คนขับรถ ใน หนองจอก, กรุงเทพมหานคร

คนขับรถ ใน หนองจอก, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ใช้บริการคนขับรถชั่วคราวของทางใส่ใจอยู่บ่อยครั้ง เพราะเบื่อกับการโดนปฏิเสธอยู่บ่อยครั้งเวลาเรียกรถแท็กซี่ ขั้นตอนการจองนั้นง่ายมาก ๆ สะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งคนขับรถยังมาตรงเวลาอีกด้วย พึงพอใจกับการให้บริการของใส่ใจมาก ๆ ค่ะ
Saijai
แพรวา ทุ่งสะกาว
3 ปีที่แล้ว
ประทับใจมาก ๆเลยครับ บริการดีและคุ้มค่าเกินกว่าราคามาก ๆ ขอบคุณเว็บไซต์ใส่ใจที่ทำให้เจอพี่คนขับรถ
Saijai
กฤษติณ ฉลอม
3 ปีที่แล้ว
คนขับสุภาพเรียบร้อย ขับรถดีมาก ชำนาญ ใจเย็น รู้ทางหมดไม่ว่าจะไปที่ไหน
Saijai
ชนากานต์ สถิตสานติ์
3 ปีที่แล้ว
สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น แต่เรายังไม่สามารถไปรับลูกค้าที่โรงแรมมาประชุมที่ออฟฟิศได้ เลยเลือกใช้บริการคนขับรถในเว็บใส่ใจไปรับแทน เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาได้รับคำชม คนขับรถไปรอที่โรงแรมก่อนเวลาลูกค้าลงมาจากห้องก็เข้าไปแนะนำตัวถามชื่อแล้ว ตรงมาออฟฟิศ บริการสุภาพเรียบร้อยมาก ผมเลยไว้วางใจให้คนขับรถดูแล ที่สำคัญ คนขับรถใส่ใจเรื่องสุขอนามัย ใส่หน้ากากตลอดการบริการ
Saijai
สัมพันธ์ ลาภอุดมกิจ
3 ปีที่แล้ว
ต้องขอบคุณทางเว็บไซต์ของใส่ใจที่มีข้อมูลและรายละเอียดต่างๆครบมาก รับส่งได้ตรงเวลาเป๊ะๆ ขอบคุณใส่ใจที่มีบริการและมีพนักงานดีๆน่ารักแบบนี้มากนะคะ
Saijai
สุทธิดา อุดมพานิชย์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา คนขับรถ

มีคนขับรถส่วนตัวดีกว่าใช้บริการรถสาธารณะอย่างไร
ในปัจจุบันแทบทุกบ้านมีรถยนต์ส่วนตัวซึ่งช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายกว่าการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ แท็กซี่ หรือรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่ต้องรอมาจอดรับ/ส่งตามเวลาหรือต้องเดินไปหาและเสียเวลาในการรอคอย โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนที่เรามีเวลาจำกัด การมีรถยนต์ส่วนตัวนั้นสะดวกกว่ามาก แต่ในบางครั้งเราอาจจะไม่สะดวกที่จะต้องขับรถเอง ดังนั้นการมีคนขับรถส่วนตัวมาช่วยทำหน้าที่ขับรถให้เราจึงมีข้อดีดังต่อไปนี้

• ในกรณีที่คุณเป็นคนสูงอายุ มีปัญหาทางสายตา หรือมีโรคประจำตัว สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถของคุณลดลงและเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อตัวคุณเองและผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ การมีคนขับรถส่วนตัวย่อมมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อพาไปพบแพทย์ตามวันนัดต่าง ๆ หรือไปทำธุระอื่น ๆในขณะที่ลูกหลานไม่ว่างหรือต้องทำงาน
• การมีคนขับรถส่วนตัวช่วยลดปัญหาเรื่องที่จอดรถ เพราะคนขับรถจะทำหน้าที่ไปรับไปส่ง ณ จุดนัด โดยไม่ต้องวนหาที่จอดรถให้เสียเวลา
• หากคุณต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย ๆ การขับรถทางไกลย่อมเสี่ยงต่ออันตรายหลาย ๆ อย่าง เช่น อุบัติเหตุต่าง ๆ บนท้องถนน หรือหลับในเพราะความเหนื่อยล้าจากการขับรถ หากมีคนขับรถส่วนตัวที่ตื่นตัวและรับผิดชอบในหน้าที่ย่อมมีความปลอดภัยมากกว่า
• ครอบครัวที่มีเด็กเล็กต้องดูแลและไม่มีพี่เลี้ยงเด็ก เมื่อคุณพ่อหรือคุณแม่ต้องขับรถเพียงคนเดียวและต้องคอยดูแลเด็กเล็กในรถไปด้วย ย่อมเสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุ การมีคนขับรถย่อมเป็นผลดี
• คนขับรถส่วนใหญ่มักมีความรู้ในเรื่องของเส้นทางเป็นอย่างดี ทำให้นายจ้างประหยัดเวลาในการเดินทางและมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
• คนขับรถมักมีความรู้เกี่ยวกับการซ่อมบำรุงรถเบื้องต้น เปลี่ยนยาง เช็คน้ำมันเครื่อง หากรถยนต์มีปัญหาก็จะช่วยแก้ไขในเบื้องต้นได้


คนขับรถควรมีทักษะอะไรบ้าง
1. ขับขี่ปลอดภัย เป็นทักษะแรกที่ต้องมี ผ่านการฝึกอบรมให้เป็นพนักงานขับรถที่ดี ไม่ใช่แค่ต้องไปรับไปส่งเจ้านาย หรือรับส่งพนักงานในองค์กรในแต่ละวันเท่านั้น แต่มีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารบนรถให้ไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
2. มารยาทดี พนักงานขับรถเกือบจะเป็นคนแรกๆ ที่เจ้านายหรือพนักงานคนอื่นๆ ในองค์กรได้เจอในแต่ละวัน พนักงานขับรถที่ดีควรมีจิตใจรักในงานบริการ บางครั้งต้องไปรับบุคคลสำคัญ ลูกค้าคนสำคัญ สิ่งที่คนขับรถแสดงออกจะส่งผลไปถึงองค์กรได้ด้วย
3. เตรียมยานพาหนะให้พร้อมใช้งาน รู้เทคนิคการตรวจสอบและเช็คความปลอดภัย รวมถึงความสะอาด และตัวพนักงานขับรถที่ดีสามารถเตรียมความพร้อมก่อนขับขี่รถ ตัวพนักงานเองก็ต้องมีสุขภาพแข็งแรง มีสติสัมปชัญญะและสมาธิครบถ้วนพร้อมให้บริการ
4. ทัศนคติดี ทัศนคติที่ดีของพนักงานขับรถในขณะปฏิบัติหน้าที่คือ ขับรถตามกฎจราจร มีมารยาทที่ดีต่อผู้ร่วมทาง หากพบผู้ร่วมทางที่มีพฤติกรรมที่ทำให้ไม่พอใจ ก็สามารถควบคุมได้ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของทุกฝ่าย และยังมีทัศนคติในการขับขี่ที่ได้มาตรฐานสากล
5. Defensive Driving หรือ ปลอดภัยไว้ก่อน การฝึกใช้กลยุทธ์การขับขี่ที่ลดความเสี่ยงและช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ เช่นเดียวกับการคาดการณ์อันตรายบนท้องถนน (มักใช้ในเชิงเหตุผล) ด้วยการขับขี่เชิงป้องกัน เพราะการขับขี่เชิงป้องกันหรือ ไม่เพียงแต่ให้พนักงานขับขี่ปลอดภัย แต่เป็นทักษะที่ให้ความปลอดภัยขั้นกว่ากับผู้ใช้บริการ พนักงานขับรถที่ดีจะไม่เพียงแค่รู้กฎจราจรขั้นพื้นฐาน แต่ยังมีการฝึกสมาธิระหว่างขับ มีความเข้าใจในการขับขี่ สาเหตุและปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุ สามารถประเมินสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างละเอียด เรียกได้ว่าเป็นความปลอดภัยขั้นสูงที่พนักงานขับรถที่ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้นเพื่องานคุณภาพ
จ้างคนขับรถค่าใช้จ่ายสูงจริงหรือไม่
การเดินทางด้วยรถยนต์ ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและมีความเป็นส่วนตัว ต่างกับการใช้บริการรถสาธารณะที่มีเวลาเดินทางไม่แน่นอนและอาจต้องต่อรถหลายครั้งกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ยิ่งถ้าในวันหนึ่งๆนั้น เราต้องเดินทางไปหลาย ๆ สถานที่ ยิ่งมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นและความสะดวกสบายลดลง

อย่างไรก็ตามสำหรับนักธุรกิจหรือคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ การมีคนขับรถส่วนตัวช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นอีกมาก จึงเกิดคำถามว่าการจ้างคนขับรถส่วนตัวค่าใช้จ่ายสูงจริงหรือไม่ หากเราใช้บริการจากบริษัทจัดหาคนขับรถ ที่มีบริการคนขับรถประจำสำนักงานที่มีประสบการณ์ขับรถ (แน่นอน เพราะคนขับรถส่วนตัวต้องใช้ความรับผิดชอบ ทักษะ และประสบการณ์สูง อย่างน้อยต้องมีประสบการณ์ในการขับรถหลายปีขึ้นไป) ชำนาญเส้นทางในที่เราทำงานอยู่หรือสามารถพาเราไปในจังหวัดหรือพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยได้

และหากใครที่ต้องการพนักงานขับรถให้เจ้านายชาวต่างชาติ หรือบริการลูกค้าชาวต่างชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง การได้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และภาษาของเจ้านายหรือลูกค้าบ้างนิด ๆ หน่อยๆ เป็นรอง จะอำนวยความสะดวกมากขึ้นเพราะเจ้านายหรือลูกค้าที่ใช้บริการเหล่านี้ไม่ชำนาญเส้นทางในที่ที่เราทำงานอยู่ หากเรามีพนักงานขับรถที่ไว้ใจได้ ได้มาตรฐานสากลและด้วยในอัตราค่าบริการแบบเหมา "รายเดือน" เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่ได้กลับมาย่อมคุ้มค่ามาก ๆ เพราะลูกค้าที่ใช้บริการได้พักผ่อนระหว่างเดินทาง หรือเตรียมงาน เตรียมตัวบนรถระหว่างเดินทางไปทำธุระ สามารถเดินทางไปได้ทันเวลาไม่ว่าจะไปสนามบิน หรือที่ทำงาน หรือสถานที่ไกลๆ สุดท้ายถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายจ้างพนักงานขับรถไปบ้าง แต่ก็คุ้มค่าที่สุด กับสิ่งที่ได้รับกลับมา “เราได้ซื้อเวลา สุขภาพ ความปลอดภัยในการเดินทางและความสำเร็จทางธุรกิจ”
ก่อนจ้างคนขับรถส่วนตัวควรตกลงอะไรบ้าง?
ข้อตกลงที่ผู้ว่าจ้างควรตกลงกับคนขับรถมีอะไรบ้าง

1. ตกลงคุยเวลาทำงาน เริ่มงานกี่โมงเสร็จกี่โมง ทำงานกี่วันต่อสัปดาห์ กรณีทำงานล่วงเวลา overtime จะคิดค่าแรงอย่างไร หากต้องเดินทางไปต่างจังหวัดมีเบี้ยเลี้ยงเท่าไร ตกลงเรื่องวันหยุดวันลาต้องแจ้งล่วงหน้ากี่วันเพราะเราจะได้จัดหาคนมาทำงานแทน หากกรณีไม่ขาดงานไม่แจ้งล่วงหน้า ต้องยินยอมให้ปรับ หรือ ชดเชยค่าเสียหายได้
2. ประสบการณ์การทำงาน ความชำนาญในเส้นทางหลัก ที่ใช้ประจำหรือเส้นทางที่ผู้จ้างไปทำธุระ นอกจากนั้นคนขับรถอาจต้องดูแลแขกหรือลูกค้าของผู้ว่าจ้างด้วย ประสบการณ์การทำงาน บุคลิกภาพและมารยาท ก็เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงได้
3. สวัสดิการที่จะได้รับ ประกันสังคม ประกันสุขภาพ โบนัสเงินรางวัล ตามโอกาสเทศกาลต่าง ๆ ตามสมควร
4. ยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม หรือมีเงินประกัน เพื่อความปลอดภัยและสบายใจได้ในระดับหนึ่ง
5. บางครั้งอาจต้องมองถึงที่พักของคนขับรถที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน เพราะคนขับรถต้องเตรียมพร้อมก่อนเวลางาน และ กลับหลังเสร็จงานที่ไม่ไกลจากที่ทำงาน เพราะร่างกายต้องการพักผ่อนเช่นกัน แม้บางวันงานไม่หนัก ระยะทางไม่ไกล แต่ถ้าไม่มีเวลาพักผ่อนการเตรียมความพร้อมรอผู้จ้าง จะส่งผลถึงความปลอดภัยเวลาขับขี่ได้
6. ให้แน่ใจว่าเข้าใจระบบรถที่จะขับหรือไม่ ในกรณีที่เกิดปัญหาสามารถแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นได้ อีกทั้งต้องช่วยดูแลทรัพย์สิน (รถ)ของผู้ว่าจ้าง ให้สะอาดเรียบร้อยพร้อมใช้งานตามความเป็นจริง แจ้งซ่อม หรือบำรุงรักษาตามจริง คำนึงเสมอว่าคนขับรถไม่ใช่แค่ผู้ที่นำพาเราไปยังจุดหมายตามคำสั่งหรือข้อตกลง ความปลอดภัยของผู้จ้างเอง หรือลูกค้าหากมีโอกาสต้องดูแล ก็สำคัญด้วยเช่นกัน

หากผู้จ้างไม่สามารถเลือกคนขับรถเองได้แล้ว ลองมองหาตัวแทนที่ไว้ใจได้ทำหน้าที่จัดส่งคนขับรถมาให้ ที่สามารถทำตามข้อตกลงทั้ง 6 ข้อหรือมากกว่าตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง

ขับรถทางไกลต้องเช็กอะไรบ้าง

หลังจากรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ หลังจากโควิดระบาดหนัก หลายๆ คนย่อมวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยว และส่วนมากอยากจะเดินทางไปไกลๆ เพื่อพักผ่อนอย่างสบายใจ แต่เราควรเตรียมพร้อมอย่างไรหากจะต้องเดินทางไกลมาดูกันค่ะ

- เตรียมพร้อมเกี่ยวกับเอกสารสำคัญๆ ของรถและของตัวเราเอง ได้แก่ ใบขับขี่, ทะเบียนรถอาจจะเป็นสำเนาหรือตัวจริงก็ได้, ป้ายภาษีรถยนต์, กรมธรรม์ตัวจริงหรือสำเนาก็ได้ และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับคนขับรถที่ควรมีอีกอย่างก็คือ แว่นตากันแดด เพราะแสงแดดขณะขับรถทำให้กล้ามเนื้อสายตาของคนขับเมื่อยล้าหรือบางครั้งอาจทำให้มองไม่เห็นสิ่งกีดขวาง ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุรถยนต์ขณะขับรถทางไกล ควรมีแว่นตากันแดดติดไว้ในรถด้วย โดยเฉพาะแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ ที่สำคัญเราควรมีเบอร์โทรฉุกเฉินไม่ว่าจะเป็นบริษัทประกันหรือการแจ้งอุบัติเหตุต่างๆ ติดไว้ในเครื่องโทรศัพท์มือถือด้วย

- แบตเตอรี่รถยนต์ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า แบตเตอรี่รถยนต์ของเรานั้นยังอยู่ในสภาพที่พร้อมจะใช้งานและเดินทางไกลได้ เพราะแบตเตอรี่แบบเปียกและแบบแห้งมีอายุการใช้งานแตกต่างกันไป สำหรับแบตเตอรี่แบบเปียกจะสามารถใช้งานได้ไม่เกิน 3 ปี ส่วนแบตเตอรี่แบบแห้งใช้งานได้ประมาณ 5 ปี แต่มีราคาที่สูงกว่า หากแบตเตอรี่รถยนต์ไม่ค่อยจะดีแล้ว จะสังเกตได้จากเวลาที่เราสตาร์ทรถ จะเห็นสัญลักษณ์เตือนรูปแบตเตอรี่บนหน้าปัด หากมีไฟปรากฏแสดงว่าแบตเตอรี่และระบบไฟมีปัญหา

- ไฟรถยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งในการขับขี่รถยนต์ เพราะมีผลต่อการมองและการให้สัญญาณบนท้องถนน ไฟหน้ารถและไฟท้ายรถสำคัญมากต่อการขับขี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนกลางคืน ส่วนไฟเบรก ไฟเลี้ยวและไฟฉุกเฉิน ก็มีความสำคัญเช่นกันเวลาขับขี่รถบนท้องถนน

- ที่ปัดน้ำฝน ในการเดินทางระยะไกล มีโอกาสที่เราจะเจอทั้งแดดและฝน ซึ่งหากมีฝนตก ที่ปัดน้ำฝนจะเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการขับขี่รถยนต์ที่จะทำให้เรามองเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจนระหว่างที่ฝนตก เพราะการใช้ที่ปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพนอกจากจะทำให้กระจกหน้ารถเกิดรอยขีดข่วนแล้ว ยังมีผลต่อการขับขี่รถเป็นอย่างมากอีกด้วย



ขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน

ใครมีรถจะเข้าใจว่า น้ำมัน เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องจ่ายอยู่เป็นประจำทุกเดือน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงในยุคข้าวยากหมากแพงนี้ เพราะพลังงานประเภทน้ำมันยังเป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับรถยนต์บนท้องถนน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีทางเลือกสำหรับ รถที่ใช้ไฟฟ้า เพิ่มมาก็ตาม ดังนั้นหากเรามีเทคนิคในการ ขับรถเพื่อประหยัดน้ำมัน ก็จะทำให้เราลดรายจ่ายในแต่ละเดือนไปได้มากเช่นกัน

- มีการวางแผนก่อนการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางในการเดินทางไปไหนมาไหนในแต่ละวัน เราควรมีการตรวจสอบเส้นทางไม่ว่าจะการฟังสถานีวิทยุหรือ Application ที่ช่วยตรวจสอบสภาพการจราจรล่วงหน้าในแต่ละวัน เพื่อช่วยประหยัดเวลา รวมไปถึงการเดินทางไปด้วยรถคันเดียวกันหากไปในเส้นทางเดียวกัน หรืออาจจะติดรถเพื่อนไปทำงานก็เป็นการประหยัดน้ำมันได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน

- การเช็กลมยางรถยนต์ก็สำคัญสำหรับการเดินทาง เพราะหากลมยางอ่อนเกินไปก็จะทำให้เปลืองน้ำมัน โดยปกติเราควรตรวจเช็กลมยางรถอย่างสม่ำเสมอ หากอยากให้การขับขี่ไม่เปลืองน้ำมัน นอกจากนี้ควรตรวจสอบร่องรอยของการขูดขีด หรือรอยแตกของยาง รวมถึงตรวจสอบวันที่ผลิตยางด้วย หากยางมีอายุเกินกว่า 5 ปี จะต้องเปลี่ยนยางใหม่

- หลีกเลี่ยงการขับรถแบบกระชากรถ เพราะการเร่งเครื่องยนต์แต่ละครั้งจะทำให้เครื่องยนต์ใช้พลังงานมากขึ้น และสิ้นเปลืองน้ำมันเป็นอย่างมาก

- การขับรถเร็วมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งใช้พลังงานน้ำมันมากขึ้นเท่านั้น สำหรับความเร็วที่เหมาะสมในการขับรถจะอยู่ในระดับ 80- 90 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ดังนั้นการหลีกเลี่ยงที่จะขับรถเร็วนอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้ว ยังทำให้ขับรถได้อย่างปลอดภัยห่างไกลจากอุบัติเหตุอีกด้วย



เกิดอุบัติเหตุขณะขับรถยนต์ต้องทำอย่างไร

อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นเราจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมเอาไว้ หากเราขับขี่รถแล้วมีอุบัติเหตุหรือเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น จะได้ไม่ตื่นตระหนกและสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ ควรทำอย่างไรบ้าง มาดูกันค่ะ

- หลีกเลี่ยงการโต้เถียงกับคู่กรณี เพราะนอกจากจะทำให้เสียเวลาแล้ว อาจจะเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้นมาได้ หากยังไม่แน่ใจว่าใครเป็นฝ่ายผิด การกล่าวคำขอโทษและไม่ใช้อารมณ์ในการพูดคุยอาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่า

- ให้หยุดรถแต่ไม่ใช่หยุดรถแบบกะทันหัน หากแต่ควรหาที่จอดที่เหมาะสม หรือจอดตรงที่เดิมแต่มีการเปิดสัญญาณไฟ หรือมีเครื่องกั้นเพื่อบอกรถที่กำลังตามหลังมาให้ได้รู้ว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นและกีดขวางทางในการจราจรอยู่ แต่หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นในที่เปลี่ยว แนะนำว่าไม่ควรลงจากรถทันที แต่ควรที่จะจำเลขทะเบียนของรถคู่กรณี และสถานที่เกิดเหตุไว้ แล้วรีบติดต่อไปยังตำรวจอย่างเร็วที่สุด

- เราควรมีข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับชื่อ ที่อยู่ เลขทะเบียนรถและชื่อประกันที่เรามีเพื่อแจ้งแก่คู่กรณีหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ และควรขอข้อมูลของคู่กรณีด้วย เพื่อความสะดวกในการทำเรื่องของประกันและการดำเนินการต่างๆ

- ทุกครั้งที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เล็กน้อยหรืออุบัติเหตุแบบที่เกิดความเสียหายมาก ก็ต้องมีการแจ้งข้อมูลต่างๆ แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะหากคู่กรณีเดินทางไปแจ้งความกับตำรวจในภายหลัง เจ้าหน้าที่อาจจะสรุปว่าเราเป็นฝ่ายหลบหนี และหากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น ต้องรีบแจ้งความทันที