คนขับรถ ใน ห้วยขวาง, กรุงเทพมหานคร

คนขับรถ ใน ห้วยขวาง, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ประทับใจมาก ๆเลยครับ บริการดีและคุ้มค่าเกินกว่าราคามาก ๆ ขอบคุณเว็บไซต์ใส่ใจที่ทำให้เจอพี่คนขับรถ
Saijai
กฤษติณ ฉลอม
3 ปีที่แล้ว
เมื่อไม่กี่วันมานี้ได้ลองใช้บริการคนขับรถ เพราะจะพาเพื่อนชาวต่างชาติไปเที่ยวรอบกรุง ลุงคนขับใจดีมากค่ะ ขับรถนุ่มมาก อยากไปตรงไหนลุงพาไปได้หมด ประทับใจมาก ๆ ค่ะ รับรองว่าจะกลับมาใช้บริการอีกในภายหลังแน่นอนค่ะ
Saijai
ณชยา ฤกษ์ดี
3 ปีที่แล้ว
หาคนขับไว้ขับรถรับส่งพนักงาน จนมาเจอกับคนขับรถผ่านเว็บใส่ใจ ค่าจ้างไม่แพง ใช้บริการมาได้ 3 สัปดาห์แล้วค่ะ คนขับรถมีมารยาทดีมาก ขับรถปลอดภัย ตรงเวลา ประทับใจมากค่ะ
Saijai
กาญจนาถ บัวใส
3 ปีที่แล้ว
เราใช้บริการคนขับรถบนหน้าเว็บไซต์ใส่ใจ คนขับรถมารับเราตรงเวลามาก ๆ ขับรถสุภาพ ใจเย็น ไม่รู้สึกถึงความกังวลเลยค่ะ คนขับรถชำนาญทางในกรุงเทพมาก ๆ เราเสร็จธุระแล้วมีงานต่ออีกที่หนึ่ง พี่คนขับพาเราไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย โดยรวมชื่นชมการให้บริการของพี่คนขับมาก ๆค่ะ
Saijai
ลินดา ทองศรี
3 ปีที่แล้ว
สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น แต่เรายังไม่สามารถไปรับลูกค้าที่โรงแรมมาประชุมที่ออฟฟิศได้ เลยเลือกใช้บริการคนขับรถในเว็บใส่ใจไปรับแทน เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาได้รับคำชม คนขับรถไปรอที่โรงแรมก่อนเวลาลูกค้าลงมาจากห้องก็เข้าไปแนะนำตัวถามชื่อแล้ว ตรงมาออฟฟิศ บริการสุภาพเรียบร้อยมาก ผมเลยไว้วางใจให้คนขับรถดูแล ที่สำคัญ คนขับรถใส่ใจเรื่องสุขอนามัย ใส่หน้ากากตลอดการบริการ
Saijai
สัมพันธ์ ลาภอุดมกิจ
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา คนขับรถ

ข้อดีของการมีคนขับรถส่วนตัว
ข้อดีของการมีคนขับรถส่วนตัว

1. เราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ให้เสร็จได้ในขณะเดินทาง การขับรถต้องใช้เวลามาก เมื่อเรามีคนขับรถคุณส่วนตัว เราสามารถทำงานให้เสร็จได้ในขณะที่เราอยู่ในรถ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล โทรศัพท์หรืออ่านหนังสือ เราสามารถติดตามงานได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องกังวล กับการจดจ่ออยู่กับท้องถนน
2. ลดความเครียดความหงุดหงิดและอันตรายให้น้อยที่สุด เป็นที่ยอมรับว่าการขับรถอาจทำให้เกิดความเครียดได้ ความเครียดทำให้หงุดหงิดและความโกรธบนท้องถนนจะเพิ่มโอกาสที่จะเกิดอันตราย การมีคนขับรถส่วนตัวที่อยู่หลังพวงมาลัยเราสามารถนั่งและผ่อนคลาย หากเราเหนื่อยจากงาน เรายังสามารถนอนหลับได้ตลอดเส้นทาง
3. บอกลาปัญหาที่จอดรถ ที่จอดรถอาจเป็นฝันร้ายโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ บางครั้งเราต้องจอดรถไกลจนต้องใช้เวลากว่า 20 นาที ในการเดินไปยังจุดหมาย เมื่อเรามีคนขับรถส่วนตัวเราสามารถลงรถและนัดไปรับได้ในที่ที่เราต้องการ โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการจอดรถโดยสิ้นเชิง
4. ความตรงต่อเวลา เป็นส่วนหนึ่งของงานของคนขับรถในการวางแผนเส้นทางที่เร็วและมีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อให้เราไปถึงที่ที่คุณต้องตรงเวลา โดยจะคำนึงถึงช่วงเวลาของวันสภาพอากาศและปัญหาทางถนนที่อาจเกิดขึ้นเพื่อให้เราทำได้อย่างง่ายดาย เมื่อพนักงานขับรถมืออาชีพดูแลรายละเอียดเหล่านี้ให้เรา เราจะไม่สายสำหรับเที่ยวบิน ตรงเวลาต่อการนัดหมาย
5. การทำงานอย่างมืออาชีพ คนขับรถส่วนตัว มีความภาคภูมิใจในรูปลักษณ์ของตนเองและแต่งกายอย่างสุภาพอยู่เสมอ คนขับรถส่วนตัว ที่ได้รับการอบรมหลายคนสามารถ ขับรถไปรับ ส่งลูกค้า หรือผู้ร่วมงานทางธุรกิจ แทนเรา เป็นการสร้างความประทับใจเบื้องต้นได้
6. อีกหน้าที่ คนขับรถส่วนตัวเหล่านี้ยังดูแลยานพาหนะของเราอย่างดีเยี่ยมและบำรุงรักษาตลอดเวลา ทำให้เราสบายใจในการใช้ยานพาหนะไม่กังวลว่าเสียกลางทาง หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นถ้าเราดูแลยานพาหนะไม่ดีพอ
คนขับรถควรมีทักษะอะไรบ้าง
1. ขับขี่ปลอดภัย เป็นทักษะแรกที่ต้องมี ผ่านการฝึกอบรมให้เป็นพนักงานขับรถที่ดี ไม่ใช่แค่ต้องไปรับไปส่งเจ้านาย หรือรับส่งพนักงานในองค์กรในแต่ละวันเท่านั้น แต่มีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารบนรถให้ไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
2. มารยาทดี พนักงานขับรถเกือบจะเป็นคนแรกๆ ที่เจ้านายหรือพนักงานคนอื่นๆ ในองค์กรได้เจอในแต่ละวัน พนักงานขับรถที่ดีควรมีจิตใจรักในงานบริการ บางครั้งต้องไปรับบุคคลสำคัญ ลูกค้าคนสำคัญ สิ่งที่คนขับรถแสดงออกจะส่งผลไปถึงองค์กรได้ด้วย
3. เตรียมยานพาหนะให้พร้อมใช้งาน รู้เทคนิคการตรวจสอบและเช็คความปลอดภัย รวมถึงความสะอาด และตัวพนักงานขับรถที่ดีสามารถเตรียมความพร้อมก่อนขับขี่รถ ตัวพนักงานเองก็ต้องมีสุขภาพแข็งแรง มีสติสัมปชัญญะและสมาธิครบถ้วนพร้อมให้บริการ
4. ทัศนคติดี ทัศนคติที่ดีของพนักงานขับรถในขณะปฏิบัติหน้าที่คือ ขับรถตามกฎจราจร มีมารยาทที่ดีต่อผู้ร่วมทาง หากพบผู้ร่วมทางที่มีพฤติกรรมที่ทำให้ไม่พอใจ ก็สามารถควบคุมได้ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของทุกฝ่าย และยังมีทัศนคติในการขับขี่ที่ได้มาตรฐานสากล
5. Defensive Driving หรือ ปลอดภัยไว้ก่อน การฝึกใช้กลยุทธ์การขับขี่ที่ลดความเสี่ยงและช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ เช่นเดียวกับการคาดการณ์อันตรายบนท้องถนน (มักใช้ในเชิงเหตุผล) ด้วยการขับขี่เชิงป้องกัน เพราะการขับขี่เชิงป้องกันหรือ ไม่เพียงแต่ให้พนักงานขับขี่ปลอดภัย แต่เป็นทักษะที่ให้ความปลอดภัยขั้นกว่ากับผู้ใช้บริการ พนักงานขับรถที่ดีจะไม่เพียงแค่รู้กฎจราจรขั้นพื้นฐาน แต่ยังมีการฝึกสมาธิระหว่างขับ มีความเข้าใจในการขับขี่ สาเหตุและปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุ สามารถประเมินสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างละเอียด เรียกได้ว่าเป็นความปลอดภัยขั้นสูงที่พนักงานขับรถที่ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้นเพื่องานคุณภาพ
จ้างคนขับรถค่าใช้จ่ายสูงจริงหรือไม่
การเดินทางด้วยรถยนต์ ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและมีความเป็นส่วนตัว ต่างกับการใช้บริการรถสาธารณะที่มีเวลาเดินทางไม่แน่นอนและอาจต้องต่อรถหลายครั้งกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ยิ่งถ้าในวันหนึ่งๆนั้น เราต้องเดินทางไปหลาย ๆ สถานที่ ยิ่งมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นและความสะดวกสบายลดลง

อย่างไรก็ตามสำหรับนักธุรกิจหรือคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ การมีคนขับรถส่วนตัวช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นอีกมาก จึงเกิดคำถามว่าการจ้างคนขับรถส่วนตัวค่าใช้จ่ายสูงจริงหรือไม่ หากเราใช้บริการจากบริษัทจัดหาคนขับรถ ที่มีบริการคนขับรถประจำสำนักงานที่มีประสบการณ์ขับรถ (แน่นอน เพราะคนขับรถส่วนตัวต้องใช้ความรับผิดชอบ ทักษะ และประสบการณ์สูง อย่างน้อยต้องมีประสบการณ์ในการขับรถหลายปีขึ้นไป) ชำนาญเส้นทางในที่เราทำงานอยู่หรือสามารถพาเราไปในจังหวัดหรือพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยได้

และหากใครที่ต้องการพนักงานขับรถให้เจ้านายชาวต่างชาติ หรือบริการลูกค้าชาวต่างชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง การได้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และภาษาของเจ้านายหรือลูกค้าบ้างนิด ๆ หน่อยๆ เป็นรอง จะอำนวยความสะดวกมากขึ้นเพราะเจ้านายหรือลูกค้าที่ใช้บริการเหล่านี้ไม่ชำนาญเส้นทางในที่ที่เราทำงานอยู่ หากเรามีพนักงานขับรถที่ไว้ใจได้ ได้มาตรฐานสากลและด้วยในอัตราค่าบริการแบบเหมา "รายเดือน" เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่ได้กลับมาย่อมคุ้มค่ามาก ๆ เพราะลูกค้าที่ใช้บริการได้พักผ่อนระหว่างเดินทาง หรือเตรียมงาน เตรียมตัวบนรถระหว่างเดินทางไปทำธุระ สามารถเดินทางไปได้ทันเวลาไม่ว่าจะไปสนามบิน หรือที่ทำงาน หรือสถานที่ไกลๆ สุดท้ายถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายจ้างพนักงานขับรถไปบ้าง แต่ก็คุ้มค่าที่สุด กับสิ่งที่ได้รับกลับมา “เราได้ซื้อเวลา สุขภาพ ความปลอดภัยในการเดินทางและความสำเร็จทางธุรกิจ”
ก่อนจ้างคนขับรถส่วนตัวควรตกลงอะไรบ้าง?
ข้อตกลงที่ผู้ว่าจ้างควรตกลงกับคนขับรถมีอะไรบ้าง

1. ตกลงคุยเวลาทำงาน เริ่มงานกี่โมงเสร็จกี่โมง ทำงานกี่วันต่อสัปดาห์ กรณีทำงานล่วงเวลา overtime จะคิดค่าแรงอย่างไร หากต้องเดินทางไปต่างจังหวัดมีเบี้ยเลี้ยงเท่าไร ตกลงเรื่องวันหยุดวันลาต้องแจ้งล่วงหน้ากี่วันเพราะเราจะได้จัดหาคนมาทำงานแทน หากกรณีไม่ขาดงานไม่แจ้งล่วงหน้า ต้องยินยอมให้ปรับ หรือ ชดเชยค่าเสียหายได้
2. ประสบการณ์การทำงาน ความชำนาญในเส้นทางหลัก ที่ใช้ประจำหรือเส้นทางที่ผู้จ้างไปทำธุระ นอกจากนั้นคนขับรถอาจต้องดูแลแขกหรือลูกค้าของผู้ว่าจ้างด้วย ประสบการณ์การทำงาน บุคลิกภาพและมารยาท ก็เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงได้
3. สวัสดิการที่จะได้รับ ประกันสังคม ประกันสุขภาพ โบนัสเงินรางวัล ตามโอกาสเทศกาลต่าง ๆ ตามสมควร
4. ยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม หรือมีเงินประกัน เพื่อความปลอดภัยและสบายใจได้ในระดับหนึ่ง
5. บางครั้งอาจต้องมองถึงที่พักของคนขับรถที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน เพราะคนขับรถต้องเตรียมพร้อมก่อนเวลางาน และ กลับหลังเสร็จงานที่ไม่ไกลจากที่ทำงาน เพราะร่างกายต้องการพักผ่อนเช่นกัน แม้บางวันงานไม่หนัก ระยะทางไม่ไกล แต่ถ้าไม่มีเวลาพักผ่อนการเตรียมความพร้อมรอผู้จ้าง จะส่งผลถึงความปลอดภัยเวลาขับขี่ได้
6. ให้แน่ใจว่าเข้าใจระบบรถที่จะขับหรือไม่ ในกรณีที่เกิดปัญหาสามารถแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นได้ อีกทั้งต้องช่วยดูแลทรัพย์สิน (รถ)ของผู้ว่าจ้าง ให้สะอาดเรียบร้อยพร้อมใช้งานตามความเป็นจริง แจ้งซ่อม หรือบำรุงรักษาตามจริง คำนึงเสมอว่าคนขับรถไม่ใช่แค่ผู้ที่นำพาเราไปยังจุดหมายตามคำสั่งหรือข้อตกลง ความปลอดภัยของผู้จ้างเอง หรือลูกค้าหากมีโอกาสต้องดูแล ก็สำคัญด้วยเช่นกัน

หากผู้จ้างไม่สามารถเลือกคนขับรถเองได้แล้ว ลองมองหาตัวแทนที่ไว้ใจได้ทำหน้าที่จัดส่งคนขับรถมาให้ ที่สามารถทำตามข้อตกลงทั้ง 6 ข้อหรือมากกว่าตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง

“ซิน อี้ หมิน” เปลี่ยนย่านชุมชนไทยกลายเป็น “นิวไชน่าทาวน์”

การเข้ามาของกลุ่ม “คนจีนรุ่นใหม่” หรือที่เรียกว่า “ซิน อี้ หมิน” เปลี่ยนย่านชุมชนไทยกลายเป็น “นิวไชน่าทาวน์” ชุมชนละแวก ถ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ เขตห้วยขวาง และบริเวณโดยรอบ วันหนึ่งขณะที่เราค้าขายกัน วิถีดั้งเดิมของชุมชนเปลี่ยนไปแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ชุมชนธรรมดาๆ แห่งนี้ กำลัง “พลิกโฉม” เป็นแหล่งหยุดพักของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากประเทศจีน ซึ่งมีอัตลักษณ์ชัดเจนอย่างที่รู้กันดี ทั้งวิถีกิน วิถีช้อป และวิถีท่องเที่ยว ถนนเส้นเล็กๆ จึงเติบโตอย่างก้าวกระโดด ครบครันด้วยร้านอาหารจีน นวดสปา หมอนยางพารา ฯลฯ ราวกับว่า นี่คืออีกจุดหมายแห่งใหม่ที่ใครๆ ต่างกำลังพูดถึง (แม้ช่วงวิกฤติยังคงเป็นเสือหลับ วันหน้าเหตุการณ์ผ่านไปเขากลับมาแน่นอน) สถิติของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา บอกชัดเจนว่า นักท่องเที่ยวจีนที่หลั่งไหลเข้าประเทศไทยสูงขึ้นกว่า 2 เท่า เมื่อ 3-4 ปีก่อน โดยเฉพาะในปี 2558 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยมากถึง 7.93 ล้านคน ขณะที่ในปี 2559 นับตั้งแต่ มกราคม-พฤษภาคม ใช้เวลา5เดือน ก็นับได้จำนวนกว่า4.18 ล้านคน หนึ่งเหตุผล คือมีสถานทูตจีนตั้งอยู่ไม่ไกล และมีตลาดห้วยขวางซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมง สอง-มีองค์พระพิฆเนศที่คนจีนนับถือและนิยม ขณะที่สาม-คือความได้เปรียบในเรื่องสถานที่ เพราะ ถ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ เปรียบเสมือนทำเลที่สามารถเดินทางไปรอบกรุงเทพมหานครได้สะดวก สามารถที่จะใช้เป็นเส้นลัดทางออกสู่ ถ.ลาดพร้าว ถ.พระรามเก้า และ ถ.รามคำแหง เกิดปรากฏการณ์ ร้านขายของเจ้าประจำต้องย้ายออก เจ้าของเก่าขายกิจการ เปลี่ยนมือให้ “ซิน อี้ หมิน” เข้ามาปักหลักในย่านชุมชน ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจที่เติบโตมาจากการขยายตัวของนักท่องเที่ยวการเปลี่ยนแปลงชุมชนสู่ “นิวไชน่าทาวน์” ย่านประชาราษฎร์บำเพ็ญ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปี 2556 เป็นช่วงที่ “ทัวร์จีนบูม” นักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางมาไหว้พระพิฆเนตร ทัวร์ก็มาลงในย่านนี้ ต่อมา ข้อจำกัดเรื่องที่จอดรถบวกกับหน่วยราชการเข้มงวดมากขึ้น จึงปรับเปลี่ยนเป็นไกด์จีนมาเหมาซื้อสินค้าในย่านนี้แล้วก็ไปขายปลีกนักท่องเที่ยวอีกที “การท่องเที่ยวคือเรื่องดี แต่เมื่อมันขยายตัว เราก็จำเป็นต้องจัดระบบให้เหมาะสม ให้สอดคล้องกับลักษณะของแต่ล่ะพื้นที่” ในวันที่ชุมชนไทยต้องแปลงร่างกลายเป็นย่านจีน แม้จะไม่ชอบใจนัก แต่ทั้งหมดคือความจริงอีกด้านของการท่องเที่ยว เป็นสัญญาณเตือนให้เราต้องปรับตัวเองให้รัดกุมกว่าที่เคย



วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก

ในเขตห้วยขวางมีวัดที่มีจุดเริ่มต้นมาจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานไว้เกี่ยวกับการบำบัดน้ำเสียในกรุงเทพมหานคร ทรงตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงมีพระราชดำริให้ทดลองแก้ไขปัญหาน้ำเสีย โดยให้บริเวณบึงพระราม 9 เป็นระบบบำบัดน้ำเสียขนาดเล็ก และทดสอบการบำบัดน้ำเสียที่ไหลมาตามคลองลาดพร้าวบางส่วนให้มีคุณภาพที่ดีขึ้นโดยเติมอากาศลงไปในน้ำ และปล่อยให้น้ำตกตะกอน แล้วปรับสภาพ ก่อนระบายออกสู่ลำคลองตามเดิม รวมทั้งนำน้ำสะอาดจากแม่น้ำเจ้าพระยามาชะล้างเพื่อทำความสะอาดคลอง และระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยอาศัยจังหวะน้ำขึ้นลงตามธรรมชาติ เป็นการลดปัญหาน้ำเสียได้ในระดับหนึ่ง หลังจากนั้นเป็นต้นมา พื้นที่บึงพระราม 9 จึงได้รับการพัฒนาขึ้น เป็นตัวอย่างในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียให้แก่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวให้ดีขึ้น และเมื่อโครงการบึงพระราม 9 ได้ดำเนินการไประดับหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงมีพระราชดำริเพิ่มเติมขึ้นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2531 โดยให้ปรับปรุงสภาพพื้นที่ และชุมชนที่อยู่ใกล้กับโครงการบึงพระราม 9 พร้อมกันนั้นก็ให้สร้างวัดขึ้นในพื้นที่ที่ดินใกล้เคียง ซึ่งจวงจันทร์ สิงหเสนี ได้น้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินจำนวน 8-2-54 ไร่ และได้รับการอนุญาตให้สร้างวัดจากกรมการศาสนา เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2534 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานนามวัดแห่งนี้ว่า "วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก" โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร เป็นองค์อุปถัมภ์ฝ่ายสงฆ์ และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์อุปถัมภ์ฝ่ายฆราวาส ในการนี้ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการดำเนินงานก่อสร้างวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษกขึ้น โดยมีจริย์ ตุลยานนท์ กรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธานคณะอนุกรรมการดำเนินการก่อสร้างวัด ทำหน้าที่ในรับผิดชอบในการดำเนินการก่อสร้างวัดให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ คือ โดยเป็นวัดขนาดเล็ก และมีลักษณะเรียบง่าย ประหยัด และทันสมัย เป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจ และศรัทธา เป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ ทั้งทางศาสนา สังคม และจริยธรรม แก่เยาวชน และประชาชนในชุมชน เพื่อขัดเกลาจิตใจของชุมชนให้มีจิตสำนึกต่อสังคมโดยส่วนรวมอันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการเปิดประชุมยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ครั้งที่ 14 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 ความตอนหนึ่งว่า

...จุดมุ่งหมายโดยตรงแท้ของศาสนาทั้งปวง และโดยเฉพาะของพระพุทธศาสนามุ่งจะให้บุคคลศึกษาพิจารณาหลักการ และแนวความคิดในศาสนธรรม และน้อมนำมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวและปฏิบัติด้วยตนเองตามความสามารถ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการครองชีวิต คือให้เกิดความผาสุก ความร่มเย็น และความเจริญในแต่ละบุคคลในส่วนรวม และให้เกิดความบริสุทธิ์หลุดพ้นอันเป็นปรมัตถประโยชน์ ดังนั้นการบำรุงส่งเสริมพระศาสนาจึงควรจะได้กระทำให้ถูกเป้าหมาย...

— พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร



เคล็ดลับ สำหรับทัวร์ขับรถส่วนตัว

เมื่อคุณได้ยินคำว่าคนขับรถ คุณนึกถึงความหรูหราที่มีให้เฉพาะคนพิเศษเพียงไม่กี่คนหรือไม่? แล้วคนขับรถส่วนตัวล่ะ? คนๆ นี้ได้รับการว่าจ้างเป็นเพื่อพาคุณจากจุด A ไปยังจุด B หรือไม่? ทุกคนมีคำจำกัดความที่แตกต่างกันของคนขับรถและคนขับรถส่วนตัว (และความประทับใจที่แตกต่างกันของความรับผิดชอบในงานที่เกี่ยวข้อง)

1. ความรู้ทั่วไปนอกจากเรื่องรถและเส้นทาง

คนขับรถที่ดีควรมีความรู้ทั่วไปของแต่ละพื้นที่ ที่สามารถพูดคุยหรือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้โดยสารได้ เช่าการแนะนำร้านอาหารในพื้นที่ เส้นทางที่สะดวกหรือเส้นทางที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ของท้องถิ่น ประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ปัจจุบัน ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยว เหล่านี้จะเพิ่มความสุขให้กับการเดินทางหรือช่วยคลายสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางคนเดียว

2. การวางแผนการเดินทาง

วิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างวันหยุดที่เป็นส่วนตัวและน่าจดจำคือการมีไกด์ที่มีความรู้อยู่เคียงข้างคุณตลอดการเดินทาง และช่วยเหลือคุณหากมีคำถามและ/หรือข้อกังวล หากวางแผนที่จะใช้เวลาช่วงวันหยุดกับคนขับรถส่วนตัว คุณจะต้องมีการวางแผนสิ่งที่คุณอยากทำและที่ที่คุณอยากจะไปในแต่ละวัน การปล่อยให้เวลาว่างเพื่อความยืดหยุ่นและใช้เวลาในแต่ละวันที่จะมาถึงก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

เมื่อเตรียมการล่วงหน้า คุณจะสามารถปรับแผนการเดินทางได้หากต้องการ หรือรับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีทำให้รายการความปรารถนาส่วนใหญ่เป็นไปได้

สุดท้ายนี้ ตรงต่อเวลา คงไม่มีใครอยากพลาดกำหนดการเดินทางเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เวลายังมีผลกับสภาพการจราจรบนท้องถนนด้วย บนถนนบางสายเวลาห่างกันแค่ 10 นาที แต่สภาพรถติดอาจรุนแรงมากจนทำให้คุณพลาดนัดสำคัญ