ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ชลบุรี

ดูแลสัตว์เลี้ยง ใน ชลบุรี

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

สัตวแพทย์แผนปัจจุบันมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ถูกต้องตามกฎหมาย ประสบการณ์ทำงานทั้งทางด้านอายุกรรมและศัลยกรรมนาน 7 ปีมีทักษะพิเศษในด้านสัตวแพทย์ทางเลือกหลายแขนง ทั้งทางด้านการฝังเข็มกายภาพตามหลักสัตวแพทย์ศาสตร์จีน(ผ่านการอบรมจาก Chi University) และสมุนไพรไทย(กำลังศึกษาเภสัชกรรมไทย ร.ร.ภัทรเวชสยาม)สามารถสื่อสารได้ดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (เคยอยู่อาศัยต่างประเทศ)ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวศึกษาต่อ ยินดีให้ความช่วยเหลือสัตว์ป่วยที่มีข้อจำกัดในการออกนอกสถานที่ ทั้งในด้านการเก็บตัวอย่างเพื่อประกอบการรักษา ฝังไมโครชิพ ดำเนินการด้านสุขภาพต่างๆ การขนย้ายประสานงานการรักษากับสถานพยาบาลสัตว์ที่มีมาตรฐานใกล้เคียง จัดส่งชันสูตรซาก ฌาปนกิจตามหลักศาสนา ไปจนถึงงานจิตอาสาอื่นๆ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

มองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่มีความรู้ด้านนี้มาช่วยดูแลเค้าที่บ้าน เจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดูรายละเอียดและสามารถสอบถามราคาได้อย่างชัดเจน ก่อนที่เราจะตัดสินใจจ้าง แถมราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด เยี่ยมไปเลยค่ะ
Saijai
ปัทมา เลิศชนะ
3 ปีที่แล้ว
หลังจากได้ทดลองใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงมา 2 ครั้ง ตอนนี้สัมผัสได้ถึงนิสัยของน้องหมาที่เปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนอาการชอบกัดและชอบข่วนของในบ้านจะหายไปเลย น้องหมาเรียบร้อยขึ้นมาก เพราะก่อนหน้าที่ได้แจ้งน้องที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไปว่าน้องหมาชอบกระโดดกัดแขนมากแถมยังชอบขย่ำโซฟาอยู่บ่อยๆ คือแค่จะบอกให้น้องระวังตัวเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเค้าจะช่วยดูแลและแก้นิสัยน้องหมาให้ขนาดนี้ คิดว่าจะใช้บริการต่อไปเรื่อยๆทุกครั้งที่มีโอกาส อยากขอบคุณมากๆเลยค่ะ
Saijai
อารียา หรรษา
3 ปีที่แล้ว
เหตุผลที่เลือกใช้บริการดูแลสัตว์เลี้ยง เพราะว่าไม่มีเวลาดูแลน้องหมาน้องแมวที่บ้านเลยจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาดูแลแทนเวลาเราไม่อยู่ อยากแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงสัตว์ที่ราคาไม่สูง ผู้ให้บริการบนเว็บไซต์ใส่ใจเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
Saijai
มัจฉา รุ่งอนันต์
4 ปีที่แล้ว
หมดปัญหาว่าจะเอาหมาไปฝากที่ไหนเวลาต้องไปต่างจังหวัด บริการดี รายละเอียดครบ ชอบ ๆ
Saijai
เนตรศิกา วัฒนาไกร
4 ปีที่แล้ว
เว็บใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้ครั้งแรกชอบเลย ได้พี่เลี้ยงมาดูแลน้องแมวให้ถึงบ้าน สบายใจทาสแมวอย่างเราไปเลยค่ะ
Saijai
ณัฐฐา แก้วดี
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลสัตว์เลี้ยง

ขอดีของการมีสัตว์เลี้ยง
เครียด เหงา เศร้า บางครั้งเราต้องการคนมาคอยรับฟังปัญหา ซึ่งนอกจากเพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกก็คือ การมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว นก ปลา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนนิยม สัตว์เลี้ยง สามารถช่วยเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเหงาและเครียด ไปจนถึงผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี คุณทราบหรือไม่ว่าการเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์ต่อเรามากกว่าที่คิด มาดูข้อดีกันเลยค่ะ

- การเลี้ยงสุนัขหรือแมวเพื่อบำบัดความเครียดหรือในต่างประเทศเรียกว่า Pets Therapy (สัตว์เลี้ยงบำบัด) ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยมานานแล้วว่า การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้น สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้จริง ทั้งยังมีคำแนะนำให้ผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบรรเทาความเหงาและป้องกันโรคซึมเศร้าอีกด้วย

- การมีสัตว์เลี้ยงช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยผลการศึกษาพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์จะมีค่าคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดอย่างไตรกลีเซอร์ไรด์น้อย เนื่องจากมีกิจกรรมพาสัตว์เลี้ยงไปเดินออกกำลังกายนั่นเอง
- ช่วยลดความดันโลหิต เพราะการมีสัตว์เลี้ยงจะทำให้เราคลายเครียด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์กพบว่า ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคความดันโลหิตสูงจะมีค่าความดันโลหิตที่ต่ำลงเมื่อมีสัตว์เลี้ยง

- Rebecca A. Johnson ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี ได้กล่าวว่า เพียงแค่มองสัตว์เลี้ยง สมองจะหลั่งออกซิโทซิน ทำให้มีความสุขและลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้เกิดความเครียด โดยมีผลการวิจัยกับทหารผ่านศึกชาวสหรัฐอเมริกา ที่ประสบภาวะผิดปกติทางจิตใจหรือ PTSD พบว่า ทหารผ่านศึกนายนั้นไม่กล้าออกจากบ้านโดยไม่มีภรรยาไปด้วย เมื่อได้ลองเลี้ยงสุนัข เพียงไม่กี่อาทิตย์เขาก็มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและกล้าที่จะออกจากบ้านเพียงล
ทักษะที่พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดีควรมี
การดูแลสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลบุคคลในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับมาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แต่หากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของเราได้ในบางตรั้ง และจำเป็นต้องหาคนมาดูแลสัตว์เลี้ยงชั่วคราว หรือที่เรียกว่าพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

พี่เลี้ยงสัตว์ควรมีทักษะและคุณลักษณะดังต่อไปนี้

• มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
• รู้จักลักษณะนิสัยของสัตว์ และรักสัตว์
• ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาเฉพาะทางหรือผ่านการฝึกอบรม แต่ควรมีความคุ้นเคยกับการดูแลสัตว์และเข้าใจพฤติกรรมของสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
• พี่เลี้ยงสัตว์ทำหน้าที่คล้ายกับพี่เลี้ยงเด็ก คือ คอยดูแลใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของสัตว์ หากสัตว์เลี้ยงป่วยและปล่อยไว้นานและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
• พี่เลี้ยงสัตว์มีหน้าที่ให้น้ำและอาหาร พาสัตว์ไปออกกำลังกาย และรู้จักการให้ยาหรือดูแลเบื้องต้นเมื่อสัตว์ป่วย
• หากเป็นพี่เลี้ยงสัตว์ประเภท สุนัขหรือแมวจะต้องสามารถแปรงขนและทำความสะอาดฟันเบื้องต้นได้
• ทำความสะอาดอุจจาระหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องคอยรายงานความเป็นอยู่ของสัตว์ให้เจ้าของได้รับทราบเป็นระยะ ๆ อาจมีการถ่ายรูปหรือคลิปส่งให้เจ้าของได้ดูเพื่อความมั่นใจและสบายใจด้วย
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะต้องอยู่ที่บ้านในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ดังนั้น ควรมีความซื่อสัตย์และบุคลิกที่น่าไว้วางใจ
สัญญานที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการป่วยมีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง การสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหลายๆครั้งกว่าที่เราจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักมีอาการป่วยก็ต่อเมื่อพวกเขามีอาการหนักแล้ว ใส่ใจอยากแบ่งปันความรู้กันและวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่เหมือนเป็นสัญญาณอันตรายที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เราได้สังเกตและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ทันเวลา

1. พบอาการป่วย หรือพบความผิดปกติอื่นๆที่สังเกตได้ เช่น มีขี้ตาเกรอะกรัง ตาแดง มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขนร่วงเป็นหย่อมๆ มีสะเก็ดหรือมีกลิ่นตัวแรง เดินกะเผลก อาเจียน ถ่ายเหลว น้ำหนักลดลงในเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งกินน้ำมากกว่าปกติ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่อาจจะบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยก็เป็นได้
2. มีพฤติกรรมเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อยลง เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด หากสัตว์เลี้ยงของเรามีอาการเบื่ออาหาร ทั้งๆ ที่นิสัยเดิมกินเก่ง เจ้าของควรเฝ้าสังเกตอาการหรือนำไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มป่วย แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องแยกให้ได้ก่อนว่า อาการกินอาหารลดลงนั้นไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกอื่นๆ เช่น วัยที่เปลี่ยนไป เปลี่ยนอาหารใหม่ อากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล หรือมีสิ่งมากวนใจที่อาจเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยกินได้ลดลง
3. มีอาการซึมไม่ร่าเริง นอนมากผิดปกติ เวลาเจ้าของเรียกจะไม่กระฉับกระเฉง ไม่มาเล่น ไม่มาหาเหมือนเคย เช่นสุนัขมีอาการ หาวบ่อย หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ แต่หากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อายุมากแล้ว อาจจะร่าเริงน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้อาการซึมอาจเกิดมาจากอาการเหงา ซึมเศร้า ซึ่งนับเป็นอาการป่วยทางใจ อันอาจเป็นผลมาจากเจ้าของไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้ว การมีเวลาการเอาใจใส่ การได้สัมผัสก็ช่วยป้องกันและรักษาอาการป่วยทางใจได้
ก่อนจ้างพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงผู้ว่าจ้างจะต้องทำข้อตกลงดังนี้?
ทุกคนที่มีสัตว์เลี้ยงย่อมเข้าใจถึงความห่วงใยเมื่อเราต้องอยู่ห่างไกลจากสัตว์เลี้ยงของเราไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว ดังนั้น การเลือกพี่เลี้ยงสัตว์มาอยู่ที่บ้านจึงมีเงื่อนไขและข้อตกลงที่ต้องพูดคุยกันก่อนการจ้างงานดังนี้

• ค่าตอบแทนหรือค่าจ้าง พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละคนบนเว็บไซต์ใส่ใจได้ระบุเรทราคาจ้างไว้ชัดเจน นายจ้างจะต้องเลือกพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากข้อมูลประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน รวมถึงเรทราคาค่าจ้างโดยตัวของท่านเอง
• ระยะเวลาในการทำงาน อาจจะมีตารางการทำงานที่ไม่แน่นอนทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่านายจ้างมีธุระหรือต้องการใช้บริการในตอนไหนก็สามารถเรียกใช้บริการได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีหน้าที่ดูแลสัตว์ขั้นพื้นฐานทั้งหมด ตัวอย่างเช่น การให้อาหารและน้ำ หรือขนมต่าง ๆ
• หากเป็นสัตว์ เช่น สุนัข หรือแมว พี่เลี้ยงต้องรู้จักการเช็ดตัว แปรงขน และแปรงฟันให้ได้
• พี่เลี้ยงสัตว์ต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปทำกิจกรรม หรือเดินออกกำลังกายได้
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงต้องสนุกกับการใช้เวลาร่วมกับสัตว์และต้องรู้จักวิธีการทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลาย และไม่เครียดเมื่อต้องอยู่โดยไม่มีเจ้าของ
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักวิธีทำความสะอาดเมื่อสัตว์เลี้ยงมีการขับถ่าย
• พี่เลี้ยงต้องรู้จักรักษาความสะอาดของเล่น ที่นอน หรือบริเวณที่สัตว์อยู่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของสัตว์เลี้ยง
• พี่เลี้ยงสามารถช่วยให้ยาสัตว์เลี้ยงได้ หากสัตว์เลี้ยงมีอาการป่วยหรือมีโรคประจำตัว
• หากมีเหตุฉุกเฉินที่สัตว์เลี้ยงป่วยกะทันหัน พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสามารถดูแลและพาไปพบแพทย์ได้ทันที
• พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงควรมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มาก่อนและสามารถตรวจสอบประวัติก่อนทำการว่าจ้างได้

ที่พักที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้

สำหรับคนในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ชลบุรีคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมเมื่ออยากเที่ยวทะเลแต่ไม่อยากเดินทางไกล ๆ เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคนที่อยากพาสัตว์ร่วมเดินทางและพักค้างแรมด้วย อาจจะเจอปัญหาในการหาที่พัก เพราะโรงแรมหรือสถานที่พักหลาย ๆ แห่ง ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปพัก เพราะปัญหาเสียงรบกวนจากสัตว์เลี้ยงและอาจเกิดความเสียหายของทรัพย์สิน

ในจังหวัดชลบุรี จะมีสถานที่พักที่เราสามารถเข้าพักได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสัตว์เลี้ยง และยังทำให้เราสามารถเที่ยวได้อย่างสนุกสนานและคลายเครียดไปพร้อม ๆ กับน้องหมาเพื่อนซี้สี่ขาของเราได้ด้วย โดยสถานที่แรกก็คือ

Bella Villa Cabana Pattaya เป็นที่พักที่มีบรรยากาศสุดชิล สามารถมองเห็นวิวทะเลสวย ๆ บริเวณรอบรอบได้ และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีครบครัน ใครที่ต้องการมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดก็สามารถมาได้ แถมสัตว์เลี้ยงสี่ขาก็เข้าพักกับเราได้ด้วย ไม่ต้องคอยอยู่บ้านเหงา ๆ มาพักผ่อนหย่อนใจ เล่นน้ำให้สุขใจกันทั้งครอบครัว โดยที่พักแห่งนี้

ที่ตั้ง หมู่ที่ 1 55/7 ถ.สุขุมวิท อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สถานที่ต่อไปเป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นที่ไม่ควรพลาดสำหรับสายรักสัตว์เลี้ยง นั้นก็คือ Bangsaen Heritage Hotel โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่อยู่ติดชายหาดบางแสน มีบรรยากาศโดยรอบที่สวยงามและโอบล้อมไปด้วยทะเล ที่นี่จะมีห้องพักให้บริการทั้งหมด 2 โซน โซนแรกเป็นโซนห้องพักแบบโรงแรม และอีกโซนจะเป็น สไตล์บ้านไทยๆ แบบโมเดิร์น โซนนี้สัตว์เลี้ยงของเราสามารถเข้าพักได้ อีกทั้งยังมีบรรยากาศโดยรอบที่ร่มรื่น มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง เหมาะแก่การเพาะเลี้ยงของเรามาพักผ่อนยามว่าง

ที่ตั้งถ.บางแสน สาย 1 ซอย 1 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี



เตรียมตัวอย่างไร เมื่ออยากเลี้ยงสัตว์ในบ้าน

การดูแลเลี้ยงสัตว์ ก็เปรียบเสมือนการดูแลคนในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับเลี้ยงสัตว์เข้ามาเลี้ยงแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต การเลี้ยงตามแฟชั่นหรือการเลี้ยงเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ จะนำมาซึ่งปัญหาของสังคมมากมายเมื่อไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงแล้วปล่อยให้เป็นสัตว์จรจัด ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด ควรศึกษาและเตรียมความพร้อมให้ดีเสียก่อน ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วจะมีปัจจัยพื้นฐานที่เราในฐานะเจ้าของและคนดูแลสัตว์ต้องเตรียมตัวอยู่ 3 ข้อ คือ

1. การเตรียมตัวในเรื่องสถานที่ สัตว์เลี้ยงไม่ต่างจากมนุษย์ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยเป็นปัจจัยพื้นฐาน ก่อนรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิด ควรศึกษาให้ดีเสียก่อนว่าสัตว์ที่เราจะเลือกเลี้ยง ต้องการสถานที่อยู่อาศัยแบบไหน พื้นที่มากน้อยเพียงใด เช่น ถ้าเลี้ยงสุนัขควรมีพื้นที่สำหรับวิ่งเล่น หรือการเลี้ยงหนูแฮมส์เตอร์อาจจะเลี้ยงในกรงเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก เป็นต้น นอกจากนี้ควรตรวจสอบด้วยว่าที่พักของเรามีกฎระเบียบหรือข้อห้ามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอย่างไร เช่น หอพักบางที่ห้ามเลี้ยงสุนัข หรือห้ามเลี้ยงแมว ไปจนถึงการสอบถามความคิดเห็นหรือขออนุญาตคนในครอบครัวด้วย เพราะหากคนที่อยู่ด้วยกันไม่ได้มีแนวคิดหรือสามารถอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้ แต่เรายังตัดสินใจรับสัตว์เลี้ยงมาดูแล อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้

2. เรื่องของเวลา เวลาเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจรับเลี้ยงสัตว์ด้วยเช่นกัน เพราะว่าการเลี้ยงสัตว์แต่ละชนิดล้วนต้องใช้เวลาในการดูแลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทางตรง เช่น การพาไปเดินเล่น การฝึกสอน การรักษาความสะอาด การอาบน้ำ การให้อาหารสัตว์ การพาไปฉีดวัคซีน การพาไปรักษาพยาบาล และทางอ้อม เช่น การซื้ออาหารสัตว์ การซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นต้น ดังนั้นถ้าเราไม่สามารถแบ่งเวลาให้สัตว์เลี้ยงได้ ก็ไม่ควรเลี้ยงเด็ดขาด

3. เรื่องค่าใช้จ่าย อาจจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด โดยเรื่องค่าใช้จ่ายนี้ เป็นปัจจัยเบอร์ 1 ของการเลี้ยงสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ไม่ได้มีแค่ค่าอาหารเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งค่าอุปกรณ์ ที่นอน เสื้อผ้า ของเล่น ค่ารับบริการ อาบน้ำสัตว์ ตัดแต่งขนสัตว์ ฝากเลี้ยงสัตว์ ค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าวัคซีน ค่าสัตวแพทย์ ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงของแต่ละคน



การเลี้ยงสุนัขหลังหย่านมต้องทำอย่างไร

สำหรับคนรักสุนัขส่วนใหญ่จะนำสุนัขมาเลี้ยงตั้งแต่เล็ก ๆ หรือยังไม่หย่านม โดยทั่วไปลูกสุนัขจะเริ่มหย่านมเมื่อมีอายุประมาณ 4-6 สัปดาห์ แต่ในระหว่างที่ยังไม่หย่านม ลูกสุนัขสามารถกินอาหารอื่นที่เป็นสูตรสำหรับลูกสุนัขได้เช่นกัน หากรับลูกสุนัขมาเลี้ยงตั้งแต่ยังไม่หย่านม คือ ในช่วงที่ลูกสุนัขอายุ 3-4 สัปดาห์หลังคลอด เจ้าของลูกสุนัขจะต้องเริ่มให้อาหารอื่น ๆ ตั้งแต่อยู่ในช่วงนี้ เพื่อให้ลูกสุนัขได้ปรับตัวและเรียนรู้รสชาติอาหารใหม่ ๆ การให้อาหารลูกสุนัข ผู้เลี้ยงจะต้องเตรียมพร้อมดังต่อไปนี้

เลือกอาหารให้เหมาะกับลูกสุนัข อาหารสำหรับลูกสุนัขมีหลายเกรดหลายราคา ก่อนที่จะให้ลูกสุนัขกินอาหารเม็ด คนเลี้ยงต้องศึกษาข้อมูลและเลือกอาหารเม็ดหรืออาหารสำเร็จรูปให้เหมาะกับลูกสุนัข โดยพิจารณาจากช่วงวัย สายพันธุ์ และสารอาหารที่มีอยู่ในอาหารนั้นๆ หลังจากเลือกอาหารที่ดีที่สุดให้กับลูกสุนัข

ปริมาณอาหารที่เหมาะสำหรับลูกสุนัข หากลูกสุนัขยังไม่หย่านมแต่อยู่ในช่วงที่สามารถกินอาหารเม็ดได้แล้ว ควรเริ่มให้อาหารเม็ดกับลูกสุนัขในปริมาณน้อย ๆ กินควบคู่ไปกับการกินนม หากอาหารเม็ดแข็งเกินไปอาจนำไปแช่น้ำให้นิ่มก่อนนำมาให้ลูกสุนัขกิน เมื่อลูกสุนัขคุ้นเคยกับการกินอาหารเม็ดค่อย ๆ เพิ่มปริมาณมากขึ้นจนถึงช่วงหย่านม

สำหรับปริมาณอาหารของลูกสุนัขที่หย่านมแล้ว แนะนำให้อ่านรายละเอียดการให้อาหารตามที่เขียนแนะนำไว้ข้างกล่องหรือข้างถุงอาหารเม็ดที่เลือกซื้อมาให้สุนัข เพราะอาหารแต่ละแบรนด์อาจมีสารอาหารและปริมาณการให้ในจำนวนที่แตกต่างกัน