ช่างซ่อมบำรุง ใน ดอนตูม, นครปฐม

ช่างซ่อมบำรุง ใน ดอนตูม, นครปฐม

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ติดต่อจ้างช่างล้างแอร์เพราะเพื่อนแอบกระซิบมาว่าบริการดี ช่างมีความชำนาญ ประทับใจค่ะ โอกาสหน้าจะมาใช้บริการอีกนะคะ
Saijai
อลีน่า เชติพัน
2 ปีที่แล้ว
สนามหน้าบ้านหญ้าขึ้นจนรกไปหมด ได้ช่างทำสวนจากใส่ใจ งานเร็วงานดีมาก หญ้ารกรอบหน้ากลับมาใช้บริการอีกแน่นอน
Saijai
ลดาวรรณ พิมพัณ
2 ปีที่แล้ว
อยากทาสีห้องใหม่แต่ไม่รู้จะหาช่างจากที่ไหน คนรู้จักเลยแนะนำให้ลองใช้บริการผ่านใส่ใจ ประทับใจมั่ก โอกาสหน้าจะมาใช้บริการอีกแน่นอนนน
Saijai
อลิสา จันดี
2 ปีที่แล้ว
ช่างที่ติดต่อผ่าน SAIJAI บริการดีมากครับ ครั้งหน้ามาใช้บริการอีกแน่นอน
Saijai
เจนภพ อรุณพิทักษ์
2 ปีที่แล้ว
จบครบที่เดียวจริง ๆ ติดต่อช่างมาปูกระเบื้องกับทาสีห้องใหม่ผ่านใส่ใจ งานเนี๊ยบ บริการดี๊ดี
Saijai
วันพร คงชนะ
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง

การซ่อมบำรุงสำคัญอย่างไร
หลายคนอาจจะยังนึกไม่ถึงอันตรายที่อาจเกิดจากใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ขาดการดูแลรักษาและการซ่อมบำรุง เช่น น๊อตบานประตูตู้เสื้อผ้าที่หลวมจากการเปิดปิดบ่อย ๆ หากเราไม่จัดการไขน๊อตให้แน่นตั้งแต่ตอนที่เราทราบแรก ๆ เวลาผ่านไปมันจะยิ่งหลวมกว่าเดิมเพราะมีการเปิดปิดตู้เสื้อผ้าอยู่เป็นประจำ และเพราะเราไม่จัดการมันตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้นอาจส่งผลให้บานประตูของตู้เสื้อผ้านั้นหลุด และอาจจะหล่นมาทับตัวเรา หรืออาจจะให้เกิดการเลือดตกยางออกได้
เพราะเหตุนี้ “การซ่อมบำรุง” หรือ บำรุงรักษา จึงมีความจำเป็นต่อทุก ๆ คน เพราะสิ่งนี้จะยืดระยะเวลาการใช้งานเครื่องจักรเครื่องมือของเราได้มากขึ้น และยังเป็นการประหยัดทรัพยากร ประหยัดเงินที่จะต้องเสียไปหากเราปล่อยให้เครื่องจักรเครื่องมือของเราเกิดความเสียหายจนไม่สามารถแก้ไขได้ อีกทั้งยังลดการสร้างขยะได้อีกด้วย
“การซ่อมบำรุง” หรือ บำรุงรักษา คือการจัดการให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงการรักษาอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือเครื่องจักร ให้อยู่ในสภาพที่ดี และเป็นการทำสิ่งที่ชำรุดให้กลับคืนสู่สภาพที่ดี
เราจึงควรที่จะใส่ใจในการดูแลและรักษาสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้าน หรือที่ทำงานเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย และเพื่อที่สิ่งของเครื่องใช้เหล่านี้จะสามารถใช้งานในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ จะเป็นประโยชน์มากขึ้นถ้าหากเราสามารถบำรุงรักษามันให้อยู่ในสภาพที่ดีจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือเครื่องจักร และยังเป็นการป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากอุบัติที่เกิดจากเครื่องมืออุปกรณ์ที่ชำรุดจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ



ช่างซ่อมบำรุงที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร
ความซื่อสัตย์และการมีความรับผิดชอบ เป็นสิ่งที่สำคัญในการทำงานทุก ๆ ประเภท การที่เราจะทำงานได้อย่างมีคุณภาพ และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ความซื่อสัตย์และการมีความรับผิดชอบนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังสุภาษิตที่ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” กล่าวคือ “ความซื่อสัตย์ทำให้คนเชื่อใจ มีคนนับถือ ไม่มีวันอดตาย มีคนคอยช่วยเหลือ แต่หากมีนิสัยคดโกง เมื่อถูกจับได้ย่อมไม่มีใครอยากช่วยเหลือหรือเกี่ยวข้องด้วย” แล้วช่างซ่อมบำรุงที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไรกันนะ
การมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จลุล่วงภายในระยะเวลาที่ได้ตกลงกับผู้ว่าจ้าง อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าการมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับนั้นเป็นสิ่งสำคัญและยังเป็นตัวชี้วัดคุณภาพในการทำงานของบุคคลนั้น ๆ ทำให้เห็นว่าบุคคลนั้น ๆ มีความใส่ใจต่องานมากน้อยเพียงใด ในระยะเวลาที่ตกลงกันไว้
ความซื่อสัตย์เป็นอีกสิ่งที่สำคัญเช่นกัน การที่เรามีความซื่อสัตย์ไม่ว่ากับเพื่อนร่วมงานหรือผู้ว่าจ้างจะทำให้ตัวเรานั้นมีความน่าเชื่อถือ แต่ไม่ได้มีแค่สองสิ่งนี้ที่เป็นคุณสมบัติของช่างซ่อมบำรุง ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ความรู้ความสามารถในงานซ่อมบำรุงและมีความรอบรู้ในเชิงช่างทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ช่างซ่อมบำรุงจะต้องมีความรู้ในเรื่องเครื่องจักร เครื่องมือ วัสดุและอุปกรณ์ และยังต้องมีความกล้าที่จะตัดสินใจ มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จก็เป็นคุณสมบัติที่ดีของช่างซ่อมบำรุงเช่นกัน
ซ่อมเองหรือเรียกช่าง แบบไหนจะดีกว่ากัน
งานติดตั้ง หรืองานซ่อมบำรุงบางอย่างอาจหาข้อมูล และทำความเข้าใจได้ แต่เราต้องการให้งานนั้นถูกต้องและเรียบร้อยที่สุด เราคงต้องใช้คนที่มีทักษะ หรือความชำนาญในการทำงานเฉพาะทาง และอุปกรณ์ที่เราอาจไม่มีด้วย สิ่งนี้จะทำให้งานของเรานั้นดีขึ้นอย่างมากแน่นอน งานซ่อมแซมบางอย่างอาจมีความเสี่ยงก่อให้เกิดอันตราย เช่น
- ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ควรเรียกช่างซ่อมบำรุงผู้ชำนาญการมาทำจะปลอดภัยกว่า เพราะเราทำเองบางครั้งอาจเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิต และสูญเสียทรัพย์สินได้
- บางครั้งปัญหาเล็กๆ อย่างหลอดไฟที่เคยสว่างอยู่ดีๆ เกิดกะพริบๆ มีเสียงดังขณะเปิด หรือกว่าจะสว่างก็ใช้เวลานาน หนักสุดคือ ดับไปเลย อาการเหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเป็นที่บัลลาสต์เสีย แกนหลวม หลอดไฟขาด หรือเสื่อมสภาพ หลอดไฟก็มีหลายแบบทั้งหลอดเกลียว แบบขาสปริง เราควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะนำมาใช้แล้ว ในกรณีที่หลอดไฟนั้นอยู่สูง ควรจะใช้บันไดไม่ควรใช้เก้าอี้ เพราะการใช้เก้าอาจทำให้เกิดอันตรายได้
- การเปลี่ยนก๊อกน้ำ การยิงซิลิโคน การเจาะผนัง การทะลวงท่อน้ำนั้นต้องใช้เครื่องมือมากมายในการแก้ปัญหา
- ส่วนของช่องสำหรับการซ่อมบำรุงอาจเป็นสิ่งที่ถูกละเลยมากที่สุดในบ้าน โดยเฉพาะระบบสายไฟบนเพดานที่มีฝ้าปิดทึบทั้งหมด หากบ้านที่คุณอยู่ไม่มีช่องเปิดฝ้า แล้วมีหนูหาทางขึ้นฝ้าไปกัดสายไฟจนขาด ก็จะเป็นเรื่องลำบากมากในการแก้ไขสายไฟให้กลับมาเป็นปกติ ดังนั้น บ้านทุกหลังจำเป็นต้องมีช่องสำหรับซ่อมบำรุงสายไฟบนฝ้าเผื่อไว้ด้วย โดยเฉพาะชั้นล่างหรือชั้นที่ไม่ได้ติดหลังคา ส่วนชั้นที่ติดหลังคาจะมีช่องปีนขึ้นฝ้าอยู่ ถ้าไม่มั่นใจเราก็สามารถเรียกช่างซ่อมบำรุงมาตรวจดูได้
บนแพลตฟอร์ม SAIJAI มีช่างซ่อมบำรุงด้านใดบ้าง
บนแพลตฟอร์มของ SAJAI มีบริการมากมายหลากหลายด้านให้ท่านได้เลือกใช้บริการ และหนึ่งในบริการที่ขาดไม่ได้ คือ งานบริการด้านซ่อมบำรุง ดูแล มีไรอะไรบ้างเราไปดูกันค่ะ
- ช่างทาสี การทาสีนั้นอาจจะดูเหมือนง่ายแต่ก็ไม่ง่ายไปซะทีเดียว การทาสีผนังบ้านใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จกับการทาสีผนังบ้านเก่านั้นมีการเตรียมพื้นผิวในการทาสีและมีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทาสีที่ต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นในการที่เราจะให้ผู้ที่มีประสบการณ์ในการทาสีเพื่อความสวยงามของบ้านที่เรารักและจะอาศัยอยู่ไปอีกนาน
- ช่างปูกระเบื้อง การใช้บริการช่างจากช่างปูกระเบื้องที่มีความชำนาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อที่เราจะได้รับงานที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อนและมีความสวยงาม
- ช่างฝ้าเพดาน เพื่อป้องกัน ในแสงแดดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวของเราและ เพื่อเก็บโครงสร้างใต้หลังคาให้บ้านดูสวยงาม โดยฝ้าเพดานนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายประเภท มีความสวยงามเหมาะกับการแต่งบ้านแต่ละแบบต่างกันออกไป
- คนดูแลสวน การดูแลสวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความใส่ใจเป็นอย่างมาก การทำสวนไม่ใช่การทำแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องให้สวนนั้นสามารถอยู่ได้อย่างยาวนาน
- ช่างดูแลสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำของเราจะสะอาดได้นั้น ต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เราอาจจะคิดว่าเราสามารถที่จะดูสระว่ายน้ำด้วยตัวเองได้ แต่ในความเป็นจริงมีรายละเอียดปลีกย่อยในการดูแลและบำรุงรักษาสระว่ายน้ำอีกมากพอสมควรที่เราอาจจะยังไม่รู้ ดังนั้นการเรียงช่างที่เป็นดูแลสระว่ายน้ำนั้นจะช่วยให้เราสะดวกในการดูแลมากกว่าเดิม เพราะสระว่ายน้ำเป็นสิ่งก่อสร้างที่ถาวรเหมือนกับบ้านและตึกที่เราอาศัย การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก

คราบผงขาว ๆ ติดบนผ้า มาจากไหน มาดูกัน

ในบางครั้งพบว่ามีคราบผงแป้งสีขาว ๆ ติดอยู่บนเสื้อผ้าหลังทำการซักเสร็จ หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินมา ว่าคราบเหล่านั้นเกิดจากการใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าที่มีส่วนผสมของแป้ง ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะว่าถ้าใส่แป้งลงไปจริง ๆ คงไม่พ้นเกิดเป็นคราบเหนียว ๆ หรือมีกลิ่นบูดเน่าติดผ้าเป็นแน่ แต่เป็นสิ่งที่ทำให้น้ำละลายผงซักฟอกเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเมื่อหยดสารละลายไอโอดีนลงไป ก็คือ CMC (carboxy methyl cellulose) ที่เติมลงไปในผงซักฟอกเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกย้อนกลับมาติดผ้านั่นเอง มันไม่ใช่แป้ง

ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดคราบ คือ โซเดียมคาร์บอเนต หรือโซดาแอช ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในผงซักฟอกที่หลาย ๆ คนใช้กัน สารตัวนี้ใช้เพื่อปรับสภาพน้ำ ทำให้มีความลื่นในน้ำผงซักฟอก และช่วยเพิ่มค่าความเป็นด่างให้กับน้ำ เมื่อจับตัวกับแคลเซียมไอออนในน้ำกระด้างจะเกิดเป็นตะกอนหินปูน (calcium carbonate) ที่สามารถเกาะเป็นคราบขาวบนผ้าได้ ถ้าไม่ได้ถูกทำให้กระจายตัวหรือละลายน้ำให้ดีเสียก่อน

ส่วนสารประกอบโพลีฟอสเฟตที่ผสมในผงซักฟอกเพื่อแก้ความกระด้างของน้ำเช่นเดียวกัน ถ้าอยู่ในสภาวะปกติมันจะกระจายตัวได้ดีในน้ำมากกว่า แต่ถ้าอยู่ในสภาวะที่เป็นด่างร้อน เช่น การซักในอุณหภูมิสูงเป็นเวลานานในสภาวะด่าง จะเกิดปฏิกิริยาจนกลายเป็นตะกอนขาว โดยเฉพาะเมื่อเจอกับความชื้นหรือน้ำ โดยที่ไม่ได้ตีกับน้ำให้ละลายดีเสียก่อน จะเกิดเป็นก้อนเหนียวและมาเกาะกับผ้าได้ง่าย

ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากผงซักฟอกเท่านั้น แม้แต่น้ำยาซักผ้าหลาย ๆ สูตรที่มีการเติมสารประกอบฟอสเฟตลงไป แม้ดูเหมือนว่าจะละลายหมดแล้วและไม่น่าเกิดคราบแป้งสีขาว (เพราะอยู่ในรูปของเหลว) ก็ยังมีโอกาสเกิดเป็นคราบขาว ๆ ได้เช่นกัน



เทคนิค ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มอย่างถูกต้อง ถูกวิธี

ก่อนใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ต้องแน่ใจว่าล้างผ้าจนสะอาดดีแล้ว มีความลื่นน้อยลงแล้ว พอมาถึงน้ำสุดท้ายที่ต้องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม มีวิธีใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มอย่างถูกต้อง ที่ป้องกันการเกิดคราบ ดังนี้

1.เช็กให้แน่ใจก่อนว่าผ้าที่จะซักนั้นเหมาะจะใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจ ให้อ่านรายละเอียดบนป้ายสัญลักษณ์เกี่ยวกับดูแลรักษาเสื้อผ้าชิ้นนั้น ๆ ให้เข้าใจก่อน

2.กรณีการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า ไม่ควรเทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงบนเสื้อผ้าโดยตรง ควรเทน้ำยาปรับผ้านุ่มในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มเท่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดคราบด่างติดเนื้อผ้า ซึ่งน้ำยาจะกระจายตัวได้ดีกว่า

3.หากซักด้วยมือ ให้สังเกตน้ำว่าน้ำก่อนหน้าที่จะใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มหายลื่นหรือยัง ถ้าหายลื่นแล้วค่อยนำผ้าไปแช่ในน้ำผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม โดยควรรองน้ำไว้ก่อน เมื่อได้ปริมาณที่ต้องการแล้วค่อย ๆ เทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงไป กวนให้น้ำยากระจายตัวอย่างทั่วถึงก่อน แล้วใส่ผ้าลงไปแช่ไว้ 5-10 นาที

นอกจากนี้ ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกับเสื้อผ้าชนิดพิเศษ เช่น ผ้าไมโครไฟเบอร์ ผ้าขนหนู ชุดออกกำลังกาย รวมถึงเสื้อผ้าเด็ก หรือเสื้อผ้าที่ออกแบบมาให้กันน้ำหรือทนไฟ เพราะส่วนผสมบางอย่างในน้ำยาปรับผ้านุ่มจะลดประสิทธิภาพการดูดซับเหงื่อและน้ำ การดูดซับสิ่งสกปรก ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวบอบบาง หรือลดทอนคุณสมบัติเฉพาะของผ้านั้น ๆ ลง ทั้งยังอาจทิ้งสารเคมีตกค้างและกระตุ้นให้เกิดแบคทีเรียสะสมอีกด้วย จึงควรอ่านคำแนะนำก่อนใช้และใช้ในปริมาณที่ผู้ผลิตแนะนำ ที่สำคัญคือ ควรเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มจากผู้ผลิตและแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้แน่ใจว่ามีส่วนผสมที่ไม่เป็นอันตราย เมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมประสิทธิภาพที่ช่วยให้ผ้าหอมนาน นุ่มน่าสัมผัส



เมื่อน้ำยาปรับผ้านุ่มกลายเป็นตัวร้าย จะทำอย่างไรดี

คราบน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ติดตามเสื้อผ้า เป็นด่างเป็นดวง ดูแล้วไม่น่าพิสมัย ส่วนใหญ่เกิดจากน้ำยาปรับผ้านุ่มตกค้างเพราะใช้ในปริมาณที่มากเกินไป หรือเกิดจากการเทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงบนเนื้อผ้าโดยตรง หรือเพราะมีส่วนผสมบางอย่างในน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ล้างออกยากกว่าปกติ ซึ่งจะเห็นคราบได้ชัดหากเสื้อผ้าชิ้นนั้นเป็นสีเข้มและโดยมากมักเกิดขึ้นกับเสื้อผ้าที่ซักด้วยเครื่องซักผ้า

ป้องกันง่าย ๆ เพียงใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มด้วยความใส่ใจ

วิธีซักผ้าให้สะอาดหมดจดนั้นไม่ยาก แต่ต้องอาศัยความใส่ใจ โดยเมื่อซักผ้าเสร็จ สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ต้องล้างให้สะอาด สำหรับมาตรฐานเครื่องซักผ้า (ที่มีการสลัดน้ำก่อน) มักจะล้าง 2 น้ำ หากเป็นการซักที่ไม่ได้สลัดน้ำผงซักฟอกออกก่อน แนะนำให้ล้าง 3 น้ำ เพื่อขจัดความลื่นของสารซักล้างออกให้มากที่สุด

จำไว้เสมอว่า ปัญหาการเกิดคราบขาว ๆ ส่วนมากไม่ได้เกิดจากขั้นตอนซัก แต่เกิดจากขั้นตอนการล้าง หากล้างไม่สะอาด สภาพความเป็นด่างจะไปมีผลกับน้ำยาปรับผ้านุ่ม

น้ำยาปรับผ้านุ่มส่วนใหญ่ที่มีขายโดยทั่วไปในท้องตลาดเป็นน้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดประจุบวก (cationic) ซึ่งให้ความนิ่มดีมาก และใช้ส่วนผสมราคาไม่แพง ต่างจากชนิดประจุลบ (anionic) ซึ่งให้ความนิ่มน้อยและส่วนผสมมีราคาแพง จึงไม่ได้รับความนิยม แต่ข้อเสียของน้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดประจุบวก คือ ถ้าล้างไม่สะอาด จะมีโอกาสเกิดคราบได้ง่าย เพราะสภาพที่เป็นด่างจะทำให้น้ำยาปรับผ้านุ่มจับตัวเป็นก้อน

วิธีง่าย ๆ ในการจัดการคราบน้ำยาปรับผ้านุ่ม

สำหรับผ้าที่ซักและตากจนแห้งแล้วมาพบอีกทีว่ายังมีคราบของน้ำยาปรับผ้านุ่มติดอยู่ ไม่ต้องตระหนกตกใจ มีวิธีแก้ง่าย ๆ ดังนี้

- อุปกรณ์ที่ต้องใช้ คือ สบู่ก้อน กะละมังเล็ก น้ำ

- ระยะเวลาที่ใช้ ขึ้นอยู่กับว่ามีคราบมากน้อยแค่ไหน แต่โดยทั่วไปไม่เกิน 1-2 นาที

- วิธีขจัดคราบ คือ แช่ผ้าบริเวณที่มีคราบให้ชื้น แล้วใช้สบู่ก้อนถู จากนั้นจุ่มลงในน้ำ แล้วขยี้เบา ๆ เพื่อสลายคราบออก

หาตัวช่วยเบาแรงเรื่องงานบ้านด้วย ผู้ให้บริการแม่บ้านที่ SAIJAI