วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ
1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง
วัดสำคัญในอำเภอบางบ่อ วัดบางพลีน้อย
เป็นวัดที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีของชาวจังหวัดสมุทรปราการและแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอีกด้วย
จุดเด่นของ https://th.wikipedia.org/wiki/วัดบางพลีน้อย วัดบางพลีน้อย ก็คือ ประชาชนที่อยู่ในละแวกนี้จะมีการนำวัตถุโบราณที่มีค่ามาบริจาคและรวบรวมไว้ที่วัดนี้ เพื่อที่จะได้จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อรวบรวมจัดเก็บวัตถุโบราณ, พระพุทธรูปในสมัยต่างๆ, สมุดข่อยและหนังสือโบราณ ซึ่งทั้งหมดนี้จะอยู่ในความดูแลของสภาวัฒนธรรมตำบล และสภาวัฒนธรรมอำเภอบางบ่อ และได้ทำการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2542
ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะมีโบราณวัตถุต่างๆ ล้วนแต่เป็นของเก่าแก่ที่หลวงพ่ออนันต์ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส เก็บสะสมสืบทอดต่อกันมาเป็นระยะเวลานาน และที่สำคัญของแต่ละชิ้นจะถูกซ่อมแซมให้มีสภาพดีเหมือนเดิม อาทิเช่น
- พระพุทธรูป เก่าแก่โบราณรุ่นหายากมากมาย อาทิเช่น รูปหลวงพ่อโสธร, หลวงพ่อฉิม, พระพุทธรูปปางไสยาสน์, หลวงพ่อพระครูแถบ
- ตะเกียงเจ้าพายุ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีมากมายหลายแบบแตกต่างกันไปตามแต่ละยุคแต่ละสมัย ซึ่งเป็นของหายากมากแล้วในปัจจุบัน
- นาฬิกาโบราณ ประกอบด้วย นาฬิกาเก่าแก่ที่ไม่มีผลิตแล้วในสมัยนี้ ซึ่งบางเรือนเจ้าอาวาสซื้อมาแล้วซ่อมแซมจนใช้งานได้ตามปกติ และบางเรือนชาวบ้านที่มีจิตเมตตาร่วมกันบริจาคให้แก่วัด เพื่อให้วัดเก็บรักษาไว้เป็นอนุสรณ์และได้มีไว้ให้เด็กรุ่นหลังได้ชื่นชม
- บาตรพระ เป็นบาตรที่มีอายุเก่าแก่และหาได้ยากอีกเช่นกัน
ปัจจุบันทางวัดได้จัดแสดงโบราณวัตถุเป็นสัดส่วนและมีโครงการจัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์เป็นรูปพญาวานร ซึ่งจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับพญาวานรหรือลิง สายพันธุ์ต่างๆ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับวัตถุมงคลของวัดที่จัดสร้างขึ้น โดยในบรรดาเครื่องรางของขลังนั้นจะมีอยู่ชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า ลิงแกะ หรือ หนุมานแกะ ซึ่งเป็นที่นิยมเช่าไปบูชาเป็นอย่างมาก
ดูแลผู้สูงอายุอย่างไรให้อายุยืนยาว
ดูแลผู้สูงอายุอย่างไรให้อายุยืนยาว
เมื่ออายุมากขึ้น ผู้สูงอายุมักรู้สึกเหนื่อยง่ายและเคลื่อนไหวได้ช้าลง อาการเหล่านี้เป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นได้กับผู้สูงอายุทุกคน โดยผู้สูงอายุจะรู้สึกอ่อนแรง เหนื่อย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ บุคคลในครอบครัว ที่จะให้การดูแลอย่างใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ โดยวิธีดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุจะมีการดูแลในหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้
- ดูแลสุขภาพจิต เพราะจิตใจที่มีความสุขมีผลต่อสุขภาพร่างกายของผู้สูงอายุอย่างแน่นอน หากไม่ได้เจอหน้ากัน อย่างน้อยควรมีการพูดคุยกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น การพูดคุยทางโทรศัพท์ หรือการพูดคุยแบบเห็นหน้ากัน เช่น Video Call คุยกัน หรืออาจจะสอนให้ผู้สูงอายุใช้งานอินเทอร์เน็ต และ Social Media เพื่อให้ท่านได้ติดต่อสื่อสารกับญาติพี่น้องหรือแม้กระทั่งเพื่อนฝูงในวัยเดียวกัน ช่วยให้ลดความเครียดและความเหงาได้อีกทางหนึ่งด้วย
- ดูแลสมอง ผู้สูงอายุควรได้รับที่มีประโยชน์และสารอาหารครบถ้วน แต่อย่างไรก็ตามควรเป็นอาหารที่ช่วยรักษาน้ำหนักของผู้สูงอายุด้วย โดยอาจมีการทำกิจกรรมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่ดี และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก็จะช่วยให้สมองได้ผ่อนคลายด้วย
- ดูแลสุขภาพเท้า โดยการทาครีมบำรุงเท้า เพื่อลดอาการหยาบกร้านของผิวหนังเพราะผู้สูงอายุจะมีผิวที่แห้งและเกิดอาการคันได้ง่าย ดังนั้นจึงควรทาครีมอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดปัญหานี้ รวมไปถึงรองเท้าของผู้สูงอายุก็เช่นกัน ควรเป็นรองเท้าที่ทำจากวัสดุหนังแบบนุ่มหรือมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งจะช่วยให้เกิดความสบายและคล่องตัวในการเดินมากยิ่งขึ้น
- ดูแลสุขภาพดวงตา ลูกหลานควรพาผู้สูงอายุไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ เพื่อตัดแว่นสายตาที่เหมาะสม รวมทั้งตรวจดูว่าผู้สูงอายุมีปัญหาสุขภาพตาหรือไม่ รวมทั้งไม่สูบบุหรี่เมื่ออยู่ใกล้ผู้สูงอายุ เนื่องจากจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดจอตาเสื่อมหรือต้อกระจกได้
วัดปีกกา
วัดปีกกา หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดปานประสิทธาราม ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของสองจังหวัดคือ จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดสมุทรปราการ โดยตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 16 ไร่ วัดปานประสิทธาราม จัดตั้งขึ้นโดย นายเชย ขุนเจ๋ง และนายซัง มีซัง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 ชื่อเดิมที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากคือ วัดปีกกา ต่อมาเปลี่ยนเป็น วัดปานประสิทธาราม เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2499 เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่หลวงพ่อปานซึ่งได้เดินธุดงค์มาปักกลดที่นี่และทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก วัดปีกกา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 และได้มีการเปิดสอนโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม เมื่อปีพ.ศ. 2478 และยังมีศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัด เมื่อปี พ.ศ. 2546
จุดเด่นของ วัดปีกกา คือ รูปปั้นหลวงพ่อปานองค์ใหญ่และตลาดน้ำวัดปีกกา โดยภายในบริเวณริมคลอง จะมีการก่อสร้างเพิงสำหรับให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้าจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
ตลาดน้ำปีกกาเป็นตลาดน้ำเล็กๆ ที่มีความอบอุ่นและทำให้ได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบชุมชนพื้นบ้านอย่างแท้จริง โดยร้านค้าในตลาดส่วนใหญ่นั้นก็เป็นคนในพื้นที่ชุมชน ที่มาค้าขายของกินของใช้ในราคาย่อมเยา แถมยังราคาไม่แพงอีกด้วย ที่สำคัญตลาดที่นี่จะใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากมีการจำหน่ายอาหารพื้นบ้านแล้ว ยังมีมุมต่างๆ สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนหย่อนใจ หรือถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
ที่ตั้ง ตลาดน้ำปีกกา ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เปิดให้บริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง