ดูแลผู้สูงอายุ ใน พระโขนง, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน พระโขนง, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

นงนุช  ปั่นแก้ว
นงนุช ปั่นแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เคยทำงานดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ทำทุกอย่างบนเตียง ให้อาหาร ให้ยา เข็ดตัว สวนอุจจาระ เปลี่ยนแพมเพิส ทำความสะอาดที่ดูแล ชอบเอาใจผู้ป่วยเข้าใจเอาใจใส่รักและเคารพผู้ป่วยและนายจ้างซื่อสัตย์จริงใจ แต่ไม่ชอบวุ่นวาย

แสดงเพิ่มเติม
ปนัดดา ราชสี
ปนัดดา ราชสี
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

อดนอนได้ ความอดทนสูงใจรักในงานบริการ ซื้อสัตย์ รักงานชอบคุย

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
4 ปีที่แล้ว
ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
4 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
สะดวก ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเราก็สามารถหาคนดูแลผู้สูงอายุได้ อีกอย่างในเว็บไซต์มีข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้เราได้ศึกษาก่อนทำการจ้างอีกด้วย พอได้อ่านข้อมูลทำให้เราได้รู้วิธีการเตรียมตัวก่อนจ้างคนดูแลมาดูแลคุณแม่ เป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
วิกานดา ทองดี
5 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
5 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

จ้างคนดูแลคนชราที่บ้านดีกว่าส่งไปบ้านพักคนชราอย่างไร?
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญต่อเรา ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย คือผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรานั่นเอง ครั้นเมื่อท่านทั้งหลายอายุมากขึ้นหน้าที่ของคนเป็นลูกเป็นหลานต้องคอยดูแลท่านให้ดีที่สุด หากเป็นไปได้คงไม่มีใครที่อยากให้ผู้สูงอายุที่เรารักต้องไปอยู่บ้านพักคนชราและอยู่ห่างไกลจากครอบครัวอย่างแน่นอน

แต่หากเราอยู่ดูแลท่านเองไม่ได้ เนื่องจากต้องทำงานหรือมีภาระอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ควรจ้างคนมาดูแลที่บ้าน เพื่อความสะดวกของเราเองและความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลโดยเฉพาะ อย่างที่ทราบกันมานานสังคมไทยมีแนวคิดในแบบระบบครอบครัวใหญ่ โดยจะช่วยดูแลกันและกัน ซึ่งอาจแตกต่างจากสังคมของชาวตะวันตก ที่ส่วนมากมักมีค่านิยมให้ผู้สูงอายุไปอยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายชีวิต เพราะคิดว่าสะดวกสบายกว่า และผู้สูงอายุจะได้มีเพื่อนในสังคมวัยเดียวกัน แต่คนไทยโดยส่วนมากไม่คิดแบบนั้น ดังนั้นในครอบครัวของคนไทยจึงต้องการคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้ ความสามารถ อีกทั้งต้องไว้ใจให้ช่วยดูแลญาติผู้ใหญ่ของเราที่บ้านได้

ข้อดีของการมีคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

หลักๆ ก็คือ เราสามารถอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เรารัก ทั้งยังปลอดภัยมากกว่าเพราะยังอยู่ในสายตาของเราได้ตลอด แตกต่างกับการส่งไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลคนชรา ซึ่งอาจจะอยู่ห่างไกล ต้องใช้เวลาเดินทางไปหา โดยเราสามารถเลือกบริการของคนที่จะมาดูแลแบบไปเช้า เย็นกลับ หรือคอยดูแล 24 ชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป โดยส่วนมากแล้วทางบริษัทที่จัดหาคนดูแลผู้สูงอายุจะมีการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพและมีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและลดความกังวลของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร

การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
สิ่งสำคัญที่คนจ้างจะต้องตกลงกับผู้ดูแลผู้สูงอายุคืออะไร
เมื่อคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุไว้คอยดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณ คุณควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนก่อนทำการจ้าง ดังต่อไปนี้

1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง

ความเป็นมา

ชื่อพระโขนง คงไม่ได้เพี้ยนมาจาก ผ้าขนหนู เป็นแน่แท้ และเชื่อได้ว่าหลายๆ คนคงคุ้นชื่อ ‘พระโขนง’ มาจากตำนานหรือภาพยนตร์ที่สร้างหลายครั้งครา บางคนเคยกลัวจนไม่กล้าเก็บมะนาวใต้แคร่อย่าง “แม่นาค พระโขนง” หรือถ้าทันสมัยขึ้นมาหน่อยก็จะได้ยินในอีกชื่อว่า “พี่มาก พระโขนง” ซึ่งถ้าดูจากในหนังจะเห็นเลยว่า วิถีคนในอดีต เดินทางด้วยเรือเป็นหลัก ถ้าหากใช้คำวัยรุ่นสมัยนี้ก็คงพายเรือมาขิงกัน ซึ่งไม่ใช่เพียงย่านพระโขนงเท่านั้น แทบทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯทั้งสองฝั่ง ต่างล้วนใช้การเดินทางทางน้ำเป็นการเดินทางหลัก ในปัจจุบันพระโขนงเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากทั้งด้านคมนาคมที่รถไฟฟ้า BTS เข้ามาแทนที่การเดินทางรูปแบบเดิม ๆ และเปลี่ยนรูปแบบที่อยู่อาศัยจากบ้านเรือนยกใต้ถุนสูง กลายเป็นคอนโดมิเนียมสูงเทียมฟ้า เขตพระโขนงบนพื้นที่ที่น้อยกว่า 18 ตารางกิโลเมตร ที่มีประชากรไม่หนาแน่นมากนักหากเทียบกับเขตอื่นๆ ของกรุงเทพฯพระโขนงมีประชากรอยู่ที่ 88000 คน (พ.ศ2563) พระโขนง เป็นอีกหนึ่งเขตที่มีความน่าสนใจในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย เพราะเติบโตมาจากย่านเมืองเก่าที่มีเรื่องราวหลากหลาย ที่เหมือนชะลอรอเวลาที่จะก้าวตามเขตพื้นที่อื่นๆ อย่างแรกที่จะสัมผัสได้ทันทีเมื่อเข้าสู่เขตย่านพระโขนง ก็คือกลิ่นอายของเมืองเก่าที่น่าจะเคยเฟื่องฟูมาก ๆ ในอดีต แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรและพื้นที่ข้างเคียงจะมีความเจริญมากมายขนาดไหน แต่เขตพระโขนงก็ยังสามารถคงเสน่ห์ของวิถีชีวิตแบบท้องถิ่นย้อนยุคเอาไว้ได้ พร้อมกับปล่อยให้ความเจริญค่อยๆ เข้ามาผสมผสานกับตัวตนของย่านได้อย่างกลมกลืน บรรยากาศมีความคึกคักอยู่ตลอดเวลา ผู้คนที่เดินจับจ่ายใช้สอยภายในเขต ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ จะมีนักท่องเที่ยวหรือคนที่เข้ามาทำงานไม่มากนัก เราจึงได้เห็นความผูกพันบางอย่างของผู้คนกับย่านสะท้อนออกมาด้วย เขตพระโขนงนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้า โรงพยาบาล (โรงพยาบาล กล้วยน้ำไท โรงพยาบาลสุขุมวิท โรงพยาบาล เทพธารินทร์) ธนาคาร อนาคตอันใกล้นี้ จะมีรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิทหรือสายสีเขียวเข้มวิ่งผ่าน และจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทา ท้ายที่สุดแล้วพระโขนง หนึ่งในย่านที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าถนนเส้นนี้มีความสำคัญอย่างมากในการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าของกรุงเทพมหานคร มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่บริเวณเพลินจิตเพลินจิตยาวไปจนถึงเขตพระโขนงและบางนาก่อนจะเข้าสู่จังหวัดทางภาคตะวันออก



วิธีช่วยคนที่คุณรักด้วยภาวะสมองเสื่อมให้นอนหลับฝันดี

หากพ่อแม่หรือผู้สูงอายุที่คุณรักป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมและดูเหมือนพวกเขาไม่เคยนอนหลับสบายเลย ให้ตระหนักว่าปัญหาการนอนหลับนั้นพบได้บ่อยมากในหมู่ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ในความเป็นจริงผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมประมาณ 25 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ประสบปัญหาการนอนหลับ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เชื่อว่าผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมบางรายประสบปัญหารูปแบบการนอนหลับที่ไม่ต่อเนื่องเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสมองที่มีสภาวะสมองลงและส่งผลต่อจังหวะการนอน

แม้จะไม่สามารถควบคุมภาวะความเสื่อมของสมองได้ แต่มีวิธีช่วยให้ผู้ป่วยนอนหลับสบายตลอดคืน ดังนี้

1. หยุดหายใจขณะหลับ

ผู้เชี่ยวชาญประมาณการว่ามากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในสถานพยาบาลระยะยาวต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ โรคนี้เป็นโรคเกี่ยวกับการหายใจที่ทำให้คนเราตื่นขึ้นได้มากถึง 30 ครั้งทุก ๆ ชั่วโมง โดยหอบหายใจขณะหลับเนื่องจากการอุดกั้นทางเดินหายใจขณะนอนหลับ

หากสาเหตุของการนอนไม่หลับที่ไม่ต่อเนื่องเกิดจากการหยุดหายใจขณะหลับ ให้ทำการรักษาอาการหยุดหายใจเพื่อช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น

2. ส่งเสริมการออกกำลังกายและการรับแสงแดดในตอนเช้า

มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าทั้งการออกกำลังกายและการรับแสงแดดในช่วงเช้าช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคสมองเสื่อมนอนหลับได้ดีขึ้น ผู้ดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุสามารถช่วยให้คนที่คุณรักได้รับทั้งแสงและการออกกำลังกาย โดยพาพวกเขาไปเดินเล่นในตอนเช้าหรือตอนบ่าย เมื่อผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุได้ออกกำลังกายมากขึ้นในระหว่างวัน พลังงานจะลดลงและสิ่งนี้สามารถช่วยให้สงบลงในเวลากลางคืน

3. ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่อาจรบกวนการนอนหลับ

หากผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุกำลังใช้ยาหลายชนิดเพื่อช่วยควบคุมอาการสมองเสื่อม ให้ตระหนักว่ายาบางชนิดอาจส่งผลต่อการนอนหลับได้ ผู้ดูแลต้องลองสังเกตว่าอาการนอนหลับไม่หลับของผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุเริ่มขึ้นไม่นานหลังจากที่พวกเขาเริ่มใช้ยาตัวใหม่ นั่นอาจเป็นเพราะฤทธิ์ของยาที่รบกวนการนอน

ลองปรึกษาแพทย์เพื่อปรับตัวยาหรือเวลารับประทานยา บางครั้งการปรับเปลี่ยนเวลารับประทานยา เช่น การทานในตอนเช้าแทนที่จะเป็นตอนเย็น การลดขนาดยาลงเล็กน้อย หรือการเปลี่ยนใช้ยาอื่น อาจทำให้ผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุหลับได้ดีขึ้นในตอนกลางคืน

4. ดูแลภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่

การดูแลภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ในผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุช่วยตอนกลางคืนเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุนอนหลับสบาย แต่ยังช่วยป้องกันการติดเชื้ออีกด้วย เช่น การติดเชื้อที่ผิวหนังและทางเดินปัสสาวะ หากจำเป็นผู้ดูแลควรตรวจสอบและเปลี่ยนผ้าอ้อมทุก ๆ 3 ชั่วโมง ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้รบกวนการนอนผู้ดูแลควรเปิดไฟแสงสลัวขณะตรวจดูอุจจาระและปัสสาวะ และทำการเปลี่ยนผ้าอ้อมอย่างนุ่มนวลและรวดเร็วเพื่อให้ผู้ป่วยสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุนอนหลับอย่างสบาย



ผู้ดูแลผู้สูงอายุคือเพื่อนใหม่ในวัยเกษียณ

หากคุณมีพ่อแม่สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพัง เมื่อสมาชิกในครอบครัวไม่สามารถอยู่ดูแลผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา ผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านอาจเป็นบริการที่เป็นประโยชน์ ผู้สูงอายุจะได้รับความช่วยเหลือเกี่ยวกับกิจกรรมประจำวันและมีเพื่อนแก้เหงา

ประโยชน์จากการใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

1. การแจ้งเตือนยา

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวจะมีปัญหาในการจดจำว่าควรทานยาทุกวันเมื่อใด การขาดยาที่สำคัญอาจมีผลร้ายแรง ข้อดีอย่างหนึ่งของการมีผู้ช่วยดูแลที่บ้านคือพวกเขาจะเก็บบันทึกเวลาและตารางการใช้ยาในแต่ละวันการเตือนความจำเหล่านี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้สูงอายุมีปัญหาเรื่องความจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุจะได้รับประโยชน์อย่างมาก

2. ความช่วยเหลือในการดูแลเรื่องส่วนตัวและอาบน้ำ

3. เตรียมอาหาร

ผู้ดูแลผู้สูงอายุจะช่วยดูแลเรื่องการรับประทานอาหารของผู้สูงอายุ รวมถึงการเตรียมอาหารและดูแลเพื่อให้มั่นใจว่าผู้สูงอายุไม่ละเลยการกินอย่างเหมาะสม ผู้ดูแลจะช่วยสังเกตว่าอาหารประเภทใดหรือเมนูอะไรที่ผู้สูงอายุโปรดปรานและร่วมรับประทานอาหารเป็นเพื่อนกันผู้สูงอายุ สิ่งเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้สูงอายุกินอาหารอย่างมีความสุขและช่วยลดอาการเบื่ออาหารได้

4. ดูแลรักษาความสะอาดเรียบร้อย

การรักษาบ้านให้เป็นระเบียบอาจเป็นงานน่าเบื่อสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวหรือติดเตียงชั่วคราว ดังนั้นผู้ดูแลผู้สูงอายุสามารถแบ่งเบางานบางอย่างรวมถึงการทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ เช่น ล้างจาน ปัดฝุ่น ปูเตียง หรือซักผ้า

5. ช่วยจัดการธุระนอกบ้าน

ผู้ดูแลผู้สูงอายุช่วยเป็นธุระซื้อของที่จำเป็น ทำธุระทั่วไป และยังสามารถเป็นเพื่อนผู้สูงอายุไปหาหมอหรือนัดสำคัญอื่นๆ ได้อีกด้วย