไม่ประมาท และระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่อยู่เสมอ
3.ช่างจะต้องมีความรู้ความสามารถสูงในสาขาอาชีพของตนเอง และมีความรอบรู้ในเชิงช่างทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน
4.ช่างนั้นจะต้องมีทักษะความสามารถทางช่าง มีความรู้ ความแม่นยำในเครื่องจักรเครื่องมือและอุปกรณ์ รู้จักวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานของเครื่องจักรเครื่องมือ และยังคงพัฒนาทักษะทางการช่างให้มีความเจริญกก้าวหน้า
5.ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นประโยชน์ต่อช่างซ่อมบำรุงมาก ความกล้าที่จะตัดสินใจและมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จ และจะต้องคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกด้วย
6.การมีบุคลิกภาพและมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับช่างซ่อมบำรุง มันจะเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวช่างและลูกค้าที่พบเจอ เพื่อทำให้การทำงานร่วมกันนั้นดำเนินการร่วมกันได้เป็นอย่างดี และจะทำให้การประกอบอาชีพมีโอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น
และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการทำงานไม่ว่าจะเป็นช่างซ่อมบำรุงหรืออาชีพอื่น ๆ นั่นคือความซื่อสัตย์ ดังสำนวน “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ดังนั้นเราจึงจะต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า และมีมาตรฐานในการทำงานให้มีคุณภาพดีที่สุดเสมอต้นเสมอปลาย ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อที่ลูกค้าจะได้ไว้วางใจให้เราทำงานในครั้งถัดไป
การเรียกช่างซ่อมบำรุงดีกว่าซ่อมเองอย่างไร
เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเสีย ใช้งานไม่ได้ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งซับซ้อนและเกี่ยวโยงสัมพันธ์กับระบบการทำงานเฉพาะทาง ดังนั้นในการแก้ปัญหาให้ตรงจุดจึงต้องอาศัย "ความแม่นยำ" จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานของสิ่งของเหล่านั้น นอกจากนี้ช่างซ่อมบำรุงที่มีความเชี่ยวชาญนั้นจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดแล้ว โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาในการลองทำเองหรือปล่อยให้พังแล้วค่อยซ่อมทีเดียว การปล่อยให้พังแล้วซ่อมทีเดียวนั้นอาจทำให้เกิดอันตรายแก่ตัวเราได้ การให้ช่างซ่อมบำรุงมาดูให้นั้นจะเป็นผลดีต่อตัวเราเองในเรื่องความปลอดภัย ประหยัดเวลาในการลองผิดลองถูกของเราที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้ และช่างซ่อมบำรุงยังสามารถให้คำแนะนำแก่เราถึงวิธีการใช้ หรือวิธีการดูแลรักษาให้ของเหล่านั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวมากขึ้น และเพื่อป้องกันปัญหาเดิม ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
และการที่เราจะทำการซ่อมแซมสิ่งของเหล่านี้ด้วยตัวเองนั้นบางครั้งอาจเกิดความยากลำบาก เกิดความไม่สะดวกในการทำ อาจจะต้องการคนช่วยยก ช่วยดู และที่สำคัญเลยบางคนอาจจะไม่มีอุปกรณ์ในการซ่อมแซม และไม่ควรอย่างยิ่งที่เราจะนำอุปกรณ์ที่มีอยู่มาใช้แล้วคิดว่าก็แทน ๆ กันได้ สิ่งนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีกไม่จบไม่สิ้น
ดังนั้นการให้ผู้ที่มีความชำนาญในด้านนั้น ๆ มาจัดการตรวจสอบและซ่อมบำรุงให้จะเป็นการประหยัดเวลาให้ตัวเราเองได้อย่างมาก
บริการ ซ่อมบำรุง บนแพลตฟอร์ม SAIJAI มีอะไรบ้าง
คุณสามารถหาช่างซ่อมบำรุงในด้านต่าง ๆ จาก SAIJAI มีให้คุณเลือกใช้บริการ
- ช่างทาสี ท่านสามารถหาช่างทาสีให้กับบ้านใหม่หรือห้องของท่านได้จาก SAIJAI การทาสีผนังบ้านเก่ากับบ้านใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ จะมีวิธีการเตรียมพื้นผิว และใช้ผลิตภัณฑ์ทาสีที่แตกต่างกัน รวมถึงการทาสีภายในและภายนอกนั้นจะใช้สีที่มีคุณสมบัติเฉพาะที่แตกต่างกัน ถึงแม้ว่านวัตกรรมสมัยใหม่จะมีทางเลือกสีที่ใช้ได้ทั้งภายนอกและภายใน แต่ช่างทาสีก็จะแนะนำว่าให้เลือกใช้สีที่เหมาะสมกับพื้นที่นั้น ๆ จะดีที่สุด
- ช่างปูกระเบื้อง ถ้าพูดถึงงานปูกระเบื้องไม่ว่าจะเป็นในส่วนของพื้นหรือผนังนั้นก็มีขั้นตอนและรายละเอียดมากมาย ตั้งแต่การเลือกใช้เทคนิควิธีการปูที่เหมาะสมกับชนิดกระเบื้อง และยังต้องใช้ความชำนาญของช่างปูกระเบื้อง และความประณีตละเอียดอ่อนของช่างปูกระเบื้องอีกด้วย
- ช่างฝ้าเพดาน ฝ้าเพดานบ้านก็เป็นอีกอย่างที่จะทำให้บ้านสวย และช่วยเก็บงานโครงสร้างใต้หลังคาให้เรียบร้อย นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้อีกด้วย
- คนดูแลสวน การที่สวนในรั้วบ้านของเราจะสวยงามได้นั้น จะต้องมีความรู้พื้นฐานไม่ใช่แค่การทำให้จบ ๆ ไป และไม่ใช่แค่การทำให้สวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะแค่ความสวยงามอย่างเดียวนั้นไม่พอ เราจะต้องดูแลใส่ใจเพื่อที่สวนของเรานั้นจะได้อยู่ได้อย่างยาวนาน
- ช่างดูแลสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำที่ได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ จะมีคุณภาพน้ำที่ใสสะอาด ปราศจากคราบตะกอน สร้างความมั่นใจในการใช้สระว่ายน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

5 ข้อควรรู้ ก่อนปูกระเบื้องด้วยตัวเอง

1.เลือกชนิดกระเบื้องที่ต้องการ

เนื่องจากแผ่นกระเบื้อง มีให้เลือกอยู่หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องดินเผา กระเบื้องเซรามิก กระเบื้องแกรนิตโต้ กระเบื้องโมเสก กระเบื้องแก้ว ไปจนถึงหินอ่อน หรือหินธรรมชาติ ควรเลือกให้เข้ากับพื้นที่ โดยดูก่อนว่าจะปูกระเบื้องด้วยตัวเองที่ภายนอก ภายใน หรือปูที่ใด จะช่วยให้เลือกพื้นผิว และคุณสมบัติของแผ่นกระเบื้องให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด

2.คำนวณพื้นที่ก่อนซื้ออุปกรณ์

ควรคำนวณพื้นที่ก่อนเลือกซื้ออุปกรณ์ปูกระเบื้อง โดยใช้สูตรคำนวณพื้นที่ คือ

กว้าง (เมตร) x ยาว (เมตร) = ขนาดห้อง (ตารางเมตร)

อย่างไรก็ตาม จำนวนกระเบื้องก็ขึ้นอยู่กับขนาดของแผ่นกระเบื้องด้วยเช่นกัน ควรซื้ออุปกรณ์เผื่อไว้ประมาณ 3-5% สำหรับการใช้ซ่อมแซม กรณีเกิดข้อผิดพลาด หรือซ่อมแซมความเสียหายในอนาคต

3.เลือกขนาดกระเบื้องให้เหมาะสม/

หากเป็นพื้นที่ขนาดเล็กอย่างห้องน้ำ ควรเลือกใช้กระเบื้องแผ่นเล็ก หากเป็นห้องใหญ่อย่างห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ควรเลือกใช้กระเบื้องแผ่นใหญ่ โดยเว้นร่องยาแนวเล็ก ๆ เพื่อปูให้ต่อเนื่องกัน สวยงาม ไร้รอยต่อ ช่วยเพิ่มความสวยงาม และเสริมความหรูหราได้อีกด้วย

สำหรับพื้นภายนอกบ้าน สามารถเลือกใช้กระเบื้องทั้งแผ่นเล็กไปจนถึงแผ่นใหญ่ แต่ที่สำคัญควรเลือกกระเบื้องที่แข็งแกร่ง ทนต่อสภาพอากาศ และการสัญจรผ่านเป็นประจำ ควรเป็นกระเบื้องผิวหยาบ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

4.ปูกระเบื้องให้ถูกวิธี

ควรเลือกปูกระเบื้องด้วยกาวซีเมนต์ แทนการปูแบบซาลาเปา เพราะถึงแม้จะดูเป็นวิธีที่ง่าย แต่การปูแบบนี้ จะทำให้ด้านหลังแผ่นกระเบื้องมีช่องว่าง ทำให้ความชื้นเข้าไปสะสม และเกิดปัญหากระเบื้องหลุดล่อนตามมาได้

5.เลือกกาวซีเมนต์และกาวยาแนวให้เหมาะสม

ควรเลือกกาวซีเมนต์และกาวยาแนว ให้เหมาะสมกับชนิดและขนาดกระเบื้อง เพื่อให้การปูกระเบื้องติดแน่น ห่างไกลจากปัญหาหลุดล่อน



กระเบื้องชื้น แก้ไขได้ แก้ง่าย

1.เปิดหน้าต่างให้ลมผ่าน

ในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง วิธีการเปิดหน้าต่าง ควรจะต้องหันไปทางทิศใต้ หรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อลดระดับไอน้ำที่จะเข้ามาในห้อง ถ้าเป็นไปได้ ควรเปิดประตู และหน้าต่างทุกบาน ในตอนเที่ยงหรือวันที่มีแดดจัด เพื่อให้อากาศในห้องไหลเวียนดี ช่วยระเหยความชื้นบนกระเบื้อง

2.วางพรมบนพื้น

การวางพรมหน้าประตู หรือทางเข้าบ้าน พรมจะช่วยดูดซับความชื้นของน้ำที่เกาะมากับรองเท้า อย่าลืมเช็ดรองเท้าให้แห้งก่อนเข้าบ้าน หรือเปลี่ยนไปใส่สลิปเปอร์แทน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีไอน้ำจากภายนอกเข้ามาบริเวณภายในบ้าน และทำให้กระเบื้องเปียก

3.วางกระถางต้นไม้ในห้อง

หลาย ๆ บ้าน อาจชอบที่จะนำกระถางต้นไม้ ไม้ประดับ มาตกแต่งตามห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน นอกจากจะเพิ่มความสดชื่นให้ตัวบ้านแล้ว พืชเหล่านี้ ยังสามารถดูดซับไอน้ำจากกระเบื้องได้อีกด้วย โดยเฉพาะวันที่มีฝนตก ความชื้นในห้องจะสูง กระเบื้องก็อาจโดนความชื้นเล่นงานเข้าได้ ถ้าในห้องมีกระถางต้นไม้ พืชจะดูดซับความชื้นภายในห้อง โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องรดน้ำต้นไม้วันฝนตกเลย

4.หมั่นทำความสะอาดบ่อย ๆ

พื้นและผนังห้องน้ำ ส่วนมากจะปูด้วยกระเบื้องทั้งหมด และกระเบื้องจะอยู่กับความชื้นนั้น ตลอดเวลา จึงทำให้มีโอกาสที่จะเกิดเชื้อราได้ เพื่อให้พื้นและผนังสะอาด คุณต้องหมั่นทำความสะอาดพื้นผิวของกระเบื้องอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงทำความสะอาดช่องว่างระหว่างกระเบื้อง ร่องยาแนวด้วยการขัดด้วยแปรง เพื่อป้องกันโรคราน้ำ ค้างอยู่บริเวณร่องยาแนว

หากคุณลองทำตามวิธีที่เราแนะนำมาทั้งหมด แล้วปัญหาความชื้นบนกระเบื้องยังไม่หายกวนใจเสียที คุณอา0จะต้องไปย้อนดูว่าฐานคอนกรีตใต้ตัวบ้าน ได้มีการลงน้ำยากันความชื้นไว้หรือไม่ อาจจะสอบถามจากผู้รับเหมาสร้างบ้าน เมื่อเจอสาเหตุนี้ แล้วคุณก็จะแก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้น



รวมทริค กระเบื้องขาวไร้คราบ ด้วยของที่มีอยู่ใกล้ตัว

1.มะนาว

สำหรับบ้านไหนมีคราบสนิมมากวนใจ ลองใช้วิธีนี้มากำจัดคราบสนิมบนพื้นง่าย ๆ อย่าง “มะนาว” บอกได้เลยว่าวิธีนี้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่บีบมะนาวให้ทั่วรอยคราบ ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วนำแปรงสีฟันเก่า ๆ มาขัดถู โดยขั้นตอนนี้อาจจะต้องออกแรง และใช้เวลาสักหน่อย แต่รับรองได้เลยว่าจะไม่มีคราบหลงเหลืออยู่อีก

2.ยาสีฟัน

เพียงแค่ป้ายยาสีฟันลงบนรอยคราบ แล้วนำแปรงสีฟันมาถูเหมือนตอนแปรงฟัน จากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำเปล่า เพียงเท่านี้ก็จะได้พื้นที่สะอาดไร้คราบสกปรก

3.สารฟอกขาว

นอกจากจะช่วยให้ผ้าขาวสะอาดแล้ว ยังนำมาใช้กับการทำความสะอาดพื้นกระเบื้องได้อีกด้วย โดยขั้นแรก ให้โรยสารฟอกขาวลงไปให้ทั่วรอยคราบ ไม่จำเป็นต้องใช้ปริมาณเยอะมาก แต่รอให้สารฟอกขาวเซตตัว ประมาณ 15 นาที จากนั้นก็ฉีดน้ำลงไปนิดหน่อย แล้วก็ขัดจนพื้นกระเบื้องสะอาด

4.มะเขือเทศกับเกลือหิน

มะเขือเทศที่เราชอบกิน ก็สามารถใช้ทำความสะอาดคราบสนิมบนกระเบื้องได้ โดยให้เราผ่ามะเขือเทศออกเป็นครึ่งซีก จากนั้นก็นำไปถูบนคราบ พร้อมบีบให้น้ำจากมะเขือเทศกระจายตัวอยู่บนคราบ เสร็จแล้วก็นำเกลือหินมาโรยบนน้ำมะเขือเทศอีกที แล้วจึงใช้แปรงสีฟันขัดคราบออกแบบวนเป็นวงกลมจนคราบหายไป

5.น้ำส้มสายชู

เป็นที่รู้กันดีว่า น้ำส้มสายชู ช่วยทำความสะอาด และกำจัดคราบต่าง ๆ ได้เพียบ ซึ่งแน่นอนว่าคราบสกปรกบนพื้นก็เช่นกัน โดยขั้นตอนก็ง่าย ๆ เพียงแค่ฉีดน้ำส้มสายชูลงไปบนรอยคราบ แล้วออกแรงขัดนิดหน่อย จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น เท่านี้คราบสกปรกต่าง ๆ ก็จะไม่หลงเหลืออยู่บนพื้นของเราแล้ว