ดูแลเด็ก ใน บางซื่อ, กรุงเทพมหานคร

ดูแลเด็ก ใน บางซื่อ, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ญาณิศา  เฟื่องฟู
ญาณิศา เฟื่องฟู
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

สวัสดีค่ะชื่อแพ็คนะคะเป็นคนซื่อสัตย์ค่ะเต็มที่กับงานสามารถแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับการทำงานได้มีความรับผิดชอบ ชอบเล่นกับเด็กรักเด็กชอบทำอาหารขับรถได้ค่ะเรียนจบมหาวิทยาลัยรามคำแหงคณะรัฐศาสตร์

การทำงาน ทำงานกับเด็กมาตลอดชีวิตเลยถนัดในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กทำแล้วมีความสุขค่ะอยากช่วยปลูกฝั่งเด็กๆทุกคนให้โตมาเเบบมีศักยภาพ

แสดงเพิ่มเติม
อลิสา  อารีย์
อลิสา อารีย์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ดิฉันอลิสา อารีย์ ปัจจุบันอายุ 52 ปี ประสบการณ์การทำงาน 15 ปีขึ้นไป จบหลักสูตรพี่เลี้ยงเด็กจาก รพ.ศิริราช ดูแลเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี แล้วแต่อายุงาน

แสดงเพิ่มเติม
แจ่มจันทร์ พวงศรี
แจ่มจันทร์ พวงศรี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

จบ NA เคยทำงานที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ แผนกฉุกเฉินเด็กประสบการณ์พี่เลี้ยงเด็ก9 ปี

แสดงเพิ่มเติม
พัชรี   อ่อนศรี
พัชรี อ่อนศรี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ พัชรี อ่อนศรีค่ะ

เคยผ่านการทำงานเลี้ยงเด็กมา10ปีค่ะตั้งแต่แรกเกิดถึงเข้าโรงเรียนค่ะพี่ดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กค่ะ

ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กแต่ระช่วงวัยดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดในแต่ระช่วงวัยค่ะ

ทำอาหารได้ทุกช่วงวัยของเด็กค่ะเน้นความสะอาด ใจเย็น มีสติในการทำงานตลอดเวลาค่ะ

เลี้ยงเด็กตามความประสงของพ่อและแม่ค่ะแต่ระบ้านจะมีวิธีการเลี้ยงแตกต่างกันค่ะ ใส่ใจรายระเอียดทุกอย่างค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ณิชชา อภิปาลกุล
ณิชชา อภิปาลกุล
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ทำงานบ้านนายเลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่ลูกมามากกว่า 5 ปี สามารถขับรถได้ ดูแลเด็กได้ดี ใจเย็น ทำอาหารได้ สามารถทำงานตามที่นายสั่งได้

แสดงเพิ่มเติม
ภาวิณี  พรมสี
ภาวิณี พรมสี
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 48 ปี

เป็นคนมีความรับผิดชอบและต้องใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กเล็ก อายุ 1 ปี 5 เดื่อน และ 2 ปี ได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
พิมพ์พิชญา แสนลุน
พิมพ์พิชญา แสนลุน
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 20 ปี

ยิ้มเก่ง มีมารยาท รักเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 54 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์เป็นครูศูนย์ 8 ปี พี่เลี้ยงเสริมพัฒนาการเด็ก แถวๆ หมู่บ้าน ดูแลเด็ก 2 ขวบขึ้น

แสดงเพิ่มเติม
ปราณี  ต่วนลา
ปราณี ต่วนลา
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ดูแลได้ตั้งแต่แรกเกิด - 10 ขวบ - ดูแลเด็กต่างชาติ มาเลย์ ดูไบ ออสเตรเลีย

ประมาณ 2 ปี กว่า ทำงานที่นี่ เพราะ อยากใช้เวลาว่าง สร้างรายได้เสริมคะ.

-อุปนิสัย

มองโลก เชิงบวก,ใจเย็น,พร้อมเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆ

-สามารถ ว่ายน้ำ,ทำอาหาร,ขับรถมอเตอร์ไซค์,ขับรถยนต์ มีใบขับขี่.

แสดงเพิ่มเติม
Narumon
Narumon
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

จบหลักสูตร NA ฝึกงานที่โรงพยาบาลสุขุมวิทหลักสูตรดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดและผู้สูงอายุเป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้ เคยดูแลเด็กตามบ้านผู้ว่าจ้างและเลี้ยงที่บ้านตัวเอง

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

กำลังศีกษาหลักสูตร NA ค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ผ่องพิศ ทรงขจร
ผ่องพิศ ทรงขจร
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สวัสดีค่ะ ชื่ออายย์ อายุ 31 ปี รับวัคซีนครบ2เข็มแล้วค่ะสะดวกเริ่มงานหลังวันที่ 1/11/64 ค่ะ รับเลี้ยงเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง10 ปี มี2 แบบ1. รับเลี้ยงที่คอนโดเราเอง คอนโดอยูรีเจ้นโฮม บางซ่อน เฟส 28 เรทราคาคุยกันได้ค่ะ ขอไม่เกิน 2 คน นะคะ2. ไป-กลับ สะดวกเดินทางระแวกใกล้บางซ่อน ดุสิต แต่ถ้าไกลกว่านั้นสะดวกแนวbts-mrt ทั้งหมด สะดวกเดินทาง โอทีวันหยุดตามตกลง โอทีเกินเวลางานไม่ขออะไรมาก ออกค่ารถแท็กซี่ให้ก็พอประสบการณ์เลี้ยงลูกตัวเองคะ เป็นsinglemom ตั้งแต่ลูกอายุได้7เดือน ตอนนี้ลูก 7 ปี ในระหว่างท้องก็ยังช่วยผู้ที่เดือดร้อนเลี้ยงลูกให้พวกเขา หรือแม้แต่ญาติพี่น้องเราก็ช่วย ช่วงปี54 เกิดน้ำท่วม ก็เป็นหัวหน้าจิตอาสาคอยดูแลเด็กเล็กจนถึงเด็กโดตในศูนย์พักพิงน้ำท่วม ก่อนหน้านี้ ดูแลน้องสาวพิการ เดินไม่ได้ และดูแลคุณยาป่วยติดเตียง ฟีสอาหารทางสายยาง จัดยา เช็ดตัว เช็ดอึ ฉี่ด้านภาษาจบป.ตรี สาขา IT สามารถพูด ฟังภาษาอังกฤษได้ สามารถสอนได้ แต่เน้นการออกสำเนียงและการใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถฝึกด้านภาษากับเราได้ สามารถสอนเสริมสร้างพัฒนาการต่างๆได้(ปรกติกชอบหาสิ่งของหรือกิจกรรมสอนลูก ลูกไม่ติดโทรศัพท์ ไม่ติดการ์ตูน ชอบดูแต่คลิปเสริมความรู้ใน Youtube )เพิ่มเติมสามารถ ทำอาหารได้หลากหลาย ไทย ญี่ปุ่น ฝรั่ง เกาหลี เบเกอรี่ ปล. อาจไม่มีประสบการณ์ การรับจ้างกับนายจ้าง แต่มีประสบการณ์การเลี้ยงเด็กอย่างแน่นอน

แสดงเพิ่มเติม
ศิตอร  ภูสุวรรณ
ศิตอร ภูสุวรรณ
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์พี่เลี้ยงเด็ก เคยดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 8 ขวบค่ะ ชงนม ป้อนข้าว อาบน้ำ ดูแลทั่วไปค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ
อังคณา ภักดิ์ชัยภูมิ

อดทน มีความตั้งใจในการทำงาน ขยัน

แสดงเพิ่มเติม
สุนีย์  กอศรีสกุล
สุนีย์ กอศรีสกุล
Saijai ประสบการณ์ 2-3 ปี
Saijai อายุ 53 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

Hi my name is Sunee. I have an experince of babysitting for more than 2 years as well as raising my own kids. I was an exchange student and stay with a family in Canada in 1988. After graduated bechalor degree from Ramkhamhang University, I worked as a Thai Language Tutor for foreigners. I can communicate in English.

แสดงเพิ่มเติม
อาซียะห์  บินฮะเก็ต
อาซียะห์ บินฮะเก็ต
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 31 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้วค่ะ เป็นคนอัธยาศัยดี ร่าเริง ใจเย็น รักเด็ก พูดคุยและเสริมพัฒนาการเด็กได้ดี มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กทั้งแรกเกิดและเด็กโต 5ปี ใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และปรับตัวเข้ากับผู้คนได้ง่าย ซื่อสัตย์

แสดงเพิ่มเติม
ศุภลักษณ์ สติภา
ศุภลักษณ์ สติภา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีดีคะฉันสามารถเลี้ยงเด็กได้คะฉันรักเด็กใส่ใจและเสริมพัฒนาการเด็กได้คะฉันร่าเริงยิ้มง่ายใส่ใจความสะอาดเกี่ยวกับตัวเองและเด็กหรือคนรอบข้างดิฉันมีความตั้งใจใส่ใจในการทำงานมากถ้าผลตอบแทนดีและเหมาะสมจะทำงานสุดความสามารถคะ

แสดงเพิ่มเติม

ใจเย็น มีความรู้ด้านศิลปะ ช่วยเสิรมสร้างพัฒนาเด็ก

แสดงเพิ่มเติม
สุพรรษา  งามยิ่ง
สุพรรษา งามยิ่ง
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 34 ปี

ซื่อสัตย์ อดทน รับผิดชอบหน้าที่ตนเองได้ดี ไม่พูดเยอะ ไม่เล่นโทรศัพท์ ชอบเล่นกับเด็ก พาทำกิจกรรม สอนการบ้าน เชื่อฟังและปฎิบัติตามคำสั่งเสมอ ไม่ชอบเอาเปรียบใคร เคารพผู้อื่น อ่อนน้อม ทำอาหารได้ หรืองานอื่นๆที่ได้รับมอบหมาย

แสดงเพิ่มเติม
Nisachon Chuaykhun
Nisachon Chuaykhun
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

1.ชื่อ-นามสกุล (ไทย) : นิศาชล ช่วยขุน(อังกฤษ) : nisachon chuaykhunสถานะ : โสด2.อายุ : 31 3.ตำแหน่งงานที่สมัคร : ครูผู้ช่วย พี่เลี้ยงเด็กส่วนสูง : 165 ซ.มน้ำหนัก : 44ก.ก.ไม่มีรอยสักไม่ใส่เหล็กดัดฟันไม่สูบบุหรี่กินเหล้านิสัยส่วนตัว ใจดีมีเมตตาชอบเด็กๆเป็นอย่างมาก เรียบร้อย พูดเพราะไม่พูดคำหยาบ ชอบดูแลคนอื่น ชอบให้คำปรึกษา ชอบให้แรงจูงใจให้ความรักพร้อมความรู้พร้อมกัน ชีวิตและการทำงานทุกทางผูกพันธ์กับเด็ก เป็นพี่สาวคนโตเลี้ยงๆน้องที่บ้านเกิด ขยันชอบเอนเตอร์เทรน ประวิติการทำงานสายอีเว้นท์ช่วงว่างงานหรือวันหยุด-MC โฟนของเล่นเด็ก บ.คิดส์โด-MC โฟนงานวัคซีน ม.ไทย-ญี่ปุ่น- Staff แจกใบปลิว งานโบกป้าย เอกตร้า-ครูสอนเสริม สอนการบ้านบ้านเด็กกำพร้างานประจำที่เคยผ่าน-ฝึกงาน สถาบันคอม ม.ราม-พี่เลี้ยงสถานสงเคราะห์ บ.มหาเมฆ กรมเด็ก-ปัจจุบัน ครูผู้ช่วยโรงเรียนเด็กก่อนเรียนรามคำแหง 7.ระดับการศึกษา :ป.ตรี คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง8.ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลงลูกทุ่ง โฟนMC เต้น นำกิจกรรมเอนเตอร์เทน9.สื่อสารภาษาอังกฤษ : พอได้บ้าง10.รอยสัก : ไม่มี11. ที่อยู่ : รามคำแหงมหาดไทย12. สถานะการฉีดวัคซีนโควิด : ฉีดแล้ว2เข็ม

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ลาคลอดได้แค่ 3 เดือน ค่ะ ต้องกลับไปทำงานต่อ จะฝากลูกไว้กับยายก็กลัวแกจะดูไม่ไหว เลยลองหาพี่เลี้ยงจากเว็บใส่ใจดู ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่กล้าทิ้งลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่ก็วางใจอย่างนึงว่าพี่เลี้ยงมีประสบการณ์ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โอเคมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุชาดา มิ่งมงคล
4 ปีที่แล้ว
ดิฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลลูก บางครั้งต้องเอาไปฝากญาติ ๆ แต่ตอนนี้เลยตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงเด็กของทางใส่ใจ ตอนแรกก็ไม่รู้เลยค่ะว่ามีขั้นตอนในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรบ้าง เลยติดต่อเบอร์ของทางใส่ใจไป อยากจะบอกว่าประทับใจการให้บริการมาก ๆ ค่ะ ทางใส่ใจให้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนตามที่เราต้องการอยากทราบ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ปารีณา ภักดีดำรงค์ศักดิ์
4 ปีที่แล้ว
เปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กมาหลายคน ส่วนมากราคาสูง ๆ ทั้งนั้น แต่อยู่ไม่ได้นานก็ลาออก ลองจองพี่เลี้ยงผ่านเวปใส่ใจ เยี่ยมมากเลยครับ แฟนสบายใจ หมดปัญหา ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงราคาแพง ได้ราคาแบบสมเหตุสมผล แถมมีคุณภาพครับ
Saijai
จิตวัชร จันประทีป
4 ปีที่แล้ว
บ้านอยู่แถว สุขุมวิท71 ลองใช้เว็บใส่ใจครั้งแรก เพราะเพื่อนๆ แนะนำมา อยากได้พี่เลี้ยงเด็ก มองหามาหลายที่ ที่นี่รายละเอียดครบ ราคาชัดเจน โทรปรึกษาพนักงานก็อธิบายเข้าใจง่ายมาก สะดวกสบาย ง่ายกว่า search หาเองใน Google ชอบมากๆ ค่ะ
Saijai
นงคราญ แซ่ตั้ง
4 ปีที่แล้ว
อยู่ ๆ พี่เลี้ยงคนเก่าลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต้องรีบหาพี่เลี้ยงใหม่แบบเร่งด่วน ไม่รู้จะทำยังไง บังเอิญมาเจอเว็บใส่ใจ หาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ง่ายมาก ๆ แถมได้คนดี มีประสบการณ์ ทำงานคล่อง เยี่ยมเลยค่ะ ประทับใจสุด ที่สำคัญคุณแม่สบายใจได้คนมาทำงานทันที
Saijai
ภัทรา กิจบำรุง
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลเด็ก

หากคุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยควรเลือกใช้บริการการเลี้ยงเด็กแบบใด พี่เลี้ยงเด็กส่วนตัว หรือเนอสเซอรี่
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็ก วันนี้เรามาดูข้อดีขอเสียของพี่เลี้ยงเด็กกันค่ะ ทำไมต้องเลือกใช้บริการพี่เลี้ยงเด็ก

1) พี่เลี้ยงช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ได้ หากคุณไม่มีเวลาดูแลลูกน้อยเนื่องจากต้องทำงานนั้น พี่เลี้ยงเด็กคือทางออกของคุณค่ะ
2) หากคุณเลือกพี่เลี้ยงที่มีคุณสมบัติที่ดีสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกของคุณได้ค่ะ
3) พี่เลี้ยงสามารถดูแลลูกน้อยของคุณแบบใกล้ชิดมากกว่าส่งลูกเข้าศูนย์เลี้ยงเด็ก เพราะศูนย์เลี้ยงเด็กนั้นไม่สามารถดูแลเด็ก ๆ แบบใกล้ชิดได้
4) พี่เลี้ยงสามารถยืดหยุ่นเวลาทำงานให้สอดคล้องกับการทำงานของคุณได้
5) คุณไม่ต้องเสียเวลาไปรับไปส่งลูกน้อยที่ศูนย์หากคุณจ้างพี่เลี้ยงมาที่บ้านเพื่อดูแลลูกน้อยของคุณ
6) ลูกของคุณจะไม่ป่วยบ่อยเหมือนเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีเด็กมากกว่า20คน อาจจะเกิดความเสี่ยงติดโรคจากเพื่อน ๆ ได้
7) พี่เลี้ยงสามารถอยู่ดูแลลูกของคุณและเฝ้าบ้านของคุณได้หากในกรณีคุณกลับบ้านดึก
8) คุณสามารถบอกพี่เลี้ยงเด็กได้หากคุณต้องการให้พี่เลี้ยงมุ่งเน้นพัฒนาการของลูกคุณในด้านไหนเพราะพี่เลี้ยงของคุณจะดูแลเด็กแบบใกล้ชิด และมุ่งเน้นความสนใจให้ลูกของคุณ ต่างจากเข้าศูนย์เลี้ยงเด็กที่ต้องเฉลี่ยดูแลอย่างเท่าเทียมกัน

ข้อเสียของพี่เลี้ยงเด็ก

1) ลูกของคุณอาจจะติดพี่เลี้ยงมากเกินไป
2) ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับศูนย์เลี้ยงเด็ก
3) คุณอาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวภายในครอบครัว

อย่างไรก็ดีข้อดีของพี่เลี้ยงเด็กนั้นจะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ของคุณไปได้เยอะเลยทีเดียว หากคุณกำลังมองหาพี่เลี้ยงเด็กสักคน ใส่ใจมีบริการด้านนี้ค่ะ
คุณสมบัติอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรมองหาจากพี่เลี้ยงเด็กก่อนตกลงจ้าง
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณพ่อคุณแม่สักคนจะตัดสินใจหาใครมาดูแลลูกน้อยที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ วันนี้ใส่ใจมีข้อมูลของทักษะและคุณสมบัติที่พี่เลี้ยงเด็กควรมีมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คกันดูก่อนตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงสักคน

1. พี่เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทนสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าพี่เลี้ยงเด็กต้องมีความเข้าใจเด็ก สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่มีความอดทนสูง
2. พี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุ พี่เลี้ยงต้องมีความรู้และทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ทันที เช่น เด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลเกิดอุบัติเหตุหกล้ม มีแผลถลอก พี่เลี้ยงต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อของแผล เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกพี่เลี้ยงที่มีทักษะด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ
3. พี่เลี้ยงเด็กควรมีทักษะการแก้ไขปัญหา พี่เลี้ยงจะต้องรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ว่าจ้างเสมอไปหากปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรง
4. ทำอาหารเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นต้องมี พี่เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่พี่เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ รับประทานในแต่ละมื้อด้วย หากอาหารอร่อยถูกปาก เด็กจะเจริญอาหารและอารมณ์ดี ที่สำคัญที่สุดที่พี่เลี้ยงต้องใส่ใจและจดจำด้วยว่าเด็ก ๆ ที่ดูแลนั้น แพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประทานสิ่งที่แพ้เข้าไป
5. มีความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก พี่เลี้ยงจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือสันทนาการ เช่น พี่เลี้ยงเด็กอาจจะสอนเด็กนับเลข ฝึกการอ่าน หรือระบายสีเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหล่านี้
อะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก ๆ ของคุณ ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการใดบ้างที่จะหาพี่เลี้ยงที่วางใจได้ ใส่ใจมีวิธีการที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักตัวตนของพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้น

1. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีหากครอบครัวหรือเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้แนะนำพี่เลี้ยงเด็กที่พวกเขารู้จัก อย่างน้อยก็มีคนรับรองพวกเขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำการสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กและตรวจสอบประวัติของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากที่สุด
2. สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาพี่เลี้ยงจากสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ มองหาพี่เลี้ยงเด็กที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการก่อนหน้า ใช้เวลาอ่านและศึกษารีวิวเหล่านั้น
3. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงาน หากมีสัญญาณที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกไม่สบายใจ เช่น พี่เลี้ยงเด็กดูเป็นคนไม่กระตือรือร้น หรือไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส จงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองที่ชี้ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับงาน
4. ตรวจสอบประวัติ คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอให้พี่เลี้ยงตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากร( http://www.criminal.police.go.th/ ) เพื่อให้แน่ใจว่าพี่เลี้ยงเด็กไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและช่วยในการตัดสินใจ
ข้อตกลงสำคัญที่พ่อแม่ควรตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กก่อนเริ่มงานมีอะไรบ้าง?
สัญญาหรือข้อตกลงในการทำงานเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กต้องตกลงร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในขอบเขตการทำงานและค่าตอบแทน การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป แต่การร่างหรือการบันทึกรายการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มีอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็กควรตกลงกันก่อนเริ่มงาน

1. วันเริ่มงาน ควรมีวันเริ่มงานให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์และไม่เป็นการเสียเวลาของทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เลี้ยงเด็ก
2. ชั่วโมงการทำงานและวันหยุด ตกลงเรื่องเวลาทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันและวันหยุด เพื่อให้ตารางการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กสอดคล้องกับเวลาทำงานของพ่อคุณแม่มากที่สุด และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเวลา
3. ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบ กำหนดความรับผิดชอบของพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจน
4. ค่าแรงและกำหนดการจ่าย ค่าแรงของพี่เลี้ยงเด็กอาจขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน เช่นพี่เลี้ยงเด็กรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งกำหนดการจ่ายเงินอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนี้ด้วย
5. ค่าแรงในกรณีทำงานล่วงเวลา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้พี่เลี้ยงเด็กทำงานล่วงเวลา ควรสอบถามความสมัครใจของพี่เลี้ยงและตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องค่าแรง
6. การโพสต์รูปหรือข้อความเกี่ยวกับเด็กลงสื่อออนไลน์ (Social Medias) คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้มีรูปภาพ หรือข้อความเกี่ยวกับลูก ๆ ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค หรืออินสตาแกรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรพูดคุยตกลงกับพี่เลี้ยงเด็กให้ชัดเจนก่อนเริ่มงาน

ทำความรู้จักเขตบางซื่อ

พูดถึงบางซื่อหลายคนคงนึกภาพสถานีรถไฟที่เป็นแค่จุดแวะพักสำหรับต่อรถ แต่ปัจจุบันนี้บางซื่อไม่ใช่สถานที่เดิมที่เคยรู้จัก แต่กลายเป็นศูนย์กลางทางด้านการเดินทาง เป็นทำเลที่มีศักยภาพรองรับการเติบโตของเมืองใหญ่ พร้อมไปด้วยโครงข่ายคมนาคมแห่งอนาคตและพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่เชื่อมโยงรถไฟฟ้าสำคัญถึง 5 สาย รายล้อมไปด้วยที่เที่ยว ร้านอาหาร แต่ยังคงอารยธรรมวิถีชีวิตแบบเดิมไว้ให้ได้เรียนรู้ เรามาทำความรู้จัก บางซื่อกันว่าย่านนี้จากอดีตจนถึงวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง โดยในอดีตพื้นที่ส่วนใหญ่บริเวณนี้เป็นสวนผลไม้มีการจับจองที่ดินทำกินและเป็นที่อยู่อาศัยมาอย่างยาวนาน ในยุคถัดมามีความเป็นสวนลดน้อยลง บริเวณที่อยู่ติดถนนสายหลักกลายเป็นอาคารพาณิชย์เพื่อการค้า พื้นที่ในตรอกซอยเปลี่ยนเป็นอาคารบ้านเรือนทำให้มีความเป็นชุมชนที่หนาแน่นขึ้น ซึ่งเขตบางซื่อตั้งอยู่บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาหรือฝั่งพระนคร มีอาณาเขตทิศเหนือติดกับอำเภอเมืองนนทบุรี ทิศตะวันออกติดกับเขตจตุจักร ทิศใต้ติดกับเขตพญาไทและเขตดุสิต ส่วนทิศตะวันตกติดกับเขตบางพลัดและอำเภอบางกรวยจังหวัดนนทบุรี โดยที่มาของชื่อบางซื่อคือ “บาง” หมายถึงทางน้ำเล็กๆ ในภาษามอญโบราณ “ซื่อ” คือทางตรง บางซื่อก็น่าจะหมายถึงแนวคลอง ที่ไหลผ่านระยะนี้ในลักษณะค่อนข้างตรง และจากนิทานที่เล่ากันเกี่ยวกับบริเวณนี้ คือครั้งที่พระเจ้าอู่ทองให้นำทองที่บรรทุกมาไปซ่อนบริเวณบางซ่อน ต่อมาเมื่อมีคนถามคนในบริเวณนั้นก็บอกที่ซ่อนทองให้ คนทั้งหลายจึงเห็นว่าคนเหล่านั้นมีความซื่อสัตย์จึงเรียกบริเวณนี้ว่า “บางซื่อ” นอกจากนี้ ชื่อบางซื่อถือเป็นชื่อที่ปรากฏในนิราศพระบาท ของสุนทรภู่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 อย่างไรก็ตามบางซื่อได้กลายเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมากมาย รวมถึงประชากรที่หนาแน่น และยังเป็นHubด้านการคมนาคมเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชนหลักทั้งMRT/ BTS ทางด่วน 2 เส้น รถเมล์สาธารณะอีก 4 สายและเรือสาธารณะ 3



"สถานีกลางบางซื่อ" ชุมทางรถไฟขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน

“ถึงบางซื่อชื่อบางนี้สุจริต” หลายคนคงคุ้นหูวรรคนี้จากนิราศพระบาท ที่สุนทรภู่ประพันธ์ขึ้นเมื่อครั้งเดินทางไปย่านบางซื่อ ดังเช่นในอดีตที่ผู้คนสัญจรทางเรือผ่านแม่น้ำลำคลอง ปัจจุบันเราสามารถทะลุซอกซอยไปตามท้องถนนต่างๆ การสัญจรที่เจริญอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟทั้งบนดิน ใต้ดิน ซึ่งบางซื่อเป็นศูนย์กลางการคมนาคมในพื้นที่ที่สำคัญ สำหรับใครที่ผ่านไปมาแถวหลังสวนจตุจักรหรือขับรถบนทางด่วนผ่านแถวบางซื่อจะต้องเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่บริเวณดังกล่าว จากเดิมที่เป็น “สถานีรถไฟบางซื่อ” สถานีรถไฟขนาดย่อมให้บริการรถไฟสายทางไกล ผ่านมาจากสายเหนือและสายใต้ ปัจจุบันนี้สถานีบางซื่อเปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ผ่านกระบวนการก่อสร้างมากกว่า 10 ปี สถานีรถไฟแบบเก่าได้หายไปและแทนที่ด้วยความใหญ่โตของสถานีบางซื่อแห่งใหม่ ที่มีอาคารใหญ่ สูงกว่า 4 ชั้น ขนานไปกับทางด่วนและหากมองลงมาเบื้องล่าง ก็จะเห็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบอย่างสวยงาม มาพร้อมทั้งส่วนโรงซ่อมรถไฟ พร้อมชื่อใหม่ว่า “สถานีกลางบางซื่อ (Bang Sue Grand Station)” ที่มาพร้อมความอลังการงานสร้าง ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางระบบรางใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งจะเป็นสถานีรถไฟหลักแห่งใหม่ของประเทศไทยที่รวมรถไฟทุกๆ ระบบ ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางไกล สายเหนือ อีสาน ใต้ ตะวันออก ตะวันตก รถไฟสายสีแดง แอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์และยังเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้ามหานครอีกด้วย หรือกล่าวได้ว่าสถานีแห่งนี้คือสถานีหัวลำโพง ที่ย้ายการให้บริการมาที่สถานีบางซื่อเพราะปัจจุบันหัวลำโพงค่อนข้างคับแคบ ตั้งอยู่กลางเมือง ที่ขยับขยายไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นโบราณสถานที่อยู่ในเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นใน เมื่อรถไฟเข้ามาในหัวลำโพงจะทำให้การจราจรในเขตเมืองติดหนัก เนื่องจากมีจุดตัดรถไฟมาก จึงทำให้หัวลำโพงย้ายออกมาอยู่ที่สถานีรถไฟบางซื่อแทน จนกลายมาเป็นสถานีบางซื่อในปัจจุบัน โดยพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี พ.ศ. 2564 ภายใต้พื้นที่กว่า 120 ไร่



ปัญหาเด็กติดจอและวิธีแก้

ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์ต่างๆ ที่แทบจะกลายเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งในร่างกายของเราไปแล้ว สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์ที่พ่อแม่สามารถใช้ช่วยในการเลี้ยงลูกได้ ได้แก่ การใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร หรือใช้เป็นสื่อในการสอน เช่น วิดีโอนิทานจากยูทูป เพลงหัดอ่าน หรือเกมส์สำหรับหัดเขียน หรือท่องคำศัพท์ แต่ถ้าใช้บ่อยหรือใช้เป็นเวลานานเกินไป อาจทำให้ลูกติดโทรศัพท์มือถือจนลืมสนใจสิ่งรอบข้าง จนเสี่ยงต่ออาการสมาธิสั้น ทั้งยังส่งผลเสียต่อดวงตาและ สมองอีกด้วย

ในฐานะพ่อแม่ต้องเข้าใจถึงผลลัพธ์ที่ตามมาของการเสพสื่อเหล่านี้และต้องรู้วิธีการจัดการเมื่อลูกใช้เวลากับหน้าจอจนเกินขอบเขต

1. ทำความเข้าใจว่าปัจจุบันนี้การเลี่ยงหน้าจอเป็นไปได้ยากมาก ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็เข้าข่ายติดสมาร์ตโฟนกันทั้งนั้น เพราะเจ้าสมาร์ตโฟนเครื่องนี้ ได้รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว รวดเร็ว สะดวก ให้ความบันเทิง ใช้ทำงาน ใช้เล่นเกมได้ สำหรับเด็กเองก็มีแอพพลิเคชันหรือสื่อการสอนที่ผ่านหน้าจอมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ตอนอายุยังน้อยมากอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ แต่เมื่อถึงวัยหนึ่ง อาจจะต้องใช้สมาร์ตโฟนในการทำการบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูล ใช้โซเชียลมีเดียต่างๆติดต่อสื่อสาร เพราะในยุคนี้และในอนาคตคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ใช้หน้าจอ ซึ่งเราต้องสอนลูกว่าจะอยู่กับตัวนี้อย่างไรเพื่อให้เป็นประโยชน์มากกว่าให้โทษ

2. อย่าปล่อยให้ลูกเล่นมือถือเพียงลำพัง ผู้ปกครองส่วนใหญ่เวลาให้ลูกเล่นสมาร์ตโฟนคิดแต่จะให้ลูกเล่นเพื่อให้ลูกอยู่นิ่ง ไม่กวนการทำงาน หรือให้ลูกหยุดร้องไห้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง ผู้ปกครองควรสอดส่องดูแล อยู่กับลูกเวลาลูกเล่น คอยดูว่าเค้าเล่นอะไรเหมาะสมไหม และให้คำแนะนำพร้อมอธิบายระหว่างลูกเล่นด้วย เพื่อเป็นการเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ไปในตัว เพราะเด็กเล็กยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนควรทำหรือไม่ควรทำและป้องกันพฤติกรรมการเลียนแบบที่อาจกลายเป็นปัญหาในอนาคตได้

3. กำหนดระยะเวลาที่แน่นอน ก่อนอื่นต้องหาความรู้และมีข้อมูลว่าเด็กแต่ละวัยควรจะอยู่กับหน้าจอได้นานแค่ไหน เพื่อที่จะสามารถกำหนดเวลาที่เหมาะสมให้กับลูกเราได้ เช่นเด็ก 2 ขวบ ไม่ควรอยู่กับหน้าจอเกินวันละครึ่งชั่วโมง ผู้ปกครองควรจัดสรรเวลา จำนวนครั้งในแต่ละวันโดยจะต้องมีการตกลงกัน หาหมดเวลาสำหรับการเล่น บอกให้เลิกก็คือต้องเลิกและคอยเตือนเมื่อใกล้หมดเวลาเค้าจะได้รู้ตัวว่าใกล้ถึงเวลาต้องเลิกแล้ว

4. ใช้เวลาอยู่กับลูก หากิจกรรมอื่นทำ สิ่งที่ดีที่สุดคือช่วยลูกทำกิจกรรมอย่างอื่นที่สร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันทั้งในบ้านและนอกบ้าน ให้เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กแต่ละวัย แม้ว่าผู้ปกครองอาจจะเหนื่อยแต่คุ้มค่าในระยะยาว หรือลองสังเกตจากเกมที่ลูกเล่นและหากิจกรรมใกล้เคียงกับเกมมาเล่นเพื่อทดแทนให้ลูกและสายตาจากจอออกมาสนใจโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้น