ช่างทาสี ใน ลำลูกกา, ปทุมธานี

ช่างทาสี ใน ลำลูกกา, ปทุมธานี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

งานเนี๊ยบ งานดีมีคุณภาพ ทั้งช่างทาสีและแอดมินใส่ใจคุยง่ายมาก เยี่ยม ๆ
Saijai
วรรณา ศรีอร่าม
3 ปีที่แล้ว
ชอบมากครับ ช่างทำงานเนี๊ยบ เสร็จไวไว้จะลองใช้บริการอื่น ๆ จากใส่ใจอีกในโอกาสหน้า
Saijai
จารุพิช ปัญญา
3 ปีที่แล้ว
รีโนเวทห้องแล้วอยากเปลี่ยนสีห้องมากแต่ขี้เกียจทาเองเลยติดต่อช่างทาสีจากใส่ใจ
Saijai
จารุพัทร มาทรัพย์
3 ปีที่แล้ว
บริการดี พูดจาสุภาพ ยกให้ SAIJAI เลยค่ะ
Saijai
ฐิตารี จำปี
3 ปีที่แล้ว
ติดต่อช่างมาทาสีผนังนอกบ้านใหม่ ทำงานดีมากเสร็จไว เยี่ยม
Saijai
นาตาชา ทองลาด
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างทาสี

ทำไมจึงต้องทาสีบ้าน
- เหตุผลอันดับต้น ๆ ของการทาสีบ้านคือ เพื่อให้บ้านออกมาดูดี สวยงามน่ามอง และการที่จะทำให้บ้านของเราสวยดูดียาวนานได้ก็คือรักษาสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก งานทาสีตกแต่งภายนอกจึงเป็นงานที่สำคัญที่ช่วยเติมเต็มในส่วนนี้ นอกจากจะเป็นการทำให้บ้านดูสวยงามและน่ามองแล้วนั้นการทาสีบ้านยังช่วยเพิ่มคุณค่าบ้านของเราให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
- การทาสีบ้านก็เพื่อเป็นการปกป้องพื้นผิวของวัสดุ วัสดุในการสร้างบ้านนั้นมีหลายอย่าง เช่น ตัวบ้านที่เป็นปูน รั้วบ้านที่เป็นเหล็ก หรือระแนงรอบบ้านที่เป็นไม้ เป็นต้น หากไม่มีการเคลือบผิวของวัสดุเหล่านี้ ในอนาคตวัสดุเหล่านั้นจะชำรุดทรุดโทรมได้ และอาจทำอายุการใช้งานนั้นสั้นลง ดังนั้น การทาสีคือหนึ่งในการปกป้องพื้นผิวต่าง ๆ ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้นและยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
- เมื่อมีความชื้นสูงจะมีโอกาสที่ผนังภายในบ้านของเราจะเกิดเชื้อราขึ้นได้ ถึงแม้ว่าสีทาบ้านที่ทาบนผนังจะมีสารกันเชื้อราผสมอยู่แต่เมื่อเวลาผ่านไปสารพวกนี้ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพลง และถ้าหากเกิดว่าเจอความชื้นที่สูง ก็มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดเชื้อราได้ ซึ่งเมื่อเกิดเชื้อราขึ้นแล้วจะทำให้คนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านสูดดมเข้าไป และเมื่อสูดดมเข้าไปในระยะเวลานานๆ จะก่อให้เกิดการสะสมอาจก่อให้เกิดโรคได้ เพราะฉะนั้นการทาสีบ้านจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับบ้านทุก ๆ หลัง
การทาสีบ้านอาจดูเป็นเรื่องที่จำเป็นและไม่จำเป็นแล้วแต่มุมมองความคิดของแต่ละคน และหลายคนมองว่าเป็นเพียงการตกแต่งเพื่อความสวยงาม จึงทำให้ไม่ได้ให้ความสำคัญมากมายนัก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการทาสีบ้านนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งที่จะทำให้บ้านของเรานั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวขึ้น
สีทาภายในแบบไหนที่ทาแล้วทำให้บ้านเย็นสบาย
สีทาภายในบ้านแบบไหนที่ทาแล้วทำให้บ้านเย็นสบาย
ทาสีในบ้านอย่างไรให้เป็นการสร้างความเย็นภายในบ้าน สีโทนไหนที่เหมาะกับการทาในบ้าน
ถ้าต้องการให้บ้านเย็นสบาย และประหยัดพลังงาน ควรเลือกใช้สีโทนอ่อน
สีทาภายในบ้านนอกจากจะต้องเป็นสีที่สวย ติดทนและทำความสะอาดได้ง่าย อีกหนึ่งสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญการเลือกสีที่ช่วยประหยัดพลังงานและช่วยให้บ้านของเราเย็นสบาย
สีเขียว เป็นสีที่ให้ความรู้สึกเย็นสบาย ดูร่มรื่นมีความเป็นธรรมชาติ และยังช่วยในการผ่อนคลายความเครียด
สีฟ้า จะเป็นสีที่ทำให้ห้องของเรานั้นดูโล่ง กว้างและทำให้ห้องของเราดูปลอดโปร่ง ให้ความรู้สึกสงบ
สีชมพู และ สีม่วง เป็นสีที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน น่าค้นหา
สีเทาอ่อน และ สีขาว เป็นสีที่ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง โล่ง สบาย และดูสะอาดตา
สิ่งที่สำคัญคือการเลือกระดับความเข้มของสีถึงแม้ว่าเราจะเลือกสีโทนเย็น แต่ถ้าหากสีนั้นอยู่ในระดับที่เข้มก็จะดูดซับความร้อนมากกว่าสีที่มีความอ่อน เช่น บ้านที่ทาด้วยสีเขียวเข้มจะร้อนกว่าบ้านที่ทาด้วยสีเขียวอ่อน หรือหากต้องการจะเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ กับเรื่องโทนสี คือ การที่สีเขียวเข้มซึ่งเป็นสีโทนเย็นมีคุณสมบัติในการดูดซับความร้อนได้มากกว่าสีเหลืองอ่อนซึ่งเป็นสีโทนร้อน บ้านที่ทาสีด้วยสีเขียวเข้มแม้จะเป็นกลุ่มสีโทนเย็นแต่อุณหภูมิภายในกลับร้อนกว่าบ้านที่ทาด้วยสีเหลืองอ่อนซึ่งเป็นสีโทนร้อน เพราะความเข้มของสีนั้นมีผลต่อการดูดซับความร้อน ความอ่อนของสีนั้นมีคุณสมบัติในการสะท้อนแสงออกที่มาก การสะท้อนแสงออกดังกล่าวนั้นเองคือการที่จะทำให้บ้านของเราไม่ร้อน ดังนั้นสีที่เราควรใช้ทาภายในบ้านจะเป็นสีใดก็ได้แต่ระดับของสีนั้นจะต้องอ่อนค่ะ
สีทาบ้านมีกี่แบบ
ปัจจุบันสีที่ใช้ในการทาบ้านแต่ละยี่ห้อนั้นมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน จำเป็นที่เราจะต้องศึกษาประเภทของสีแต่ละชนิดว่ามีคุณสมบัติอย่างไร เหมาะสมกับงานประเภทไหน เพราะหากเราใช้ผิดประเภทอาจก่อให้เกิดปัญหาภายหลังได้
สีน้ำอะคริลิค หรือ สีน้ำพลาสติก ใช้น้ำเป็นตัวทำละลายเหมาะสำหรับใช้ทาบนพื้นผิวที่เป็น ปูน ซีเมนต์ คอนกรีต อะคริลิกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ทาภายนอกและสีทาภายใน
- สีทาภายนอก ถูกออกแบบมาให้พร้อมเผชิญกับแดดและฝนโดยตรง เพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้ใช้งานได้ดีและยาวนาน จึงต้องเพิ่มสารพิเศษต่าง ๆ สีทาภายนอกจึงมีความทนทานและมีราคาที่สูงกว่าสีทาภายใน และสีทาภายนอกนั้นยังสามารถทาภายในบ้านได้อีกด้วย
- สีทาภายใน เป็นสีที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ทาภายในบ้านหรืออาคารเท่านั้นเพราะไม่จำเป็นต้องทนแดดทนฝน หากนำไปใช้ทาภายนอกก็จะทำให้สีหลุดล่อนและซีดจางได้ง่าย แต่ข้อดีของสีทาภายในก็คือมีกลิ่นและสารเคมีที่เบากว่าสีทาภายนอก
สีน้ำมัน เป็นสีที่ใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวทำละลาย จุดเด่นของสีน้ำมันคือมีความเงางาม แต่สีน้ำมันนั้นจะแห้งช้า และมีราคาสูง สีน้ำมันค่อนข้างเหมาะกับการใช้ทาบนผิวโลหะหรือไม้ และไม่นิยมใช้ทาบนซีเมนต์หรือคอนกรีต
สีทาไม้ สีทาไม้จะใช้สำหรับทาไม้เพื่อความสวยงาม มีหลายแบบทั้งสีที่ช่วยขับให้สีของเนื้อไม้ดูสดและเด่นขึ้น แบบที่ทำให้ไม้กลายเป็นสีต่าง ๆ ตามที่ต้องการ สีทาไม้นั้นใช้ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่ทำจากไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ เป็นต้น แต่ถ้าหากอยากให้เนื้อไม้มีความเงาหรือด้านในระดับที่ต้องการก็สามารถเลือกใช้ แลคเกอร์ หรือยูรีเทนได้
สีกัลวาไนซ์ เป็นสีที่มีคุณสมบัติและรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย สามารถใช้กับเหล็กได้หลายประเภท ที่สำคัญยังมีความสามารถในการยึดเกาะสูงกว่าสีน้ำมันทั่วไป เป็นที่นิยมเพราะทาง่ายไม่ต้องรองพื้น แห้งเร็ว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้การทานี้สีกัลวาไนซ์ประหยัดกว่าการใช้สีน้ำมัน
ดูแลบ้านอย่างไรหลังทาสี
เพื่อที่จะให้การทาสีบ้านของเรานั้นเสร็จสมบูรณ์และสวยคงทน สิ่งที่สำคัญคือการคอยดูแลและฟื้นฟูสภาพพื้นผิวของบ้านเพื่อที่จะยืดอายุการใช้งานของสีให้อยู่นาน และมีความทนทาน การดูแลบ้านหลังทาสีนั้น คือ การดูแลสีทาภายในบ้านและการดูแลสีทาภายนอกบ้าน
การดูแลสีทาภายในบ้าน
1.วิธีที่จะช่วยป้องกันแสงแดดและ รังสีอัลตร้าไวโอเลต (UV) จากภายนอกไม่ให้ส่องเข้ามามากเกินไป และยังช่วยให้สีที่ทาภายในยังดูสด ใหม่ ไม่ถูกแดดกลืนจนสีซีดไปตามกาลเวลา คือ การใช้ผ้าม่านกันแสง
2.จำเป็นที่จะต้องล้างทำความสะอาดผนังบ้านอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ผนังเกิดคราบจนกลายเป็นรอยด่างดำ เพราะอาจทำให้คราบนั้นฝังลึกจนไม่สามารถล้างออกได้หรืออาจทำให้ล้างออกได้ยาก ในการทำความสะอาดเราอาจจะใช้ฟองน้ำชุบน้ำสบู่บิดหมาด ๆ มาเช็ดบริเวณตรงที่เกิดคราบหรือร่องรอยสกปรกบนผนังออกให้หมด
3.เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราตามผนังเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้สีทาบ้านที่มีคุณภาพโดยการเลือกใช้สีทาบ้านที่มีคุณสมบัติป้องกันการเกิดของเชื้อรา โดยเฉพาะบริเวณห้องน้ำที่สามารถเกิดเชื้อราขึ้นได้ง่าย ทางที่ดีเราควรที่จะใช้การปูกระเบื้องแทนการทาสีในผนังห้องน้ำ
การดูแลสีทาภายนอก
1.เพื่อที่จะกำจัดคราบฝุ่นและสิ่งสกปรกไม่ให้เกาะตามผนังนอกบ้าน ให้เรานั้นฉีดน้ำทำความสะอาด สิ่งนี้จะทำให้บ้านของเราไม่ดูเก่าและโทรม แต่ถ้าหากเพิ่งเริ่มทาสีบ้าน เราควรทำความสะอาดด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูงหลังจากผ่านไปแล้วประมาณ 5-6 ปี
2.การเคลือบสีทาบ้านเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ไม้ผุกร่อนตามกาลเวลา
3.สำหรับพื้นผิวที่เป็นไม้ควรทาสีซ้ำสองครั้ง และสำหรับพื้นผิวธรรมดาควรทาสีซ้ำทุก ๆ 6-10 ปีเพื่อให้สีบ้านภายนอกดูใหม่อยู่ตลอด