วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา พี่เลี้ยงสองภาษา
พี่เลี้ยงเด็กสองภาษามีทักษะด้านภาษาที่สามารถดูแลและสอนการบ้านที่เป็นภาษาอังกฤษให้แก่เด็กได้ ยิ่งในปัจจุบันที่มีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาล พี่เลี้ยงเด็กสองภาษาสามารถแบ่งเบาหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองในการสอนการบ้านหรืออ่านหนังสือนิทานภาษาอังกฤษเพราะตัวพี่เลี้ยงเองมีความรู้ความสามารถด้านภาษาในระดับหนึ่ง
ไม่ได้มีแค่ครอบครัวคนไทยที่ต้องการใช้บริการพี่เลี้ยงสองภาษา แต่ยังมีครอบครัวของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและต้องการจ้างพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านภาษามาดูแลลูกของตน ดังนั้นจึงเป็นอะไรที่สะดวกกว่าหากเลือกจ้างพี่เลี้ยงที่สามารถเข้าใจและสื่อสารภาษาที่สองกับเด็กได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญผู้ปกครองชาวต่างชาติส่วนใหญ่เต็มใจที่จะให้ค่าตอบแทนที่สูงกว่าปกติเช่นกัน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ค่าจ้างของพี่เลี้ยงเด็กสองภาษานั้นสูงกว่าค่าจ้างของพี่เลี้ยงทั่วไป
1. พยายามเสริมสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ โดยหมั่นใช้ พูดคุยสื่อสารกับเด็กด้วยภาษาที่สองควบคู่ไปกับภาษาหลักอย่างเป็นประจำ และสม่ำเสมอ อาจชวนคุย เพื่อส่งเสริมให้เด็กคุ้นเคย และชินกับการสื่อสารสองภาษารวมทั้งรูปแบบการจัดรูปแบบประโยค การออกเสียง และสำเนียงในการพูด เด็กนั้นมีคุณลักษณะและความสามารถในการประมวลและแยกความแตกต่างของภาษาและเสียงได้เป็นอย่างดี ยิ่งพี่เลี้ยงพูดคุยหรือใช้ภาษาเหล่านั้นเป็นประจำจะยิ่งส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของเด็ก และเพิ่มความสามารถทางสติปัญญาของเด็ก
2. ด้วยความสะดวกสบายของเทคโนโลยีและนวัตกรรมการสื่อสาร พี่เลี้ยงควรสรรหารายการการ์ตูน หรือวิดีโอจากยูทูป (YouTube) ที่มีการพากย์เสียงเป็นภาษาต่าง ๆ เพลงกล่อมเด็ก หรือการ์ตูนอนิเมชั่น กิจกรรมเหล่านี้เป็นการเพิ่มความสนุกสนาน และทำให้เด็กเรียนรู้ และจดจำภาษาไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งหมดนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของพี่เลี้ยงเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้เด็กใช้สื่อตามลำพังและเป็นเวลานานเกินไป เพราะส่งผลเสียต่อสายตาและสมาธิ
3. หากิจกรรมร้องเพลง หรือเต้นรำเพื่อเป็นการผ่อนคลายและ เรียนรู้ภาษาไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ชื่นชอบกิจกรรมนันทนาการแบบนี้อยู่แล้วจึงไม่เป็นการยากที่พี่เลี้ยงจะชักชวนให้เด็กทำกิจกรรม
4. เสริมสร้างทักษะ ด้วยสื่อการสอนทางภาษา กิจกรรม หรือเกมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น เกมต่อคำ (Scrabble หรือ Criss-Crosswords) อาจจะใช้บัตรคำ การ์ดเกมคำศัพท์ หรือหนังสือภาพสอนคำศัพท์ หรือหนังสือสอนภาษาสำหรับเด็ก โดยสื่อเหล่านี้จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์ เสริมสร้างทักษะทางภาษา และ สร้างความเพลิดเพลินให้กับเด็กได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเด็กกับพี่เลี้ยงด้วย
1. รายละเอียดเรื่องวันทำงาน ระยะเวลาในการทำงานแต่ละวัน วันหยุดมีกี่วันต่อปี จำนวนเด็กที่ต้องดูแลในครอบครัวนั้น ระยะเวลาการจ้างงาน
2. ตกลงอัตราค่าจ้างในการทำงาน รวมถึงอัตราค่าจ้างในการทำงานล่วงเวลาหรือในวันพิเศษอื่น ๆ ถ้ามี
3. ตกลงและทำความเข้าใจเรื่องรายละเอียดงาน เวลานอน เวลาทานนมหรืออาหารของเด็ก เพราะในหลายกรณีคุณพ่อคุณแม่อาจมีกำหนดตารางเวลาของกิจวัตรประจำวันที่ต้องการรักษาไว้อยู่แล้ว รวมทั้งต้องตกลงเกี่ยวกับความรับผิดชอบในหน้าที่อื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการเลี้ยงดูลูกของท่าน เช่นพ่อแม่บางท่านอาจต้องการให้พี่เลี้ยงดูแลรับผิดชอบการทำความสะอาดบ้าน การทำหรือปรุงอาหารด้วย เป็นต้น
4. ตกลงหรือแจ้งให้พี่เลี้ยงทราบถึงพฤติกรรมที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องการ หรือไม่ต้องการให้พี่เลี้ยงปฏิบัติต่อลูกของท่าน ซึ่งแต่ละครอบครัวนั้นอาจมีพฤติกรรม หรือแนวทางการเลี้ยงที่แตกต่างกันไป เช่นบางครอบครัวอาจอนุญาตให้ลูกเล่นบนพื้นดิน หรือทรายนอกบ้านได้ แต่บางครอบครัวอาจไม่ บางครอบครัวอาจอนุญาตให้ลูกเล่นกับสัตว์เลี้ยงเช่นน้องหมาหรือแมวได้ เป็นต้น โดยพี่เลี้ยงจะต้องรับทราบถึงรสนิยม หรือลักษณะการเลี้ยงดูที่พึงประสงค์ของแต่ละครอบครัวที่แตกต่างกันออกไปนี้
5. แนวคิดการสอนหรือระดับภาษาที่พ่อแม่ผู้ปกครองคาดหวัง หรือต้องการให้พี่เลี้ยงสอนลูกได้ เช่น บางครอบครัวคุณอาจให้ลูกเรียกพ่อแม่ หรือคุณพ่อคุณแม่ บางครอบครัวใช้คำว่ากินข้าวแต่บางครอบครัวต้องใช้คำว่ารับประทานอาหาร จะต้องไม่มีการพูดคำหยาบคายให้ลูกคุณได้ยิน เป็นต้น
6. พ่อแม่ควรตกลงเรื่องการวัดผลการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ และมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดว่าเด็กมีพัฒนาการการเรียนรู้ทางภาษาแบบสองภาษาตามเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่
โดยข้อตกลงที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นเพียงข้อตกลงมาตรฐาน แต่ละครอบครัวอาจมีความแตกต่าง หรือมีส่วนอื่นเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละครอบครัว แต่สิ่งที่สำคัญและเพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายข้อตกลงทั้งหมดนี้ควรทำกันเป็นสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง