รับเลี้ยงเด็กที่บ้านตัวเอง

รับเลี้ยงเด็กที่บ้านตัวเอง

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Narumon
Narumon
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

จบหลักสูตร NA ฝึกงานที่โรงพยาบาลสุขุมวิทหลักสูตรดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดและผู้สูงอายุเป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้ เคยดูแลเด็กตามบ้านผู้ว่าจ้างและเลี้ยงที่บ้านตัวเอง

แสดงเพิ่มเติม
Saliwan Seetaengthong
Saliwan Seetaengthong
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

เป็นคนใจเย็น ใจดี ไม่เคยดุ รับดูแลในบ้านตนเอง มีบริเวณบ้านกว้างขวาง

แสดงเพิ่มเติม
กนกวรรณ อภินันทาภรณ์
กนกวรรณ อภินันทาภรณ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดูแลเหมือนลูกเหมือนหลานตัวเอง ตอนนี้เกษียณแล้วอยากดูแลเด็กอยู่ที่บ้าน

แสดงเพิ่มเติม
 พัชรีย์  สุยบางดำ
พัชรีย์ สุยบางดำ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนรักเด็ก มีประสบการณ์ดูแลเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
Chantana Srichoo
Chantana Srichoo
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

จบปริญญาตรี ครุศาสตร์บัณฑิต เอกคอมพิวเตอร์

มีประสบการณ์การเลี้ยงเด็ก มีลูก 3 คน เลี้ยงลูกเอง

สามารถ ฟัง พูด อ่านเขียน ภาษาอังกฤษได้ดี

เคยทำงานโรงแรมแผนกกีฬาและสันทนาการ อยู่ห้องเด็ก นำเด็กทำกิจกรรมต่างๆ เคยทำงานโรงเรียนนานาชาติ เป็นผู้ช่วยครูบรรณารักษ์ ดูแลเด็กและอ่านนิทานให้เด็กฟัง ผ่านการอบรมการดูแลเด็ก และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นคนคล่องแคว่ง ว่องไว รักษาความสะอาด

แสดงเพิ่มเติม
ปอย เอมปวีร์
ปอย เอมปวีร์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ เราอายุ35 ปี มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กมา 10 ปี เราเป็นแม่บ้านเต็มตัวค่ะ ตอนนี้ลูกคนเล็กไปโรงเรียนแล้วเลยว่างช่วงกลางวัน สามารถดูแลเด็กเล็กได้ค่ะ เลี้ยงตามหมอ มั่นใจในความสะอาดได้เลยค่ะ หากใครสนใจอยากให้ดูแลเด็กติดต่อเราได้เลยค่ะ ยินดีดูแลเด็กมากๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
นภสร สมานมิตร
นภสร สมานมิตร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
อัญชินี วรคุณาลัย
อัญชินี วรคุณาลัย
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 25 ปี

สามารถเข้ากับน้องได้สามารถช่วยน้องในเรื่องกิจกรรมเสริมทักษะเคยเป็นอาสาสมัครดูแลเด็กที่โบสถ์ในช่วงสุดสัปดาห์และปิดเทอมส่วนใหญ่น้องจะอยู่ที่อายุประมาณ9-12เดือนเเละ1-12ปี สามารถพาน้องไปเที่ยวทำกิจกรรมหรือช่วยสอนการบ้านได้ไม่มากก็น้อยสามารถเข้ากับเด็กๆจะคอยหากิจกรรมเสริมพัฒนาการให้เด็กๆอยู่เรื่อยๆเรื่องภาษาอังกฤษสามารถสื่อสารได้ปานกลางถึงดี

แสดงเพิ่มเติม
นิสารัตน์ เพชรรัตน์
นิสารัตน์ เพชรรัตน์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

ชอบเลี้ยงอยู่กับเด็ก แต่ไม่ตามใจเด็ก

เคยเลี้ยงน้อง เลี้ยงเด็กมาค่อยข้างเยอะ

แต่ปัจจุบันทำงานประจำ รับเลี้ยงหรือดูแลได้เฉพาะวันอาทิตย์

แสดงเพิ่มเติม
นิรมล มูลสาร
นิรมล มูลสาร
กัญชพร เชื้อแถว
กัญชพร เชื้อแถว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

งานประจำเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่เนอสเซอรี่ ทำงานมา 6 ปี เป็นคนขี้เล่น เฟรนลี่ อยู่ที่ทำงานเป็นครูผู้นำสอนน้องทำกิจกรรมในด้านพัฒนาการต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม
ณัฐวิกา พุ่มมาก
ณัฐวิกา พุ่มมาก
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

เป็นครูอนุบาล มีใบประกอบวิชาชีพค่ะ เรียนจบการศึกษาปฐมวัยผ่านสังเกตการสอน ฝึกสอน มีประสบการณ์ในการทำงานค่ะ รักเด็กชอบเด็กเลี้ยงเด็กเหมือนลูกตัวเองใส่ใจทุกรายละเอียดของเด็กค่ะ นิสัยร่าเริง ชอบร้องเพลง ชอบพาเด็กๆทำอาหาร ขนม และทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Khaimuk  Homberg
Khaimuk Homberg
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กและทำงานร่วมกับเด็กมากกว่า 5 ปี

รักเด็กค่ะ พูดได้ 2 ภาษา ไทย-อังกฤษ สามารถสอนการบ้านน้องและช่วยเหลือในด้านอื่นๆได้

มีใบขับขี่ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
วลัยลักษณ์ ตาใจ
วลัยลักษณ์ ตาใจ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 40 ปี

ค่าบริการสำหรับ วันละ 10 ชั่วโมง

แสดงเพิ่มเติม
ฉัฐนันท์ ไทรย์พวงแก้ว
ฉัฐนันท์ ไทรย์พวงแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 39 ปี

- เป็นคนรักเด็ก- รักน้องหมาน้องแมว- ชอบเล่นกับเด็ก ไม่เคยตีเด็ก- โอบอ้อมอารี- ทำอาหารเก่ง สะอาด- จริงจังกับการทำงานที่ตัวเองได้รับมอบหมาย- ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่ม

แสดงเพิ่มเติม
Thanraphat  Lerteakkul
Thanraphat Lerteakkul
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

สวัสดีค่ะ ภัสร์นะคะ นิสัยส่วนตัวเป็นคนอ่อนโยน ใจเย็น รักเด็ก รักความสะอาด ละเอียด รอบคอบ สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อค่าาา Hello !! I'm Phat. You can count on me, I'll make your baby happy.

แสดงเพิ่มเติม
วัลวิสา  วงค์เจริญ
วัลวิสา วงค์เจริญ
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

รักเด็กและชอบเล่นกับเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
เบญญาภา โฉมแพ
เบญญาภา โฉมแพ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีคะ ชื่อเบญ จบป.ตรี มีประสบการณ์ครูพี่เลี้ยงเนอสซารี่ รร.นานาชาติ ครูพี่เลี้ยงตามบ้าน ไม่มีลูกคะ อยากมีลูกเลยมารับเลี้ยงเด็กแทน

แสดงเพิ่มเติม
พิมพ์พิชญา แสนลุน
พิมพ์พิชญา แสนลุน
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 19 ปี

ยิ้มเก่ง มีมารยาท รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
อาภาพร  เรืองสูง
อาภาพร เรืองสูง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ชอบอยู่กับเด็กค่ะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวค่ะการที่เราใช้ชีวตกับเด็กๆๆๆเห็นรอยยิ้มเขามันคือความสุขของเรามันทำให้เรานึกถึงลูกขอวเราว่าพ่อแม่ฝากลูกเขาไว้กับเราเขาก็ต้องหวังว่าเราสามารถดูแลลูกเขาได้เหมือนทีเราก็รักลูกขอเราเหมือนกันค่ะ ใส่ใจเด็ก เป็นคนใจเย็นชอบคุยกับเด็กเป็นคนรักเด็กค่ะ และคนคนที่ตั้งใจกับงานมากค่ะไม่ว่างานอะไรถึงจะอายุยังน้อยแต่เป็นคนตั้งใจทำงานที่เขามอบหมายให้ทำค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

รีวิวล่าสุด

06.30 เราต้องออกจากบ้านแวะส่งลูกที่บ้านพี่เลี้ยง บางวันไปทั้งหลับ ให้พี่เลี้ยงดูแลอาบน้ำเปลี่ยนชุดให้ป้อนมื้อเช้า ดูแลดีค่ะ ลูกเข้ากับพี่เลี้ยงได้ดี
Saijai
พฤกษ์ พงศ์พิสุจน์
3 ปีที่แล้ว
เจอคนรับดูแลเด็กจากเว็บใส่ใจ ทั้งสถานที่ สภาพแวดล้อม และทุกอย่างโดยรวมภรรยาผมชอบมากครับ
Saijai
มาโนช แก้วบงกช
3 ปีที่แล้ว
ขอชื่นชมในเรื่องของการบริการเลยค่ะ ถือว่าตอบโจทย์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องออกไปทำธุระด้านนอกอยู่บ่อย ๆ มาก เวลาที่พาเด็กไปฝากที่บ้านพี่เลี้ยงก็จะได้รับการต้อนรับอย่างดี ตอนมารับกลับบ้านพี่เลี้ยงก็จะคอยอัปเดตเรื่องต่าง ๆ ให้เราด้วยค่ะ
Saijai
ณัฐณิชา สวัสดิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
จองพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจ เป็นมากกว่าพี่เลี้ยงเด็กอีกค่ะ นอกจากช่วยดูแลเรื่องทั่ว ๆ ไปของเด็กแล้ว ยังใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับลูกของเราอยู่ตลอด เป็นทั้งพี่และเพื่อนให้ลูกสาวไปเลยค่ะ น้องมีความสุขที่ได้อยู่กับพี่เลี้ยง ผู้ปกครองอย่างเราก็สบายใจหายห่วงไปด้วยค่ะ
Saijai
อนุรักษ์ ทิศาวลัย
3 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถวบางนา มองหาที่ฝากเลี้ยงลูกมานานแล้วหายากมาก ๆ จนมาเจอเวปใส่ใจ สามารถหาที่ฝากเลี้ยงได้ง่ายมาก ไม่ผิดหวังจริงๆที่เลือกใช้งานเว็บใส่ใจ
Saijai
ศศิธร เรืองรอง
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา รับเลี้ยงเด็กที่บ้านตัวเอง

ฝากเลี้ยงเด็กที่บ้านพี่เลี้ยงดีอย่างไร ต่างจากการฝากเลี้ยงที่ศูนย์เลี้ยงเด็กหรือไม่
เมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองหลาย ๆ คนจำเป็นต้องใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการทำงานนอกบ้าน จนไม่มีเวลาอยู่กับลูก ๆ ของตนเอง บางครอบครัวใช้บริการฝากเลี้ยงที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ บางครอบครัวอาจฝากให้ญาติใกล้ชิดดูแล อีกส่วนหนึ่งใช้บริการรับฝากเลี้ยงเด็กที่บ้าน

แน่นอนว่าการฝากเลี้ยงที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กและการฝากเด็กไว้ที่บ้านพี่เลี้ยงนั้นมีข้อแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด การฝากเลี้ยงเด็กที่บ้านพี่เลี้ยงมีข้อดีตรงที่สถานที่ดูแลนั้นมีสภาพแวดล้อมและบรรยากาศเป็นบ้านอยู่อาศัย ทำให้เด็กมีความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านและสามารถปรับตัวได้ง่ายกว่า แตกต่างจากสถานรับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ ที่มีพื้นที่กว้างเพื่อใช้ในการรองรับเด็กหลายคน สถานรับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่บางที่มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมคล้ายโรงเรียนอาจส่งผลให้เด็กต้องปรับตัวมากกว่าและเกิดความเครียดได้

การใช้บริการรับเลี้ยงเด็กที่บ้านช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างเลี้ยงดูไปได้เยอะเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับเนอสเซอรี่ที่มักมีค่าใช้จ่ายในการฝากเลี้ยงสูงกว่ามาก เนื่องจากระบบการดูแลที่ค่อนข้างกว้างกว่า ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายยิบย่อยอีกมากมาย เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าแรกเข้า ค่าเลี้ยงดู ฯลฯ ส่วนการฝากเลี้ยงเด็กที่บ้านพี่เลี้ยงอาจจ่ายเพียงค่าจ้างของพี่เลี้ยงตามที่ได้ตกลงกันไว้ และค่าขนมเพียงเล็กน้อย
จำนวนของเด็กที่ได้รับการดูแลเป็นอีกหนึ่งข้อแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน โดยปกติแล้วศูนย์รับเลี้ยงเด็กมักมีผู้ปกครองพาเด็กไปฝากเป็นจำนวนมาก ทำให้เด็กอาจได้รับการดูแลได้ไม่ทั่วถึงทุกคน และอาจมีปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคติดต่อที่เด็กคนอื่นอาจนำมาแพร่เชื้อสู่เด็กอีกหลาย ๆ คนได้ ในส่วนของการฝากเลี้ยงเด็กที่บ้านพี่เลี้ยงนั้นมีจำนวนเด็กที่น้อยกว่าทำให้พี่เลี้ยงสามารถดูแลเด็กได้ทั่วและพี่เลี้ยงสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที

ทั้งหมดนี้คือความแตกต่างระหว่างการฝากเลี้ยงเด็กที่บ้านพี่เลี้ยง และการฝากเลี้ยงเด็กที่ศูนย์รับเลี้ยงหรือเนอสเซอรี่ ที่พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถเก็บไปพิจารณาเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกใช้บริการรับเลี้ยงเด็กตามความสะดวกของคุณ
คุณพ่อคุณแม่จะทำอย่างไรได้บ้างให้คลายกังวลใจหากต้องฝากเลี้ยงลูก ๆ ที่บ้านพี่เลี้ยง
บางครั้งการฝากลูก ๆ ไว้ที่บ้านพี่เลี้ยงอาจสร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ไม่น้อย ใส่ใจจะมาแนะนำวิธีที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องฝากลูกน้อยไว้ที่บ้านของพี่เลี้ยงในแต่ละวันดังนี้

1. เพื่อลดความกังวลของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยและอธิบายให้เด็กเข้าใจถึงความจำเป็นที่เด็กจะต้องอยู่กับพี่เลี้ยงก่อนพาเด็กไปฝากที่บ้านพี่เลี้ยง เพื่อไม่ให้เด็กเกิดความกังวลว่าจะถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ลองให้สัญญากับเด็กดูว่าหากเชื่อฟังพี่เลี้ยงได้รางวัลตอบแทน ซึ่งทำให้เด็กคลายความกังวลและสามารถปรับตัวได้ในที่สุด
2. พูดคุยสอบถามกับเด็กทุกครั้งหลังจากที่รับกลับมาจากบ้านพี่เลี้ยง สอบถามถึงความเป็นอยู่ กิจกรรมที่ทำในแต่ละวันว่ามีอะไรบ้าง วันนี้ทานอาหารอะไรบ้าง ฯลฯ การสังเกตพฤติกรรมของเด็กทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถคาดเดาได้ว่าพี่เลี้ยงดูแลเด็กและปฏิบัติต่อเด็กอย่างไร
3. คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์และเบอร์ฉุกเฉินเอาไว้ และสอนให้ลูกของคุณใช้โทรศัพท์มือถือเผื่อในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ และในขณะเดียวกันคุณพ่อคุณแม่สามารถโทรสอบถามความเป็นอยู่จากพี่เลี้ยงในระหว่างวันได้เช่นกัน
4. แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่หาบริการพี่เลี้ยงเด็กที่ใกล้บ้านและสะดวกในการเดินทางไปส่ง-รับเด็กในแต่ละวัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อเวลางานของคุณพ่อคุณแม่มากเกินไป
5. ก่อนทำการประกาศหาพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรลองสอบถามจากคนใกล้ชิดก่อน ว่าพอจะรู้จักใครที่มีความสามารถในการดูแลเด็กหรือไม่ เนื่องจากการแนะนำจากคนรู้จักนั้นน่าจะเป็นอะไรที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือได้มากกว่า
6. คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกคนที่มีประสบการณ์ในการดูแลเด็ก ไม่ว่าจะเคยดูแลลูกหลานของตนเอง ดูแลเด็กตามบ้าน หรือดูแลเด็กที่สถานรับเลี้ยง เพื่อให้มั่นใจว่าพี่เลี้ยงจะสามารถดูแลลูกของคุณได้อย่างแน่นอน
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบก่อนใช้บริการฝากเลี้ยงเด็กที่บ้านพี่เลี้ยง
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบก่อนใช้บริการฝากเลี้ยงเด็กที่บ้านพี่เลี้ยง

1. สถานที่ตั้งและสภาพแวดล้อม ไม่ควรอยู่ไกลจากบ้านเพราะความสะดวกในการรับส่งลูกไปฝากเลี้ยงที่บ้านพี่เลี้ยง หากลูกต้องตื่นเช้ามากในทุก ๆวัน อาจทำให้เบื่อไม่อยากไปบ้านพี่เลี้ยง สภาพแวดล้อมใกล้บ้าน ไม่ควรอยู่ใกล้สถานที่ ที่สร้างเสียง กลิ่นและควัน เช่น อู่ซ่อมรถ โรงงานไม้ โรงงานเหล็ก หรือพ่นสี นอกจากนั้นความเป็นระเบียบภายนอกอาคารปลอดภัย การจัดเก็บขยะ หรือท่อระบายน้ำปิดมิดชิด ภายในห้องตู้ชั้นวางของวางเป็นระเบียบไม่เสี่ยงต่อการตกหล่น
2. การจัดการอาหารการกิน เพราะอย่างน้อยหนึ่งถึง 2 มื้อที่ลูกต้องทานอาหารที่บ้านพี่เลี้ยง การเตรียมอาหารที่เหมาะสมกับวัยและเพียงพอ การใส่ใจที่พี่เลี้ยงเด็กดูแลการรับประทานอาหารของลูก เพราะบ่อยครั้งที่เด็กจะถูกเบี่ยงเบนความสนใจโดยเพื่อน ๆ จนไม่สนใจอาหาร ความสะอาด รสชาติ วิธีการดึงดูดความสนใจ สำคัญที่สุด
3. ความปลอดภัยและสุขอนามัย การป้องกันลูกปีนขึ้น ลงจากที่สูงเช่นเก้าอี้ โต๊ะ บันได ควรมีการจัดวางป้องกันอย่างดี รวมถึงการทำความสะอาดอย่างถูกสุขอนามัย เพราะเด็กอาจนั่งเล่น นอนเล่นบนพื้นในบ้านของพี่เลี้ยงเด็ก
4. กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ ส่งเสริมเชาวน์ปัญญา เพราะกว่า 8 ชั่วโมงที่ลูกใช้เวลากับพี่เลี้ยงกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดต้องเหมาะสมกับวัย เพื่อพัฒนาการและดึงความสนใจให้ลูก ๆ สนุกสนาน เพลิดเพลิน จนกว่าจะถึงเวลาที่พ่อแม่มารับกลับบ้าน
5. ประวัติและประสบการณ์ของพี่เลี้ยงเด็ก เพราะความแตกต่างระหว่างเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ช่วงอายุ และความแตกต่างของหลายครอบครัว การที่คุณพ่อคุณแม่เตรียมคำถามก่อนเข้าไปพูดคุย เพื่อพิจารณาคำตอบให้ได้ถูกต้องตามความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ เพราะหลังจากการตัดสินใจแล้ว นั่นคือการฝากแก้วตาดวงใจให้พี่เลี้ยงดูแล
สัญญาณอะไรบ้างที่บอกว่าอาจมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับลูกคุณ เมื่อคุณต้องฝากเลี้ยงลูก ๆ ที่บ้านพี่เลี้ยง
เมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองเลือกใช้บริการฝากเลี้ยงเด็กที่บ้านพี่เลี้ยงนั้น เด็ก ๆ ไม่ได้อยู่ในสายตาตลอดเวลา ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความเป็นอยู่ในแต่ละวัน หรือวิธีการเลี้ยงดูของพี่เลี้ยงได้ทุกเวลา

พ่อแม่ควรลองสังเกตสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาจมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับลูกคุณได้ดังนี้

1. สังเกตสภาพร่างกายของลูกว่ามีรอยฟกช้ำดำเขียว แผล ถลอก ต่าง ๆ ที่ผิดปกติ หากพบเห็นบ่อย ต้องพูดคุยและสอบถามจากทั้งตัวลูกของคุณเอง และ จากทางพี่เลี้ยงว่าร่องรอยเหล่านั้นเกิดจากสาเหตุใด
2. พยายามสังเกตอารมณ์และการแสดงออกของลูกว่าผิดปกติไปจากเดิมก่อนฝากเลี้ยงที่บ้านพี่เลี้ยงหรือไม่ เด็กมีการงอแง มีอาการหวาดกลัว หรือไม่อยากไปบ้านพี่เลี้ยงหรือเปล่า ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่สำคัญ เพราะหากเด็กมีความรู้สึกเช่นนั้นแสดงว่าเด็กต้องพบเจอ หรือประสบเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้หวาดกลัว และไม่อยากกลับไปที่บ้านพี่เลี้ยงอีก ซึ่งในบางครั้งเหตุการณ์ที่เด็กประสบอาจจะไม่ได้เกิดจากการกระทำของพี่เลี้ยงโดยตรง แต่อาจเป็นสิ่งที่เด็กพบเห็นจากสภาพแวดล้อมใกล้เคียงหรือรอบบ้านพี่เลี้ยง
3. พ่อแม่ควรใส่ใจสังเกตพฤติกรรมของลูก ก่อนและหลังไปบ้านพี่เลี้ยง ควรชวนลูกคุย เพื่อสอบถาม หรือชักชวนให้ลูกเล่าให้ฟังว่าแต่ละวันทำอะไรบ้าง การเป็นอยู่เป็นแบบไหนหรือการเลี้ยงดูของพี่เลี้ยงนั้นเป็นอย่างไร มีสิ่งที่ชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง ควรพูดคุยให้เพลิดเพลินโดยไม่ใช้การบังคับหรือเค้นเอาความจริง
4. พ่อแม่จำเป็นต้องสังเกต พัฒนาการการเจริญเติบโตในภาพรวมของเด็กอย่างใกล้ชิด โดยเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ เช่นเกณฑ์มาตรฐานเรื่องสภาพร่างกาย น้ำหนัก ส่วนสูง ที่จะต้องได้มาตรฐานไม่สูงหรือต่ำกว่าเกณฑ์จนเกินไป หรือ พัฒนาการเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามช่วงอายุหรือไม่ เด็กสองถึงสามเดือน เริ่มยิ้ม เริ่มชันคอ หรือจำหน้าแม่ได้ หรือ สี่ถึงหกเดือนเริ่มคว่ำได้ หรือนั่งแบบใช้มือยัน เจ็ดถึงสิบก็เริ่มนั่ง เริ่มหาที่เกาะเพื่อยืน หรือเริ่มคลานได้ เป็นต้น พัฒนาการเหล่านี้จะบ่งชี้ให้เห็นว่าพี่เลี้ยงดูแลเด็กได้เหมาะสมหรือไม่ และหากไม่เป็นไปตามเกณฑ์อย่างไร จะได้หาวิธีแก้ไขได้ทันท่วงที