ดูแลเด็ก ใน บึงกุ่ม, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน บึงกุ่ม, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการดูแลเด็ก ใน บึงกุ่ม, กรุงเทพมหานคร:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

สุนีย์  กอศรีสกุล
สุนีย์ กอศรีสกุล
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 53 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

Hi my name is Sunee. I have an experince of babysitting for more than 2 years as well as raising my own kids. I was an exchange student and stay with a family in Canada in 1988. After graduated bechalor degree from Ramkhamhang University, I worked as a Thai Language Tutor for foreigners. I can communicate in English.

แสดงเพิ่มเติม
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ

อดทน มีความตั้งใจในการทำงาน ขยัน

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

กำลังศีกษาหลักสูตร NA ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
รุจิระหงส์ มังคละวงศ์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ใจเย็น มีความรู้ด้านศิลปะ ช่วยเสิรมสร้างพัฒนาเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
เบญญาภา โฉมแพ
เบญญาภา โฉมแพ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีคะ ชื่อเบญ จบป.ตรี มีประสบการณ์ครูพี่เลี้ยงเนอสซารี่ รร.นานาชาติ ครูพี่เลี้ยงตามบ้าน ไม่มีลูกคะ อยากมีลูกเลยมารับเลี้ยงเด็กแทน

แสดงเพิ่มเติม
ศิตอร  ภูสุวรรณ
ศิตอร ภูสุวรรณ
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์พี่เลี้ยงเด็ก เคยดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 8 ขวบค่ะ ชงนม ป้อนข้าว อาบน้ำ ดูแลทั่วไปค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อาซียะห์  บินฮะเก็ต
อาซียะห์ บินฮะเก็ต
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 31 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้วค่ะ เป็นคนอัธยาศัยดี ร่าเริง ใจเย็น รักเด็ก พูดคุยและเสริมพัฒนาการเด็กได้ดี มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กทั้งแรกเกิดและเด็กโต 5ปี ใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และปรับตัวเข้ากับผู้คนได้ง่าย ซื่อสัตย์

แสดงเพิ่มเติม
ศุภลักษณ์ สติภา
ศุภลักษณ์ สติภา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีดีคะฉันสามารถเลี้ยงเด็กได้คะฉันรักเด็กใส่ใจและเสริมพัฒนาการเด็กได้คะฉันร่าเริงยิ้มง่ายใส่ใจความสะอาดเกี่ยวกับตัวเองและเด็กหรือคนรอบข้างดิฉันมีความตั้งใจใส่ใจในการทำงานมากถ้าผลตอบแทนดีและเหมาะสมจะทำงานสุดความสามารถคะ

แสดงเพิ่มเติม
เจนจิรา เจริญลาภ
เจนจิรา เจริญลาภ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดิฉันชื่อเจนค่ะ รักเด็ก มีความอดทนสูง มีบุตรมาแล้วเข้าใจการดูแลเด็กค่ะ สามารถพาเด็กทำกิจกรรมที่มีประโยชน์กับเด็กค่ะ ได้รับวัคซีนครบสองเข็มแล้วค่ะ ฝากคุณลูกค้าพิจารณาด้วยนะคะ😊

แสดงเพิ่มเติม
ณิชชา อภิปาลกุล
ณิชชา อภิปาลกุล
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ทำงานบ้านนายเลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่ลูกมามากกว่า 5 ปี สามารถขับรถได้ ดูแลเด็กได้ดี ใจเย็น ทำอาหารได้ สามารถทำงานตามที่นายสั่งได้

แสดงเพิ่มเติม
ภาวิณี  พรมสี
ภาวิณี พรมสี
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

เป็นคนมีความรับผิดชอบและต้องใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กเล็ก อายุ 1 ปี 5 เดื่อน และ 2 ปี ได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 54 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์เป็นครูศูนย์ 8 ปี พี่เลี้ยงเสริมพัฒนาการเด็ก แถวๆ หมู่บ้าน ดูแลเด็ก 2 ขวบขึ้น

แสดงเพิ่มเติม
Beya Ruangdech
Beya Ruangdech
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สามารถเล่นกับเด็ก ๆ เสริมพัฒนาการทุก ๆ ด้าน

แสดงเพิ่มเติม
บุศรินทร์ พลอยศุภผล
บุศรินทร์ พลอยศุภผล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 36 ปี
ญาณิศา  เฟื่องฟู
ญาณิศา เฟื่องฟู
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สวัสดีค่ะชื่อแพ็คนะคะเป็นคนซื่อสัตย์ค่ะเต็มที่กับงานสามารถแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับการทำงานได้มีความรับผิดชอบ ชอบเล่นกับเด็กรักเด็กชอบทำอาหารขับรถได้ค่ะเรียนจบมหาวิทยาลัยรามคำแหงคณะรัฐศาสตร์

การทำงาน ทำงานกับเด็กมาตลอดชีวิตเลยถนัดในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กทำแล้วมีความสุขค่ะอยากช่วยปลูกฝั่งเด็กๆทุกคนให้โตมาเเบบมีศักยภาพ

แสดงเพิ่มเติม
พัชรี   อ่อนศรี
พัชรี อ่อนศรี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ พัชรี อ่อนศรีค่ะ

เคยผ่านการทำงานเลี้ยงเด็กมา10ปีค่ะตั้งแต่แรกเกิดถึงเข้าโรงเรียนค่ะพี่ดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กค่ะ

ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กแต่ระช่วงวัยดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดในแต่ระช่วงวัยค่ะ

ทำอาหารได้ทุกช่วงวัยของเด็กค่ะเน้นความสะอาด ใจเย็น มีสติในการทำงานตลอดเวลาค่ะ

เลี้ยงเด็กตามความประสงของพ่อและแม่ค่ะแต่ระบ้านจะมีวิธีการเลี้ยงแตกต่างกันค่ะ ใส่ใจรายระเอียดทุกอย่างค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ปราณี  ต่วนลา
ปราณี ต่วนลา
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ดูแลได้ตั้งแต่แรกเกิด - 10 ขวบ - ดูแลเด็กต่างชาติ มาเลย์ ดูไบ ออสเตรเลีย

ประมาณ 2 ปี กว่า ทำงานที่นี่ เพราะ อยากใช้เวลาว่าง สร้างรายได้เสริมคะ.

-อุปนิสัย

มองโลก เชิงบวก,ใจเย็น,พร้อมเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆ

-สามารถ ว่ายน้ำ,ทำอาหาร,ขับรถมอเตอร์ไซค์,ขับรถยนต์ มีใบขับขี่.

แสดงเพิ่มเติม
กัญญารัตน์  สาธรณ์
กัญญารัตน์ สาธรณ์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ดิฉันชื่อหวาน ค่ะรักเด็กชอบอยู่กับเด็ก มีความอดทนสูงเป็นคนใจเย็นค่ะ มีประสบการการทำงานcall center มา2ปี6เดือนค่ะวันหยุดมีสอนพิเศษวิชาสังคมภาษาไทยให้เด็กอนุบาลกับน้องวัยประถม เคยเลี้ยงหลานมา3ปี สามารถสอนหนังสือเพิ่มเติมให้น้องได้ค่ะหากทางผู้ปกครองของน้องต้องการ

แสดงเพิ่มเติม
Nisachon Chuaykhun
Nisachon Chuaykhun
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

1.ชื่อ-นามสกุล (ไทย) : นิศาชล ช่วยขุน(อังกฤษ) : nisachon chuaykhunสถานะ : โสด2.อายุ : 31 3.ตำแหน่งงานที่สมัคร : ครูผู้ช่วย พี่เลี้ยงเด็กส่วนสูง : 165 ซ.มน้ำหนัก : 44ก.ก.ไม่มีรอยสักไม่ใส่เหล็กดัดฟันไม่สูบบุหรี่กินเหล้านิสัยส่วนตัว ใจดีมีเมตตาชอบเด็กๆเป็นอย่างมาก เรียบร้อย พูดเพราะไม่พูดคำหยาบ ชอบดูแลคนอื่น ชอบให้คำปรึกษา ชอบให้แรงจูงใจให้ความรักพร้อมความรู้พร้อมกัน ชีวิตและการทำงานทุกทางผูกพันธ์กับเด็ก เป็นพี่สาวคนโตเลี้ยงๆน้องที่บ้านเกิด ขยันชอบเอนเตอร์เทรน ประวิติการทำงานสายอีเว้นท์ช่วงว่างงานหรือวันหยุด-MC โฟนของเล่นเด็ก บ.คิดส์โด-MC โฟนงานวัคซีน ม.ไทย-ญี่ปุ่น- Staff แจกใบปลิว งานโบกป้าย เอกตร้า-ครูสอนเสริม สอนการบ้านบ้านเด็กกำพร้างานประจำที่เคยผ่าน-ฝึกงาน สถาบันคอม ม.ราม-พี่เลี้ยงสถานสงเคราะห์ บ.มหาเมฆ กรมเด็ก-ปัจจุบัน ครูผู้ช่วยโรงเรียนเด็กก่อนเรียนรามคำแหง 7.ระดับการศึกษา :ป.ตรี คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง8.ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลงลูกทุ่ง โฟนMC เต้น นำกิจกรรมเอนเตอร์เทน9.สื่อสารภาษาอังกฤษ : พอได้บ้าง10.รอยสัก : ไม่มี11. ที่อยู่ : รามคำแหงมหาดไทย12. สถานะการฉีดวัคซีนโควิด : ฉีดแล้ว2เข็ม

แสดงเพิ่มเติม
Narumon
Narumon
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

จบหลักสูตร NA ฝึกงานที่โรงพยาบาลสุขุมวิทหลักสูตรดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดและผู้สูงอายุเป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้ เคยดูแลเด็กตามบ้านผู้ว่าจ้างและเลี้ยงที่บ้านตัวเอง

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
4 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
4 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
4 ปีที่แล้ว
เป็นครั้งแรกที่เลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็กในเว็บใส่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะยุ่งยากในจอง แต่พอเข้าไปในเว็บไซต์ เว็บไซต์ใช้งานง่ายมาก ๆ มีความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมี Guideline ให้อีกด้วย และขั้นตอนการนัดสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพราะมีตัวเลือกให้เลือกด้วยว่าเราสะดวกสัมภาษณ์ทางไหน เหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลาอย่างเราจริง ๆ
Saijai
สุริยา ดำรงรักษ์
4 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวหรือเนอสเซอรี่ (Nursery) อะไรคือคำตอบสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้
ข้อดีของการให้พี่เลี้ยงดูแลเด็กที่บ้านของคุณเอง

1. ลูกน้อยของคุณได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงแบบใกล้ชิด ทำให้เด็กรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี
2. มีความยืดหยุ่นในการทำกิจวัตรประจำวันเพราะเด็กไม่ต้อง กิน นอน หรือ เล่นตามตารางเหมือนอยู่ในศูนย์รับเลี้ยงเด็กหรือเนอสเซอรี่ (Nursery)
3. พี่เลี้ยงเด็กสามารถปรับเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับเวลาทำงานและวันหยุดของคุณพ่อคุณแม่
4. คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเผื่อเวลาในการรับส่ง ก่อนและหลังเลิกงาน
5. เด็กได้รับการดูแลในบรรยากาศที่คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย
6. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเดินทางรับส่ง หมดปัญหาเรื่องรถติดและมลภาวะบนท้องถนน
7. คุณพ่อคุณแม่ประหยัดเวลาในการเตรียมตัวหรือจัดเตรียมของใช้ให้ลูก เช่น ขวดนม เสื้อผ้า หรือแพมเพิส
8. ลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังน้อยจะเจ็บป่วยได้ง่าย หากต้องอยู่ปะปนกับเด็ก ๆ อื่น
9. มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน

ข้อดีของการเข้าเนอสเซอรี่ (Nursery)

1. ฝึกทักษะการเข้าสังคมเพราะเด็กต้องอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และครูพี่เลี้ยง
2. ค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงส่วนตัว
3. เนอสเซอรี่มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กฝึกทักษะผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
พ่อแม่ควรตกลงอะไรบ้างก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็ก?
เมื่อคุณพ่อคุณแม่สามารถหาพี่เลี้ยงเด็กที่ถูกใจได้แล้ว ควรพูดคุยและตกลงกันเรื่องใดบ้างก่อนเริ่มงาน

1. วันและเวลาทำงาน คุณพ่อและคุณแม่ควรมีแผนการทำงานของพี่เลี้ยงที่ชัดเจน เช่นกำหนดวันทำงาน วันหยุด และเวลาทำงานในแต่ละวันให้ชัดเจน และควรถามความสมัครใจหากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานล่วงเวลา
2. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ คุณพ่อคุณแม่ควรระบุขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน หากต้องการให้พี่เลี้ยงทำงานบ้านหรืองานอื่น ๆ นอกจากดูแลเด็ก ควรตกลงกันให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน
3. ระยะเวลาการทดลองงาน หาดคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงทดลองงานก่อนสักระยะหนึ่งก่อนทำสัญญาว่าจ้าง ควรระบุช่วงระยะเวลาและเงื่อนไขในการทดลองงานให้ชัดเจน
4. ค่าจ้าง คุณพ่อคุณแม่ควรสอบถามและตกลงค่าจ้างของพี่เลี้ยงให้ชัดเจน และค่าจ้างควรจะสอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบ และจำนวนชั่วโมงทำงานในแต่ละวัน ประสบการณ์ในการทำงานอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ประกอบการพิจารณาอัตราค่าจ้างได้
5. กรณีจ้างพี่เลี้ยงประจำแบบพักอาศัยร่วม คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดการเรื่องที่พักให้กับพี่เลี้ยง รวมถึงอาหารในแต่ละวันตามตกลงกัน
6. ข้อตกลงในการอยู่อาศัยร่วมกัน คุณพ่อคุณแม่ควรบอกกล่าวพี่เลี้ยงให้ชัดเจนถึงกฎระเบียบต่าง ๆ สิ่งใดไม่ควรปฏิบัติของการอาศัยอยู่ร่วมกัน

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

ทำความรู้จัก

"เขตบึงกุ่ม" ก่อนหน้าจะเป็นเขตบึงกุ่ม เดิมทีนั้นเขตนี้รวมอยู่ในพื้นที่ของเขตบางกะปิ และได้รับการจัดตั้งเป็นเขตอย่างเป็นทางการเมื่อได้มีการแยกพื้นที่ปกครองออกจากเขตบางกะปิ เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2532 ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเปลี่ยนแปลงพื้นที่เขตบางกะปิ และจัดตั้งเขตบึงกุ่ม และ เขตลาดพร้าว ลงวันที่ 4 กันยายน 2532 เป็นต้นมา โดยเขตบึงกุ่มประกอบด้วยเขตการปกครอง 3 แขวง คือ แขวงคลองกุ่ม แขวงคันนายาวและ แขวงสะพานสูง มีพื้นที่ทั้งสิ้น 81.12 ตารางกิโลเมตร ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เขตบึงกุ่ม โดยยกระดับเขตการปกครองแขวงคันนายาวจัดตั้งเป็นเขตคันนายาว และเขตการปกครองแขวงสะพานสูงจัดตั้งเป็นเขตสะพานสูงเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2540 ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2540 เขตบึงกุ่มปัจจุบันมีพื้นที่ทั้งหมด 24.31 ตารางกิโลเมตรและมีประชากร อยู่ที่143,835 คน (พ.ศ. 2560) ส่วนที่ที่มาของชื่อเขตนั้นคือ ประมาณปี พ.ศ. 2386 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้ยกทัพไปปราบกบฏที่เมืองนครจำปาศักดิ์และเมืองหลวงพระบาง จนได้รับชัยชนะและได้กวาดต้อนครอบครัวจากหัวเมืองรายทางเข้ามายังกรุงเทพมหานคร โดยให้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่เขตบึงกุ่มและเขตคันนายาวในปัจจุบัน ในย่านนั้นมีคลองสายหนึ่งซึ่งแยกจากคลองแสนแสบและไหลผ่านบึงเก่าแก่ที่มีขนาดใหญ่ มีต้นกุ่มขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากจึงเรียกแหล่งน้ำสองแห่งนั้นว่า "คลองกุ่ม" และ "บึงกุ่ม" ส่วนตราสัญลักษณ์ประจำเขตบึงกุ่ม ที่สื่อความหมายได้ดีทีเดียวนั้นมีความหมายอยู่ว่า พื้นน้ำสีฟ้าคราม แทนความหมายของความสงบสุข ร่มเย็น เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ดอกกุ่มสามดอก แทนความหมายของประชาชนในพื้นที่เขตบึงกุ่ม ไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธ คริสต์ อิสลามก็ล้วนแต่เป็นพี่น้องเพื่อนบ้านที่อยู่ร่วมกัน ด้วยความรัก สามัคคี นกสองตัวบินอยู่ บนท้องฟ้าเหนือพื้นดิน ผืนน้ำ แทนความหมายของความเป็นอิสระในความคิดแสดงถึงการเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดี มีความสอดคล้อง และเดินไปในทิศทางเดียวกัน รูปวงกลมล้อมรอบ เครื่องหมายข้างต้นทั้งหมด แทนความหมายของความสมาน สามัคคี ความกลมเกลียว ของพี่น้องประชาชน ข้าราชการ ลูกจ้างเขตบึงกุ่ม หน่วยงานทุกภาคส่วนอยู่กันอย่างสงบสุข ร่มเย็น ล้อมรอบไปด้วยความรัก สามัคคี มีความกลมเกลียว ขณะเดียวกันก็มีอิสระในความคิด แต่ก็เป็นได้ทั้งผู้นำและผู้ตามที่ดี ทำงานเป็นทีมเดินไปในทิศทางเดียวกันในพื้นที่เขตบึงกุ่ม



เตรียมลูกน้อยก่อนไปโรงเรียน

เด็กเติบโตเร็วจนอาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนเมื่อห้านาทีก่อนที่คุณอุ้มลูกน้อยของคุณไว้ในอ้อมแขนเป็นครั้งแรก แต่ในพริบตาพวกเขากำลังเตรียมตัวสำหรับวันแรกของการเตรียมอนุบาล คุณเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานรับเลี้ยงเด็กที่ดีและอยู่ใกล้คุณที่สุด จนพบสถานรับเลี้ยงเด็กที่คุณชื่นชอบ ซึ่งหมายความว่าถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มเตรียมบุตรหลานของคุณให้พร้อมสำหรับการผจญภัยครั้งใหม่

เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าลูกของคุณจะตอบสนองอย่างไรที่ต้องห่างพ่อแม่และอยู่กับคนแปลกหน้าเป็นครั้งแรก แต่มั่นใจได้ว่าอีกไม่นานพวกเขาจะสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมและกิจวัตรใหม่ และคุณสามารถช่วยเตรียมความพร้อมให้กับเด็กๆ ได้ดังนี้

สร้างความคุ้นเคยในการเข้าสังคมกับเพื่อนในวัยเดียวกัน

หากลูกน้อยของคุณเป็นลูกคนเดียว จู่ๆ การถูกดึงเข้าไปรวมกลุ่มกับเด็กคนอื่นๆ ที่สถานรับเลี้ยงเด็กอาจเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก ก่อนที่ลูกของคุณจะเริ่มต้นที่สถานรับเลี้ยงเด็ก ควรเพิ่มจำนวนวันที่เล่นกับเด็กในวัยใกล้เคียงกัน หรืออาจเข้าร่วมกลุ่มเด็กวัยหัดเดินบางกลุ่มเพื่อให้ลูกของคุณคุ้นเคยกับความคิดที่จะอยู่ร่วมกับเด็กคนอื่นๆ แบ่งปันของเล่น และผลัดกัน

มอบหมายงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ เพื่อฝึกความรับผิดชอบ

ฝึกให้เก็บของเล่นเมื่อไม่เล่นแล้ว เช่นเดียวกันกับที่สถานรับเลี้ยงเด็กที่มักจะให้เด็กช่วยกันทำงานต่างๆ เช่น จัดเก็บของเล่นหรือแจกจานสำหรับอาหารว่าง การให้บุตรหลานของคุณทำงานบ้านก่อนวัยเรียนสามารถช่วยเรื่องนี้ได้จริง ๆ และยังเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างความมั่นใจและความเป็นตัวของตัวเองในการเตรียมตัวสำหรับการเริ่มต้นสถานรับเลี้ยงเด็ก

พาเด็กไปดูโรงเรียนหรือสถานที่รับเลี้ยงก่อนเริ่มอยู่จริง

เมื่อเลือกสถานรับเลี้ยงเด็ก ควรพาเด็กเข้าเยี่ยมชมสถานที่เพื่อสำรวจสภาพแวดล้อมใหม่ และทำให้พวกเขาความมั่นใจว่าแม่หรือพ่อจะอยู่ที่นั่นด้วย วิธีนี้จะทำให้ลูกของคุณรู้สึกสบายใจที่จะทำความคุ้นเคยกับสถานรับเลี้ยงเด็ก การทำความคุ้นเคยกับสถานที่ อุปกรณ์และกิจกรรมจะทำให้พวกเขารู้สึกดีสถานรับเลี้ยงเด็กมากขึ้น

รับมืออย่างมีสติ

ไม่ว่าลูกของคุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับการไปสถานรับเลี้ยงเด็กเป็นครั้งแรก คุณต้องรับมืออย่างใจเย็น และให้ผู้ดูแลเป็นคนควบคุมสถานการณ์ คุณคือบุคคลที่ลูกของคุณมองหาเพื่อสร้างความมั่นใจและคุณคือ 'สถานที่ปลอดภัย' ของพวกเขา ความสงบจะทำให้พวกเขามั่นใจและสบายใจ การพูดเกี่ยวกับสถานรับเลี้ยงเด็กในทางที่ดียังสามารถช่วยให้ลูกน้อยของคุณเห็นว่า การไปสถานรับเลี้ยงเด็กเป็นการผจญภัยที่น่าสนุกและไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเลย



เตรียมลูกให้พร้อมก่อนไปโรงเรียน ..(โลกกว้างในแรกของหนู)

1. ไม่ว่าลูกน้อยของคุณจะอายุเท่าไหร่ ให้เริ่มพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับสถานรับเลี้ยงเด็กในเชิงบวกเพื่อทำให้พวกเขารู้สึกดีกับสถานรับเลี้ยงเด็ก

2. พยายามหาเวลาไปสถานรับเลี้ยงเด็กเพื่อให้ลูกของคุณรู้จักสภาพแวดล้อมและคุณสามารถพูดคุยกับครูเกี่ยวกับสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ คำพิเศษและของเล่น ฯลฯ

3. จงมองโลกในแง่ดีเสมอเกี่ยวกับการไปสถานรับเลี้ยงเด็กและดูว่าลูกของคุณจะสนุกไปกับมันมากแค่ไหน - เด็กน้อยสามารถรับความเครียดและความวิตกกังวลของเราได้ ดังนั้นในฐานะผู้ปกครอง คุณจะต้องยิ้มจริงๆ (แม้ในระหว่างที่ออกจากโรงเรียน!)

4. น้ำตาเป็นเรื่องปกติ แต่กลั้นไว้และเดินต่อไปโดยมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ของสถานรับเลี้ยงเด็กจะมีวิธีรับมือและปลอบโยนเด็ก ๆ ที่อาจจะร้องไห้งอแงไปบ้าง อย่าพยายามเล่นซ่อนหาหรือแอบย่องไปรอบ ๆ ห้องเรียน เพราะถ้าลูกของคุณจะรู้ว่าคุณอยู่ที่นั่นและจะทำให้พวกเขาสับสนและไม่ให้ความร่วมมือกับครูพี่เลี้ยง

5. ให้เด็กพักผ่อนอย่างเต็มที่ ให้แน่ใจว่าพวกเขาได้นอนหลับพักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คือประมาณ 10-12 ชั่วโมง เพราะการพักผ่อนอย่างเต็มที่จะช่วยให้เด็กอารมณ์ดีและมีความกระตือรือร้นที่จะเล่นกับเพื่อน และสนใจกิจกรรมที่ครูพี่เลี้ยงนำเสนอ

6. การควบคุมอาหารก็มีความสำคัญเช่นกัน เตรียมอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะสิ่งที่พวกเขาบริโภคเข้าไปอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่ออารมณ์และพฤติกรรมของเด็ก

7. เมื่อคุณอยู่ที่บ้าน ให้แน่ใจว่าคุณพูดถึงวันไปโรงเรียนในแง่บวกเกี่ยวกับวันอนุบาลให้ลูกของคุณได้ยินอยู่เสมอ

8. สุดท้ายนี้ อดทนไว้ เด็กทุกคนต้องใช้เวลาในการปรับตัว ดังนั้นควรพูดคุยกับครูพี่เลี้ยง เพื่อช่วยกันผ่านพ้นความยากลำบาก และเพื่อให้แน่ใจว่าคุณและบุตรหลานของคุณมีความสุข