ช่างแอร์ ใน สมุทรปราการ

ปัญหาของเครื่องที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง เรามาดูกัน
1.แอร์ไม่ตัด,แอร์ตัดบ่อย
- แอร์ไม่ตัด เกิดจากการที่ความเย็นไม่ถึงระดับ การที่จะเกิดความเย็นไม่ถึงระดับมีหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น การเลือกใช้แอร์ไม่เหมาะกับขนาดห้อง หรือมีฝุ่นเกาะแอร์เยอะเกินไปจนส่งผลให้ความเย็นไม่ถึงระดับ
-แอร์ตัดบ่อย เพราะคอมเพรสเซอร์แอร์ตัดระบบทำงานเร็วเกินกว่าที่ควร คือตัดก่อนที่แอร์จะเย็นถึงระดับ หรืออาจมีสาเหตุมาจากการที่แอร์ร้อนเกินไปจบระบบหยุดสั่งงาน
2.แอร์ลมไม่ออก มีสาเหตุดังนี้
- ใบพัดหมุนผิดทิศทาง แก้ไขได้ด้วยการใช้ไม้ยาวๆ มาเขี่ยใบพัดให้หมุนไปในทิศทางที่ถูกต้อง
- มอเตอร์ภายในชำรุดเสียหาย ห้ามเปิดใช้แอร์และจำเป็นต้องให้ช่างแอร์ที่มีความเชี่ยวชาญมาทำการตรวจสอบและทำการซ่อมแซม
3.แอร์ลมออกแต่ไม่เย็น
หากไม่ได้ทำความสะอาดล้างแอร์เป็นเวลานาน ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่น เป็นสิ่งที่จะทำให้ระบบเปลี่ยนลมร้อนเป็นลมเย็นทำงานได้ไม่เต็มที่และทำให้แอร์ไม่เย็น น้ำยาแอร์รั่วก็เป็นอย่างหนึ่งที่ทำให้แอร์ไม่เย็น
4.แอร์มีเสียงดัง เกิดได้จากหลายสาเหตุ
- ใบพัดเสื่อมสภาพ เกิดจากจาระบีน้ำมันหล่อลื่นภายในแห้ง แก้ไขได้โดยการหยอดจาระบีเข้าไป หรือบพัดมีฝุ่นเกาะเยอะเกินไปจนทำให้การเหวี่ยงของใบพัดเสียศูนย์
- ตลับลูกปืนเสื่อมสภาพ ให้เปลี่ยนตลับลูกปืนใหม่
- น้ำยาแอร์มากหรือน้อยเกินไป

ในปัจจุบันมลภาวะทางอากาศ ฝุ่นละออง ควันพิษ มีปริมาณที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ให้เครื่องปรับอากาศของเรานั้นมีฝุ่นเกาะมากขึ้น สกปรก หากไม่ได้รับการล้างแอร์เป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานนั้นลดลง แอร์ไม่เย็น อายุการใช้งานสั้นลง ประโยชน์ของการล้างแอร์
- การล้างแอร์เป็นประจำนั้นจะทำให้การสะสมของฝุ่นละอองในห้องลดลง ลดปัญหาการอุดตันของอุปกรณ์ ช่วยอากาศไหลเวียนได้สะดวก
- การล้างแอร์เป็นประจำนั้นจะช่วยป้องกันการเกิดอุปกรณ์ขัดข้อง ช่วยให้ชิ้นส่วนภายในนั้นสะอาด สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ในการล้างแอร์แต่ละครั้งนั้นจะช่วยลดการสะสมของฝุ่น อากาศสามารถเข้าไปในตัวเครื่องได้สะดวกมากขึ้น ช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์
- การล้างแอร์เป็นประจำนั้นจะลดการสะสมของเชื้อโรคต่าง ๆ ที่สะสมอยู่ในแอร์ที่อาจจะเป็นสาเหตุการเกิดโรค ลดกลิ่นอับภายในห้อง
- พัดลมแอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่มีประสิทธิภาพ ลดภาระการทำงานของเครื่อง อากาศหมุนเวียนได้สะดวก
หากเราไม่ล้างแอร์บ่อย ๆ อาจทำให้เกิดผลกระทบในระยะยาวได้ ทั้งในด้านอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศ สุขภาพของผู้ใช้งาน ดังนั้น การล้างแอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หรือปล่อยปละละเลย เพื่อสุขภาพที่ดีและอายุการใช้งานที่มากขึ้นของแอร์นั้นเอง

การเติมน้ำยาแอร์นั้นจะต้องทำก็ต่อเมื่อเกิดการรั่วไหลของน้ำยาแอร์ เพราะโดยปกติแล้วถ้าหากเครื่องปรับอากาศของเรานั้นยังเย็นปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเติมน้ำยาแอร์ เพราะลักษณะการทำงานของน้ำยาแอร์คือการหมุนเวียน หากไม่ได้เกิดการรั่วไหลน้ำยาแอร์ก็จะไม่หมด
น้ำยาแอร์ที่นิยมใช้ในประเทศไทยนั้นแบ่งออกเป็น 3 ชนิด มีอะไรบ้างเรามาดูกันค่ะ
- สารทำความเย็นชนิด R410A
เป็นสารทำความเย็นที่ถูกผลิตมาเพื่อช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก และช่วยประหยัดพลังงาน เหมาะกับการใช้ใน บ้านเรือน โรงงานอุตสาหกรรม ข้อเสียคือสามารถติดไฟได้
- สารทำความเย็นชนิด R32
เป็นสารทำความเย็นที่ไม่ทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศ แต่ก็ยังทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกอยู่ดี นิยมใช้ในที่พักอาศัย บ้านเรือน อาคาร หรือโรงงานอุตสาหกรรม
- สารทำความเย็นชนิด R22
เป็นสารทำความเย็นรุ่นเก่าที่ได้รับความนิยมในการใช้งาน เพราะมีราคาถูกกว่าสารทำความเย็นชนิดอื่น ๆ แต่มีข้อเสียที่ร้ายแรงคือทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศและทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก นิยมใช้ในบ้านเรือน ข้อเสียคือหากเกิดการรั่วไหลเป็นจำนวนมากจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ