ดูแลเด็ก ใน ดินแดง, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน ดินแดง, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ปราณี  ต่วนลา
ปราณี ต่วนลา
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ดูแลได้ตั้งแต่แรกเกิด - 10 ขวบ - ดูแลเด็กต่างชาติ มาเลย์ ดูไบ ออสเตรเลีย

ประมาณ 2 ปี กว่า ทำงานที่นี่ เพราะ อยากใช้เวลาว่าง สร้างรายได้เสริมคะ.

-อุปนิสัย

มองโลก เชิงบวก,ใจเย็น,พร้อมเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆ

-สามารถ ว่ายน้ำ,ทำอาหาร,ขับรถมอเตอร์ไซค์,ขับรถยนต์ มีใบขับขี่.

แสดงเพิ่มเติม
Narumon
Narumon
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

จบหลักสูตร NA ฝึกงานที่โรงพยาบาลสุขุมวิทหลักสูตรดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดและผู้สูงอายุเป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้ เคยดูแลเด็กตามบ้านผู้ว่าจ้างและเลี้ยงที่บ้านตัวเอง

แสดงเพิ่มเติม
อลิสา  อารีย์
อลิสา อารีย์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดิฉันอลิสา อารีย์ ปัจจุบันอายุ 52 ปี ประสบการณ์การทำงาน 15 ปีขึ้นไป จบหลักสูตรพี่เลี้ยงเด็กจาก รพ.ศิริราช ดูแลเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี แล้วแต่อายุงาน

แสดงเพิ่มเติม

ชื่อหนิงค่ะ ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ทำงานสอนดนตรี(กีตาร์คลาสสิก) สอนตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ รวมถึงสอนเด็กที่มีความพิเศษ(ออทิสติกด้วยค่ะ) มีกิจกรรมที่ทำกับเด็กอยู่เรื่อยๆค่ะ รักเด็ก ชอบอยู่กับเด็กๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

สวัสดีคะ ชื่อป่าน นะคะ อายุ 27 ปี เป็นคนรักเด็ก ประสบการณ์ครูผู้ช่วยสอนศิลปะเด็กเล็ก และโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษค่ะ สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้คะ Line ID: Phn.rati

Sawasdee Ka! ( It's Hello in Thai language :D) My name is Ratikorn, but please call me for shorten name Phannie. I am 27 years old. I am generous, patient, friendly, easy going, gentle,warmth, reasonable, honest, has a sense of responsibility. Moreover I am open- minded girl who try to learn new things around me. I also enjoy learning new things to develope myself in the future.About experience with kids, I worked at the school for kids for 1 year, there were 20children, aged about 3-12 years old.

แสดงเพิ่มเติม
ศิตอร  ภูสุวรรณ
ศิตอร ภูสุวรรณ
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์พี่เลี้ยงเด็ก เคยดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 8 ขวบค่ะ ชงนม ป้อนข้าว อาบน้ำ ดูแลทั่วไปค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
กัญชพร เชื้อแถว
กัญชพร เชื้อแถว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

งานประจำเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่เนอสเซอรี่ ทำงานมา 6 ปี เป็นคนขี้เล่น เฟรนลี่ อยู่ที่ทำงานเป็นครูผู้นำสอนน้องทำกิจกรรมในด้านพัฒนาการต่างๆ

แสดงเพิ่มเติม
พัชรี   อ่อนศรี
พัชรี อ่อนศรี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ พัชรี อ่อนศรีค่ะ

เคยผ่านการทำงานเลี้ยงเด็กมา10ปีค่ะตั้งแต่แรกเกิดถึงเข้าโรงเรียนค่ะพี่ดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กค่ะ

ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กแต่ระช่วงวัยดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดในแต่ระช่วงวัยค่ะ

ทำอาหารได้ทุกช่วงวัยของเด็กค่ะเน้นความสะอาด ใจเย็น มีสติในการทำงานตลอดเวลาค่ะ

เลี้ยงเด็กตามความประสงของพ่อและแม่ค่ะแต่ระบ้านจะมีวิธีการเลี้ยงแตกต่างกันค่ะ ใส่ใจรายระเอียดทุกอย่างค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อรวรรณ มีมุข
อรวรรณ มีมุข
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะ ชื่อจอยนะคะ อายุ 22 ปีค่ะ เพิ่งจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลันหอการค้าไทย สาขาภาษาอังกฤษและการแปลค่ะ เคยช่วยพี่เลี้ยงหลานตอนช่วงปิดเทอมค่ะ และตอนนี้อยากหาประสบการณ์เลี้ยงเด็กเพิ่มค่ะ เพื่อที่จะสมัครเป็นออแพร์ที่ต่างประเทศค่ะ เป็นคนใจเย็นและใจดีค่ะ สามารถสอนภาษาอังกฤษน้องและสอนการบ้านน้องได้ค่ะ เข้ากับเด็กได้ดีและชอบอยู่กับเด็กค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
กัญญารัตน์  สาธรณ์
กัญญารัตน์ สาธรณ์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ดิฉันชื่อหวาน ค่ะรักเด็กชอบอยู่กับเด็ก มีความอดทนสูงเป็นคนใจเย็นค่ะ มีประสบการการทำงานcall center มา2ปี6เดือนค่ะวันหยุดมีสอนพิเศษวิชาสังคมภาษาไทยให้เด็กอนุบาลกับน้องวัยประถม เคยเลี้ยงหลานมา3ปี สามารถสอนหนังสือเพิ่มเติมให้น้องได้ค่ะหากทางผู้ปกครองของน้องต้องการ

แสดงเพิ่มเติม
rasita pimpakorn
rasita pimpakorn
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ชื่อ รสิตา พิมพกร ชื่อเล่น ปูสถานะภาพ มีครอบครัวแล้วเบอร์โทร 098-9954465ว-ด-ป เกิด 5ธันวาคม 2527สัญชาติ ไทยตำแหน่งที่ต้องการสมัคร พี่เลี้ยงน้องค่ะการสื่อสารภาษา อังกฤษ พออ่านออกเขียนได้ค่ะไทย ดีมากค่ะปัจจุบันพักอยู่ที่ สระแก้วประสบการณ์ทำงาน -เลี้ยงน้อง1ขวบถึง4ขวบลาดพร้าว-เลี้ยงน้อง2ขวบถึง4ขวบทองหล่อ-เลี้ยงน้อง3เดือนถึง3ขวบ7เดือนชิดลมได้รับวัคซีนมาแล้ว ....3... เข็ม

แสดงเพิ่มเติม
ผกากาญจน์  รื่นอุรา
ผกากาญจน์ รื่นอุรา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

มีประสบการณ์พี่เลี้ยงมา 1 ปี ค่ะ ดูแลเด็กได้ทุกวัย ตั้งแต่ 6 เดือน

แสดงเพิ่มเติม
วาสนา แหยมแก้ว
วาสนา แหยมแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 46 ปี
Nisachon Chuaykhun
Nisachon Chuaykhun
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

1.ชื่อ-นามสกุล (ไทย) : นิศาชล ช่วยขุน(อังกฤษ) : nisachon chuaykhunสถานะ : โสด2.อายุ : 31 3.ตำแหน่งงานที่สมัคร : ครูผู้ช่วย พี่เลี้ยงเด็กส่วนสูง : 165 ซ.มน้ำหนัก : 44ก.ก.ไม่มีรอยสักไม่ใส่เหล็กดัดฟันไม่สูบบุหรี่กินเหล้านิสัยส่วนตัว ใจดีมีเมตตาชอบเด็กๆเป็นอย่างมาก เรียบร้อย พูดเพราะไม่พูดคำหยาบ ชอบดูแลคนอื่น ชอบให้คำปรึกษา ชอบให้แรงจูงใจให้ความรักพร้อมความรู้พร้อมกัน ชีวิตและการทำงานทุกทางผูกพันธ์กับเด็ก เป็นพี่สาวคนโตเลี้ยงๆน้องที่บ้านเกิด ขยันชอบเอนเตอร์เทรน ประวิติการทำงานสายอีเว้นท์ช่วงว่างงานหรือวันหยุด-MC โฟนของเล่นเด็ก บ.คิดส์โด-MC โฟนงานวัคซีน ม.ไทย-ญี่ปุ่น- Staff แจกใบปลิว งานโบกป้าย เอกตร้า-ครูสอนเสริม สอนการบ้านบ้านเด็กกำพร้างานประจำที่เคยผ่าน-ฝึกงาน สถาบันคอม ม.ราม-พี่เลี้ยงสถานสงเคราะห์ บ.มหาเมฆ กรมเด็ก-ปัจจุบัน ครูผู้ช่วยโรงเรียนเด็กก่อนเรียนรามคำแหง 7.ระดับการศึกษา :ป.ตรี คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง8.ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลงลูกทุ่ง โฟนMC เต้น นำกิจกรรมเอนเตอร์เทน9.สื่อสารภาษาอังกฤษ : พอได้บ้าง10.รอยสัก : ไม่มี11. ที่อยู่ : รามคำแหงมหาดไทย12. สถานะการฉีดวัคซีนโควิด : ฉีดแล้ว2เข็ม

แสดงเพิ่มเติม
อาซียะห์  บินฮะเก็ต
อาซียะห์ บินฮะเก็ต
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 31 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้วค่ะ เป็นคนอัธยาศัยดี ร่าเริง ใจเย็น รักเด็ก พูดคุยและเสริมพัฒนาการเด็กได้ดี มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กทั้งแรกเกิดและเด็กโต 5ปี ใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และปรับตัวเข้ากับผู้คนได้ง่าย ซื่อสัตย์

แสดงเพิ่มเติม
ศุภลักษณ์ สติภา
ศุภลักษณ์ สติภา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีดีคะฉันสามารถเลี้ยงเด็กได้คะฉันรักเด็กใส่ใจและเสริมพัฒนาการเด็กได้คะฉันร่าเริงยิ้มง่ายใส่ใจความสะอาดเกี่ยวกับตัวเองและเด็กหรือคนรอบข้างดิฉันมีความตั้งใจใส่ใจในการทำงานมากถ้าผลตอบแทนดีและเหมาะสมจะทำงานสุดความสามารถคะ

แสดงเพิ่มเติม
สุนีย์  กอศรีสกุล
สุนีย์ กอศรีสกุล
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 53 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

Hi my name is Sunee. I have an experince of babysitting for more than 2 years as well as raising my own kids. I was an exchange student and stay with a family in Canada in 1988. After graduated bechalor degree from Ramkhamhang University, I worked as a Thai Language Tutor for foreigners. I can communicate in English.

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 54 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์เป็นครูศูนย์ 8 ปี พี่เลี้ยงเสริมพัฒนาการเด็ก แถวๆ หมู่บ้าน ดูแลเด็ก 2 ขวบขึ้น

แสดงเพิ่มเติม
เพรียวพร ลูกเพชร
เพรียวพร ลูกเพชร
Saijai อายุ 23 ปี

มีประสบการณ์ เป็นพี่เลี้ยงเด็กในศูนย์เลี้ยงเด็ก 4 เดือน สามารถดูแลเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป รับวัคซีนแล้ว 3 เข็ม สะดวกให้บริการสะดวกรับตามสถานที่ที่เดินทางโดย mrt สอนภาษาอังกฤษได้ เล่นกีต้าเป็น วาดรูปและร้องเพลงได้ สามารถเป็นเพื่อนน้องทำกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัยได้ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Thipsuda Pornsurat
Thipsuda Pornsurat
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

Helloo, My name is noon and i'm 27 years old. graduated from kasetsart university, i very love the kid from my background and just want to have a good experience, wanna play with your kid!! my personality is always smile, happy girl with a kindness. I have been in USA about 4 months and have experience to play with kid of my host.

สวัสดีค่ะ ชื่อนุ่น อายุ 27ปี จบป.ตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นคนรักเด็กมากๆและชอบเล่นกับเด็กๆ พื้นฐานเคยเลี้ยงน้องๆมา2คน และอยากมาหาประสบการณ์วันว่างเสาร์อาทิตย์

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ดิฉันกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลลูกที่บ้านเลย ลูกติดนิสัยชอบอยู่แต่ในบ้านและซนกับพี่เลี้ยงมาก จนพี่เลี้ยงหลาย ๆ คนทนไม่ไหวถึงกับขอลาออกเอง โชคดีที่ได้เจอพี่เลี้ยงคนนี้บนเว็บใส่ใจ พี่ลี้ยงเข้ากับน้องได้ดีค่ะ
Saijai
วิลาภรณ์ สุทธิรักษ์
3 ปีที่แล้ว
ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
4 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
4 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
4 ปีที่แล้ว
ลองค้นหาบริการพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายที่ จนได้มาเจอเว็บใส่ใจ ลองเข้าไปดู รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้เลือกพี่เลี้ยง ขั้นตอนนัดสัมภาษณ์ รายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ พี่เลี้ยงที่ได้มาก็ตรงตามความต้องการสุด ๆ รู้สึกประทับใจมาก
Saijai
ณัฐณิชา ทิวาสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเอง ลองเปรียบเทียบกันระหว่างส่งลูกไปเนอสเซอรี่และจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกที่บ้าน อะไรจะตรงใจคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด
บริการรับเลี้ยงเด็กในปัจจุบันมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือเนอสเซอรี่ เรามาดูข้อดีข้อเสียกันเลยค่ะ

ข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กที่บ้านมีดังนี้

1) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิด ลูกของคุณจะได้รับความเอาใจใส่ที่ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์
2) พี่เลี้ยงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการทำกิจกรรมต่าง
3) พ่อแม่ประหยัดเวลามากขึ้น หากจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน
4) เด็กจะไม่ป่วยบ่อย เนื่องจากเด็กจะอยู่ในบ้านของตนเอง

ข้อดีของเนอสเซอรี่

1) เด็ก ๆ จะรู้จักการเข้าสังคม
2) เนอสเซอรี่มีบริเวณกว้างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
3) เด็กจะได้ฝึกดูแลตัวเอง เพราะครูพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแลเด็กแบบใกล้ชิด

ข้อเสียของพี่เลี้ยง

1) ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเข้าศูนย์เนอสเซอรี่
2) เด็กอาจจะติดพี่เลี้ยงเกินไป
3) ลดความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

ข้อเสียของเนอสเซอรี่

1) เด็กป่วยบ่อยเพราะมีภูมิคุ้มกันที่น้อยเนื่องจากอยู่กับเด็กหลายคน
2) ลูกจะไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวอาจส่งผลถึงอารมณ์ของเด็กได้
3) เด็กจะอยู่ห่างไกลจากพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาบริการพี่เลี้ยงเด็ก ใส่ใจมีบริการพี่เลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมจะให้บริการคุณค่ะ
ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีคืออะไร
6 ทักษะสำคัญที่พี่เลี้ยงเด็กควรมี

1. ความรู้ด้านการส่งเสริมพัฒนาการ การส่งเสริมพัฒนาการทำได้ทั้งผ่านการเล่นและการทำกิจวัตรประจำวัน พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรหากิจกรรมเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมและช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัยที่เหมาะสม
2. ความอดทนและใจรักเด็ก เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะนิสัย อารมณ์และการแสดงออก บางคนว่านอนสอนง่าย บางคนชอบเล่นซนทั้งวัน หรือบางคนงอแง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีใจรักเด็กเป็นพื้นฐาน พร้อมทำความเข้าใจและมีความอดทน พยายามหาวิธีที่ทำให้เด็กรู้สึกวางใจ ปลอดภัย และยอมเชื่อฟังพี่เลี้ยงในที่สุด
3. ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรู้เบอร์โทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเด็กหกล้มมีแผลถลอกพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้ว่าจะจัดการกับแผลถลอกอย่างไร ในกรณีฉุกเฉินพี่เลี้ยงเด็กต้องสามารถติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้
4. ทักษะการสื่อสาร เด็กมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ พี่เลี้ยงเด็กต้องเข้าใจการสื่อสารกับเด็ก เช่น เข้าใจภาษากายของทารก การสื่อสารของเด็กเล็ก สำหรับเด็กที่สามารถสื่อสารด้วยทำพูดได้แล้ว พี่เลี้ยงเด็กต้องพูดคุยเพื่อให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ใช้การบังคับและให้เด็กรู้สึกสบายใจ
5. ทักษะการแก้ปัญหา หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงพี่เลี้ยงเด็กต้องรู้วิธีแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ตรงหน้าตามสมควรโดยไม่จำเป็นต้องรายงานหรือรอให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจทุกครั้ง
6. ความคิดสร้างสรรค์ คงไม่ดีแน่หากพี่เลี้ยงเด็กดูแลเด็กด้วยการให้เด็กดูสมาร์ทโฟนเป็นชั่วโมง พี่เลี้ยงเด็กที่ดีควรมีความคิดสร้างสรรค์เล่นกับเด็กเพื่อให้เด็กเพลิดเพลินได้นานหลายชั่วโมงและให้เด็กได้พักผ่อนตามเวลา

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติและทักษะที่ดีที่คุณพ่อและคุณแม่ควรมองหาในตัวพี่เลี้ยงเด็กที่คุณเลือกมาเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณค่ะ
หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง ควรทำอย่างไร
ใส่ใจขอพูดถึงข้อกังวลและแนวทางแก้ไขเมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกๆ ที่บ้าน

1. ความปลอดภัยของลูกน้อย สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลมากที่สุดคือความปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการกระทำรุนแรงของพี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม ควรพูดคุย ซักถามเด็กอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับกิจกรรมระหว่างวันที่ลูก ๆ ทำกับพี่เลี้ยง การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจขึ้น
2. ประสบการณ์การทำงาน บางครั้งพี่เลี้ยงเด็กอาจไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความชำนาญของตน นอกจากการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็ก คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้มีการทดลองงานสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าพี่เลี้ยงเด็กมีความชำนาญหรือสามารถทำงานได้ตามมอบหมายหรือไม่
3. พี่เลี้ยงเด็กหยิบฉวยทรัพย์สินในบ้าน หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์แต่ยังกังวลว่าพี่เลี้ยงเด็กอาจพยายามขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้าน แนวทางป้องกันที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือ ไม่วางสิ่งของมีค่าไว้ในที่เปิดเผย ล็อคลิ้นชักเก็บของและประตูห้องที่พี่เลี้ยงเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกทาง
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

ชุมชนดินแดง

เมื่อชีวิตดำเนินมาถึงวัยหนึ่ง ส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงในการใช้ชีวิต คือการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ทั้งเพื่อความเป็นส่วนตัว เพื่อสร้างครอบครัวและเพื่อสร้างฐานะ และบ้านยังเป็นที่ที่สร้างความมั่นคงทางอารมณ์ ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย การจะมีบ้านสักหลัง หรือคอนโดสักห้องมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเป็นตัวแปรในการเลือกที่อยู่อาศัย หนึ่งในปัจจัยหลัก คืองบประมาณหรือรายได้ของผู้ซื้อ ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าเราจะมีบ้านแบบใด บ้านตั้งอยู่ในชุมชนแบบใด หลายคนยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อความสบายใจ ว่าบ้านที่ตนเลือกนั้นตั้งอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ในที่นี้หมายถึงอยู่ในพื้นที่ที่มีความปลอดภัย และมีเพื่อนบ้านที่น่ารัก แต่อีกหลายคนอาจไม่สารถเลือกได้โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งทำงานและมีรายได้ไม่มากนัก อาจต้องจำยอมอยู่ในสภาพแวดล้อมหรือชุมชนที่ไม่สะดวกและไม่ปลอดภัยนัก

หากพูดถึงชุมชนที่เป็นที่อยู่อาศัยของผู้ที่เข้ามาทำมาหากินในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ยุค 60 ปีก่อน มีชุมชนหนึ่งซึ่งตั้งอยู่กลางกรุงเทพมหานครที่ชื่อว่า “ชุมชนดินแดง” พื้นที่บริเวณนี้แต่เดิมเคยเป็นบริเวณที่ทิ้งขยะของกรุงเทพมหานคร แต่มีผู้ซึ่งหาโอกาสของชีวิต เข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัยและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นชุมชนแออัด และเมื่อกรุงเทพมหานครต้องการใช้พื้นที่จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างที่อยู่อาศัยของผู้ที่มีรายได้น้อยราวปี พ.ศ. 2503 รัฐบาลจึงมีโครงการสร้างแฟลต ให้เช่า 5,000 หน่วย ในชื่อ “โครงการอาคารสงเคราะห์ดินแดง” รูปแบบการก่อสร้างอาคาร สร้างเป็นอาคารแฟลตสูง 5 ชั้น อยู่อาศัย 4 ชั้น และชั้นล่างสุดเป็นใต้ถุนโล่ง มีบันไดสองข้างอาคาร มีทางเดินร่วม โดยมีหน่วยพักอาศัยอยู่ด้านเดียว (Single Loaded Corridor) ซึ่งแต่ละห้องมีพื้นที่ใช้สอย 38-39 ตารางเมตร มีส่วนอเนกประสงค์ ครัว ห้องน้ำ ระเบียง มีช่องสำหรับเปิดทิ้งขยะลงปล่อง 1 ปล่อง ต่อ 2 หน่วยห้องพัก สามารถรองรับผู้มีรายได้ครัวเรือน ไม่เกิน 1,500 บาท/เดือน จ่ายค่าเช่าเพียง 100-125 บาท/เดือน เพื่อรองรับการอพยพของผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัดเดิมบนพื้นที่ทิ้งขยะของกรุงเทพมหานคร และกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการที่พักอาศัยในช่วงเวลานั้นต่อมาในปี พ.ศ. 2516 การเคหะแห่งชาติได้เข้ามาดูแลและรับโอนแฟลตดินแดงจากกรมประชาสงเคราะห์ และได้สร้างที่พักอาศัยเพิ่มขึ้นรวมเป็น 94 อาคาร โดยมีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 36,000 คน วันเวลาผ่านไปจวบจนปัจจุบันแฟลตดินแดงรุ่นแรก นับเป็นอาคารที่มีอายุการใช้งานอย่างยาวนานถึง 50 ปี เปรียบเทียบเป็นมนุษย์ก็คงอยู่ในช่วงอายุที่รอวันร่วงโรย 50 ปีผ่านมาสภาพอาคารและโครงสร้างทรุดโทรม เป็นอันตรายต่อผู้พักอาศัย

ด้วยความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของคนที่อยู่อาศัยในแฟลตดินแดง ทางการเคหะแห่งชาติจึงได้ว่าจ้าง สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) เข้าศึกษาตรวจสอบสภาพความแข็งแรงของอาคารในเคหะชุมชนดินแดงทั้งหมด ในปี พ.ศ. 2546 และปี พ.ศ. 2550 โดยจากการตรวจสอบพบว่า ร้อยละ 60 ของอาคารทั้งหมด มีสภาพเก่าทรุดโทรม และชำรุดเสียหายอย่างรุนแรง โครงการปรับปรุงฟื้นฟูชุมชนดินแดงดำเนินงานผ่านมาถึง 5 รัฐบาล รวมระยะเวลามากกว่า 16 ปีไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งในการสร้างความเข้าใจแก่ผู้อาศัย คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ลงมติว่าเห็นชอบในหลักการแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง พ.ศ. 2559 – 2567 ซึ่งอนาคตชุมชนชาวดินแดงก็จะได้ที่อยู่ใหม่ที่มั่นคงในเร็ววันนี้



วิธีจัดการกับพฤติกรรมก้าวร้าวของลูก

พ่อแม่ควรให้ความสำคัญและให้เด็กได้เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ได้เหมาะสมตามวัย เมื่อเด็กมีอารมณ์ฉุนเฉียว โกรธ ไม่พอใจ หรือ และอ่อนไหวกับสิ่งเร้าต่างๆ เด็กบางคนใช้เวลาในการควบคุมตนเองนานกว่าคนอื่น แล้วคุณจะทราบได้อย่างไรว่าพฤติกรรมก้าวร้าวหรือรุนแรงของลูก ไม่ได้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของช่วงการเรียนรู้ และคุณจะช่วยอะไรได้บ้าง

ก่อนอื่นเรามาดูว่า เด็กส่วนใหญ่แสดงท่าทางแบบนี้หรือไม่

การแสดงออกหรือพฤติกรรมของเด็ก ขึ้นอยู่กับวัยเป็นสำคัญ นักจิตวิทยาเด็กกล่าวว่า "เราจะไม่เห็นพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็กวัยหัดเดิน” เนื่องจากเด็กวัยนี้ยังไม่มีทักษะในการสื่อสารด้วยภาษาพูด จึงแสดงออกทางกายมากกว่า ตัวอย่างเช่น การผลักเพื่อนบนสนามเด็กเล่นอาจถือเป็นเรื่องปกติ เราไม่จำเป็นต้องเรียกว่าความก้าวร้าว เว้นแต่ว่าเด็กจะแสดงออกอย่างก้าวร้าวและรุนแรง

คุณรู้จักความก้าวร้าวที่แท้จริงได้อย่างไร

เมื่อถึงวัยหนึ่งที่เด็กโตพอที่จะมีทักษะทางคำพูดในการสื่อสารความรู้สึกของตน ประมาณอายุ 7 ขวบ การแสดงอารมณ์ก้าวร้าวทางกายก็จะลดลง หากไม่เป็นเช่นนั้น ก็ถึงเวลาที่ต้องกังวล

สัญญาณเตือนที่ไม่ควรละเลย

หากเด็กมีพฤติกรรม เช่นทำลายข้าวของ ตั้งใจก่อกวนหรือสร้างความให้กับคนรอบข้าง สิ่งเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจาก อาการสมาธิสั้น ความวิตกกังวล ความบกพร่องทางการเรียนรู้ และความหมกมุ่น จนกลายเป็นพฤติกรรมก้าวร้าว และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเด็ก ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด พ่อแม่ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแต่เนิ่นๆ

เริ่มต้นด้วยการปรึกษากับกุมารแพทย์ และหากจำเป็นแพทย์จะส่งต่อให้ไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเพื่อวินิจฉัยและรักษาปัญหาที่อาจก่อให้เกิดความก้าวร้าวได้

พ่อแม่จะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยลูก

กลยุทธ์เหล่านี้เพื่อช่วยให้ลูกของคุณควบคุมความก้าวร้าวของเขาหรือเธอให้อยู่ในความสงบ “เมื่อเด็กแสดงอารมณ์ออกมามาก และพ่อแม่ตอบสนองด้วยอารมณ์ที่มากขึ้น ก็จะเพิ่มความก้าวร้าวของเด็กได้” ให้พยายามจำลองการควบคุมอารมณ์สำหรับบุตรหลานของคุณแทน อย่ายอมแพ้ต่อความโกรธเคืองหรือพฤติกรรมก้าวร้าว ตัวอย่างเช่น เวลาไปซื้อของตามห้างแล้วลูกงอแง ร้องไห้เสียงดัง เพราะอยากได้ของเล่น พ่อแม่ต้องไม่ยอมซื้อให้ เพื่อเป็นการบอกลูกว่าหากลูกทำตัวไม่น่ารัก จะไม่ได้ของที่ต้องการ ในทางตรงกันข้ามพ่อแม่ควรกล่าวชมเมื่อลูกทำตัวน่ารัก และควรสอนให้เด็กรู้จักชื่นชมและขอบคุณเมื่อได้รับการปฏิบัติที่ดีจากผู้อื่น

ช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะแสดงออกทางอารมณ์ด้วยการใช้คำพูดแทนการแสดงทางพฤติกรรม เช่น เมื่อเด็กแสดงอาการไม่พอใจ พ่อแม่อาจพูดว่า “แม่รู้เลยว่าหนูกำลังโกรธมาก” ซึ่งการทำแบบนี้จะเป็นการกระตุ้นให้เด็กพูดออกว่า “โกรธ” แทนการแสดงท่าทางฉุนเฉียวที่อาจนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวได้



วิธีหยุดบุตรหลานของคุณจากความรุนแรง

เราจะป้องกันไม่ให้เด็กใช้ความรุนแรงได้อย่างไร ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผู้ปกครองผู้ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลโดยตรงต่อเด็ก ควรทำเพื่อหยุดการใช้ความรุนแรงในเด็ก และวัยรุ่น

เป็นแบบอย่างที่ดี การวิจัยพบว่าเด็ก ๆ ต้องการผู้ใหญ่ที่เอาใจใส่อย่างน้อยห้าคนเพื่อช่วยให้พวกเขาเติบโตขึ้นอย่างมีความสุขและมีสุขภาพดี ไม่ใช่แค่พ่อแม่เท่านั้นที่มีผลกระทบต่อลูก ปู่ย่า ตายาย ป้า น้าอา ครูที่ปรึกษาและเพื่อนในครอบครัวสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ๆ ของเราได้ โดยการสร้างสภาพแวดล้อมรอบตัวพวกเขาที่ส่งเสริมให้พวกเขาเป็นคนที่ใจดี เห็นอกเห็นใจ และมีจริยธรรม

มีมโนธรรม คือสอนให้เด็กรู้จักผิดชอบชั่วดี ซึ่งสามารถทำได้โดย

1) ปรับตัวให้เข้ากับพวกเขา

2) ไม่ใช้ความรุนแรงในครอบครัว

3) เป็นที่พักพิงที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขา

4) แก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด เราทุกคนเคยทำผิดพลาดในฐานะพ่อแม่ แต่การยอมรับและขอโทษอย่างเปิดเผยสำหรับความผิดพลาดเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าลูก ๆ เมื่อทำผิดต้องกล้ายอมรับและหาทางแก้ไข ไม่ควรตำหนิแต่ควรแสดงความห่วงใยและแก้ปัญหาไปด้วยกัน

มีความเห็นอกเห็นใจ สอนให้เด็กมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ยกตัวอย่างเหตุการณ์สมมุติ ลูกของคุณตีเด็กอีกคนที่เล่นด้วยกัน คุณอาจจะบังคับให้ลูกขอโทษเด็กคนนั้น ลูกอาจจะขอโทษเพราะถูกคุณบังคับแต่เขาไม่ได้รู้สึกเห็นใจ การขอโทษจึงไม่มีความหมายหากเด็กไม่ได้หมายความอย่างนั้นจริง ๆ ดังนั้นแทนที่คุณจะบังคับให้ลูกพูดขอโทษ ให้ลองคุยกับลูกว่า ลูกจะรู้สึกอย่างไรถ้าเราเป็นคนที่ถูกตี สิ่งนี้ช่วยให้เด็กเข้าใจและรู้สึกเห็นอกเห็นใจว่าการทำร้ายใครบางคนหมายถึงอะไร

แสดงความสนใจ โดยเฉพาะในวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่มีความเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกายที่กำลังเติบโตสู่วัยผู้ใหญ่ ด้านสังคมที่เด็กอาจต้องเจอเพื่อนใหม่หรือมีเพื่อนเพศตรงข้าม เด็กไม่สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ตามลำพัง และต้องการความเอาใจใส่และคำแนะนำจากพ่อแม่และผู้ปกครอง หากพ่อแม่เพิกเฉย เด็กอาจแสดงพฤติกรรมด้านลบเพื่อเรียกร้องความสนใจ พ่อแม่ควรเข้าใจ พยายามพูดคุยแบบเปิดใจแบบมีเหตุผล เคารพการตัดสินใจ รับฟัง คอยอยู่เคียงข้าง ไม่ใช่เอาแต่ตำหนิ ดุด่า เมื่อเกิดปัญหา

สร้างความภูมิใจและความนับถือตนเอง

ช่วยให้บุตรหลานของคุณค้นพบสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีและชื่นชมความสำเร็จเหล่านั้นอย่างแท้จริง เพื่อให้เขารู้สึกถึงคุณค่าในตนเองหรือความภาคภูมิใจในตนเองที่