ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน บางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

สมใจ  เจริญสุข
สมใจ เจริญสุข
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ชัยศรี  เผ่าม่วง
ชัยศรี เผ่าม่วง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ชื่อแจ้ค่ะ ทำงานดูแลผู้ป่วย ค่ะ งานที่ดูแลอยู่คือ สวนปัสสาวะวันละ 4 ครั้ง เปลี่ยนแพมเพิส ดูแลเรื่องอาหารและยา รวมทั้งความสะอาดของผู้ป่วย ทำอาหาร และทำงานบ้านได้ทุกอย่างยกเว้นงานสวนค่ะ ประสบการณ์2ปี1เดือน พร้อมเรียนรู้ค่ะถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้

แสดงเพิ่มเติม
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ชื่อเล่น เจี๊ยบอายุ ประสบการณ์ ด้าน การทำงาน และการบริบาล-ประสบการณ์ na โรงพยาบาลสุขุมวิท2ปีรับจ๊อบเฝ้าไข้ ความสามารถ ทางด้าน การบริบาล-ทำกายภาพเบื้องต้นได้ -วัดความดัน-วัดไข้ ปรอท-วัด ออกซิเจน ในเลือดได้-ฟีทซักซั่น ปากคอ- ทำแผล กดทับได้ -เช็ดตัว อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ บนเตียงได้ - เคลื่อนย้าย ผุ้ป่วย ได้ -ใส่เครื่อง ออกซิเจนได้ - ดูแลสายปัสสาวะได้ แต่เปลี่ยนสายไม่ได้ -สวนอุจาระได้- ทำอาหาร บด อาหาร สายยาง ได้ - สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ระดับ พอใช้

แสดงเพิ่มเติม
วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร

กำลังศึกษาหลักสูตร NA ตอนนี้รับงานแม่บ้านออนไลน์ แบบรายชั่วโมงและรายววันค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Pailin Sangmaneepang
Pailin Sangmaneepang
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

I am an honest woman without bad habits. I have experience in caring for post-stroke patients and patients with diabetes. You can also cook Thai and European food. If necessary, I can drive a car. (I have a driver's license) And keep the house clean at the request of the owner. Conscientious and kind attitude towards the patient is guaranteed.

แสดงเพิ่มเติม
เนย แซ่โค้ว
เนย แซ่โค้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
Saijai อายุ 24 ปี

มีประสบการณ์มากกว่า1ปี

แสดงเพิ่มเติม
อรวรรณ  บุ่งนาแซง
อรวรรณ บุ่งนาแซง
Saijai อายุ 36 ปี

สามารถดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา เคสอยู่เป็นเพื่อนได้ค่ะ จัดยา วัดความดัน เจาะเบาหวานได้

แสดงเพิ่มเติม
ทิพปภา อินดี
ทิพปภา อินดี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เคยทำงานเปนแม่บ้านโรงงานที่สมุทรสาคร 10 ปี เป็นแม่บ้านอยู่ลำปาง 6 ตอนทำงานอยู่ลำปางเป็นแม่บ้านและดูแลแม่นายจ้างด้วยค่ะ ให้บริการดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา อยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
Wanwisa Jaiaree
Wanwisa Jaiaree
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล ดูแลผู้สูงอายุด้านอายุกรรมศาสตร์ รพ.ศิริราช 5 ปี อยู่ รพ.เอกชนใน จ มหาสารคาม 1 ปี แผนก ผู้ป่วยนอกและแผนก ฉุกเฉิน ออก EMS เป็นครั้งคราว เคยรับเฝ้าไข้ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยผ่าตัดสะโพก ผู้ป่วยสับสนอายุเยอะ ผู้ป่วยทางโรคมะเร็ง

แสดงเพิ่มเติม
ฐิติรัตน์ จันทวงษ์
ฐิติรัตน์ จันทวงษ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนที่รูปร่างสูงใหญ่ สามารถประคอง พยุง ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่สูงได้สบายๆ อดทนกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยได้ดี ไม่วีน ไม่เหวี่ยง สะดวกรับงาน freelance เพราะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai อายุ 54 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนมากเป็นอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุที่ช่วยตัวเองได้ค่ะ ไม่ฟิตอาหาร ช่วยพยุงเดิน ใช้ไม้ค้ำ

แสดงเพิ่มเติม
จันทร์ทิพย์ ธีระ
จันทร์ทิพย์ ธีระ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 42 ปี
บีบีซาหรา ลาฮิม
บีบีซาหรา ลาฮิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
รัฐฑี มีกระแส
รัฐฑี มีกระแส
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

อัธยาสัยดี ยี้มแย้ม พูดจาดีใจเย็น มีความอดทนสุง

แสดงเพิ่มเติม
นวพร   พานา
นวพร พานา
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ประสบการณ์ 6 ปีกว่า

เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส ยิ้มง่ายเข้ากับคนป่วยได้ดี ไม่มีหงุดหงิดใส่คนไข้ เป็นคนใจเย็น ชวนพูดชวนคุย

แสดงเพิ่มเติม
อนันธิดา  หงษ์คำภา
อนันธิดา หงษ์คำภา
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 44 ปี

ประสบการณ์ ดูแลผู้ป่วยกายภาพ อาบน้ำ จัดยาเปลี่ยนแพมเพิส วัดความดันวัดไข้ ฉีดยาเบาหวาน

แสดงเพิ่มเติม
ประภาพร พัฒนะแสง
ประภาพร พัฒนะแสง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

บุคคลิคนิ่งๆ แต่เข้าหาคนง่าย รับผิดชอบในการทำงาน

เคยประจำที่ icu มากว่า 5ปี ยิ่งผุ้สูงอายุ่ที่ชอบเล่าความหลัง นั่งฟังนั่งซักได้ทั้งวัน

แสดงเพิ่มเติม
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
4 ปีที่แล้ว
ราคาไม่สูงเหมือนจ้างพยาบาลตามโรงพยาบาล และผู้ดูแลยังมีประสบการณ์ มั่นใจ หายห่วงเลยค่ะ
Saijai
ศรีรัตน์ สุขสวัสดิ์
4 ปีที่แล้ว
หาข้อมูล เจอเว็บใส่ใจ ที่มีพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ ลองอ่านประสบการณ์เลย เจอจิต (พี่เลี้ยงดูแลพ่อ) ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลในเว็บทำให้พวกเราไม่ยากที่จะตัดสินใจ จิตทำงานดีมากเข้ากับคุณพ่อได้ดี ขอบคุณใส่ใจค่ะ
Saijai
พชร ต้นไกลสุทธฺ์
4 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
4 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร
หากคุณกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชรา อยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง ควรทำอย่างไร

การเลือกแม่บ้านหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย วัยชรา แม้จะคล้ายกับการดูแลเด็ก แต่มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียด เช่น เรื่องอาหารการกิน การทานยา และเรื่องของการอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกใช้บริการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้น เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย ใกล้ชิดลูกหลาน และได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามสภาพวัย ของผู้สูงอายุ หากเราต้องทำงานไปด้วยนั้นหมายถึงเราต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล เราสามารถลดความกังวลนั้นได้อย่างไร หากกังวลเรื่องอาหารการกิน การทานยาของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านลำพัง การที่ได้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เข้ามาดูแลปัญหาเรื่องการทานอาหาร ทานยาไม่ตรงเวลาก็จะหมดไป เมื่อเราได้สรุปงาน หน้าที่ของผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำตามตารางเวลาการทำงานที่เราได้จัดขึ้น แม้เราไม่อยู่เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เราต้องคิดว่า เมื่อเราต่างออกไปทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท่านอาจจะรู้สึกเหงาและเบื่อหน่าย หรือบางครั้งเราเองอาจจะรู้สึกกังวลหากเขาหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน แต่การมีผู้ดูแลผู้สูงอายุมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกดี หมดกังวลและไม่เบื่อหน่าย อาจมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุฝึกคิด หรือบางครั้งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ดูแลยังสามารถพาไปออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุผ่อนคลายได้อีกด้วย กังวลเรื่องการดูแลทุก ๆ รายละเอียด ข้อนี้ถือว่าดีมากเนื่องจากพี่เลี้ยงที่จ้างมาดูแลผู้สูงอายุในบ้าน จะทำหน้าที่แทนเราทุกอย่าง เช่น เช็ดตัว ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยที่ไม่รังเกียจ เพราะมีการอบรมมาเป็นอย่างดี ช่วยดูแลขณะที่เราไม่อยู่ ความกังวลทั้งหมดนี้จะหมดไปหากเราเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ใส่ใจในงานบริการ แม้อยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล ก็ไม่ต่างกับเราดูแลท่านเอง
สิ่งสำคัญที่คนจ้างจะต้องตกลงกับผู้ดูแลผู้สูงอายุคืออะไร
เมื่อคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุไว้คอยดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณ คุณควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนก่อนทำการจ้าง ดังต่อไปนี้

1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง

วิถีชีวิตของชาวปากคลองบางกอกน้อย

ย่านปากคลองบางกอกน้อยฝั่งเหนือ เป็นถิ่นฐานของคนไทยและมุสลิมแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร มานานกว่า 200 ปี ต่างมีประวัติศาสตร์ร่วมกัน เข้าใจกัน พึ่งพาอาศัยกันและอยู่ร่วมกันอย่างสุขสงบตลอดมาจนทุกวันนี้ ย่านปากคลองบางกอกน้อยฝั่งเหนือ ในที่นี้หมายถึงพื้นที่ฝั่งเหนือของคลองบางกอกน้อย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในแขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร มีอาณาบริเวณจากปากคลองขนานไปตามคลอง บางกอกน้อย ทิศเหนือจรดสะพานพระปิ่นเกล้าและถนนพระปิ่นเกล้า ทิศใต้จรดคลองบางกอกน้อย ทิศตะวันออกจรดแม่น้ำเจ้าพระยา และทิศตะวันตกจรดถนนจรัญสนิทวงศ์ ย่านนี้ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของชุมชนวัดดุสิดาราม ชุมชนมัสยิดอันซอริซซุนนะห์ (มัสยิดหลวงบางกอกน้อย) และชุมชนสันติชนสงเคราะห์ (การเรียกชุมชน ในที่นี้ไม่ได้คำนึงหรือเน้นพื้นที่การปกครองของกรุงเทพมหานคร แต่เป็นการกำหนดพื้นที่ทางวัฒนธรรมแต่ละแห่งไว้เพื่อสะดวกในการศึกษาต่อไป) ย่านปากคลองบางกอกน้อยฝั่งเหนือเคยเป็นชุมชนชาวสวนมานับแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายด้วย พื้นที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองบางกอกน้อย อีกทั้งยังมีลำคลองแยกหลายคลองทำให้พื้นที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะต่อการตั้งถิ่นฐานและทำการเกษตรกรรม เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงแก่พม่าใน พ.ศ. 2310 มีการย้ายราชธานีลงมาอยู่กรุงธนบุรี (พ.ศ. 2310-2325) และกรุงเทพมหานคร (พ.ศ. 2325- ปัจจุบัน) ซึ่งเป็นบริเวณสองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใจกลางพระนครอยู่บริเวณพระราชวังเดิม (ฝั่งตะวันตก) และพระราชวังหลวง (ฝั่งตะวันออก) ไม่ไกลย่านปากคลองบางกอกน้อยฝั่งเหนือซึ่งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยานัก นอกจากนี้ภายหลังเสียกรุงศรีอยุธยาได้มีการอพยพของผู้คนจากกรุงศรีอยุธยาลงมาตั้งถิ่นฐานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นกลุ่มคนไทยรวมตัวกันอยู่บริเวณปากคลองบางกอกน้อย มีวัดเสาประโคนหรือวัดดุสิดารามเป็นศูนย์รวมจิตใจ ถัดเข้าไปจะมีชุมชนมุสลิมตั้งบ้านเรือนกลุ่มเล็กๆ บริเวณสุเหร่าหลวงบางกอกน้อย และถัดเข้าไปอีกเป็นชุมชนกลุ่มใหญ่ขึ้นคือสันติชนสงเคราะห์ นอกจากนี้ยังมีคนจีนกลุ่มเล็กๆ กระจายตัวแทรกอยู่ในย่านนี้ทำมาหากินค้าขาย และอยู่ร่วมกันมาช้านาน



แนะนำผู้สูงวัยให้ใช้เทคโนโลยีให้ทันกับยุคสมัย

ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง จนมีข้อกังวลว่า ผู้สูงอายุที่ตามไม่ทันจะกลายเป็นกลุ่มที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังแล้วสถานการณ์โควิด 19 อาจกลายเป็นตัวเร่งให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยีดิจิตอลเนื่องด้วยผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ ในหลาย ๆ ประเทศได้มีการขอความร่วมมือให้ผู้สูงอายุกักตัวอยู่บ้านและงดการเข้าเยี่ยมบ้านพักคนชรา การติดต่อสื่อสารและการเรียนรู้ได้ถูกย้ายไปสู่โลกออนไลน์ ในขณะที่ผู้สูงอายุหลายคนยังรู้สึกประหม่ากับการใช้อินเทอร์เน็ต แอพพลิเคชั่น และโปรแกรมต่างๆ ดังนั้นผู้สูงอายุควรได้เรียนรู้ในด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้เท่าทันยุคสมัย โดยเคล็ดลับของการสอนสิ่งเหล่านี้ให้แก่ผู้สูงอายุ มีข้อสรุปแนวทางการสอนไว้ 8 ข้อคือ

1. อธิบายให้เห็นความสำคัญ เช่นการใช้ App สื่อสารจะช่วยให้คุณปู่คุณย่าสามารถติดต่อกับเพื่อนเก่า ๆ หรือคุยกับลูกหลานได้

2. ใช้ภาษาง่าย ๆ ในการสื่อสาร กับผู้สูงอายุหรืออาจจะใช้ศัพท์ที่ไม่ใช่คำศัพท์เชิงเทคนิคมากเกินไป

3. สอนแบบค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป อธิบายเป็นขั้นเป็นตอน หรือทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย

4. จดบันทึก โดยให้ผู้สูงอายุเขียนขั้นตอนลงในบันทึกช่วยจำเมื่อไหร่ที่ลืม สามารถย้อนกลับมาดูรายละเอียดในสมุดนั้นได้

5. ความอดทน ความอดทนในการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับผู้สูงอายุนั้นเป็นสิ่งสำคัญ การเรียนรู้สิ่งใหม่เป็นเรื่องที่ยากเสมอ ความอดทนจึงเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยี

6. สร้างความมั่นใจให้กับผู้สูงอายุ เช่น แสดงความยินดีเมื่อผู้สูงอายุสามารถทำสำเร็จเล็กๆน้อยๆ จะช่วยให้พวกเขามีกำลังใจในการเรียนรู้ต่อไป

7. สร้างความเคยชิน โดยแนะนำให้ผู้สูงอายุโหลดเกมปริศนาหรือเกมฝึกสมองต่างๆในโทรศัพท์เพื่อให้พวกเขารู้สึกคุ้นเคยกับการใช้ปุ่มและการทัชสกรีน

8. ให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยในการใช้อินเทอร์เน็ต โดยอาจจะแนะนำเรื่องการตั้งค่ารหัสผ่าน และกำชับว่าอย่าส่งข้อมูลส่วนบุคคลทางอีเมล์หรือช่องทางอื่น ๆ โดยเด็ดขาด



สิ่งที่ควรทำในการดูแลผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มวัยที่ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะผู้สูงอายุส่วนมากนอกจากจะมีความเสื่อมของร่างกายตามวัยแล้ว ยังอาจมีโรคเรื้อรังที่ต้องการดูแล เช่น

1. โรคเบาหวาน

2. โรคความดันโลหิตสูง

3. หัวใจและหลอดเลือด

4. โรคกระดูกพรุน

5. โรคมะเร็ง

การที่ผู้สูงอายุจะมีสุขภาพแข็งแรงมีอายุยืนยาวอย่างมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้นั้น ไม่เพียงแต่การเตรียมความพร้อมหรือการปฏิบัติตัวผู้สูงอายุเองเท่านั้น ลูกหลาน ครอบครัวควรใส่ใจดูแลผู้สูงอายุด้วย ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพจิตที่ดี สมาชิกในครอบครัวอันประกอบด้วย ลูกหลาน ฯลฯ 10 ข้อควรปฏิบัติต่อผู้สูงอายุ ดังต่อไปนี้

1. ช่วยนำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตนเองยังมีคุณค่า มีความสำคัญและมีความหวังในชีวิต เช่น ขอคำแนะนำต่าง ๆ ขอความช่วยเหลือจากผู้สูงอายุให้ควบคุมดูแลบ้านเรือน เป็นที่ปรึกษาอบรมเลี้ยงดูลูกหลาน

2. ควรระมัดระวังคำพูด หรือการกระทำที่แสดงออกต่อผู้สูงอายุ เน้นความสำคัญของผู้สูงอายุเป็นอันดับแรก ตัวอย่างเช่น เวลารับประทานอาหารเชิญชวนให้รับประทานอาหารก่อนและตักข้าวให้

3. ชวนผู้สูงอายุเล่าเรื่องเหตุการณ์ประทับใจในอดีตของท่านให้ฟัง และรับฟังอย่างตั้งใจ จะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่า ยังมีคนชื่นชมและสนใจเรื่องราวบางส่วนของชีวิตของตนอยู่

4. อำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุปฏิบัติกิจกรรมที่น่าสนใจต่าง ๆ เช่น เมื่อผู้สูงอายุต้องการไปวัดหรือศาสนสถาน ลูกหลาน ควรจัดเตรียมข้าวของให้ และจัดการรับส่งหรือไปเป็นเพื่อน

5. เอาใจใส่ดูแลเรื่องอาหาร และการออกกำลังกายหรือทำงานตามความถนัดให้เหมาะสมกับวัย

6. ที่พักอาศัย หากผู้สูงอายุต้องการแยกบ้านอยู่ หรือต้องการไปอยู่สถานที่ที่รัฐจัดให้ก็ควรตามใจ และพาลูกหลานไปเยี่ยมเมื่อมีโอกาส ถ้าหากผู้สูงอายุรู้สึกเป็นสุขและต้องการอยู่ร่วมกับลูกหลาน ก็ให้อยู่บ้านเดียวกัน เพื่อเกิดความรู้สึกอบอุ่น

7. ช่วยให้ผู้สูงอายุมีโอกาสพบปะสังสรรค์กับญาติสนิท และเพื่อนร่วมวัยเดียวกัน โดยการพาไปเยี่ยมเยียน หรือเชิญเพื่อนฝูงญาติมิตร มาสังสรรค์ที่บ้านเป็นที่คลายเหงา พาไปสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมของผู้สูงอายุ เช่น วัด หรือชมรมผู้สูงอายุในชุมชน

8. ให้ความสำคัญเห็นคุณค่าและเคารพยกย่องนับถือ ด้วยการเชื่อฟังคำสั่งสอนและข้อแนะนำจากผู้สูงอายุ ร่วมมือกันรักษาฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีเดิมของไทย เช่น ประเพณีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเนื่องในวันสงกรานต์ เป็นต้น

9. ให้อภัยในความหลงลืมและความผิดพลาดที่ผู้สูงอายุกระทำ และควรแสดงความเห็นอกเห็นใจที่เหมาะสมด้วย

10. ช่วยเหลือดูแลรักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย หรือพาไปตรวจสุขภาพให้การดูแลอย่างใกล้ชิดเมื่อเจ็บป่วยหนัก เรื้อรัง