วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
สัตวแพทย์แผนปัจจุบันมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ถูกต้องตามกฎหมาย ประสบการณ์ทำงานทั้งทางด้านอายุกรรมและศัลยกรรมนาน 7 ปีมีทักษะพิเศษในด้านสัตวแพทย์ทางเลือกหลายแขนง ทั้งทางด้านการฝังเข็มกายภาพตามหลักสัตวแพทย์ศาสตร์จีน(ผ่านการอบรมจาก Chi University) และสมุนไพรไทย(กำลังศึกษาเภสัชกรรมไทย ร.ร.ภัทรเวชสยาม)สามารถสื่อสารได้ดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (เคยอยู่อาศัยต่างประเทศ)ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวศึกษาต่อ ยินดีให้ความช่วยเหลือสัตว์ป่วยที่มีข้อจำกัดในการออกนอกสถานที่ ทั้งในด้านการเก็บตัวอย่างเพื่อประกอบการรักษา ฝังไมโครชิพ ดำเนินการด้านสุขภาพต่างๆ การขนย้ายประสานงานการรักษากับสถานพยาบาลสัตว์ที่มีมาตรฐานใกล้เคียง จัดส่งชันสูตรซาก ฌาปนกิจตามหลักศาสนา ไปจนถึงงานจิตอาสาอื่นๆ
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง
พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้
• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
วิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยมีดังนี้
1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณเอาแต่นอนอยู่นิ่ง ๆ บางครั้งก็หลบอยู่ตามซอกหลืบมืด ๆ ในบ้าน หรือมีอาการซึม และไม่ร่าเริงเหมือนปกติแม้ว่าคุณจะเอาของเล่นไปล่อแล้วก็ตาม สาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการเบื่ออาหาร หากสัตว์เลี้ยงของคุณที่เคยกินเยอะเป็นปกติ จู่ ๆ กลับกินอาหารได้น้อยลง หรือไม่กินอาหารเลย อาจจะเป็นเพราะว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยอยู่ก็เป็นได้
3. มีความผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกาย เช่น มีน้ำมูก มีขี้ตาเกรอะกรัง หายใจติดขัด จนไปถึงอาเจียน และถ่ายเหลว อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังป่วยอยู่ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีควรรีบหาทางรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้เร็วที่สุด
4. เอาแต่ร้องหรือคร่ำครวญมากผิดปกติ บางครั้งเวลาที่คุณเผลอไปจับหรือลูบส่วนใดของสัตว์เลี้ยงแล้วจู่ ๆ เขาขู่หรือเผลอกัดคุณขึ้นมานั้น อาจเป็นเพราะเขากำลังเจ็บตรงอวัยวะส่วนที่คุณเผลอไปโดนโดยไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้
5. สัตว์เลี้ยงขนหยาบกระด้าง และขนร่วงมากกว่าปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจขาดสารอาหารบางอย่าง หรืออาจมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังอยู่นั่นเอง
หากคุณหมั่นเอาใจใส่และสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงคุณบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาห่างไกลจากโรคต่าง ๆ และมีชีวิตอยู่กับคุณไปอีกนานเลยทีเดียว
1. ข้อตกลงเรื่องค่าตอบแทน ในส่วนของค่าตอบแทนในการว่าจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
2. ข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาในการทำงาน นายจ้างควรระบุเวลาที่ชัดเจนให้พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้ หรือบางครั้งในกรณีที่ต้องยืดหยุ่นเวลาในการทำงานเนื่องจากเหตุจำเป็น เพื่อให้เงื่อนไขได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย
3. แจกแจงหน้าที่ให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจนก่อนเริ่มงาน นายจ้างจำเป็นต้องอธิบายหน้าที่ของพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ให้อาหารและอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเวลาไหน หรือควรพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นออกกำลังกายเวลาไหนบ้าง เป็นต้น
4. สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลที่จะทำการว่าจ้างอีกครั้งให้ชัดเจน หากพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผ่านการฝึกอบรมด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงมาโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความสบายใจให้กับนายจ้างมากยิ่งขึ้น
5. อธิบายข้อตกลงสำคัญหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่อยู่กับพี่เลี้ยง ควรอธิบายการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นให้กับพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงรับรู้อย่างชัดเจน
6. ลองพาพี่เลี้ยงไปพบกับสัตว์เลี้ยงคุณก่อนวันเริ่มงานจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยล่วงหน้าให้กับสัตว์เลี้ยงและไม่ให้พวกเขารู้สึกระแวงเมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า
หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการจ้างบริการพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป
ที่พักที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้
สำหรับคนในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ชลบุรีคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมเมื่ออยากเที่ยวทะเลแต่ไม่อยากเดินทางไกล ๆ เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคนที่อยากพาสัตว์ร่วมเดินทางและพักค้างแรมด้วย อาจจะเจอปัญหาในการหาที่พัก เพราะโรงแรมหรือสถานที่พักหลาย ๆ แห่ง ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปพัก เพราะปัญหาเสียงรบกวนจากสัตว์เลี้ยงและอาจเกิดความเสียหายของทรัพย์สิน
ในจังหวัดชลบุรี จะมีสถานที่พักที่เราสามารถเข้าพักได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสัตว์เลี้ยง และยังทำให้เราสามารถเที่ยวได้อย่างสนุกสนานและคลายเครียดไปพร้อม ๆ กับน้องหมาเพื่อนซี้สี่ขาของเราได้ด้วย โดยสถานที่แรกก็คือ
Bella Villa Cabana Pattaya เป็นที่พักที่มีบรรยากาศสุดชิล สามารถมองเห็นวิวทะเลสวย ๆ บริเวณรอบรอบได้ และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีครบครัน ใครที่ต้องการมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดก็สามารถมาได้ แถมสัตว์เลี้ยงสี่ขาก็เข้าพักกับเราได้ด้วย ไม่ต้องคอยอยู่บ้านเหงา ๆ มาพักผ่อนหย่อนใจ เล่นน้ำให้สุขใจกันทั้งครอบครัว โดยที่พักแห่งนี้
ที่ตั้ง หมู่ที่ 1 55/7 ถ.สุขุมวิท อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สถานที่ต่อไปเป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นที่ไม่ควรพลาดสำหรับสายรักสัตว์เลี้ยง นั้นก็คือ Bangsaen Heritage Hotel โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่อยู่ติดชายหาดบางแสน มีบรรยากาศโดยรอบที่สวยงามและโอบล้อมไปด้วยทะเล ที่นี่จะมีห้องพักให้บริการทั้งหมด 2 โซน โซนแรกเป็นโซนห้องพักแบบโรงแรม และอีกโซนจะเป็น สไตล์บ้านไทยๆ แบบโมเดิร์น โซนนี้สัตว์เลี้ยงของเราสามารถเข้าพักได้ อีกทั้งยังมีบรรยากาศโดยรอบที่ร่มรื่น มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง เหมาะแก่การเพาะเลี้ยงของเรามาพักผ่อนยามว่าง
เตรียมตัวอย่างไร เมื่ออยากเลี้ยงสัตว์ในบ้าน
การดูแลเลี้ยงสัตว์ ก็เปรียบเสมือนการดูแลคนในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับเลี้ยงสัตว์เข้ามาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต การเลี้ยงตามแฟชั่นหรือการเลี้ยงเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ จะนำมาซึ่งปัญหาของสังคมมากมายเมื่อไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงแล้วปล่อยให้เป็นสัตว์จรจัด ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด ควรศึกษาและเตรียมความพร้อมให้ดีเสียก่อน ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วจะมีปัจจัยพื้นฐานที่เราในฐานะเจ้าของและคนดูแลสัตว์ต้องเตรียมตัวอยู่ 3 ข้อ คือ
1. การเตรียมตัวในเรื่องสถานที่ สัตว์เลี้ยงไม่ต่างจากมนุษย์ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยเป็นปัจจัยพื้นฐาน ก่อนรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิด ควรศึกษาให้ดีเสียก่อนว่าสัตว์ที่เราจะเลือกเลี้ยง ต้องการสถานที่อยู่อาศัยแบบไหน พื้นที่มากน้อยเพียงใด เช่น ถ้าเลี้ยงสุนัขควรมีพื้นที่สำหรับวิ่งเล่น หรือการเลี้ยงหนูแฮมส์เตอร์อาจจะเลี้ยงในกรงเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก เป็นต้น นอกจากนี้ควรตรวจสอบด้วยว่าที่พักของเรามีกฎระเบียบหรือข้อห้ามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอย่างไร เช่น หอพักบางที่ห้ามเลี้ยงสุนัข หรือห้ามเลี้ยงแมว ไปจนถึงการสอบถามความคิดเห็นหรือขออนุญาตคนในครอบครัวด้วย เพราะหากคนที่อยู่ด้วยกันไม่ได้มีแนวคิดหรือสามารถอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้ แต่เรายังตัดสินใจรับสัตว์เลี้ยงมาดูแล อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้
2. เรื่องของเวลา เวลาเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจรับเลี้ยงสัตว์ด้วยเช่นกัน เพราะว่าการเลี้ยงสัตว์แต่ละชนิดล้วนต้องใช้เวลาในการดูแลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทางตรง เช่น การพาไปเดินเล่น การฝึกสอน การรักษาความสะอาด การอาบน้ำ การให้อาหารสัตว์ การพาไปฉีดวัคซีน การพาไปรักษาพยาบาล และทางอ้อม เช่น การซื้ออาหารสัตว์ การซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นต้น ดังนั้นถ้าเราไม่สามารถแบ่งเวลาให้สัตว์เลี้ยงได้ ก็ไม่ควรเลี้ยงเด็ดขาด
3. เรื่องค่าใช้จ่าย อาจจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด โดยเรื่องค่าใช้จ่ายนี้ เป็นปัจจัยเบอร์ 1 ของการเลี้ยงสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ไม่ได้มีแค่ค่าอาหารเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งค่าอุปกรณ์ ที่นอน เสื้อผ้า ของเล่น ค่ารับบริการ อาบน้ำสัตว์ ตัดแต่งขนสัตว์ ฝากเลี้ยงสัตว์ ค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าวัคซีน ค่าสัตวแพทย์ ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงของแต่ละคน
การเลี้ยงสุนัขหลังหย่านมต้องทำอย่างไร
สำหรับคนรักสุนัขส่วนใหญ่จะนำสุนัขมาเลี้ยงตั้งแต่เล็ก ๆ หรือยังไม่หย่านม โดยทั่วไปลูกสุนัขจะเริ่มหย่านมเมื่อมีอายุประมาณ 4-6 สัปดาห์ แต่ในระหว่างที่ยังไม่หย่านม ลูกสุนัขสามารถกินอาหารอื่นที่เป็นสูตรสำหรับลูกสุนัขได้เช่นกัน หากรับลูกสุนัขมาเลี้ยงตั้งแต่ยังไม่หย่านม คือ ในช่วงที่ลูกสุนัขอายุ 3-4 สัปดาห์หลังคลอด เจ้าของลูกสุนัขจะต้องเริ่มให้อาหารอื่น ๆ ตั้งแต่อยู่ในช่วงนี้ เพื่อให้ลูกสุนัขได้ปรับตัวและเรียนรู้รสชาติอาหารใหม่ ๆ การให้อาหารลูกสุนัข ผู้เลี้ยงจะต้องเตรียมพร้อมดังต่อไปนี้
เลือกอาหารให้เหมาะกับลูกสุนัข อาหารสำหรับลูกสุนัขมีหลายเกรดหลายราคา ก่อนที่จะให้ลูกสุนัขกินอาหารเม็ด คนเลี้ยงต้องศึกษาข้อมูลและเลือกอาหารเม็ดหรืออาหารสำเร็จรูปให้เหมาะกับลูกสุนัข โดยพิจารณาจากช่วงวัย สายพันธุ์ และสารอาหารที่มีอยู่ในอาหารนั้นๆ หลังจากเลือกอาหารที่ดีที่สุดให้กับลูกสุนัข
ปริมาณอาหารที่เหมาะสำหรับลูกสุนัข หากลูกสุนัขยังไม่หย่านมแต่อยู่ในช่วงที่สามารถกินอาหารเม็ดได้แล้ว ควรเริ่มให้อาหารเม็ดกับลูกสุนัขในปริมาณน้อย ๆ กินควบคู่ไปกับการกินนม หากอาหารเม็ดแข็งเกินไปอาจนำไปแช่น้ำให้นิ่มก่อนนำมาให้ลูกสุนัขกิน เมื่อลูกสุนัขคุ้นเคยกับการกินอาหารเม็ดค่อย ๆ เพิ่มปริมาณมากขึ้นจนถึงช่วงหย่านม
สำหรับปริมาณอาหารของลูกสุนัขที่หย่านมแล้ว แนะนำให้อ่านรายละเอียดการให้อาหารตามที่เขียนแนะนำไว้ข้างกล่องหรือข้างถุงอาหารเม็ดที่เลือกซื้อมาให้สุนัข เพราะอาหารแต่ละแบรนด์อาจมีสารอาหารและปริมาณการให้ในจำนวนที่แตกต่างกัน
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง