รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ใน สมุทรปราการ

รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ใน สมุทรปราการ

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

เมธาวี ธีระธัมปิยปัญญา
เมธาวี ธีระธัมปิยปัญญา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 40 ปี

ขยันทำงาน รับผิดชอบ มีจรรยาบรรณ ใส่ใจดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดีค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ณัฎฐ์ชญานิศ ศรีสุขรัตนา
ณัฎฐ์ชญานิศ ศรีสุขรัตนา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

สถานภาพโสด ไม่มีครอบครัว อยู่กับพ่อและแม่มาตลอดคะ ตอนนี้ทั้งสองอายุ85และ86ปี จึงเข้าใจการดูแลผู้สูงอายุอย่างดี ทำอาหารให้ท่านทานดูแลการออกกำลังกายสำหรับคนสูงวัย คุยสนทนาอย่างสม่ำเสมอ มีเรื่องขำๆเล่าให้ฟัง อย่าให้ท่านเหงาคะ

แสดงเพิ่มเติม
วาสนา ฮวดใจการ
วาสนา ฮวดใจการ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ประวัติการทำงานค่ะ

ทำงานมา 5/6 ปีค่ะ จบNa

เคสผ่านทำเคส / คนไข้เจาะคอทำแผล เฟซ suction ส่วนฉี่ ล้วงถ่าย กายภาพ และเคสคนไข้อัลไซเมอร์ ค่ะ

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ น.ส วาสนา ฮวดใจการ

ชื่อเล่น เก๋

หนัก89 สูง 165

เกิด วันอังคาร 27 เมษายน 2527

สัญชาติ ไทย เชื้อชาติ ไทย

ศาสนาพุทธ สถานภาพ บุตรสาว 2 คนค่ะ

พักอาศัยอยู่

เรืองวาอพาร์ทเม้น ..

273 หมู่ 2 ต.บางจาก

อ.พระประแดง

จ.สมุทรปราการ

ปณ.10130

เก๋ - 094-3651322

แสดงเพิ่มเติม
วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai อายุ 54 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนมากเป็นอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุที่ช่วยตัวเองได้ค่ะ ไม่ฟิตอาหาร ช่วยพยุงเดิน ใช้ไม้ค้ำ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

หาคนอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุนี่อาจจะยังไม่ค่อยฮิตในไทยเท่าไหร่ แต่สำหรับใครที่มีคนเฒ่าคนแก่อยู่บ้านคนเดียวตลอดลองใช้บริการนี้ของใส่ใจกันดูเถอะค่ะ เพราะคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปจริง ๆ
Saijai
วราภรณ์ บุตรธงไชย
4 ปีที่แล้ว
โชคดีเจอพี่คนดูแลจากเว็บใส่ใจ บ้านเค้าอยู่แถวนี้ด้วย สามารถมาช่วยดูแลคุณตาให้ได้วันจันทร์-ศุกร์ พี่เค้าช่วยเราได้มากเพราะนอกจากจะช่วยอยู่เป็นเพื่อนคุณตาแล้ว ยังช่วยให้ท่านผ่อนคลายความเครียด ความกังวล ช่วยอ่านหนังสือและเล่นหมากรุกกับคุณตาด้วย คุณตาอารมณ์ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ
Saijai
สุชลิตา จินดา
4 ปีที่แล้ว
ย่าผมเพิ่งเสียไปไม่นานครับ เหลือแต่ปู่ต้องอยู่คนเดียว พ่อกับแม่ผมกลัวปู่เหงาเวลาคนในบ้านไปทำงาน เลยจ้างผู้ดูแลจากใส่ใจมาครับ ทางบ้านค่อนข้างมีข้อจำกัดเรื่องเงินด้วยครับ แต่พอตกลงราคากันแล้ว ก็ไม่แพงอย่างที่คิด รวมถึงพนักงานมีประสบการณ์อย่างเห็นได้ชัดเลยครับ ทำหน้าที่ได้เป็นมืออาชีพมาก
Saijai
กรรชัย มีสุวรรณ
4 ปีที่แล้ว
จ้างคนมาอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ที่บ้าน เพราะไม่อยากให้คุณแม่รู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยว คุณแม่อารมณ์ดีขึ้นค่ะ ดูมีความสุข ตัวเราเองก็แฮปปี้ สบายใจ
Saijai
มาญา ราชบุรุษ
4 ปีที่แล้ว
หลังจากเข้าไปหน้าเพจ บริการอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ เราสามารถเห็นรูป อ่านประวัติ ดูประสบการณ์ทำงาน ได้อย่างละเอียด ก่อนมีการพูดคุย รายละเอียด ทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ง่ายและท้ายที่สุด เราดีใจ ที่ได้ใช้บริการของใส่ใจ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ได้ผู้ดูแลตรงตามที่เราต้องการ
Saijai
ปรียา อรรถจิรานนท์
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ

ทำไมจึงไม่ควรให้ผู้สูงอายุ หรือคนชราอยู่ตามลำพัง
ข้อมูลจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พบว่าสถิติประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าภาพรวมของประชากรในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2553-2573 จะอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่า “สังคมสูงวัย (Aged Society)” และอาจเข้าสูงสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ภายในอีก 10 ปีหลังจากนั้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากสภาพการทำงานและสังคมก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน และอาจทำให้ผู้สูงอายุต้องอยู่บ้านตามลำพังมากขึ้น แม้ผู้สูงอายุบางคนจะสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในสังคมได้ แต่ต้องยอมรับว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เองตามที่ใจต้องการ เนื่องด้วยสภาพร่างกายและสิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เราจึงไม่ควรให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพัง เพราะผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างคล่องแคล่ว การต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านหรือทำอะไรตามลำพังอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ต่อตัวผู้สูงอายุได้ เช่น หากปล่อยให้ผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวลำบากต้องเดินขึ้น-ลงบันไดเองนั้น อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และหากไม่มีคนอยู่ในบ้าน ผู้สูงอายุเองก็ไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้เช่นกัน อีกปัญหาหนึ่งที่เกิดจากการให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังคือปัญหาทางสภาพจิตใจนั่นเอง เมื่อไม่มีคนคอยอยู่เป็นเพื่อนหรือพูดคุยและรับฟัง ผู้สูงจะรู้สึกเหงา เกิดอาการเครียด และมีภาวะซึมเศร้าในที่สุด ดังนั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ ผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยอาจจะเป็นคนในครอบครัวเอง หรือจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพมาดูแลได้เช่นกัน


คุณสมบัติของผู้ให้บริการอยู่ป็นเพื่อนผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
คุณสมบัติของผู้ให้บริการอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง?

1. บรรลุนิติภาวะ เพราะบุคคลเหล่านี้จะมีวุฒิภาวะที่เพียงพอ สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ เพราะผู้สูงอายุนั้นถือว่าเป็นวัยที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
2. มีใจรักในงานบริการ มีความอดทนและสามารถอยู่เป็นเพื่อนพูดคุยกับผู้สูงอายุได้ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ต้องการความรักความเอาใจใส่จากลูกหลาน ในบางครั้งก็ต้องการคลายความเหงาโดยการหาเรื่องมาเล่ามากมาย หากผู้ดูแลคอยเอาใจใส่ อยู่เป็นเพื่อนคอยรับฟังและพูดคุยกับผู้สูงอายุตลอดก็อาจทำให้ได้รับความรักจากผู้สูงอายุกลับมาเช่นกัน
3. ผู้ที่อยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุนั้นจะต้องเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ มีสุขอนามัยที่ดีและบุคลิกภาพที่ดีเช่นกัน ในวัยของผู้สูงอายุนั้นถือเป็นวัยที่ค่อนข้างอ่อนแอ หากผู้ดูแลที่มีโรคประจำตัว หรือสุขภาพไม่แข็งแรงมาอยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุตลอดเวลา ก็อาจเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อให้กับผู้สูงอายุได้
4. มีความกระฉับกระเฉงในการทำงานและสามารถช่วยเหลือผู้สูงอายุในการทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ เช่น การทานอาหาร อาบน้ำ เป็นต้น บางครั้งผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องทานยาก็อาจหลงลืมเวลาในการทานยาได้ ดังนั้น ผู้ดูแลที่อยู่เป็นเพื่อนต้องคอยเตือนผู้สูงอายุถึงเวลาทานยาบ่อย ๆ
5. บุคคลที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุได้นั้นจะต้องสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นเพื่อนผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา เช่น การออกกำลังกาย ดังนั้นควรชวนผู้สูงอายุไปเดินออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุนั้นมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงยิ่งขึ้น
6. มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุ และสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้เป็นอย่างดีเพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุเอง
ผู้ให้บริการดูแลแบบอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหนในประเทศไทย
เนื่องจากแนวโน้มผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้น ทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจและอาชีพใหม่ ๆ เพื่อรองรับและตอบสนองความต้องการของผู้คนในสังคมที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) รูปแบบของธุรกิจที่ขยายตัวควบคู่ไปกับสังคมผู้สูงอายุเน้นไปในด้านการดูแลและอำนวยความสะดวกเพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี เช่น ที่พักอาศัยที่ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพและสุขภาพของผู้สูงวัย อุปกรณ์เสริม เช่น ราวจับ พรมกันลื่น ฯลฯ และงานบริการดูแลผู้สูงอายุ เช่น เนอร์สซิ่งโฮม และผู้ดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น รูปแบบงานบริการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ได้เป็นแค่การดูแลผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ยังมีบริการที่แตกแขนงออกไปอีก เช่น พาผู้สูงอายุไปเที่ยว ไปทำธุระ และไปโรงพยาบาล โดยเฉพาะการไปโรงพยาบาลที่มีขั้นตอนมากมาย ผู้สูงอายุหลายคนต้องเตรียมตัวออกจากบ้านตั้งแต่เช้า เมื่อถึงโรงพยาบาลต้องติดต่อแผนกที่ตนต้องการ ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ที่อาจทำให้ผู้สูงอายุเกิดความงุนงง มีความเบื่อหน่ายที่ต้องรอรับบริการ หากมีคนคอยช่วยเหลือดำเนินการในขั้นตอนเหล่านี้ ดูแลเมื่อผู้สูงอายุต้องเข้าห้องน้ำ พูดคุยเป็นเพื่อนระหว่างรอ จะทำให้ตัวผู้สูงอายุสบายใจและครอบครัวคลายความกังวลไปได้มาก
คนที่อยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุควรทำกิจกรรมใดที่จะส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีจิตแจ่มใส
กิจกรรมสร้างสุขเพื่อสุขภาพจิตที่ดีของผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง

1. การออกกำลังกาย กิจกรรมนี้จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและยังช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้อีกทางหนึ่งด้วย เช่น การเดินออกกำลังกายตามสวนสาธารณะในตอนเช้าหรือตอนเย็น เป็นการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ หรือการออกกำลังกายแบบอื่น เช่น รำไท้เก๊ก Line Dance หรือการเต้นลีลาศ
2. การท่องเที่ยว เป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างความผ่อนคลายในวัยเกษียณหรือวัยผู้สูงอายุได้ดีเช่นกัน ยิ่งถ้าหากได้เดินทางกับกลุ่มเพื่อนที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันด้วยนั้นก็ยิ่งช่วยสร้างความสุขและลดความเบื่อหน่ายให้กับผู้สูงอายุได้เป็นอย่างมาก
3. กิจกรรมทางสังคม เช่น การออกกิจกรรมจิตอาสาต่าง ๆ เช่น ไปเยี่ยมบ้านเด็กกำพร้า หรือสถานพินิจ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้เข้าไปพบปะพูดคุยกับผู้คน
4. กิจกรรมทางประเพณีและศาสนา เช่น การรำกลองยาว การรำหน้านาค ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุมีความสุขทั้งทางกายและทางจิตใจด้วย
5. การเล่นกีฬา อาจจะเป็นเกมในมือถือ หรือเกมง่าย ๆ เช่น หมากรุก เบตอง ที่ช่วยให้ร่างกายของผู้สูงอายุได้เคลื่อนไหวบ้างและยังสนุกอีกด้วย
6. งานอดิเรก อาจจะเป็นการอ่านหนังสือ ทำขนม ทำสวน ปลูกต้นไม้หรือการจัดสวนเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมทั้งการมีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว หรือปลา ก็ช่วยคลายความเหงาได้เช่นกัน