ดูแลผู้สูงอายุ ใน พระนคร, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน พระนคร, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Pailin Sangmaneepang
Pailin Sangmaneepang
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

I am an honest woman without bad habits. I have experience in caring for post-stroke patients and patients with diabetes. You can also cook Thai and European food. If necessary, I can drive a car. (I have a driver's license) And keep the house clean at the request of the owner. Conscientious and kind attitude towards the patient is guaranteed.

แสดงเพิ่มเติม
ผกากาญจน์  รื่นอุรา
ผกากาญจน์ รื่นอุรา
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

ปัจุบันทำงานดูแลผู้สูงอายุค่ะ มีประสบการณ์ด้านนี้ 3 ปี เข้าเวรดึกได้ค่ะ ฟีดได้ รับวัคซีนโควิค 4 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
ฐิติรัตน์ จันทวงษ์
ฐิติรัตน์ จันทวงษ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนที่รูปร่างสูงใหญ่ สามารถประคอง พยุง ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่สูงได้สบายๆ อดทนกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยได้ดี ไม่วีน ไม่เหวี่ยง สะดวกรับงาน freelance เพราะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อรวรรณ  บุ่งนาแซง
อรวรรณ บุ่งนาแซง
Saijai อายุ 36 ปี

สามารถดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา เคสอยู่เป็นเพื่อนได้ค่ะ จัดยา วัดความดัน เจาะเบาหวานได้

แสดงเพิ่มเติม
วิมลทิพย์  โถสโมสร
วิมลทิพย์ โถสโมสร

กำลังศึกษาหลักสูตร NA ตอนนี้รับงานแม่บ้านออนไลน์ แบบรายชั่วโมงและรายววันค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
พิกุลทอง  รังวิจี
พิกุลทอง รังวิจี
Saijai อายุ 54 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนมากเป็นอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุที่ช่วยตัวเองได้ค่ะ ไม่ฟิตอาหาร ช่วยพยุงเดิน ใช้ไม้ค้ำ

แสดงเพิ่มเติม
บีบีซาหรา ลาฮิม
บีบีซาหรา ลาฮิม
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ประภาพร พัฒนะแสง
ประภาพร พัฒนะแสง
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

บุคคลิคนิ่งๆ แต่เข้าหาคนง่าย รับผิดชอบในการทำงาน

เคยประจำที่ icu มากว่า 5ปี ยิ่งผุ้สูงอายุ่ที่ชอบเล่าความหลัง นั่งฟังนั่งซักได้ทั้งวัน

แสดงเพิ่มเติม
วลัยพร ภู่รัตนกุล
วลัยพร ภู่รัตนกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

มีความอดทนสูง ตรงต่อเวลา ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี

แสดงเพิ่มเติม
สมใจ  เจริญสุข
สมใจ เจริญสุข
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
Wanwisa Jaiaree
Wanwisa Jaiaree
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

มีประสบการณ์ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล ดูแลผู้สูงอายุด้านอายุกรรมศาสตร์ รพ.ศิริราช 5 ปี อยู่ รพ.เอกชนใน จ มหาสารคาม 1 ปี แผนก ผู้ป่วยนอกและแผนก ฉุกเฉิน ออก EMS เป็นครั้งคราว เคยรับเฝ้าไข้ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยผ่าตัดสะโพก ผู้ป่วยสับสนอายุเยอะ ผู้ป่วยทางโรคมะเร็ง

แสดงเพิ่มเติม
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
พิชญ์สิตา พงษ์เสถียรเตโช
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ชื่อเล่น เจี๊ยบอายุ ประสบการณ์ ด้าน การทำงาน และการบริบาล-ประสบการณ์ na โรงพยาบาลสุขุมวิท2ปีรับจ๊อบเฝ้าไข้ ความสามารถ ทางด้าน การบริบาล-ทำกายภาพเบื้องต้นได้ -วัดความดัน-วัดไข้ ปรอท-วัด ออกซิเจน ในเลือดได้-ฟีทซักซั่น ปากคอ- ทำแผล กดทับได้ -เช็ดตัว อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ บนเตียงได้ - เคลื่อนย้าย ผุ้ป่วย ได้ -ใส่เครื่อง ออกซิเจนได้ - ดูแลสายปัสสาวะได้ แต่เปลี่ยนสายไม่ได้ -สวนอุจาระได้- ทำอาหาร บด อาหาร สายยาง ได้ - สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ระดับ พอใช้

แสดงเพิ่มเติม
รัฐฑี มีกระแส
รัฐฑี มีกระแส
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 49 ปี

อัธยาสัยดี ยี้มแย้ม พูดจาดีใจเย็น มีความอดทนสุง

แสดงเพิ่มเติม
จันทร์ทิพย์ ธีระ
จันทร์ทิพย์ ธีระ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 42 ปี
อนันธิดา  หงษ์คำภา
อนันธิดา หงษ์คำภา
Saijai ประสบการณ์ 4-5 ปี
Saijai อายุ 44 ปี

ประสบการณ์ ดูแลผู้ป่วยกายภาพ อาบน้ำ จัดยาเปลี่ยนแพมเพิส วัดความดันวัดไข้ ฉีดยาเบาหวาน

แสดงเพิ่มเติม
นฐภัทร์ษร โภคสกุล
นฐภัทร์ษร โภคสกุล
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

เคยไปเฝ้าคนชราป่วยมะเร็ง ที่ รพ ศิริราชผู้ป่วยไปทำ คีโม 12 ครั้ง 6 เดือน ผู้ป่วยไปให้คีโม 2ครั้ง/1 เดือน ,เคยดูแลคนชรา ที่ลูกสาวลูกชายไปทำงานดูแลอยู่ 3 ปี,ไปเป็นเพื่อนพาคนชราไปหาหมอ ,เป็นเพื่อนอยู่ที่พักเวลาลูกหลานไปธุระ,เตรียมอาหาร,ยาตามหมอสั่ง ดิฉันเป็นคนสะอาดเรียบร้อย มีระเบียบ พูดเพราะ ใจดีใจเย็น

แสดงเพิ่มเติม
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
ธมลวรรณ สังข์แก้ว
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 38 ปี

ใส่ใจ เข้าใจ สะอาด ดูแลเปรียญเสมือนญาติ

แสดงเพิ่มเติม
ชัยศรี  เผ่าม่วง
ชัยศรี เผ่าม่วง
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

ชื่อแจ้ค่ะ ทำงานดูแลผู้ป่วย ค่ะ งานที่ดูแลอยู่คือ สวนปัสสาวะวันละ 4 ครั้ง เปลี่ยนแพมเพิส ดูแลเรื่องอาหารและยา รวมทั้งความสะอาดของผู้ป่วย ทำอาหาร และทำงานบ้านได้ทุกอย่างยกเว้นงานสวนค่ะ ประสบการณ์2ปี1เดือน พร้อมเรียนรู้ค่ะถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้

แสดงเพิ่มเติม
ทิพปภา อินดี
ทิพปภา อินดี
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เคยทำงานเปนแม่บ้านโรงงานที่สมุทรสาคร 10 ปี เป็นแม่บ้านอยู่ลำปาง 6 ตอนทำงานอยู่ลำปางเป็นแม่บ้านและดูแลแม่นายจ้างด้วยค่ะ ให้บริการดูแลผู้สูงอายุเคสธรรมดา อยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุค่ะ

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ประทับใจในการให้บริการมาก ๆ ค่ะ
Saijai
สุดาพร มณีทอง
4 ปีที่แล้ว
หาข้อมูล เจอเว็บใส่ใจ ที่มีพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ ลองอ่านประสบการณ์เลย เจอจิต (พี่เลี้ยงดูแลพ่อ) ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลในเว็บทำให้พวกเราไม่ยากที่จะตัดสินใจ จิตทำงานดีมากเข้ากับคุณพ่อได้ดี ขอบคุณใส่ใจค่ะ
Saijai
พชร ต้นไกลสุทธฺ์
4 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
4 ปีที่แล้ว
ได้คนดูแลดี ผมก็หายห่วงครับ จะใช้บริการบ่อย ๆ
Saijai
สุชาดา เอี่ยมจินดา
4 ปีที่แล้ว
ย้ายตามสามีมาอยู่กรุงเทพ แล้วยังต้องดูแลแม่สามีที่สูงอายุ และมีโรคประจำตัวด้วย ตอนแรก ๆ ลำบากมาก เพราะต้องวุ่นวายเรื่องย้ายงานและหาคนดูแลผู้สูงอายุอีก จนมาเจอเว็บไซต์ใส่ใจ โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากจะได้คนดูแลผู้สูงอายุที่ราคาไม่แพงมากแล้ว ยังได้คนมีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ทำงานคล่องแถมมาช่วยทำงานบ้านอีก ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ
Saijai
ณฐาสัณห์ ถาวร
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
ทักษะสำคัญที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมี
การที่เราจะเลือกใครสักคนมาดูแลผู้สูงอายุในบ้านของเรา แน่นอนว่าต้องมีปัจจัยและคุณสมบัติหลายอย่างในการตัดสินที่จะรับบุคคลภายนอกเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของเราทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้านก็ตาม คุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่คาดหวังสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ มีดังต่อไปนี้

1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
ควรทำอย่างไรเพื่อคลายความกังวลเมื่อคุณต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังกับผู้ดูแล
เมื่อเราได้พิจารณาคุณสมบัติและตัดสินใจจ้างผู้ดูแลมาดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของเราแล้ว เราอาจจะมีความกังวลด้านอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นควรจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราวแบบไป-กลับ หรือผู้ดูแลแบบที่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะการที่ต้องให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเรา ในระยะแรกอาจจะต้องมีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน หากว่าเราอยู่ที่บ้านตลอดก็อาจช่วยลดความกังวลในด้านความปลอดภัยลงไปได้ แต่ถ้าสมาชิกในบ้านต้องออกไปทำงานนอกบ้านและต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้เพียงลำพังกับผู้ดูแล ความกังวลย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งกับคนที่เรารักและทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แนวทางที่ช่วยลดความกังวลของผู้ว่าจ้างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่

1. ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนดูแลผู้สูงอายุ โดยสามารถร้องขอให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. ตรวจสอบประวัติการทำงานกับนายจ้างคนเก่า ในกรณีที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุเคยผ่านประสบการณ์การทำงานมาก่อน
3. หากเป็นผู้ดูแลที่มาจากบริษัท ทางบริษัทควรจะมีการส่งตัวแทนจากบริษัทเข้ามาเยี่ยมและตรวจสอบการทำงานของผู้ดูแลเป็นระยะๆ
4. คนในครอบครัวหมั่นตรวจตราและสอดส่องการทำงานของผู้ดูแลคนสูงอายุอยู่ตลอดเวลาในระยะแรกๆของการทำงาน
5. หากมีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ สามารถฝากให้เพื่อนบ้านช่วยสอดส่องดูแลขณะที่ผู้ดูแลอยู่ลำพังกับผู้สูงอายุ
6. ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ตลอด 24 ชม.
สิ่งสำคัญที่คนจ้างจะต้องตกลงกับผู้ดูแลผู้สูงอายุคืออะไร
เมื่อคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุไว้คอยดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณ คุณควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนก่อนทำการจ้าง ดังต่อไปนี้

1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง

เรื่องราวน่ารู้ของเขตพระนคร

เขตพระนคร เป็นเขตที่ตั้งอยู่บริเวณตะวันตกสุดของฝั่งพระนคร มีพื้นที่ทั้งหมด 5.536 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่บน เกาะรัตนโกสินทร์ ที่มีอาณาเขต ทิศเหนือติดต่อกับเขตดุสิต ทิศตะวันออกติดต่อกับเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายและเขตสัมพันธวงศ์ ทิศใต้ติดต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา เขตคลองสานและเขตธนบุรี ทิศตะวันตกติดต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางกอกใหญ่ เขตบางกอกน้อย และเขตบางพลัด มีคลองสำคัญ 2 คลอง ที่เป็นตัวแบ่งเขตเส้นระหว่างเขต คือคลองรอบกรุง (คลองโอ่งอ่าง) และ คลองผดุงกรุงเกษม

แบ่งเขตการปกคองเป็น 12 แขวงคือ แขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงบวรนิเวศ แขวงวังบูรพาภิรมย์ แขวงตลาดยอด แขวงวัดราชบพิธ แขวงชนะสงคราม แขวงสำราญราษฎร์ แขวงบ้านพานถม แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ แขวงบางขุนพรหม แขวงเสาชิงช้า และแขวงวัดสามพระยา เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีเรื่องราว เหตุการณ์สำคัญ ๆ ทางประวัติศาสตร์ เช่น พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) อีกทั้งเป็นศูนย์รวมสถานที่สำคัญๆ ทั้งทางราชการ การศึกษา วัฒนธรรม และทางศาสนา อาทิ พระราชวัง วัง โบราณสถาน โรงเรียน มหาวิทยาลัย วิทยาลัยของรัฐ ตลาด ศูนย์การค้า พระบรมราชานุสาวรีย์ อนุสาวรีย์ มัสยิด ศาลเจ้าของชาวจีน รวมถึงวัดสำคัญ ๆ มากถึง 23 แห่ง ได้แก่


วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดสุทัศนเทพวราราม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดมกุฏกษัตริยาราม วัดอินทรวิหาร วัดใหม่อมตรส วัดนรนารถสุนทริการาม วัดเอี่ยมวรนุช วัดราชนัดดาราม วัดเทพธิดาราม วัดตรีทศเทพ วัดราชบุรณะ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดมหรรณพาราม (โรงเรียนประถมศึกษาแห่งแรกของไทย) วัดปรินายก วัดทิพย์วารีวรวิหาร วัดชนะสงคราม วัดสังเวชวิศยาราม วัดสามพระยา วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดบุรณศิริมาตยาราม (วัดศิริอำมาตย์)

ถือได้ว่าเป็นเขตที่เหมาะกับการพาเด็กหรือผู้สูงอายุเที่ยวมาก เพราะเป็นเขตเดียวที่มีบริการรถรางรอบเกาะรัตนโกสินทร์



เปิดตำนาน ศาลาเฉลิมกรุง

“ศาลาเฉลิมกรุง” เป็นโบราณสถานที่หนึ่งที่ควรแก่การศึกษาประวัติความเป็นมา ปัจจุบันตั้งอยู่ที่บริเวณหัวถนนเจริญกรุงตัดกับถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ที่ผู้คนรู้จักกันมายาวนานกว่า 80 ปี อันเกิดจากพระราชประสงค์ ของรัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเติบโต สำเร็จการศึกษาที่ต่างประเทศ ได้ทอดพระเนตรให้ความเจริญต่าง ๆ ในเมืองต่างแดน จึงพระราชดำริให้รัฐบาลในสมัยนั้นทำเมืองกรุงให้ทัดเทียมประเทศตะวันตก พระองค์ทรงให้สร้างสถานที่ เช่น สะพานพระพุทธยอดฟ้าเชื่อมกรุงธนบุรีกับกรุงเทพมหานคร พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1) ปฐมกษัตริย์แห่งจักรีวงศ์ ผู้ทรงก่อตั้งผู้กรุงรัตนโกสินทร์ ไว้ที่เชิงสะพานฝั่งกรุงเทพฯอีกด้วย โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์กว่า 9 ล้านบาท ในการสร้างโรงมหรสพที่ทันสมัย เป็นโรงมหรสพที่มีการฉายเสียงภาพยนตร์ ที่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ให้เป็นของขวัญแก่ประชากรในโอกาสเฉลิมฉลองพระนคร ครบ ๑๕๐ ปี พ.ศ.๒๔๗๕ ไว้เพื่อความบันเทิง พักผ่อนหย่อนใจ และได้ทรงพระราชทานนาม “ศาลาเฉลิมกรุง” ได้เปิดฉายเป็นแห่งแรกในประเทศไทย และแห่งแรกของเอเชียที่มีการติดเครื่องปรับอากาศแทนระบบพัดลม การติดตั้งเครื่องปรับอากาศในสมัยนั้นถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่งเข้ามาใหม่ในแถบเอเชีย เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๖ และดำเนินกิจการมาจนถึงปัจจุบัน

อดีตศาลาเฉลิมกรุง มีการฉายภาพยนตร์ นำเข้าจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ เพราะภาพยนตร์ในประเทศไทยผลิตออกมาได้น้อย พากย์เสียงภาษาไทยจากของฟิล์มของต่างประเทศแทนการพากย์ภาพยนตร์เงียบโดยมีนาย พร้อมสิน สีบุญเรือง หรือทิดเขียว เป็นผู้ริเริ่ม บุคคลนี้เป็นผู้ที่มีชื่อเสียง มีผลงานด้านภาพยนตร์หลายชิ้นในสมัยนั้น เพราะท่านเป็นทั้งนักแสดง นักพากย์ภาพยนตร์ นักแปลบทพากย์ภาพยนตร์ต่างประเทศ ผู้กำกับและผู้สร้างภาพยนตร์ และเป็นผู้ปลุกปั้นนักแสดงจำนวนมากเข้าสู่วงการ

ศาลาเฉลิมกรุง นับเป็นสถานที่สำคัญที่หนึ่งที่ทำให้บริเวณเขตพระนคร เป็นย่านธุรกิจการค้าที่สำคัญ ตั้งแต่ เสาชิงช้า ลงไปถึงริมแม่น้ำเจ้าพระยา จวบจนตลอดสองฝั่งถนนเจริญกรุงไปจนถึงสำเพ็ง และตลาดน้อย กลายเป็นแหล่งธุรกิจ ดำรงต่อกันมาเป็นสิบๆ ปี เป็นประเพณีของหนุ่มสาวชาวกรุงที่ต้องมาใช้ชีวิตสัมผัสกับบรรยากาศที่น่าผ่อนคลายของย่านนี้ เกิดเป็นแหล่งศูนย์กลางความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงของเมืองไทย แต่มีช่วงหนึ่งที่ย่านนี้ได้เงียบเหงาลง ร้านค้าต่าง ๆ ปิดตัวลง เนื่องจาก การพัฒนาเมืองกรุงในอีกหลาย ๆ พื้นที่ มีกระแสทางเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของผู้คน และพื้นที่บริเวณ โรงภาพยนตร์พระราชทานนี้ได้กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง จากบุคคลที่มีความผูกพันกับประวัติศาสตร์ของสังคมไทยในกรุงเทพมหานครมาเป็นเวลานาน ศาลาเฉลิมกรุงจึงถูกอนุรักษ์ไว้เพื่อให้เป็นมรดกตกทอดให้ลูก หลาน ประชาชนชาวไทยในรุ่นหลังได้ใช้บริการ ศึกษาประวัติความเป็นมา ให้คุ้มค่าตามพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 7



พาผู้สูงอายุชมเมืองเก่าในเขตพระมหานคร

กิจกรรมพาผู้สูงอายุเที่ยวนอกบ้าน เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ เพราะนอกจากที่ท่านได้ออกมาเปิดหูเปิดตาดูความเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอกแล้ว ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวอีกด้วย ทำให้ท่านรู้สึกมีความสำคัญ ไม่ถูกทอดทิ้ง ยิ่งได้พูดคุย เล่น กับลูกหลานด้วย ยิ่งทำให้ท่านผ่อนคลายความเครียด มีความสุข สุขภาพจิตดี บางรายทำให้เจริญอาหารเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม คนรอบข้างควรเลือกสถานที่เหมาะสมต่อการพาผู้สูงอายุเที่ยวด้วย

เขตพระนคร เป็นเขตหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะส่วนใหญ่พื้นที่ในกรุงเทพได้ถูกพัฒนาไปเมืองที่เจริญรุ่งเรืองไปด้วยแหล่งการค้า ห้างสรรพสินค้า คอนโด โรงแรม ฯลฯ แต่ย่านเขตพระนครนี้ได้ถูกอนุรักษ์ให้เป็นเมืองเก่า มีรถรางที่สามารถพานักท่องเที่ยวชมเมืองย่านเมืองเก่า ส่งผลต่อความสะดวกสบายของผู้สูงอายุซึ่งร่างกายไม่ได้แข็งแรงเหมือนคนธรรมดาทั่วไป

กล่าวถึง รถรางชมเกาะรัตนโกสินทร์ เป็นรถรางสายสีเหลือง รอบเกาะรัตนโกสินทร์ เขตพระนคร ย่านเมืองเก่าที่มีทั้งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญ ได้ถูกอนุรักษ์ไว้ให้ลูก หลาน ได้ไปชม ศึกษาหาความเป็นมาของเรื่องราวในอดีต รถรางจะพานักท่องเที่ยวชมเกาะรัตนโกสินทร์โดยรอบ โดยเริ่มต้นและสิ้นสุดที่บริเวณสนามหลวง ซึ่งมีรายละเอียดเส้นทางการเดินรถดังนี้ เริ่มต้นจากบริเวณ สนามหลวงด้านพระบรมมหาราชวัง ไปตามถนนราชดำเนินใน เข้า ถนนราชดำเนินกลาง สู่ถนนราชดำเนินนอก ไปสิ้นสุดที่พระที่นั่งวิมานเมฆ ระหว่างทางมีสถานที่สำคัญๆทางประวัติศาสตร์ให้ชม เช่น พระราชวังดุสิตพระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว พระที่นั่งอนันตสมาคม พระที่นั่งวิมาณเมฆ ศาลหลักเมือง ถนนราชดำเนิน อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย , ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ วัดราชนัดดาราม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล พระบรมรูปทรงม้า ฯลฯ

หากนักท่องเที่ยวเลือกนั่งชั้นบน จะเห็นวิวกรุงเทพมหานครได้ดีกว่าการนั่งด้านล่าง การนำเที่ยวนี้เป็นกิจกรรมที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มาชมพื้นที่งดงามแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านในละแวกนี้มีรายได้ไปด้วย รถรางชมเกาะรัตนโกสินทร์ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 9:00 - 18:30 น. โดยในช่วงแรก (เนื่องจากยังมีรถคันเดียว) รถออกจากสนามหลวง เวลา 9:00, 11:30, 14:00, และ 16:30 น. รถออกจากพระที่นั่งวิมานเมฆ เวลา 10:30, 13:00 และ 15:30 น. รอบพิเศษ วันละ 1 รอบ เริ่มเวลา 18:30 - 19:45 น. มีอัตราค่าบริการ นักท่องเที่ยวชาวไทย คนละ 100 บาท และนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนละ 200 บาท