ช่างซ่อมบำรุง ใน บางเลน, นครปฐม

ช่างซ่อมบำรุง ใน บางเลน, นครปฐม

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

ก่อนจะเข้าหน้าฝนเราอยากซ่อมฝ้าเพดานที่มีรอยรั่วให้เรียบร้อยซะก่อน กลัวว่าจะมีน้ำรั่วตอนหน้าฝนแค่คิดก็สยอง ช่างทำงานดีค่ะ รวดเร็วแล้วก็เนี๊ยบดี ดีค่ะ
Saijai
จานิสตา ฟามิน
2 ปีที่แล้ว
อยากปูพื้นกระเบื้องเพราะที่เป็นอยู่ตอนนี้คือสภาพกระเบื้องไม่น่ามองสักนิด มีคนแนะนำให้จ้างช่างจากใส่ใจ บริการดีค่ะ ช่างทำงานไวและงานก็ออกมา ชื่นชม ถ้ามีโอกาสจะกลับมาใช้บริการอีกค่ะ
Saijai
จรรยา ถนอมจันทร์
2 ปีที่แล้ว
ใช้บริการผ่านใส่ใจแทบทุกอย่างแล้ว บริการดีเสมอต้นเสมอปลายมากค่ะ
Saijai
อลิส เจตจินต์
3 ปีที่แล้ว
บริการดี ช่างพูดจาสุภาพ งานละเอียดงานเนี๊ยบ รอบหน้าใช้บริการอีกแน่นอน
Saijai
เมธัต กิจเจริญ
3 ปีที่แล้ว
ช่างแอร์ที่ติดต่อจาก SAIJAI บริการดี เชี่ยวชาญถามาตอบไป ถามอะไรตอบได้หมด รอบหน้าจะมาใช้บริการอีกนะคะ
Saijai
วรรณา อนุรักษ์
3 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง

ความสำคัญของการซ่อมบำรุง
การซ่อมบำรุง มาจากคำว่า ‘การซ่อม + การบำรุง’ ซึ่งหมายถึงการทำสิ่งที่ชำรุดให้คืนดีและการรักษาให้อยู่ในสภาพที่ดี ในทางการบริหารการผลิต การซ่อมบำรุง หมายถึง งานหรือกิจกรรมที่จัดให้มีขึ้นเพื่อให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา
เราอาจจะมองว่า การซ่อมบำรุงนั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่อยากจ่าย แต่ถ้าหากละเลยการซ่อมบำรุงและปล่อยให้เครื่องจักรเครื่องมือของเราเกิดปัญหาขึ้น อาจทำให้การทำงานหยุดชะงักลงหรืออาจทำให้เครื่องจักรเครื่องมือของเรานั้นเกิดความเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ค่าใช้จ่ายที่เราไม่อยากจ่ายในตอนแรกนั้นมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเราคงต้องเสียเงินค่าซ่อมบำรุงที่มากกว่าเดิมหรืออาจจะต้องซื้อเครื่องจักรเครื่องมือใหม่เพราะไม่สามารถซ่อมได้แล้ว
อันตรายที่เกิดจากใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ขาดการดูแลและ บำรุงรักษา ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้ามได้แก่ ไฟฟ้าช็อตเนื่องจากการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ได้รับการดูแลและการซ่อมบำรุง และ การที่พัดลมเริ่มหมุนช้าเพราะมีเศษสายต่าง ๆ เข้าไปติดในตัวบูชหรือลูกปืน(บอลแบร์ริ่ง) ของพัดลมทำให้ตัวหมุนของพัดลมฝืด ไม่หมุนหรือหมุนช้ากว่าปกติ ใบพัดระบายความร้อนของมอเตอร์ไม่สามารถระบายได้ทำให้เกิดความร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดประกายไฟที่ตัวโครง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลาสติก พีวีชี และเป็นสาเหตุที่อาจจะทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นได้
ดังนั้นการดูแลรักษาเครื่องมือเครื่องจักรไม่ว่าจะเป็นในหน่วยงานขนาดใหญ่ เช่น ในโรงงานหรือเครื่องมือที่ใช้ในชีวิตประจำวันภายในบ้านของเราให้พร้อมใช้งานเสมอในระยะยาว จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือเครื่องจักร และยังเป็นการป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากอุบัติที่เกิดจากเครื่องจักร เครื่องมือที่ชำรุดจนถึงขั้นต้องรักษาพยาบาล ในบางกรณีอาจร้ายแรงถึงชีวิต

ช่างซ่อมบำรุงที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร
ความซื่อสัตย์และการมีความรับผิดชอบ เป็นสิ่งที่สำคัญในการทำงานทุก ๆ ประเภท การที่เราจะทำงานได้อย่างมีคุณภาพ และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ความซื่อสัตย์และการมีความรับผิดชอบนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังสุภาษิตที่ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” กล่าวคือ “ความซื่อสัตย์ทำให้คนเชื่อใจ มีคนนับถือ ไม่มีวันอดตาย มีคนคอยช่วยเหลือ แต่หากมีนิสัยคดโกง เมื่อถูกจับได้ย่อมไม่มีใครอยากช่วยเหลือหรือเกี่ยวข้องด้วย” แล้วช่างซ่อมบำรุงที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไรกันนะ
การมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จลุล่วงภายในระยะเวลาที่ได้ตกลงกับผู้ว่าจ้าง อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าการมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับนั้นเป็นสิ่งสำคัญและยังเป็นตัวชี้วัดคุณภาพในการทำงานของบุคคลนั้น ๆ ทำให้เห็นว่าบุคคลนั้น ๆ มีความใส่ใจต่องานมากน้อยเพียงใด ในระยะเวลาที่ตกลงกันไว้
ความซื่อสัตย์เป็นอีกสิ่งที่สำคัญเช่นกัน การที่เรามีความซื่อสัตย์ไม่ว่ากับเพื่อนร่วมงานหรือผู้ว่าจ้างจะทำให้ตัวเรานั้นมีความน่าเชื่อถือ แต่ไม่ได้มีแค่สองสิ่งนี้ที่เป็นคุณสมบัติของช่างซ่อมบำรุง ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ความรู้ความสามารถในงานซ่อมบำรุงและมีความรอบรู้ในเชิงช่างทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ช่างซ่อมบำรุงจะต้องมีความรู้ในเรื่องเครื่องจักร เครื่องมือ วัสดุและอุปกรณ์ และยังต้องมีความกล้าที่จะตัดสินใจ มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จก็เป็นคุณสมบัติที่ดีของช่างซ่อมบำรุงเช่นกัน
ทำไมการเรียกช่างซ่อมบำรุงจึงดีกว่าการซ่อมเอง
จริงอยู่ว่าปัญหาเครื่องมือเครื่องจักรเสียบางอย่างสามารถตรวจสอบและแก้ไขได้เองทันที ถึงอย่างนั้นก็มีปัญหาอีกหลายอย่างที่ต้องได้รับการซ่อมแซมจากช่างซ่อมบำรุงที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขได้อย่างตรงจุด และเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการไม่รู้วิธีซ่อมของเรา หลายคนอาจจะพบเจอปัญหาเครื่องมือเครื่องจักรเสียอยู่บ่อย ๆ แม้ว่าเราจะใช้สิ่งของนั้น ๆ ตามคู่มือที่เรามีอย่างไว้อย่างละเอียด หรือข้อมูลการซ่อมแซมนั้นเราอาจจะสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายบนอินเทอร์เน็ต ปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเครื่องจักรเครื่องมือของเรานั้นอาจดูเหมือนซ่อมแซมได้ง่ายไม่จำเป็นต้องเรียกช่างซ่อมบำรุงก็ได้ แต่ในความเป็นจริงอาจเกิดจากสาเหตุที่ซับซ้อนกว่านั้น
หากคุณได้แต่คาดการณ์สาเหตุ โดยระบุสาเหตุไม่ได้ชัดเจนแล้ว "ลอง" ลงมือซ่อมเองตามวิธีที่เราคิดว่าน่าจะใช่นั้นย่อมเสี่ยงทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเราได้ง่าย ปัญหาเหล่านั้นอาจเป็นปัญหาที่อันตรายถึงชีวิต และการที่เรา "ลอง" ซ่อมแซมเครื่องจักรเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆเหล่านั้นด้วยตนเอง อาจจะทำให้คุณภาพของสิ่งของเหล่านั้นมีคุณภาพที่ลดลง หากคุณลองค้นหาวิธีซ่อมอุปกรณ์หรือแก้ไขมันด้วยตัวเองจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ จะพบว่าเว็บไซต์เหล่านั้นไม่แนะนำให้ซ่อมหรือแก้ไขด้วยตัวเอง แต่แนะนำให้ปรึกษาหรือเรียกช่างซ่อมบำรุงที่เป็นมืออาชีพมาดูแทน เพราะเครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์ที่เราอาจจะไม่คุ้นชิน อีกทั้งยังไม่มีอุปกรณ์ซ่อมไฟพร้อมเท่ากับช่างซ่อมบำรุงมืออาชีพ
และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรเรียกช่างซ่อมบำรุงมืออาชีพมากกว่าลงมือซ่อมเครื่องจักรเครื่องมือเหล่านั้นด้วยตนเอง

คุณสามามารถหาช่างซ่อมบำรุงด้านใดได้บ้าง จากแพลตฟอร์ม SAIJAI
การบำรุงรักษาสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านของเรา นอกบ้าน หรือบริเวณพื้นที่ของบ้านนั้นจะทำให้บ้านของเราน่าอยู่มากขึ้น อีกทั้งยังสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอาศัยอยู่ให้ตัวเราเองอีกด้วย
เมื่อว่าด้วยเรื่องของการทาสีบ้านนั้น เป็นเรื่องที่ต้องยกให้มืออาชีพอย่าง “ช่างทาสี” โดยเฉพาะเพราะการทาสีบ้านนั้นเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียด ความใส่ใจ รวมถึงการเลือกสีที่มีความคงทนติดอยู่ได้นานเพื่อสร้างความสวยงามให้กับบ้านของเรา
การใช้บริการช่างจาก “ช่างปูกระเบื้อง” ที่มีความชำนาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อที่เราจะได้รับงานที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อนและมีความสวยงาม
สำหรับฝ้าเพดานที่หลายคนมองข้ามนั้นก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้บ้านมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น การเลือกฝ้าเพดานจึงเป็นอีกอย่างหนึ่งสำคัญ การใช้บริการช่าง “ช่างฝ้าเพดาน” เป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพื่อจะเลือกฝ้าเพดานที่เหมาะสมกับบ้านของเรา ให้มีความทนทาน และสามารถคงอยู่ได้อย่างยาวนาน
การดูแลสวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความใส่ใจเป็นอย่างมาก การทำสวนไม่ใช่การทำแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องทำให้สวนนั้นสามารถอยู่ได้อย่างยาวนาน การมี “คนดูแลสวน” จึงเป็นสิ่งที่เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลาให้แก่ตัวเราขึ้นมาก ๆ
คุณภาพของสระว่ายน้ำจะดีได้นั้น จะต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ การดูแลที่มีขั้นตอนมากมาย และยากลำบากสำหรับเจ้าของสระบางรายจึงทำให้ต้องมีการจ้าง “ช่างดูแลสระว่ายน้ำ” เพื่อการดูแลสระว่ายน้ำของเราที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

How to ซักผ้านวมอย่างไร ให้สะอาดเหมือนเพิ่งซื้อ

หากจะให้สะดวก รวดเร็ว และประหยัดแรง SaiJai ขอแนะนำให้ซักผ้านวมของคุณด้วยเครื่องซักผ้า แต่ก่อนที่จะเริ่มซัก ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า เครื่องซักผ้ารองรับขนาดและน้ำหนักของผ้านวมได้หรือไม่ เพราะถ้าผืนใหญ่เกินไปจนแน่นเครื่อง เครื่องจะทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ผลก็คือ ซักไม่สะอาด นอกจากจะขจัดคราบสกปรกออกไม่หมดแล้ว ยังอาจได้คราบผงซักฟอกแถมมาด้วย ดังนั้น ถ้าผ้าห่มผืนใหญ่เกินกำลังเครื่องซักผ้า ควรเปลี่ยนไปซักมือแทนจะดีกว่า

วัสดุและอุปกรณ์ที่ต้องใช้

- น้ำยาซักผ้า

- ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม

- เครื่องซักผ้า แบบฝาหน้า หรือฝาบน

- ระยะเวลาที่ใช้ไม่เกิน 30 นาที

วิธีซักผ้านวม ดังนี้

- เทน้ำยาซักผ้าลงไปในเครื่องซักผ้า ในปริมาณที่เหมาะสม โดยอ่านคำแนะนำจากฉลากผลิตภัณฑ์

- นำผ้านวมที่จะซักใส่ตามลงไป เพื่อให้น้ำยาซักผ้าที่อยู่ข้างล่างกระจายตัวอย่างทั่วถึง แต่ถ้าเป็นผ้านวมที่เนื้อผ้าบอบบาง แนะนำให้คลุมผ้าห่มด้วยปลอกหมอนใบใหญ่ หรือใส่ถุงตาข่ายก่อนนำผ้าลงไปซัก

- เลือกโปรแกรมซักที่เบาที่สุด โดยใช้น้ำอุณหภูมิปกติ และใช้เวลาปั่นประมาณ 5 นาทีก็เพียงพอ

- เทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงไปขณะที่ล้างน้ำสุดท้าย โดยใช้ในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำบนฉลาก ผ้านวมที่ผ่านน้ำยาปรับผ้านุ่ม เมื่อตากจนแห้งแล้วเนื้อผ้าจะนุ่มฟู ห่มสบาย และมีกลิ่นหอม

- เมื่อซักและล้างผ้านวมเสร็จแล้ว นำผ้านวมออกมาจากเครื่อง แล้วนำไปตากกลางแจ้งในจุดที่มีลมโกรก อากาศที่ถ่ายเทดี หรือแสงแดด จะช่วยกำจัดแบคทีเรีย กลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามผ้าได้ หากคุณกังวล ว่าสีผ้านวมของคุณจะซีดเพราะตากกลางแดดจ้า ให้หาที่ตากผ้าในที่ร่มลมโกรกแทน หากเป็นวันที่อากาศชื้น และแสงแดดไม่เป็นใจ จะนำผ้านวมไปอบในเครื่องอบผ้าแห้งก็ได้ โดยตั้งอุณหภูมิระดับกลาง ความร้อนในเครื่องอบผ้าแห้งจะทำให้ผ้านวมนุ่มและฟูขึ้น



เคล็ดลับ ซักผ้าให้หอม ได้กลิ่นแล้วลืมไม่ลง

เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมบางครั้งใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มลงไปตั้งมาก แต่ผ้าไม่หอมเลย นั่นแสดงว่าใช้ไม่ถูกวิธี วันนี้ SaiJai มีเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับการซักผ้าให้หอมมาฝาก

- คัดแยกผ้า

อย่างแรกที่ควรทำ คือ การคัดแยกเสื้อผ้าตามสภาพที่เป็นอยู่ขณะนั้น เช่น ผ้าห่มที่เปียกชื้นหรือเหม็นอับมาก ควรแยกออกไปซักต่างหาก เพราะถ้าเอามาซักรวม จะทำให้กลิ่นและแบคทีเรียกระจายไปติดเครื่องนอนชิ้นอื่น ๆ ด้วย

- ซักด้วยมือ

การซักผ้าด้วยมือ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ผ้าหอมนาน เพราะในการซักแต่ละครั้ง จะซักในจำนวนไม่มาก ซักอย่างพิถีพิถันและทะนุถนอมผ้าอย่างไรก็ได้ ทั้งยังสามารถแช่ผ้าห่มในน้ำยาปรับผ้านุ่มได้นานตามต้องการ ทำให้กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มกระจายทั่วถึง

- จำกัดจำนวนผ้าที่จะซักในแต่ละครั้ง

ในการซักผ้าแต่ละครั้ง หลายคนมักใส่ผ้าเข้าเครื่องแบบไม่ยั้ง บางครั้งอัดแน่นจนแทบจะล้นเครื่อง ซึ่งทำให้ผ้าไม่ค่อยสะอาดและที่สำคัญ ไม่หอมด้วย เพราะผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มกระจายได้ไม่ทั่วถึง

- ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น

ถ้าต้องการให้ผ้าห่มของคุณหอมเป็นพิเศษ แนะนำให้ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นพิเศษ จะช่วยให้ผ้าหอมและติดทนนานกว่า

- ตากผ้าไว้กลางแดด

แสงแดดจะช่วยให้ผ้าหอมขึ้น แต่อย่าตากผ้าไว้กลางแสงแดดจัดนานเกินไป เพราะจะทำให้กลิ่นจางลงและเนื้อผ้าแห้งกรอบ แนะนำให้ตากไว้กลางแดดแค่ 2-3 ชั่วโมงก็พอ พอผ้าแห้งแล้วให้รีบเก็บทันที

- จุดตะเกียงน้ำมันหอมระเหยในห้องนอน

การจุดตะเกียงน้ำมันหอมระเหย หรือฉีดสเปรย์น้ำหอม สำหรับฉีดเครื่องนอนโดยเฉพาะ เลือกกลิ่นที่ช่วยปลอบประโลมและผ่อนคลาย จะทำให้ผ้าห่มและเครื่องนอนอื่น ๆ ของคุณหอมอบอวล บรรยากาศน่านอน ช่วยให้หลับสบาย แถมยังไล่แมลงได้อีกด้วย



ทริคสำหรับมือใหม่ วิธีการใช้เครื่องซักผ้า

หากคุณต้องการเปลี่ยนจากการซักผ้าด้วยมือ มาใช้เป็นเครื่องซักผ้าแทน ลองทำตามขั้นตอนการใช้เครื่องซักผ้าที่ SaiJai ได้รวบรวมมาไว้ให้คุณแล้วที่นี่ ไปดูกันเลย

เครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติ

ใส่ผ้าที่คุณต้องการซักทั้งหมดลงในเครื่องซักผ้า โดยต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อน ว่าไม่ได้ใส่ผ้าเยอะจนเกินไป เติมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดลงในช่องใส่ผงซักฟอก หรือใส่ลงไปในถังซักโดยตรง จากนั้น ให้เลือกวิธีการซักที่เหมาะสม และกดปุ่มเริ่มซักได้ทันที เครื่องซักผ้าจะทำทุกขั้นตอนโดยอัตโนมัติ เพียงแต่คุณควรที่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจ ว่าคุณได้ทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้เครื่องซักผ้า และใช้ปริมาณผงซักฟอกที่เพียงพอ และเหมาะสม

เครื่องซักผ้าแบบกึ่งอัตโนมัติ

หากใช้เครื่องซักผ้าแบบกึ่งอัตโนมัติ ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ คือ ใส่ผ้าที่คุณต้องการซักทั้งหมดลงไปในถังซัก และใส่ผงซักฟอกลงในถังซักผ้า โดยใช้ในปริมาณที่เหมาะสมที่ได้ระบุไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ถัดมา ให้เติมน้ำลงในถังซัก โดยสามารถดูปริมาณการใส่น้ำที่เหมาะสมได้ในคู่มือการใช้เครื่องซักผ้า จากนั้น ให้กดปุ่มเริ่มซักได้เลย เมื่อการซักผ้าเสร็จสิ้น ใช้สายยางดูดน้ำสกปรกออก จากนั้นเติมน้ำสะอาด และกดปุ่มล้างผ้าให้สะอาด เมื่อผ้าสะอาดแล้ว คุณต้องปั่นผ้าให้แห้งมากที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยนำผ้าออกจากถังซักไปใส่ไว้ที่ถังปั่นและกดเลือกเวลาปั่นที่เหมาะสมซึ่งจะขึ้นอยู่กับปริมาณผ้าของคุณ

เคล็ดลับ

ใช้อุณหภูมิน้ำที่เหมาะสม เมื่อซักผ้าด้วยมือ โดยคุณควรใช้น้ำอุ่น เพราะน้ำร้อนอาจทำให้ผ้าหดได้ และน้ำที่เย็นเกินไปจะทำให้คราบสกปรกซักออกยากขึ้น

แยกผ้าสีและผ้าขาวออกจากกัน เพราะถึงแม้คุณจะซักผ้าด้วยมือในปริมาณที่น้อยกว่าการซักด้วยเครื่อง แต่การซักมือก็ยังเสี่ยงต่อผ้าตกสีได้ ดังนั้นคุณควรแยกผ้าสีและผ้าขาวออกจากกัน รวมไปถึงแยกผ้าแบ่งเป็นเนื้อผ้าชนิดต่างๆ ด้วย

ทำผ้าให้แห้งมากที่สุด โดยหลังจากคุณบิดผ้าจนหมาดแล้ว ซับน้ำที่เหลือออกด้วยผ้าเช็ดตัว จากนั้นนำไปตากบนราว หรือแขวนด้วยไม้แขวนเพื่อตากผ้าให้แห้งสนิท