ช่างซ่อมบำรุง ใน เมืองเชียงใหม่, เชียงใหม่

ช่างซ่อมบำรุง ใน เมืองเชียงใหม่, เชียงใหม่

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ
ยังไม่มีข้อมูลผู้ให้บริการ

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

รีโนเวทห้องเก็บของแล้วสภาพผนังห้องคือแย่มากก เคยได้ยินว่ามีบริการช่างทาสีจาก SAIJAI ผ่านๆ เลยลองติดต่อดู ผนังบ้านออกมาดูดีมาก ช่างเก่งจริง ๆ เก็บงานละเอียด
Saijai
ภูมินทร์ พฤกษ์
2 ปีที่แล้ว
บ้านค่อนข้างมีอายุพอสมควร เลยลองทักไปสอบถามเรื่องทาสีผนักนอกบ้าน แอดมินตอบดีมาก
Saijai
เบพิริน เหมสิรักษ์
2 ปีที่แล้ว
อยากทาสีห้องใหม่แต่ไม่รู้จะหาช่างจากที่ไหน คนรู้จักเลยแนะนำให้ลองใช้บริการผ่านใส่ใจ ประทับใจมั่ก โอกาสหน้าจะมาใช้บริการอีกแน่นอนนน
Saijai
อลิสา จันดี
2 ปีที่แล้ว
ใช้บริการผ่านใส่ใจแทบทุกอย่างแล้ว บริการดีเสมอต้นเสมอปลายมากค่ะ
Saijai
อลิส เจตจินต์
2 ปีที่แล้ว
ช่างที่ติดต่อผ่าน SAIJAI บริการดีมากครับ ครั้งหน้ามาใช้บริการอีกแน่นอน
Saijai
เจนภพ อรุณพิทักษ์
2 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ช่างซ่อมบำรุง

ความสำคัญของการซ่อมบำรุง
การซ่อมบำรุง มาจากคำว่า ‘การซ่อม + การบำรุง’ ซึ่งหมายถึงการทำสิ่งที่ชำรุดให้คืนดีและการรักษาให้อยู่ในสภาพที่ดี ในทางการบริหารการผลิต การซ่อมบำรุง หมายถึง งานหรือกิจกรรมที่จัดให้มีขึ้นเพื่อให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา
เราอาจจะมองว่า การซ่อมบำรุงนั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่อยากจ่าย แต่ถ้าหากละเลยการซ่อมบำรุงและปล่อยให้เครื่องจักรเครื่องมือของเราเกิดปัญหาขึ้น อาจทำให้การทำงานหยุดชะงักลงหรืออาจทำให้เครื่องจักรเครื่องมือของเรานั้นเกิดความเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ค่าใช้จ่ายที่เราไม่อยากจ่ายในตอนแรกนั้นมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเราคงต้องเสียเงินค่าซ่อมบำรุงที่มากกว่าเดิมหรืออาจจะต้องซื้อเครื่องจักรเครื่องมือใหม่เพราะไม่สามารถซ่อมได้แล้ว
อันตรายที่เกิดจากใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ขาดการดูแลและ บำรุงรักษา ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้ามได้แก่ ไฟฟ้าช็อตเนื่องจากการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ได้รับการดูแลและการซ่อมบำรุง และ การที่พัดลมเริ่มหมุนช้าเพราะมีเศษสายต่าง ๆ เข้าไปติดในตัวบูชหรือลูกปืน(บอลแบร์ริ่ง) ของพัดลมทำให้ตัวหมุนของพัดลมฝืด ไม่หมุนหรือหมุนช้ากว่าปกติ ใบพัดระบายความร้อนของมอเตอร์ไม่สามารถระบายได้ทำให้เกิดความร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดประกายไฟที่ตัวโครง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลาสติก พีวีชี และเป็นสาเหตุที่อาจจะทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นได้
ดังนั้นการดูแลรักษาเครื่องมือเครื่องจักรไม่ว่าจะเป็นในหน่วยงานขนาดใหญ่ เช่น ในโรงงานหรือเครื่องมือที่ใช้ในชีวิตประจำวันภายในบ้านของเราให้พร้อมใช้งานเสมอในระยะยาว จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือเครื่องจักร และยังเป็นการป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากอุบัติที่เกิดจากเครื่องจักร เครื่องมือที่ชำรุดจนถึงขั้นต้องรักษาพยาบาล ในบางกรณีอาจร้ายแรงถึงชีวิต

ช่างซ่อมบำรุงที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร
ความซื่อสัตย์และการมีความรับผิดชอบ เป็นสิ่งที่สำคัญในการทำงานทุก ๆ ประเภท การที่เราจะทำงานได้อย่างมีคุณภาพ และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ความซื่อสัตย์และการมีความรับผิดชอบนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังสุภาษิตที่ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” กล่าวคือ “ความซื่อสัตย์ทำให้คนเชื่อใจ มีคนนับถือ ไม่มีวันอดตาย มีคนคอยช่วยเหลือ แต่หากมีนิสัยคดโกง เมื่อถูกจับได้ย่อมไม่มีใครอยากช่วยเหลือหรือเกี่ยวข้องด้วย” แล้วช่างซ่อมบำรุงที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไรกันนะ
การมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จลุล่วงภายในระยะเวลาที่ได้ตกลงกับผู้ว่าจ้าง อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าการมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับนั้นเป็นสิ่งสำคัญและยังเป็นตัวชี้วัดคุณภาพในการทำงานของบุคคลนั้น ๆ ทำให้เห็นว่าบุคคลนั้น ๆ มีความใส่ใจต่องานมากน้อยเพียงใด ในระยะเวลาที่ตกลงกันไว้
ความซื่อสัตย์เป็นอีกสิ่งที่สำคัญเช่นกัน การที่เรามีความซื่อสัตย์ไม่ว่ากับเพื่อนร่วมงานหรือผู้ว่าจ้างจะทำให้ตัวเรานั้นมีความน่าเชื่อถือ แต่ไม่ได้มีแค่สองสิ่งนี้ที่เป็นคุณสมบัติของช่างซ่อมบำรุง ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ความรู้ความสามารถในงานซ่อมบำรุงและมีความรอบรู้ในเชิงช่างทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ช่างซ่อมบำรุงจะต้องมีความรู้ในเรื่องเครื่องจักร เครื่องมือ วัสดุและอุปกรณ์ และยังต้องมีความกล้าที่จะตัดสินใจ มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จก็เป็นคุณสมบัติที่ดีของช่างซ่อมบำรุงเช่นกัน
ทำไมการเรียกช่างซ่อมบำรุงจึงดีกว่าการซ่อมเอง
จริงอยู่ว่าปัญหาเครื่องมือเครื่องจักรเสียบางอย่างสามารถตรวจสอบและแก้ไขได้เองทันที ถึงอย่างนั้นก็มีปัญหาอีกหลายอย่างที่ต้องได้รับการซ่อมแซมจากช่างซ่อมบำรุงที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขได้อย่างตรงจุด และเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการไม่รู้วิธีซ่อมของเรา หลายคนอาจจะพบเจอปัญหาเครื่องมือเครื่องจักรเสียอยู่บ่อย ๆ แม้ว่าเราจะใช้สิ่งของนั้น ๆ ตามคู่มือที่เรามีอย่างไว้อย่างละเอียด หรือข้อมูลการซ่อมแซมนั้นเราอาจจะสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายบนอินเทอร์เน็ต ปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเครื่องจักรเครื่องมือของเรานั้นอาจดูเหมือนซ่อมแซมได้ง่ายไม่จำเป็นต้องเรียกช่างซ่อมบำรุงก็ได้ แต่ในความเป็นจริงอาจเกิดจากสาเหตุที่ซับซ้อนกว่านั้น
หากคุณได้แต่คาดการณ์สาเหตุ โดยระบุสาเหตุไม่ได้ชัดเจนแล้ว "ลอง" ลงมือซ่อมเองตามวิธีที่เราคิดว่าน่าจะใช่นั้นย่อมเสี่ยงทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเราได้ง่าย ปัญหาเหล่านั้นอาจเป็นปัญหาที่อันตรายถึงชีวิต และการที่เรา "ลอง" ซ่อมแซมเครื่องจักรเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆเหล่านั้นด้วยตนเอง อาจจะทำให้คุณภาพของสิ่งของเหล่านั้นมีคุณภาพที่ลดลง หากคุณลองค้นหาวิธีซ่อมอุปกรณ์หรือแก้ไขมันด้วยตัวเองจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ จะพบว่าเว็บไซต์เหล่านั้นไม่แนะนำให้ซ่อมหรือแก้ไขด้วยตัวเอง แต่แนะนำให้ปรึกษาหรือเรียกช่างซ่อมบำรุงที่เป็นมืออาชีพมาดูแทน เพราะเครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์ที่เราอาจจะไม่คุ้นชิน อีกทั้งยังไม่มีอุปกรณ์ซ่อมไฟพร้อมเท่ากับช่างซ่อมบำรุงมืออาชีพ
และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรเรียกช่างซ่อมบำรุงมืออาชีพมากกว่าลงมือซ่อมเครื่องจักรเครื่องมือเหล่านั้นด้วยตนเอง

คุณสามามารถหาช่างซ่อมบำรุงด้านใดได้บ้าง จากแพลตฟอร์ม SAIJAI
การบำรุงรักษาสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านของเรา นอกบ้าน หรือบริเวณพื้นที่ของบ้านนั้นจะทำให้บ้านของเราน่าอยู่มากขึ้น อีกทั้งยังสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอาศัยอยู่ให้ตัวเราเองอีกด้วย
เมื่อว่าด้วยเรื่องของการทาสีบ้านนั้น เป็นเรื่องที่ต้องยกให้มืออาชีพอย่าง “ช่างทาสี” โดยเฉพาะเพราะการทาสีบ้านนั้นเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียด ความใส่ใจ รวมถึงการเลือกสีที่มีความคงทนติดอยู่ได้นานเพื่อสร้างความสวยงามให้กับบ้านของเรา
การใช้บริการช่างจาก “ช่างปูกระเบื้อง” ที่มีความชำนาญนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อที่เราจะได้รับงานที่มีคุณภาพ มีความละเอียดอ่อนและมีความสวยงาม
สำหรับฝ้าเพดานที่หลายคนมองข้ามนั้นก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้บ้านมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น การเลือกฝ้าเพดานจึงเป็นอีกอย่างหนึ่งสำคัญ การใช้บริการช่าง “ช่างฝ้าเพดาน” เป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพื่อจะเลือกฝ้าเพดานที่เหมาะสมกับบ้านของเรา ให้มีความทนทาน และสามารถคงอยู่ได้อย่างยาวนาน
การดูแลสวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความใส่ใจเป็นอย่างมาก การทำสวนไม่ใช่การทำแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องทำให้สวนนั้นสามารถอยู่ได้อย่างยาวนาน การมี “คนดูแลสวน” จึงเป็นสิ่งที่เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลาให้แก่ตัวเราขึ้นมาก ๆ
คุณภาพของสระว่ายน้ำจะดีได้นั้น จะต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ การดูแลที่มีขั้นตอนมากมาย และยากลำบากสำหรับเจ้าของสระบางรายจึงทำให้ต้องมีการจ้าง “ช่างดูแลสระว่ายน้ำ” เพื่อการดูแลสระว่ายน้ำของเราที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

วิธีแก้ไขปัญหาและป้องกันฝ้าเพดานบวมจากความชื้น

สาเหตุของแผ่นฝ้าเพดานบวม ที่มาจากความชื้น อาจเกิดขึ้นจากน้ำฝนที่หยดลงมาตามหลังคาที่รั่ว หรือน้ำที่รั่วมาจากท่อน้ำประปาชั้นบน ทำให้แผ่นฝ้าเพดานเกิดการอมน้ำจนบวมพอง อีกทั้งยังทำให้แผ่นฝ้าเพดานเกิดเชื้อรา เป็นรอยด่างดำ ทำให้ห้องดูไม่สวยงาม นอกจากนี้ ยังอาจมีสาเหตุมาจากบนฝ้าเพดานเป็นที่อยู่ของนก หนู หรือค้างคาว หากเจ้าของบ้านไม่ดูแลให้ดี สัตว์เหล่านี้อาจมาทำรังอยู่บนฝ้าเพดานของบ้าน และทิ้งเศษมูลหรือปัสสาวะไว้บนฝ้าเพดาน ทำให้ฝ้าเพดานเป็นที่สะสมสิ่งสกปรก และเกิดการบวมได้

ช่างสามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยน ฝ้าเพดานใหม่ ในปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านวัสดุก่อสร้างทั่ว ๆ ไป แต่หากฝ้าเพดานของท่านเป็นชนิดที่ตัดแบ่งมาจากแผ่นใหญ่ ก็ต้องตัดฝ้าให้ได้ขนาดแล้วจึงค่อยนำมาเปลี่ยน

วิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้ฝ้าเพดานเป็นที่อยู่ของสัตว์ต่าง ๆ

- ปิดชายหลังคาให้มิดชิด ซึ่งต้องทำในขณะที่ช่างทำการมุงหลังคา โดนเฉพาะตามร่องลอนกระเบื้องหลังคา และพื้นที่ใต้หลังคา

- ไม่ปลูกต้นไม้ที่มีความสูงชิดกับบ้านจนเกินไป เนื่องจากกิ่งไม้ของต้นไม้ใหญ่อาจเติบโตและมาพาดกับหลังคาบ้านได้ ซึ่งต้นไม้มักเป็นที่อยู่อาศัยของนก แมลง และค้างคาว กิ่งไม้อาจเป็นสะพานให้สัตว์เหล่านี้เข้ามาทำรังบนหลังคาบ้านท่านได้

- กรุลวดตาข่ายไว้บนฝ้าเพดาน เพื่อไม่ให้สัตว์ต่างๆ เข้าไปในฝ้าเพดานได้ โดยขนาดของช่องตาข่ายควรเล็กกว่า 1 ตารางเซนติเมตร จะเป็นการดีมาก

- ใส่กระเบื้องโปร่งแสงบนหลังคาเป็นบางจุด เนื่องจากสัตว์บางชนิดไม่ชอบอยู่ในที่สว่าง เช่น ค้างคาว หากบ้านของท่านอยู่ใกล้แหล่งค้างคาว ก็ควรอย่างยิ่งที่จะติดกระเบื้องโปร่งแสงไว้บนหลังคา เพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามาในเวลากลางวัน



ข้อควรรู้ การตรวจรับงานฝ้าเพดานก่อนย้ายของเข้าบ้าน

1.ตรวจสอบวัสดุและอุปกรณ์ในการติดตั้งฝ้าเพดาน

ขั้นแรก ให้ตรวจสอบวัสดุที่ผู้รับเหมานำมาติดตั้ง ว่ามาจากผู้ผลิตที่มาตรฐาน หรือสินค้าได้รับ มอก. ทั้งตัวโครงคร่าว อุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้ง และตัวแผ่นฝ้ายิปซัม โดยตัวแผ่นฝ้าต้องมีสภาพสมบูรณ์ และถูกชนิด

2.ตรวจสอบพื้นที่ติดตั้งก่อนติดตั้งฝ้าเพดาน

ก่อนการติดตั้งฝ้า ให้ตรวจสอบพื้นที่ที่จะติดตั้งด้วยตาเปล่า หรือให้ช่างฝ้าช่วยดูว่าไม่มีร่องรอยการรั่วซึม หรือมีความชื้นใด ๆ เกิดขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ หากไม่ตรวจสอบแล้วพบการรั่วซึมทีหลัง อาจจะทำให้ฝ้าเสียหาย ซ่อมแซมได้ยากขึ้น หลังจากนั้นให้ตรวจสอบการทำงานของระบบต่าง ๆ อย่างระบบแอร์ ระบบการเดินสายไฟ และระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ว่าใช้งานได้ปกติหรือไม่

3.ตรวจสอบการติดตั้งของช่างฝ้า

การติดตั้งแผ่นฝ้าและการเก็บรายละเอียดของงาน เป็นหน้าที่ของช่าง ขั้นแรก ช่างจะทำการวัดระดับตำแหน่งที่จะใช้ยิงเหล็กฉาก หรือโครงเคร่าตัวริมผนัง ซึ่งจะทำให้รู้ระดับที่ช่างจะติดตั้งระดับของฝ้า ทั้งนี้ สำหรับบ้านพักอาศัย ฝ้าเพดานควรสูงจากพื้นถึงระดับฝ้าไม่น้อยกว่า 2.60 เมตร เพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัด

4.การติดตั้งโครงเคร่าที่ใช้ยึดฝ้าเพดาน

ให้ดูตามมาตรฐานการติดตั้งของแต่ละแบรนด์ผู้ผลิต ดูว่าเป็นฝ้าชนิดอะไร ซึ่งจะบอกระยะของการวางโครงเคร่าทั้งโครงหลัก และโครงรอง การติดตั้งตามมาตรฐานการติดตั้งจะช่วยให้ฝ้าแข็งแรง ฝ้าจะถูกยึดอย่างแข็งแรง ซึ่งควรจะเข้าไปดูช่างระหว่างที่กำลังติดตั้งด้วย เพราะช่างอาจเว้นระยะห่างโครงเคร่าไม่ถูกต้อง

5.ตรวจสอบระหว่างการเก็บงาน

เป็นขั้นตอนที่ช่างจะเก็บงานหลังจากยึดแผ่นฝ้ากับโครงเคร่าเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการใช้เทปปิดระหว่างรอยต่อ หรือฉาบต่อขอบลาดของแผ่นฝ้า ก่อนจะทำการฉาบเรียบและทาสี โดยในการฉาบเก็บรอบต่อควรฉาบประมาณ 3 รอบเพื่อให้ดูเรียบสวยเนียน แล้วใช้กระดาษทรายขัดซ้ำอีกทีก่อนทาสีฝ้าเพดาน

6. ตรวจรับงานฝ้าหลังติดตั้ง

หลังติดตั้งฝ้าเรียบร้อยแล้ว ให้ตรวจสอบด้วยสายตาว่าท้องฝ้าได้ระดับพอดี ไม่มีการเอียงหรือแอ่นตัว หลังจากนั้นให้ตรวจสอบด้วยอุปกรณ์ สุ่มวัดระยะจากพื้นถึงฝ้า หากแตกต่างกัน 1-2 เซนติเมตร ถือว่าปกติ แต่ถ้าแตกต่างกันเกิน 5 เซนติเมตร แสดงว่าติดตั้งไม่ดี ต้องให้ช่างแก้ไขใหม่



รวม 4 วิธี ซ่อมฝ้าเพดานน้ำรั่ว

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ปัญหา “ฝ้าเพดานรั่ว” มักมีสาเหตุมาจาก น้ำรั่ว น้ำซึม หรือการกักเก็บความชื้นจากห้องน้ำ ตลอดจนงานระบบประปาที่ห้องด้านบน ดังนั้น การแก้ไขปัญหาที่ได้ผล และไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการ “ซ่อมฝ้าเพดานน้ำรั่ว” คือการแก้ไขจากต้นตอสาเหตุของปัญหา

1.ปิดรอยรั่วซึมที่ท่อน้ำ

ขั้นตอนแรกของการแก้ไขปัญหาฝ้าเพดานรั่วคือ การเปิดฝ้าเพดาน โดยจะต้องเป็นบริเวณที่มีการรั่วซึม หรือจุดที่คิดว่าทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว หลังจากนั้น ให้นำผ้า หรือกระดาษทิชชู ไปพันไว้ตามจุดที่คิดว่ารั่วซึม แล้วให้ลองสังเกตว่า มีความชื้นเกาะตัวอยู่ที่ผ้า ทิชชู หรือไม่ หากมีก็ให้ซ่อมแซมท่อบริเวณจุดนั้น ๆ ให้เรียบร้อย

2.เปลี่ยนยาแนวใหม่

สำหรับวิธีการซ่อมฝ้าเพดานน้ำรั่วที่ได้ผลก็คือ การทำกันซึมที่ต้อตอของสาเหตุ โดยเฉพาะบริเวณร่องยาแนวที่เสื่อม และทำให้น้ำไหลลงปูน วิธีการแก้ไขคือ การเปลี่ยนยาแนวใหม่ทั้งหมด โดยมีวิธีดังนี้

- ทำความสะอาดพื้นผิว ให้สะอาดเรียบร้อย

- ขูดร่องยาแนวเดิมออกให้หมด

- ผสมกาวยาแนว ตามอัตราส่วนที่ระบุเอาไว้

- ทำการปาดกาวยาแนวที่ผสมไว้ โดยให้ปาดในมุม 45 องศา

- เมื่อกาวยาแนวเริ่มแห้งหมาด ๆ ให้นำฟองน้ำชุบน้ำบิดให้แห้งพอดี หลังจากนั้น ให้นำไปเช็ดกาวยาแนวส่วนที่เกินออกให้เรียบร้อย

3.วิธีซ่อมฝ้าเพดานฉาบเรียบ

เมื่อเกิดปัญหาฝ้าเพดานรั่ว ก็ต้องมาแก้ไขด้วยการนำยิปซัมไปซ่อมบริเวณฝ้าเพดาน โดยขั้นตอนการดำเนินงาน เมื่อต้องซ่อมฝ้าเพดานก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้

- นำใบเลื่อยมาเฉือนฝ้าเพดานที่มีคราบน้ำเกิดขึ้น โดยตัดให้ห่างจากรอย 1 นิ้ว เพื่อให้ซ่อมแซมได้ง่ายขึ้น

- ตัดแผ่นยิปซัมให้มีขนาดเท่ากับช่องว่าง หากไม่สามารถติดแผ่นยิปซัมเข้าไปได้ ให้นำกระดาษทรายมาขัด

- นำไม้เนื้อแข็งมาวางบนฝ้าเพดานอันเดิม เพื่อให้เป็นโครงสำหรับยึด

- การยึดไม้เนื้อแข็งควรใช้สกรู เพื่อทำให้มีความแข็งแรงมากขึ้น

- ในกรณีที่ช่องว่างมีขนาดใหญ่ ต้องยึดให้ทั่วทุกจุด

- นำปูนยิปซัมมาฉาบตามหลังให้ทั่ว ไม่ว่าจะเป็น รอยต่อ สกรู

- ปิดรอยต่าง ๆ ด้วยเทปผ้ายิปซัม แนะนำว่าให้ใช้ชนิดที่มีกาวในตัว

- นำปูนฉาบทับรอยต่ออีกครั้งหนึ่ง แล้วเกลี่ยให้เรียบร้อย

- เมื่อแห้งสนิทแล้ว นำกระดาษทรายมาขัด แล้วค่อยทาสีทับ เพื่อทำให้สีฝ้าเพดานดูเป็นเนื้อเดียวกัน

4.แก้ไขฝ้าเพดานรั่วจากห้องน้ำต้นตอของปัญหา

หากคุณอยากแก้ไขปัญหาให้จบ SaiJai แนะนำว่า ให้ทำการแก้ไขที่ห้องน้ำด้านบนเลยจะดีกว่า เพราะจะทำให้ปัญหา “ฝ้าเพดานรั่ว” ที่มี ให้หายไปได้อย่างหมดจด โดยวิธีการอาจจะดูเสียเวลาไปบ้าง แต่คุ้มแน่นอน

- สกัดกระเบื้องเดิมออกให้เรียบร้อย ก่อนทำการปูกระเบื้องพื้นห้องน้ำใหม่

- ทำกันซึมห้องน้ำด้วยการใช้ซีเมนต์กันซึม โดยการใช้แปรงหรือลูกกลิ้งทา 2 รอบ ห่างกัน 30-90 นาที

- ปูกระเบื้องด้วยกาวซีเมนต์ โดยให้ใช้เกรียงปาดกาวซีเมนต์ก่อนปูกระเบื้อง

- ทำยาแนวของร่องกระเบื้องให้เรียบร้อย ปล่อยรอให้แห้งประมาณ 24 ชั่วโมง