วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
ผู้ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราว ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันเคยดูแลผู้สูงอายุมาประมาณเกือบ4ปีผู้สูงอายุเดินไม่ได้ต้องใช้ไม้เท้า4ขาช่วยการดูแลเบื่องต้นที่เคยทำคืออาบน้ำ ดูแลเรื่องความสะอาดอุจจาระและปัสสาวะ พาไปโรงพยาบาล พานั่งวิลเเชร์ไปเที่ยว ชวนทำกิจกรรมเช่นไปจ่ายตลาดและทำกับข้าวด้วยกันแต่ผู้สูงอายุสามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างเช่นรับประทานอาหารเองได้ และชวนท่านทำกิจกรรมเสมอเพื่อไม่ให้หลงลืม
I am an honest woman without bad habits. I have experience in caring for post-stroke patients and patients with diabetes. You can also cook Thai and European food. If necessary, I can drive a car. (I have a driver's license) And keep the house clean at the request of the owner. Conscientious and kind attitude towards the patient is guaranteed.
ชื่อเล่น เจี๊ยบอายุ ประสบการณ์ ด้าน การทำงาน และการบริบาล-ประสบการณ์ na โรงพยาบาลสุขุมวิท2ปีรับจ๊อบเฝ้าไข้ ความสามารถ ทางด้าน การบริบาล-ทำกายภาพเบื้องต้นได้ -วัดความดัน-วัดไข้ ปรอท-วัด ออกซิเจน ในเลือดได้-ฟีทซักซั่น ปากคอ- ทำแผล กดทับได้ -เช็ดตัว อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ บนเตียงได้ - เคลื่อนย้าย ผุ้ป่วย ได้ -ใส่เครื่อง ออกซิเจนได้ - ดูแลสายปัสสาวะได้ แต่เปลี่ยนสายไม่ได้ -สวนอุจาระได้- ทำอาหาร บด อาหาร สายยาง ได้ - สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ระดับ พอใช้
ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ
1. ผู้ดูแลควรผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง และควรมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุความปลอดภัยตลอดระยะเวลาการดูแ
2. ผู้ดูแลต้องมีใจรักไม่ว่าจะเป็นงานการบริบาล และบริการ มีจิตใจชอบช่วยเหลือและปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
3. มีความอดทนและสามารถเข้าอกเข้าใจผู้สูงอายุเป็นอย่างดีว่าต้องการอะไร เนื่องจากผู้สูงอายุหรือคนชรานั้นเป็นช่วงอายุที่ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนในหลาย ๆ เรื่อง ผู้ดูแลควรรู้ว่าจะต้องดูแลและบริการอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจ
4. มีความดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุ สามารถดูแลและช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นการดูแลเรื่องอาหาร สุขอนามัย และกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ ไปจนถึงการดูแลเรื่องสภาพจิตใจ ผู้ดูแลที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนคุยและทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกับผู้สูงอายุได้เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยว
5. สามารถสื่อสารและรายงานข้อมูลระหว่างการดูแลให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่ได้ทำการว่าจ้างผู้ดูแลมาทำหน้าที่ในส่วนนี้
คุณสมบัติที่กล่าวมาข้างตนนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี หากคุณต้องการให้ผู้สูงอายุในบ้านซึ่งเปรียบเสมือนบุคคลที่คุณรักและเคารพนับถือนั้นมีความสุข โปรดอย่ามองข้ามคุณสมบัติเหล่านี้ไปก่อนเลือกใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านคุณ
1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน
การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย
ความเป็นมา
ชื่อพระโขนง คงไม่ได้เพี้ยนมาจาก ผ้าขนหนู เป็นแน่แท้ และเชื่อได้ว่าหลายๆ คนคงคุ้นชื่อ ‘พระโขนง’ มาจากตำนานหรือภาพยนตร์ที่สร้างหลายครั้งครา บางคนเคยกลัวจนไม่กล้าเก็บมะนาวใต้แคร่อย่าง “แม่นาค พระโขนง” หรือถ้าทันสมัยขึ้นมาหน่อยก็จะได้ยินในอีกชื่อว่า “พี่มาก พระโขนง” ซึ่งถ้าดูจากในหนังจะเห็นเลยว่า วิถีคนในอดีต เดินทางด้วยเรือเป็นหลัก ถ้าหากใช้คำวัยรุ่นสมัยนี้ก็คงพายเรือมาขิงกัน ซึ่งไม่ใช่เพียงย่านพระโขนงเท่านั้น แทบทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯทั้งสองฝั่ง ต่างล้วนใช้การเดินทางทางน้ำเป็นการเดินทางหลัก ในปัจจุบันพระโขนงเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากทั้งด้านคมนาคมที่รถไฟฟ้า BTS เข้ามาแทนที่การเดินทางรูปแบบเดิม ๆ และเปลี่ยนรูปแบบที่อยู่อาศัยจากบ้านเรือนยกใต้ถุนสูง กลายเป็นคอนโดมิเนียมสูงเทียมฟ้า เขตพระโขนงบนพื้นที่ที่น้อยกว่า 18 ตารางกิโลเมตร ที่มีประชากรไม่หนาแน่นมากนักหากเทียบกับเขตอื่นๆ ของกรุงเทพฯพระโขนงมีประชากรอยู่ที่ 88000 คน (พ.ศ2563) พระโขนง เป็นอีกหนึ่งเขตที่มีความน่าสนใจในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย เพราะเติบโตมาจากย่านเมืองเก่าที่มีเรื่องราวหลากหลาย ที่เหมือนชะลอรอเวลาที่จะก้าวตามเขตพื้นที่อื่นๆ อย่างแรกที่จะสัมผัสได้ทันทีเมื่อเข้าสู่เขตย่านพระโขนง ก็คือกลิ่นอายของเมืองเก่าที่น่าจะเคยเฟื่องฟูมาก ๆ ในอดีต แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรและพื้นที่ข้างเคียงจะมีความเจริญมากมายขนาดไหน แต่เขตพระโขนงก็ยังสามารถคงเสน่ห์ของวิถีชีวิตแบบท้องถิ่นย้อนยุคเอาไว้ได้ พร้อมกับปล่อยให้ความเจริญค่อยๆ เข้ามาผสมผสานกับตัวตนของย่านได้อย่างกลมกลืน บรรยากาศมีความคึกคักอยู่ตลอดเวลา ผู้คนที่เดินจับจ่ายใช้สอยภายในเขต ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ จะมีนักท่องเที่ยวหรือคนที่เข้ามาทำงานไม่มากนัก เราจึงได้เห็นความผูกพันบางอย่างของผู้คนกับย่านสะท้อนออกมาด้วย เขตพระโขนงนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้า โรงพยาบาล (โรงพยาบาล กล้วยน้ำไท โรงพยาบาลสุขุมวิท โรงพยาบาล เทพธารินทร์) ธนาคาร อนาคตอันใกล้นี้ จะมีรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิทหรือสายสีเขียวเข้มวิ่งผ่าน และจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทา ท้ายที่สุดแล้วพระโขนง หนึ่งในย่านที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าถนนเส้นนี้มีความสำคัญอย่างมากในการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าของกรุงเทพมหานคร มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่บริเวณเพลินจิตเพลินจิตยาวไปจนถึงเขตพระโขนงและบางนาก่อนจะเข้าสู่จังหวัดทางภาคตะวันออก
วิธีช่วยคนที่คุณรักด้วยภาวะสมองเสื่อมให้นอนหลับฝันดี
หากพ่อแม่หรือผู้สูงอายุที่คุณรักป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมและดูเหมือนพวกเขาไม่เคยนอนหลับสบายเลย ให้ตระหนักว่าปัญหาการนอนหลับนั้นพบได้บ่อยมากในหมู่ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ในความเป็นจริงผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมประมาณ 25 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ประสบปัญหาการนอนหลับ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เชื่อว่าผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมบางรายประสบปัญหารูปแบบการนอนหลับที่ไม่ต่อเนื่องเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสมองที่มีสภาวะสมองลงและส่งผลต่อจังหวะการนอน
แม้จะไม่สามารถควบคุมภาวะความเสื่อมของสมองได้ แต่มีวิธีช่วยให้ผู้ป่วยนอนหลับสบายตลอดคืน ดังนี้
1. หยุดหายใจขณะหลับ
ผู้เชี่ยวชาญประมาณการว่ามากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในสถานพยาบาลระยะยาวต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ โรคนี้เป็นโรคเกี่ยวกับการหายใจที่ทำให้คนเราตื่นขึ้นได้มากถึง 30 ครั้งทุก ๆ ชั่วโมง โดยหอบหายใจขณะหลับเนื่องจากการอุดกั้นทางเดินหายใจขณะนอนหลับ
หากสาเหตุของการนอนไม่หลับที่ไม่ต่อเนื่องเกิดจากการหยุดหายใจขณะหลับ ให้ทำการรักษาอาการหยุดหายใจเพื่อช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น
2. ส่งเสริมการออกกำลังกายและการรับแสงแดดในตอนเช้า
มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าทั้งการออกกำลังกายและการรับแสงแดดในช่วงเช้าช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคสมองเสื่อมนอนหลับได้ดีขึ้น ผู้ดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุสามารถช่วยให้คนที่คุณรักได้รับทั้งแสงและการออกกำลังกาย โดยพาพวกเขาไปเดินเล่นในตอนเช้าหรือตอนบ่าย เมื่อผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุได้ออกกำลังกายมากขึ้นในระหว่างวัน พลังงานจะลดลงและสิ่งนี้สามารถช่วยให้สงบลงในเวลากลางคืน
3. ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่อาจรบกวนการนอนหลับ
หากผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุกำลังใช้ยาหลายชนิดเพื่อช่วยควบคุมอาการสมองเสื่อม ให้ตระหนักว่ายาบางชนิดอาจส่งผลต่อการนอนหลับได้ ผู้ดูแลต้องลองสังเกตว่าอาการนอนหลับไม่หลับของผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุเริ่มขึ้นไม่นานหลังจากที่พวกเขาเริ่มใช้ยาตัวใหม่ นั่นอาจเป็นเพราะฤทธิ์ของยาที่รบกวนการนอน
ลองปรึกษาแพทย์เพื่อปรับตัวยาหรือเวลารับประทานยา บางครั้งการปรับเปลี่ยนเวลารับประทานยา เช่น การทานในตอนเช้าแทนที่จะเป็นตอนเย็น การลดขนาดยาลงเล็กน้อย หรือการเปลี่ยนใช้ยาอื่น อาจทำให้ผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุหลับได้ดีขึ้นในตอนกลางคืน
4. ดูแลภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
การดูแลภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ในผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุช่วยตอนกลางคืนเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุนอนหลับสบาย แต่ยังช่วยป้องกันการติดเชื้ออีกด้วย เช่น การติดเชื้อที่ผิวหนังและทางเดินปัสสาวะ หากจำเป็นผู้ดูแลควรตรวจสอบและเปลี่ยนผ้าอ้อมทุก ๆ 3 ชั่วโมง ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้รบกวนการนอนผู้ดูแลควรเปิดไฟแสงสลัวขณะตรวจดูอุจจาระและปัสสาวะ และทำการเปลี่ยนผ้าอ้อมอย่างนุ่มนวลและรวดเร็วเพื่อให้ผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุนอนหลับอย่างสบาย
ผู้ดูแลผู้สูงอายุคือเพื่อนใหม่ในวัยเกษียณ
หากคุณมีพ่อแม่สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพัง เมื่อสมาชิกในครอบครัวไม่สามารถอยู่ดูแลผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา ผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านอาจเป็นบริการที่เป็นประโยชน์ ผู้สูงอายุจะได้รับความช่วยเหลือเกี่ยวกับกิจกรรมประจำวันและมีเพื่อนแก้เหงา
ประโยชน์จากการใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
1. การแจ้งเตือนยา
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวจะมีปัญหาในการจดจำว่าควรทานยาทุกวันเมื่อใด การขาดยาที่สำคัญอาจมีผลร้ายแรง ข้อดีอย่างหนึ่งของการมีผู้ช่วยดูแลที่บ้านคือพวกเขาจะเก็บบันทึกเวลาและตารางการใช้ยาในแต่ละวันการเตือนความจำเหล่านี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้สูงอายุมีปัญหาเรื่องความจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุจะได้รับประโยชน์อย่างมาก
2. ความช่วยเหลือในการดูแลเรื่องส่วนตัวและอาบน้ำ
3. เตรียมอาหาร
ผู้ดูแลผู้สูงอายุจะช่วยดูแลเรื่องการรับประทานอาหารของผู้สูงอายุ รวมถึงการเตรียมอาหารและดูแลเพื่อให้มั่นใจว่าผู้สูงอายุไม่ละเลยการกินอย่างเหมาะสม ผู้ดูแลจะช่วยสังเกตว่าอาหารประเภทใดหรือเมนูอะไรที่ผู้สูงอายุโปรดปรานและร่วมรับประทานอาหารเป็นเพื่อนกันผู้สูงอายุ สิ่งเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้สูงอายุกินอาหารอย่างมีความสุขและช่วยลดอาการเบื่ออาหารได้
4. ดูแลรักษาความสะอาดเรียบร้อย
การรักษาบ้านให้เป็นระเบียบอาจเป็นงานน่าเบื่อสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวหรือติดเตียงชั่วคราว ดังนั้นผู้ดูแลผู้สูงอายุสามารถแบ่งเบางานบางอย่างรวมถึงการทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ เช่น ล้างจาน ปัดฝุ่น ปูเตียง หรือซักผ้า
5. ช่วยจัดการธุระนอกบ้าน
ผู้ดูแลผู้สูงอายุช่วยเป็นธุระซื้อของที่จำเป็น ทำธุระทั่วไป และยังสามารถเป็นเพื่อนผู้สูงอายุไปหาหมอหรือนัดสำคัญอื่นๆ ได้อีกด้วย
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง