ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ใน สายไหม, กรุงเทพมหานคร

ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ใน สายไหม, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Pailin Sangmaneepang
Pailin Sangmaneepang
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

I am an honest woman without bad habits. I have experience in caring for post-stroke patients and patients with diabetes. You can also cook Thai and European food. If necessary, I can drive a car. (I have a driver's license) And keep the house clean at the request of the owner. Conscientious and kind attitude towards the patient is guaranteed.

แสดงเพิ่มเติม
อธิวุฒิ สมัครการ
อธิวุฒิ สมัครการ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 35 ปี

เป็นคนใจเย็น รักการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากมีที่พักให้เช่าใกล้สถานที่ทำงานจะดีมาก หรือจะให้อยู่บ้านเฝ้า 24 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
สิริมา ทวีสิทธิ์
สิริมา ทวีสิทธิ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 50 ปี

มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมามากกว่า5ปี สามารถขับรถพาไปหาหมอ อยู่เป็นเพื่อน เฝ้าไข้

แสดงเพิ่มเติม
จันทร์ทิพย์ ธีระ
จันทร์ทิพย์ ธีระ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 42 ปี
เมธาวี ธีระธัมปิยปัญญา
เมธาวี ธีระธัมปิยปัญญา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 40 ปี

ขยันทำงาน รับผิดชอบ มีจรรยาบรรณ ใส่ใจดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดีค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 41 ปี

ใจเย็น รักในการดูเอาใจใส่

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย นวดได้ ภาษาได้ อาหารได้ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 28 ปี

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

สามีเป็นคนอเมริกัน ให้ดิฉันช่วยหาคนมาดูแลคุณพ่อของเค้าที่เป็นอัมพฤกษ์ มีภาวะแขนขาอ่อนแรง แต่ยังพอใช้งานได้ ซึ่งปกติคนดูแลที่เชี่ยวชาญด้านนี้ก็หายากอยู่แล้ว ยิ่งเป็นคนดูแลแบบที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้อีก ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ โชคดีที่มาเจอเว็บใส่ใจ มีข้อมูลพร้อม
Saijai
ดรุณี เชอร์แมน
3 ปีที่แล้ว
คุณแม่สามีมาจากประเทศอังกฤษ เราเลยหาผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา จากใส่ใจมาดูแล ทำงานดีมาก พูดภาษาอังกฤษคล่องด้วย แม่สามีชมใหญ่เลย
Saijai
กาญจณา บลัดเวิร์ท
3 ปีที่แล้ว
แต่งงานกับแฟนชาวต่างชาติ ครอบครัวเขาย้ายมาทำธุรกิจที่เมืองไทย มีคุณตามาด้วย เราทุกคนมีงานยุ่งกันหมด ที่นี่ไม่มีบ้านพักคนชราแบบเมืองนอกที่ให้คุณตาไปอยู่ได้ จึงมองหาคนดูแลแบบ 2 ภาษามาดูแลที่บ้าน ตอนแรกเราคิดว่าจะราคาสูง แต่พอติดต่อพูดคุยตกลงกันแล้วได้ราคาที่เรารับได้ ไม่แพงจนเกินไป ลงตัวค่ะ ชอบเว็บนี้จริงๆ ใส่ใจช่วยเราได้ค่ะ
Saijai
สุกัญญา อากีเลล่า
4 ปีที่แล้ว
ผู้ดูแลสองภาษาที่เราติดต่อผ่านเว็บใส่ใจ ทำงานดีมาก ขอชื่นชมเลยค่ะ ตั้งใจเข้ามารีวิวให้เลย เพราะน้องเค้าทั้งช่วย​เช็ดตัว เปลี่ยนแพมเพิส พยุง Mama เราให้นั่งรถเข็น จัดยา จัดอาหารให้ ทำกายภาพให้ ดูแลความสะอาด ต่าง ๆ ในบ้านให้เราด้วย น้องเค้าทำงานดีมาก ๆ จริง ๆ ประทับใจมากค่ะ
Saijai
ณัฐวรินทร์ แสงชูโต
4 ปีที่แล้ว
พนักงานดูแลที่จ้างมา สุภาพแถมมีมารยาทกับคนในบ้านมากๆ
Saijai
อารีนา เกศุมณี
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา

ความจำเป็นที่ต้องจ้างผู้ดูแลสองภาษาเพื่อดูแลผู้สูงอายุต่างชาติคืออะไร
สิ่งที่ส่งผลให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุเติบโตได้ดี ส่วนหนึ่งมาจากสภาพสังคมปัจจุบันที่คนวัยหนุ่มสาวส่วนใหญ่ต้องทำงานนอกบ้านทำให้ไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตนเอง รวมถึงความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ทำให้มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ผู้สูงอายุในประเทศไทยไม่ได้มีเพียงแค่คนไทยเท่านั้น แต่ยังมีผู้สูงอายุต่างชาติที่เข้ามาใช้ชีวิตหลังเกษียณหรือเป็นผู้ที่มาอาศัยอยู่ในไทยอีกด้วย จึงต้องมีการจ้างผู้ดูแลสองภาษาเพื่อดูแลผู้สูงอายุต่างชาติ ด้วยเหตุผลดังนี้

1. การสื่อสาร ความจำเป็นหลักในการจ้างผู้ดูแลสองภาษา คือเพื่อดูแลผู้สูงอายุต่างชาติ เพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสาร ผู้ดูแลจะได้รู้ว่าผู้สูงอายุต้องการอะไรหรือมีอาการเจ็บป่วยตรงไหน เพื่อจะได้ตอบสนองให้ตรงจุด เพราะหากมีการสื่อสารผิดพลาด อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและป็นอันตรายต่อตัวผู้สูงอายุได้ ผู้ดูแลที่มีทักษะในการสื่อสารดี จะทำให้สามารถเข้าใจผู้สูงอายุได้มากขึ้นอีกด้วย
2. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ดูแลและผู้สูงอายุ หากผู้ดูแลสามารถพูดภาษาเดียวกับผู้สูงอายุได้ จะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกสบายใจและไว้ใจผู้ดูแลมากขึ้น เพราะการจ้างผู้ดูแลให้อยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง หากไม่สามารถสื่อสารกันได้เข้าใจ จะทำให้ทั้งผู้ดูแลและผู้สูงอายุรู้สึกอึดอัด การจ้างผู้ดูแลสองภาษายังช่วยให้การทำกิจกรรม ต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่น เช่น การพาผู้สูงอายุออกไปเดินเล่น ผ่อนคลาย รวมถึงการพาผู้สูงอายุไปพบแพทย์ ผู้ดูแลจะสามารถเป็นตัวกลางในการสื่อสารได้
3. สร้างความมั่นใจให้กับครอบครัวของผู้สูงอายุและตัวของผู้สูงอายุ การจ้างผู้ดูแลสองภาษา ทำให้มั่นใจได้ว่า ผู้ดูแลจะสามารถดูแลผู้สูงอายุได้เต็มที่ คอยอยู่คุยเป็นเพื่อนผู้สูงอายุได้ การดูแลก็เป็นไปอย่างปลอดภัย และสามารถเป็นทางเลือกให้กับญาติผู้สูงอายุ หรือตัวผู้สูงอายุเองในการจ้างผู้ดูแลได้อีกด้วย

สำหรับผู้ที่ต้องการจ้างคนต่างชาติ เช่น สัญชาติฟิลลิปปินส์ พม่า ลาว หรือ กัมพูชา เพื่อดูแลผู้สูงอายุ ต้องเตรียมอะไรบ้าง
ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ASEAN และยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาทำงานทั้งลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะชาวฟิลิปปินส์ที่ถือเป็นชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง ทำให้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและมีความตั้งใจในการทำงาน ด้วยข้อได้เปรียบทางภาษาทำให้โอกาสที่แรงงานเหล่านี้เข้าไปทำงานแม่บ้าน หรือแม่บ้านดูแลผู้สูงอายุชาวต่างชาติในประเทศไทย

สำหรับผู้ที่ต้องการจ้างคนต่างชาติ เช่น สัญชาติฟิลิปปินส์ พม่า ลาว หรือ กัมพูชา เพื่อดูแลผู้สูงอายุ ต้องเตรียมอะไรบ้าง

1. เตรียมอุปกรณ์ในการดูแลผู้สูงอายุให้พร้อม เช่นอุปกรณ์พยุงช่วยเดิน (Walker) อุปกรณ์ทำความสะอาด สำลี ถุงมือยาง หน้ากากอนามัย เพื่อช่วยให้พี่เลี้ยงชาวต่างชาติทำงานได้สะดวกขึ้น บางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นชาวต่างชาติ อาจมีอุปสรรคทางการสื่อสาร การเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม คนต่างชาติที่มาทำงานได้ตามหน้าที่
2. ตรวจสอบกฎหมายเรื่องใบอนุญาตการทำงาน แน่นอนว่าผู้ที่มารับจ้างดูแลผู้สูงอายุชาวต่างชาตินั้นต้องมีบัตรทำงานหรือใบอนุญาตทำงานจึงเป็นเอกสารสำคัญ ซึ่งนายจ้างทุกคนสามารถตรวจสอบบัตรทำงานได้ ซึ่งจะมีบัตรประเภท MOU และกลุ่มพิสูจน์สัญชาติในประเทศ โดยกลุ่ม MOU จะเป็นบัตรสีขาว และเล่มสีน้ำเงิน มีตราประทับในเล่มระบุ MOU เพื่อความสะดวกควรเลือกจ้างบริษัทที่ดูแล MOU ให้พนักงาน สัญชาติฟิลิปปินส์ พม่า ลาว หรือ กัมพูชา เพื่อลดขั้นตอนความยุ่งยาก
3. ต้องทำการตรวจประวัติอาชญากรรม เพราะแรงงานที่เข้ามามีความหลากหลาย บางครั้งเราไม่อาจทราบได้ว่าเคยมีปัญหาอะไรมาบ้าง การมีหนังสือรับรองก็สามารถ แน่นอนเราต้องสอบถามถิ่นที่พัก พักที่ไหน หากเกิดเหตุฉุกเฉินต้องติดต่อใคร ส่วนหลักประกันนั้น ตัวแทนหรือบริษัทควรเป็นผู้ดูแลหากเกิดความเสียหายขึ้นมา
4. ตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพกับกระทรวงสาธารณสุข ตามกฎหมายแรงงาน ต่างด้าวที่ต้องการทำงานในประเทศไทยต้องทำการตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรับรองว่าไม่เป็นโรคต้องห้าม ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการทำงานดูแลผู้สูงอายุ เพราะผู้สูงอายุสามารถรับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย
5.เตรียมทำความเข้าใจกับผู้สูงอายุ ว่าคนที่จ้างมาทำหน้าที่อะไรบ้าง เพื่อลดความรำคาญใจ หากคนที่จ้างมาทำงานไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ ซึ่งอาจเป็นงานนอกเหนือกว่าที่ตกลงไว้
ค่าจ้างหรือค่าแรงของคนสัญชาติอื่นในงานดูแลผู้สูงอายุ เช่น สัญชาติฟิลิปปินส์ หรือพม่า จะสูงกว่าค่าแรงสำหรับจ้างผู้ดูแลชาวไทยหรือไม่
เมื่อพูดกันถึงประเด็นค่าจ้างหรือค่าแรงของคนสัญชาติอื่นในงานบริการดูแลผู้สูงอายุ ว่าจะสูงกว่าค่าแรงของผู้ดูแลชาวไทยหรือไม่ อย่างไรนั้น เรามีข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้ดังนี้

ประเด็นแรก อัตราค่าจ้างของการทำงานของคนต่างด้าว หรือของคนสัญชาติอื่นในประเทศไทย นั้น มีหลักเกณฑ์และข้อกำหนดเรื่องค่าจ้าง หรือค่าแรงขั้นต่ำ ตามหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตทำงานของกระทรวงแรงงาน โดยได้กำหนดค่าจ้างขั้นต่ำของสัญชาติอื่นไว้ดังนี้ เช่น ฟิลิปปินส์ เงินเดือนขั้นต่ำ ต้องไม่น้อยกว่า 35,000 บาท ต่อเดือน หรือ สัญชาติพม่า เงินเดือนขั้นต่ำต้องไม่น้อยกว่า 25,000 บาท ต่อเดือน
ประการที่สอง อย่างที่พอรู้กันอยู่แล้วว่าประเทศไทยมีชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชาวต่างชาติวัยเกษียณที่ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเพื่อใช้ชีวิตในบั้นปลาย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราที่สูงกว่าเงินบาท หรือค่าครองชีพที่ถูกว่าหากต้องใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ หรือแม้แต่ลักษณะภูมิอากาศ หรือความสวยงามของประเทศที่ดึงดูดให้คนเหล่านี้เลือกอาศัยอยู่ในประเทศไทย ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่สามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศ เช่นภาษาอังกฤษได้ จึงเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน และ เนื่องด้วยลักษณะหน้าที่การทำงานที่การสื่อสารและความสามารถในการเข้าใจเรื่องภาษาเป็นสิ่งที่จำเป็นและมีความสำคัญต่อการปฏิบัติงานเป็นอย่างมาก ผู้ดูแลที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้จึงมีความได้เปรียบในการต่อรองเรื่องเงินเดือน และเป็นข้อได้เปรียบของผู้ดูแลผู้สูงอายุสัญชาติอื่น เนื่องจากสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีกว่าคนไทย แต่นั่นไม่ได้เป็นการการันตีว่าค่าจ้างของผู้ดูแลสัญชาติอื่นจะสูงกว่าผู้ดูแลสัญชาติไทยไปด้วย เพราะหากผู้ดูแลเป็นคนไทยที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี ย่อมมีความได้เปรียบในด้านการสื่อสารที่สังคมไทยส่วนใหญ่ยังใช้ภาษาไทยเป็นหลัก และคนไทยย่อมมีความเข้าใจวัฒนธรรมประเพณีไทยได้ดีกว่าคนชาติอื่น บวกกับลักษณะนิสัยของคนไทยที่ความโอบอ้อมอารี จึงทำให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุคนไทยที่มีคุณสมบัติด้านภาษาเป็นที่ต้องการและมีอัตราค่าจ้างสูงตามไปด้วย
เว็บไซต์ของใส่ใจมีข้อมูลผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุที่พูดภาษาอังกฤษได้หรือไม่
สำหรับท่านที่กำลังมองหาผู้ดูแลผู้สูงอายุที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ท่านสามารถค้นหาผู้ดูแลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวโดยระบุในตัวคัดกรอง (Filters) เพื่อให้ระบบแสดงข้อมูลของผู้ให้บริการที่ตรงตามความต้องการของท่าน และท่านสามารถเลือกดูประวัติของผู้ให้บริการที่ท่านสนใจ รวมถึงอัตรค่าบริการและรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการ เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุ